life sucks
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
1 ตุลาคม 2552

XXXแหกคอกมหาลัยXXX8XXX

       


พี่เซ็กซ์แกเป็นคนบ้านเดียวกับผมครับคือเป็นคนเชียงใหม่ และว่ากันตามตรงแล้วแกมีศักดิ์เป็นลูกของลูกน้องของพ่อผม บางคนอาจจะเถียงว่าพ่อผมเป็นอาจารย์มหาลัยแล้วจะมีลูกน้องได้ไง ถ้าคุณคิดอย่างนั้นมันก็ถูกของคุณครับเพราะอาจารย์มหาลัยไม่มีลูกน้องมีแต่ลูกศิษย์ แต่อาจารย์บางคนที่มีความรู้เฉพาะทางมากๆบางทีก็มีบริษัทมาจ้างให้เป็นที่ปรึกษาของบริษัทเค้า และนั่นละที่ทำให้พ่อผมมีลูกน้อง และนั่นทำให้ผมได้รู้จักกับพี่เซ็กซ์ที่ได้ช่วยเปิดกะลาให้ผมในเวลาต่อมา


 พี่เซ็กซ์นั้นชื่อเล่นจริงๆของแกคือพี่เป็ก แต่ด้วยความที่แกเป็นคนที่มีชีวิตอยู่โดยแรงขับดันทางเพศดังนั้นเพื่อนๆของแกจึงแปลงชื่อของแกเป็นอย่างนั้นไปซะ ซึ่งแกก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกและก็ปล่อยให้ตัวเองถูกเรียกอย่างนั้นจนกลายเป็นชื่อจริงไป หลังๆผมก็มีเพื่อนที่จุดเด่นถูกล้อจนกลายเป็นชื่อก็หลายคนเหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ไอ้หมู ไอ้แว่น ไอ้เตี้ย ไอ้ไฝ ไอ้ดำ ซึ่งโซนนี้เป็นกลุ่มน่าสงสารเพราะเป็นชื่อที่เกิดมาจากปมด้อย แตกต่างจากพวก ไอ้หล่อ ไอ้ประธาน อะไรพวกนี้ โดยเฉพาะชื่อ ไอ้ปี้ ไอ้เสือ หรือไอ้เซ็กซ์ เพราะชื่อนี้มันค่อนข้างเท่ห์ ออกแนวเสือผู้หญิงแบบขุนแผนแสนสะท้าน


  ผมคงต้องท้าวความกลับไปเพื่อให้คุณเข้าใจว่าเราเริ่มรู้จักกันได้อย่างไร มันเริ่มจากการที่พ่อผมถูกว่าจ้างโดยบริษัทปศุสัตว์ขนาดยักษ์แห่งหนึ่งให้เข้าไปทำวิจัยเรื่องหมูวัวหรืออะไรสักอย่างในหมู่บ้านที่เค้าเลี้ยงสัตว์กินได้พวกนี้กันเยอะ ปกติถ้าเราจะเข้าไปคลุกคลีในหมู่บ้านอย่างนี้ได้มันก็ต้องรู้จักกับคนกว้างขวางในพื้นที่และพ่อพี่เซ็กซ์เนี่ยละครับที่เป็นคนกว้างขวางคนนั้น


คือเราจะไม่กลับไปลึกถึงขนาดว่าพ่อพี่เค้ากว้างขวางขึ้นมาได้อย่างไรนะครับ ได้ข่าวว่าหนุ่มๆพ่อพี่เขาเป็นนักเลง จนปัจจุบันก็ยังคงเหน็บปืนที่เอวตลอดเวลา เท่านี้คุณคงน่าจะพอนึกออกแล้วนะครับว่าคุณน้าแกเป็นคนประเภทไหน และคนอย่างนี้จะมาเป็นลูกน้องของนักวิชาการที่ไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับใครอย่างพ่อผมได้ด้วยบารมีของบริษัทผลิตเนื้อที่อัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเข้าไปในพื้นที่ละครับ


