จากช่องเม็ก ไปยังปากเซ เป็นระยะทาง 42 กิโลเมตร รถโค้ทของเราเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ตามที่กฎหมายของลาวกำหนด ผมทอดสายตาลอดหน้าต่าง เห็นสายน้ำจากฟากฟ้า เริ่มหย่อนลงมาเป็นระยะ เหล่าแมกไม้ 2 ข้างทางก็ดูจะเริงร่าเป็นพิเศษ เพราะจะได้แข่งกันกันอวดสีเขียวขจี อันเป็นสัญญานแห่งความ อุดมสมบูรณ์ ก่อนถึงเมืองปากเซ เราต้องข้ามสะพาน มิตรภาพ ลาว ญี่ปุ่น สะพานซึ่งเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองปากเซ
จำปาสัก แกรนด์ โฮเต็ล โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปากเซ คือที่พักของคณะเรา ตลอด2 คืน
โปรแกรมวันแรกคือเดินทางไปที่ราบสูงบอละเวน ชมน้ำตกผาส้วม ที่อุทยานบาเจียง รีสอร์ท
ที่นี่เราได้ชมทั้งวิถีชีวิตชนเผ่าต่างๆ และชมความงามของสายน้ำตก ที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ปากซ่อง ชมไร่ชา กาแฟ พร้อมชิมแล้วก็ซื้อกลับเป็นของฝาก
น้ำตกผาส้วม
ไร่กาแฟ ที่เมืองปากซ่อง
และก่อนเดินทางกลับโรงแรม ก็แวะชมน้ำตกตาดอีตู้ ซึ่งเป็นน้ำตกที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวชมได้ไม่นาน
วันสุดท้าย หลังเช็คเอาท์ อำลา จำปาสัก แกรนด์ แล้ว ก็เดินทางไปชมปราสาทหินวัดภู ซึ่งเป็นมรดกโลก เป็นศิลปะแบบขอม ยุคก่อนนครวัด อายุเก่าแก่กว่า1000 ปี ในอดีตเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แหล่งอารยธรรมโบราณ 3 สมัย คือ อาณาจักรเจนละ ,อาณาจักรขอม และอาณาจักรล้านช้าง หลังจากนั้นก็เดินทางกลับเมืองไทยต่อไป
มุมมหาชนของปราสาทวัดพู ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปมากที่สุด
ปรางค์ประธานบนยอดเขาสูงสุดของปราสาทวัดภู
องค์พระพุทธรูปภายในปรางค์ประธาน
การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางภายใต้โครงการ อีสานใต้ให้โชค ของ ททท. สำนักงานสุรินทร์ นำทีมโดย ผอ.บุณยานุช วรรณยิ่ง เพื่อทัศนศึกษาเส้นทางอารยธรรมขอม สุรินทร์- ปากเซ ปราสาทวัดภู สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 12- 14 สิงหาคม 2554
เรื่อง และภาพ โดย ชายคาตะวัน
กำลังหัดเขียนบล็อกอยู่ครับ จริงๆ อยากให้ภาพแนวนอนเป็นภาพใหญ่กว่านี้ แต่ไม่รู้ทำยังไง ท่านใดทราบช่วยแนะนำด้วยครับ