The Blog To Love @ First Click - - ความเหงาไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เจ้าของหัวใจที่ทำร้ายตน-- รักแรกคลิก
คลองบางหลวง -ช่องไฟอันงดงามในเมืองฟ้าอมร(ตอนจบ)

เราพากันเดินข้ามฟากต่อไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ

อันที่จริง...ควรบอกว่า ฉันชวนเพื่อนแกมบังคับให้ไปสะสางภารกิจที่หมายตาไว้ตั้งแต่เดินเข้าคลองบางหลวงมาต่างหาก



ถ้าใครมาเที่ยวคลองบางหลวง จะเห็นร้านขายอาหารเล็กๆตั้งอยู่ตีนสะพานฝั่งเดียวกับถนนจรัญฯ 3

ก่อนข้ามสะพาน ฉันสบตาหนุ่มเจ้าของร้านก๋วยจั๊บสาขาคลองบางหลวง เป็นการจองโต๊ะแบบสังเขปไว้ล่วงหน้าแล้ว

ด้วยสัตย์ การสบตาของฉันไม่มีนัยยะเชิงเกี้ยวพาแต่อย่างใด

จะมีก็แต่ใจปฏิพัทธ์ในกลิ่นและรูปอันน่าเย้ายวนของวัตถุดิบในตู้ไม้ใบเล็กๆตรงหน้าเขาเท่านั้น

เราหวนกลับมาที่ร้าน หาที่นั่งมุมเล็กๆริมคลอง และสั่งเมนูเดียวกับป้ายหน้าร้าน



ก๋วยจั๊บพะโล้ควันโฉที่น้ำข้นสมชื่อถูกยกมาวางตรงหน้า

แดดรำไรจากผิวน้ำในคลองทำองศาพอดีกับขอบชาม ดูราวกับเป็นอาหารทิพย์

หลังจากนั้น ความเงียบก็ทำหน้าที่ระหว่างเราอยู่ชั่วระยะหนึ่ง

ไม่น่าเชื่อว่า ในสถานที่ดีๆ ในบรรยากาศดีๆ เมนูเรียบง่ายก็อาจกลายเป็นความอลังการทางรสชาติได้ถึงเพียงนี้

ก๋วยจั๊บล่วงถึงท้องอุ่นๆไม่ทันไร ฉันเริ่มหาแนวร่วมภารกิจของหวานกับเพื่อนอีกยก

ร้านนี้นอกจากก๋วยจั๊บจะเด่นแล้ว ของหวานของเขายังไม่น่าพลาดด้วย



เมนูของหวานแนะนำอันดับหนึ่งคือ ข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้

เนื้อมะม่วงเนียน หวานละมุนหอมกลิ่นเฉพาะของผลไม้พันธุ์นี้
รสตัดกันพอดีกับข้าวเหนียวเมล็ดสวย ที่มูนด้วยกะทิข้นรสเค็มหวาน และมัน

...ฉันอยากยกมือไหว้จานของหวานตรงหน้า...

ยังยืนยันว่าทุกครั้งที่ได้กินข้าวเหนียวมะม่วง ฉันจะอดปลื้มและตื้นตันไม่ได้ว่า บุญเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นคนไทย...

หลังมื้ออาหารสมบูรณ์แบบ เราเดินข้ามสะพานกลับไปเที่ยวต่อ

ไฮไลท์ของทริปนี้คือบ้านศิลปิน ที่คุณชุมพล อักพันธานนท์มาปรับปรุงเรือนไม้ทรงมะนิลาหลังหนึ่งที่คลองแห่งนี้ให้เป็นแกลอรี่ศิลปะ



