รูปเซ็ทนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร คนถ่ายเค้าหนาวจัดมือสั่น ขาตั้งกล้องก็ไม่มี

ไม่ได้ขยับเขยือนไปเก็บมุมอื่นใด บ้านรักไทยฝั่งโน้น หงษ์เหิง ไม่สน เพราะวิวข้างหน้าพอแล้ว

อิ่มวิว อิ่มหมอก อิ่มไอหนาวววววววววว

รูปน้อย และไม่อยากเดินไปไหนไกลๆ ตื่นปรุ๊บหิวทันที ทำอาหารอย่างง่ายแล้วรีบเก็บของ

ว่าจะพาลูกนั่งเรือคงต้องอด เพราะว่าต้องไปอีกไกล ถ้าไปนั่งเรือต้องไปใช้บริเวณบ้านรักษ์ไทย

การมาค้างคืนที่นี้ ต้องติดต่อขอบัตรเพราะเค้าบริหารจัดการดูแลพื้นที่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ถ้าไม่ได้ค้างคืนที่นี่ ต้องใช้บริการของชาวบ้านด้านล่างรถสองแถว เพื่อขึ้นมาชมในช่วงเวลาที่เค้ากำหนด แต่อย่างว่านะถ้าเห็นไอหมอกในผืนน้ำต้องนอนที่นี่สถานเดียว

เพราะคุ้มมากกกกกกกกก สวยจริงๆ

บริเวณจุดดูแลของป่าไม้ ยังมีแหล่งเดินชมป่าไม้เค้าทำเป็นสะพานให้เดินเล่น บ้านเราไม่ได้ไปเพราะเวลาไม่พอ

ห่วงกินนนนนนนนนนนน จ้า ไข่เจียว หอมกรุ่น ไมโลร้อนๆ ข้างต้ม มาม่า อร่อยเจงๆ

เก็บวิวรอบๆมาฝาก อันนี้จุดบริการนักท่องเที่ยว

ห้องน้ำสะอาดเพราะคนไม่เยอะมาก น้ำเย็นดี อิอิ ตรงนี้สามารถเดินลงไปชมกล้วยไม้ หรืออื่นๆได้อีก

เจอของสวย

ด้วยเวลาที่มีจำกัด เราเก็บของออกไปแบบไม่อาบน้ำ เพราะตั้งใจไปที่นี่กันต่อ วิวเขาสูง ทางแคบ เช่นเคย

เป้าหมายต่อไป ภูโคลน ที่เป็นแหล่งโคลนชั้นยอด เหมาะพอกตัว พอกหน้า และมีน้ำแร่บริการทั้งอาบ

ทั้งแช่รวม หรือกลางแจ้ง มีร้านอาหารและ ผลิตภัณฑ์ภูโคลนจำหน่าย

เราอาบน้ำสระผม ต้องใช้ห้องแบบอาบน้ำ เพราะเค้าไม่ให้ยาสระหรือสบู่ในห้องแช่น้ำแร่

ปล่อยสองหนุ่มเค้าแช่กันไป น่าจะสบายตัวนะ ส่วนเราเองวันนี้ไม่พร้อมหมักโคลนเพราะห่วงลูกรอนาน

ด้วยสัญญาว่าจะพาไปที่นี่

หลังจากสดชื่นสบายตัวเพราะอาบน้ำอุ่นๆกันมาแล้ว

ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร

ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขา ปลาอยู่กันเยอะมากทั้งทั้งภายนอกและภายในถ้ำเลย

มีร้านค้า ร้านกาแฟ และจุดกางเต็นท์

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่น น่าเดินเล่น

บริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจถ้ามาเที่ยวปางอุ๋ง โดยรอบๆเช่น พระตำหนักปาง - ปางอุ๋ง-ภูโคลน-น้ำตกผาเสื่อ-ถ้ำปลา เราเลือกไปที่มีเวลา และลูกชอบ จริงๆแล้วพระตำหนักปางตอง เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้แวะพระตำหนักปางตอง

ฟ