ช่วงนั้นน่าจะประมาณปี พ..2537 ผมอยู่ ป.5 ก็น่าจะอายุประมาณ 11-12 ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ผมเองกำลังวัยรุ่นเลยครับ อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าผมเป็นเด็กแก่แดด ตอนนั้นผมก็คบเพื่อนเฮ้วๆห้าวๆประมาณว่าเป็นเด็กซ้ำชั้นหรือพวกที่ชอบมีเรื่องต่อยตีนะครับ ผมเรียนโรงเรียนคริสต์ชายล้วนในจังหวัดที่ส่วนใหญ่เด็กที่มาเรียนก็เป็นลูกคนมีตังในจังหวัดทั้งนั้น โรงเรียนของผมนั้นล้อมรอบด้วยโรงเรียนคริสต์หญิงล้วนถึงสองโรงเรียน ไม่ต้องถามนะครับว่าชื่ออะไร เพราะถึงถามผมก็ไม่บอกคุณหรอก


ในช่วงเวลาอย่างนั้นสิ่งที่เด็กจัญไรอย่างผมและผองเพื่อนมักจะทำกันก็คืออ่านการ์ตูนโป๊ในห้องและโดดเรียนไปเดินเที่ยวตามห้าง ซึ่งห้างในช่วงเวลานั้นมันค่อนข้างจะเล็กและแทบจะไม่มีอะไรเลย ไม่คุ้มค่ากับการปีนกำแพงโดดเรียนที่ถ้าจับได้จะต้องโดนเฆี่ยนเหมือนนางทาสอีกทั้งยังจะโดนเรียนผู้ปกครองมาให้อับอายขายหน้ากันอีก ชั้นประถมนั้นผมโดดเรียนเพียงไม่กี่ครั้งเพราะมันไม่ผ่านการประเมินความคุ้มค่า ส่วนใหญ่แล้วผมจะนั่งอยู่หลังสุดของห้อง เวลาเค้าเรียนกันผมก็ไม่เรียนหรอกครับ เน้นหนักไปที่การอ่านหนังสือการ์ตูนโป๊ ที่มีแผงขายอยู่หน้าโรงเรียนมากกว่า บอกได้เลยครับว่าช่วงนั้นการ์ตูนชนิดนี้เป็นสุดยอดนางในฝันที่ทำให้เด็กๆเริ่มที่จะรู้จักการจินตนาการไม่เหมือนสมัยนี้ที่พวกหนัง AV ทำให้เด็กสมัยใหม่ขาดจินตนาการไปเยอะ (สมัยก่อนการดูหนังโป๊ทำได้ยากเพราะตอนนั้นยังดูกันเป็นม้วนวีดีโอ และยังไม่แพร่หลายโหลดในเนตได้ง่ายๆเหมือนในปัจจุบัน)


เด็กประถมเกเรในโรงเรียนแห่งนี้มีกิจกรรมให้ทำไม่กี่อย่างหรอกครับ อยู่ในห้องก็อ่านการ์ตูนอย่างว่า อยู่นอกห้องถ้าไม่มีเรื่องต่อยตีกันก็เล่นบอร์ด ตอนที่ผมอายุประมาณ 11 ขวบนี่การเล่นสเก็ตบอร์ดเป็นสุดยอดแห่งความเท่ห์เร้าใจสุดๆ แบบเพื่อนเห็นเพื่อนอิจฉา สาวเห็นสาวหลงใหล สเก็ตบอร์ดนี่เป็นกีฬา X-Game ที่ผมว่ามันต่างจากโรลเลอร์เบรดหรือจักรยานเพราะมันเล่นยากกว่ากันมาก กว่าจะทรงตัวอยู่บนแผ่นบอร์ดเล็กๆนั่นได้ก็แทบแย่แล้ว ไหนจะคิ๊กฟลิบหลบสิ่งกีดขวางลอยขึ้นไปบนอากาศแล้วก็ต้องจับจังหวะตกลงมาให้สามารถเลี้ยงตัวไปบนบอร์ดได้ กระบวนการทั้งหมดมันโคตรยากแต่ก็โคตรเท่ห์ และเพราะความเท่ห์นั่นละเป็นเหตุให้ผมต้องขโมยเงินพ่อเป็นครั้งแรก


คุณคิดว่าเด็กประถมจะได้เงินอาทิตย์ละกี่บาทกันครับ ผมจำได้ว่าผมได้อาทิตย์ละสองร้อย เรียนห้าวันต่อสัปดาห์เฉลี่ยได้เงินวันละไม่ถึงห้าสิบบาท ตอนนั้นข้าวที่โรงเรียนจานละสิบกว่าบาท ถ้าผมเป็นเด็กมักน้อยเพียงแค่ซื้อการ์ตูนโป๊เล่มละสามสิบหน้าโรงเรียนมาอ่านทุกวันสนองความอยากเท่านั้นเงิน 200 ต่อสัปดาห์ก็น่าจะเพียงพอ แต่เมื่อผมมาจับสุดยอดกีฬาอย่างสเก็ตบอร์ดแล้วเงินจำนวนนั้นไม่มีทางตอบสนองความต้องการของผมได้ เพราะการที่จะเท่ห์ไปกับกีฬาชนิดนี้ได้แค่มีบอร์ดมันยังไม่พอนะสิครับ รองเท้าที่จะใช้เล่นก็ต้องเป็นรองเท้าหนังกลับของแวน แบบที่ต้องหาหนังกลับแผ่นเล็กๆอีกแผ่นมาแปะไว้ตรงนิ้วก้อยกันการเสียดสี กางเกงก็ต้องตัวใหญ่ๆโหลดๆ ไหนจะเสื้อ ไหนจะเข็มขัด กระเป๋าก็ต้องใช้ outdoor แท้ใบละพันสองพัน กว่าจะครบ accessories ทั้งหมดก็รวมเป็นจำนวนเงินมหาศาลสำหรับเด็กประถม


ที่พูดมาทั้งหมดก็คือเหตุผลที่ทำให้ผมต้องก่อกรรมครั้กแรกโดยการขโมยเงินพ่อ ซึ่งก็จับได้ไม่ยากเลยเพราะจะมีใครเสียอีกละครับนอกจากเด็กเลวๆอย่างผมที่จะกล้าก้าวล่วงล้วงกระเป๋าบุพการีของตนเอง กระเป๋าใหม่ๆของเล่นใหม่ๆทุกอย่างก็มีให้เห็นเป็นหลักฐาน คุณว่าผมโดนลงโทษไหม? ผมบอกได้เลยว่าไม่ครับ พ่อผมฟาดอย่างไม่ปราณีเลยครับ แถมฟาดเสร็จยังหักเงินค่าขนม กักบริเวณ และผมต้องไปเป็นลูกมือพ่อออกพื้นที่งานวิจัย และนั่นละครับเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมได้รู้จักกับยอดมนุษย์อย่างพี่เซ็กซ์


ถึงผมจะไปเป็นเพื่อนพ่อก็จริงแต่เด็กประถมที่ไหนมันจะไปสนใจวัวควายมันผสมพันธุ์กันละครับ ช่างวัวมันจะเอากันสิครับ... ผมไปผมก็เอาบอร์ดไปเล่นของผม ตอนนั้นผมเองก็โง่ ผมไถบอร์ดเล่นโดยไม่ได้สนใจเลยว่าพื้นถนนที่เล่นมันโคตรขรุขระเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์ เมื่ออุปกรณ์มันไม่ได้ออกแบบมาให้เล่นหฤโหดแบบนี้ของมันก็พังสิครับ เล่นไปสักพักล้อก็หลุดออกมา ถ้าอยากจะขันกลับเข้าไปให้มันใช้ได้เหมือนเดิมก็ต้องใช้ประแจหกเหลี่ยมซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้เอาติดมาซะด้วย ผมไปถามน้า น้าแกก็แนะนำร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ห่างจากจุดเกิดเหตุที่ผมทำล้อหลุดไปประมาณสองกิโลแม้ว (ถ้าผมจำไม่ผิวกิโลแม้วน่าจะเป็น กิโลเมตร คูณ สอง)


ผมไปถึงก็เจอช่างหนุ่มวัยรุ่น ตัวสูง หัวเกรียนๆท่าทางเป็นกันเอง ผมขอยืมประแจเขา ขันจนเสร็จ เขาจึงขอยืมดูบอร์ดผมแล้วถามว่าเล่นยังไง


“เล่นไงวะไอ้หนู” เขาถามผมอย่างนั้นซึ่งผมไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่าไอ้หนูหรอกครับเพราะมันเหมือนเห็นการสบประมาทกัน ผมก็เลยไถเล่นให้เขาดู พยายามโชว์ท่าที่เท่ห์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนั้น ทีเด็ดต่างๆถูกปล่อยมาจนหมด (ตอนนี้ผมก็จำชื่อท่าต่างๆไม่ค่อยได้แล้วละครับ) เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็มีท่าที่ผมดีดบอร์ดขึ้นไปให้มันหมุนควงอยู่ใต้เท้าแล้วจึงกะจังหวะลงมาเหยียบมันในท่าเดิม เขาก็ปรบมือ


“มึงเล่นเก่งดีนี่หว่า” เขาพูด “แต่มันก็ของเด็กเล่นละวะ” เขาดูถูก


“แล้วของจริงเป็นไงวะพี่” ผมถามกลับเริ่มฉุน ตอนนั้นผมก็ว่าตัวเองเท่ห์ที่สุดในโลกแล้วใครมาหยามไม่ได้ ผมอยากรู้จริงๆว่าไอ้พี่เหี้ยคนนี้มันจะเจ๋งแค่ไหน ถ้ามันแค่หาเรื่องด่ากันละน่าดู


พี่เขาเห็นผมทำท่าสนใจเลยเดินไปข้างๆร้านดึงเสื้อกันฝนที่คลุมมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งออกมา ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่านั่นเป็นมอเตอร์ไซด์วิบากครับ ตอนนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องอะไร คิดว่ามอเตอร์ไซค์ไรวะรูปร่างหน้าเกลียดชะมัด เพราะของพี่เค้ามันค่อนข้างเก่าแบบสีลอกขึ้นสนิมเบาะหนังก็ขาดจนเห็นฟองน้ำเหลืองๆอะไรอย่างนั้น พอพี่เค้าถีบคันสตาร์ทสองสามครั้ง พอเครื่องสองจังหวะสตาร์ทติดนี่ควันโขมงเลยครับ เป็นควันขาวๆทั้งนั้น พี่เค้าหันมายิ้มให้ผม


“เดี๋ยวมึงดูของจริง” เขาบอกผมอย่างนั้น แล้วจึงบิดออกไปแรงจนล้อหลังหมุนฟรีตะกุยดินขึ้นมาเป็นหลุมเล็กๆเลย เขาขี่อัดขึ้นไปบนเนินข้างๆพอถึงยอดเนินแล้วก็ปัดตูดจนรถหมุนเป็นวงโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ขาข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ ผมนึกย้อนกลับไปวิธีการมันคงออกแนวเดียวกับการดริฟท์ของรถสมัยนี้ละครับคือให้ล้อหลังตายแล้วรักษาโมเมนต์เอาไว้ ทั้งฝุ่นทั้งควันปลิวสะบัดราวกับหนังสงครามฉากที่ถล่มระเบิดกัน พี่แกอัดลงเนินเสร็จก็ยกล้อหน้า พอวิ่งกลับมาก็เบรกให้ล้อหลังยกขึ้น “นี่ไง ลูกผู้ชายตัวจริง” พี่แกพูดพร้อมกับยิ้มเห็นฟันขาวให้ผม ตอนนั้นผมได้แต่นิ่งอึ้ง แทบจะโยนบอร์ดทิ้งลงเหวไปเลย ทุกอย่างที่ผมเคยเล่นมาในชีวิตกลายเป็นขยะแห้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับมันและยอมรับเลยว่ามอเตอร์ไซด์นี่มันเท่ห์สุดๆแมนสุดๆไปเลยครับ สัมผัสกับความเร้าใจในระดับที่เรียกได้ว่าก้าวขึ้นจากเด็กเป็นวัยรุ่น หลังจากวันนั้นมาผมก็อยู่ในวังวนมอเตอร์ไซด์จนถึง ม. ปลายเลยทีเดียว


ที่ผมบอกว่าพี่เซ็กซ์แกเป็นคนสู้ชีวิต เพราะตอนที่แกเริ่มเป็นลูกมืออู่ซ่อมนั้นแกแยกกันอยู่กับพ่อแล้วครับ แกหาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่หลังจบ ปวช อายุประมาณ 17-18 ซึ่งก็เป็นอายุประมาณผมตอน ม. ปลาย ซึ่งยังแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลย พี่แกแยกกับพ่อเพราะแกเกลียดพ่อ ที่แกเกลียดพ่อเพราะน้าแกเป็นคนเจ้าชู้แบบที่ชอบเอาเมียเล็กเมียน้อยมาอยู่ในบ้านให้พี่เขาไม่ชอบใจ ส่วนแม่ของพี่เซ็กซ์ทิ้งแกไปทั้งแต่พี่แกเด็กๆแล้วครับ และนั่นทำให้พี่เขาเกลียดแม่และก็พลอยเกลียดผู้หญิงไปด้วย และอะไรที่พี่เขาเกลียดแล้วเขาก็เกลียดจริงครับ แต่ไม่ใช่ว่าเกลียดผู้หญิงแล้วชอบผู้ชายกลายเป็นเกย์ไปนะครับ พี่เขาแสดงความเกลียดออกมาในอีกแง่หนึ่งคือพี่เขาเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่วัตถุทางเพศเท่านั้น และพี่เขาก็แสดงให้เห็นด้วยการเป็นเทพแห่งการฟันแล้วทิ้ง พี่เขาทำได้ง่ายครับยิ่งหลังๆนี้เพราะแกมีต้นทุนทางสังคมสูง แกหล่อ มีสไตล์ แถมยังเริ่มจะรวยแล้ว ผมเองก็ยังรออยู่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนไหมที่จะสามารถมัดใจพี่ชายคนนี้ของผมได้ แต่ดูถ้าจะยากครับ


ผมขอกลับเข้าสู่ปัจจุบันก่อน ส่วนเรื่องที่ชีวิตของพี่เขาพัฒนามาจากการเป็นลูกมือของอู่รถอย่างไรนั้นผมขอติดไว้ก่อนและจะกลับมาเล่าให้ฟังเมื่อมีโอกาส


 ตอนนี้ผมเริ่มจะมึนนิดๆแล้วสิเพราะระยะหลังๆนี่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ดื่มบ่อยสักเท่าไร ผับแห่งนี้เป็นผับขนาดกลาง คือพื้นที่ไม่ใหญ่มากและมีเพียงชั้นเดียว แต่มันเป็นผับที่เรียกได้ว่าคุณภาพคับแก้วครับ จะเข้ามาที่นี่ได้อย่างต่ำก็ต้องเปิด Black ขวดละสองพันห้า แถมมิกเซอร์ขวดละเกือบร้อย เรียกว่าเป็นผับกึ่งๆไฮโซกึ่งๆนักศึกษาลูกคุณหนูละครับ สำหรับผมแล้วผับไหนที่จะมีคุณภาพนั้นประกอบด้วยปัจจัยสามอย่างคือ บรรยากาศ ดนตรีสด และผู้หญิง ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในสามอย่างนี้คือนารี ถ้าผับไหนเรียกผู้หญิงสวยๆได้มากแล้วละก็ผับนั้นคือสุดยอดที่เที่ยวในฝันซึ่งก็คือ floor ที่ผมกำลังยืนอยู่ตอนนี้ละครับ


หันไปทางไหนก็เจอแต่สาวสวยหุ่นดีที่กำลังสนุกอยู่กับจังหวะมิกซ์ drop it like it hot ของ Snoop Dog เหล่าสาวๆที่พวกพี่ๆของผมคัดมานั้นเต้นเป็นเต้นจริงครับ คือเต้นยิ่งกว่าโคโยตี้ (ผู้หญิงไทยหาได้น้อยจริงๆที่จะเต้นแบบได้อารมณ์) ส่วนอีกด้านหนึ่งของร้านเป็นกลุ่มหนุ่มสาวฝรั่งที่ก็เต้นได้อย่างเร้าใจสไตล์ hit the floor สุดๆเหมือนกัน ผมดูท่าทางฝรั่งพวกนี้น่าจะเป็นนายแบบนางแบบที่มาจากรัสเซียหรือประเทศโซนยุโรปตะวันออกนะครับ เป็นนายแบบนางแบบที่เข้ามาหากินในเมืองไทยแบบที่อยู่ตามหน้านิตยสารหรือโฆษณาต่างๆที่ต้องใช้ฝรั่งเพื่อจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูอินเตอร์น่าใช้ยิ่งขึ้น ขายได้มากขึ้นอะไรประมาณนี้ คงจะเป็นการปลูกฝังแบบผิดๆมั้งครับ แต่ถึงใครจะว่าอย่างไรฝรั่งพวกนี้ก็สวยและหุ่นสุดยอดจริงๆ


พูดไปก็น่าอายนะครับ... ความจริงก็มีครั้งหนึ่งที่ผมเมาจนลืมความอายรวบรวมความกล้าเข้าไปจีบฝรั่งคนหนึ่งด้วยภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นแต่ก็ลื่นขึ้นด้วยฤทธิ์สุรา เธอสวย ผมสีน้ำตาล ตาโต และที่สวยสุดๆก็คือขาเรียวงามคู่นั้น เธอเล่าให้ฟังว่ามาจากโรมาเนีย และการที่พวกนางแบบหน้าใหม่อย่างพวกเธอชอบที่จะมาเมืองไทยเพราะช่างภาพไทยเก่ง ถ่ายรูปพวกเธอได้สวย ทำให้เธอได้ profile สวยๆไปเสนอกับโมเดลลิ่งของประเทศพัฒนาแล้วที่สามารถจ่ายได้มากกว่า ผมภูมิใจกับช่างภาพไทยจริงๆครับที่มีชื่อเสียงทางด้านการถ่ายภาพระดับโลก อย่างที่โฆษณาเหล้ายี่ห้อหนึ่งเคยกล่าวว่า คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก อะไรประมาณนี้ ซึ่งตอนนั้นผมก็พยายามสุดๆเพื่อเป็นตัวแทนคนไทยไปฟาดเธอให้ได้จะได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก เรื่องนี้จบยังไงผมคงขอสงวนไว้รู้เองคนเดียวนะครับ อายแทนคนไทยครับ


ส่วนพี่เซ็กซ์นั้นไม่ต้องสนิทกันก็ดูรู้ครับว่าพี่เขาเริ่มเมาแล้ว เพราะพี่เริ่มนิ่งแล้ว และอีกสักพักผมก็คงต้องโดนพี่เขาสั่งสอนอะไรสักอย่างแน่ๆ ในโลกใหญ่ๆใบนี้นั้นเราสามารถแบ่งประเภทคนเมาได้หลายประเภทครับ เมาแล้วเรื้อน เมาแล้วเบ่ง เมาแล้วหลับ บ้างก็เมาแล้วชอบวิวาททำลายข้าวของชกต่อย เมาแล้วใจใหญ่อะไรอย่างนั้น สำหรับพี่ชายของผมคนนี้เป็นคนที่เมาแล้วชอบพูดจามีเหตุผลครับ ปกติแล้วพี่แกเป็นคนที่ชอบพูดตลก ประมาณว่าใครพูดอะไรมากูปล่อยมุกใส่ แต่ลึกๆแล้วพี่เขาคงเป็นคนที่มีเหตุผลมากๆนะครับ และคงจะเผยจิตใต้สำนึกออกมาตอนเมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆที่ต้องมาฟังคนเพี้ยนๆมาพูดจามีเหตุผลใส่ ดังนั้นผมจึงพยายามยืนเต้นไกลๆพี่เค้าเอาไว้กันรำคาญ แต่เพียงแค่สบตาเท่านั้นละครับพี่เค้าก็เดินมาหา


“เฮ้ย มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าวะ” พี่แกเมาถาม “ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหากู”


“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่” ผมตอบ “แค่อยากผ่อนคลายนิดหน่อย”


“เออดี” พี่แกบอก “แต่ถ้ามึงมีปัญหาอะไรมึงบอกกู เดี๋ยวกูจัดการให้”


“ครับพี่” ผมตอบไปแค่นั้น แต่ผมไม่เคยคิดจะให้ใครช่วยแก้ปัญหาของผมหรอก อย่างน้อยผมก็ไม่โยนเรื่องเดือดร้อนของตัวเองให้ไปเดือดร้อนคนอื่นด้วยแน่ๆ โดยเฉพาะคนที่ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงเป็นใยผม


“มึงไม่เครียดใช่ไหม” พี่ถาม


“ไม่ครับ”ผมตอบ


“แต่กูเครียดว่ะ” พี่ตอบกลับ อ้าว...สรุปนี้ผมต้องมานั่งฟังเรื่องเครียดๆของพี่ชายอีกใช่ไหมเนี่ย


    






Free TextEditor


Create Date : 01 ตุลาคม 2552
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 13:03:02 น. 3 comments
Counter : 601 Pageviews.  

 
^^


โดย: kirill วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:10:29:48 น.  

 
ขอบใจน้อง kirill มักๆ ที่ช่วยเข้ามาเม้นเปนกะลังใจให้นะคับ


โดย: Chud S. วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:13:18:38 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: Vito Andolini Corleone วันที่: 31 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:00:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chud S.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Chud S.'s blog to your web]