ภายในมีมุมสวยๆไว้ให้หย่อนใจ






หรือใครอยากนั่งเงียบๆริมน้ำ ก็มีหุ่นปูนปั้นนั่งเล่นเป็นเพื่อนอยู่หน้าบ้าน





ในบ้านศิลปินแห่งนี้ มีอากาศของศิลปะล่องลอยอยู่ทั่วไปหมด





ล่องลอย แต่ไม่อึดอัด
เพราะต่างฝ่ายต่างมีช่องไฟ
เว้นระยะไว้เชื่อมลมหายใจระหว่างกัน
เหมือนช่องไฟของบานหน้าต่างเหล่านี้






บ้านศิลปินทำให้ฉันรู้ว่า เรากินข้าวเพื่อให้อิ่มท้อง
ขณะเดียวกัน เราก็เสพศิลปะเพื่อให้อิ่มทางจิตวิญญาณ




ฉันอยากแปลงกายเป็นนางกวัก ชวนให้คุณๆมารู้จักและรักคลองบางหลวง



รับรองว่า คุณจะมีความสุขและเดินเล่นเพลินตลอดย่าน



จนขาเป็นตะคริวอย่างสาวน้อยคนนี้เลยเชียว...



Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2554 14:36:04 น. 26 comments
Counter : 4825 Pageviews.

 
ปิดท้ายเด็ดอีกแล้ว

อ่านข้อความที่บรรยายความดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยกับข้าวเหนียวมะม่วงแล้วอดยิ้มไม่ได้เลยเชียว 555+



เรื่องโชค ขึ้นอยู่กับดวงคุณน้ำอ้อยด้วยหละค่ะ

ยังไงอย่าลืมส่งที่อยู่ทางหลังไมค์มาให้ด้วยนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:19:49 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่น้ำอ้อย

ขอบคุณมากๆนะคะที่คิดถึงหนู

หนูอยากจะบอกความในใจว่าคิดถึงพี่มากๆเหมือนกันค่ะ

ทำไมหนูหาเวลาว่างไม่เจอเลย อยากอัพบล็อก อยากแวะมาทักทายทุกๆท่าน

ขอเวลาหนูสักพักนะคะ หนูจะกลับมาลั้ลล้าเช่นเคย อิอิ

ว่าแล้วก็นึกอยากก๋วยจั๊บขึ้นมาเลยอ่ะ น่าอร่อยมากมายค่ะ



โดย: โตเหมี่ยว วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:04:42 น.  

 
ข้าวเหนียวมะม่วงงงงงงงงงงง ชอบมากกกกกกกกกกกกกก


โดย: otto (หวานปานฉะนั้น ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:16:57 น.  

 
ก๋วยจั๋บน่าทานจังเลยค่ะคุณน้ำอ้อย
เห็นแล้วอยากไปเดินเล่นแถวนั้นบ้างจังเลย


โดย: diamondsky วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:48:10 น.  

 
ข้าวเหนียวมะม่วงทำให้ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกๆเลยครับ แหะๆๆ





สิทธารถะผมไม่แน่ใจว่าคนอื่นแปลด้วยหรือเปล่านะครับ
ผมเห็นปกนี้ปกเดียวครับคุณน้ำอ้อย
ดีใจที่เพิ่งมาอ่านตอนนี้
เพราะผมอ่านด้วยความเข้าใจ
ด้วยความสนุกสนาน ด้วยความล้ำลึก

ถ้าอ่านเร็วกว่านี้ผมอาจรู้สึกแค่ปลื้ม
แต่คงไม่ได้รู้สึกร่วมไปกับตัวละครอย่างสิทธารถะ

ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบผมไม่คิดอยากบวชเลยครับ
แต่คิดว่ามีหลายส่วนที่เราเป็นเหมือนสิทธารถะ
และมีหลายส่วนที่ไม่เหมือนกันเลย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:08:23 น.  

 

เคยเดินสวนอุดหนุนร้านโปสการ์ดคุณชุมพล ด้วยความประหลาดใจ
ขาย 3 ใบ 10 แล้วจะอยู่ได้ไงวะ ที่นี่...สวนนะเนี่ย

ไม่นานร้านนี้ก็จากไป

3 ปีผ่านไปแล้วเราก็ได้ดีใจอีกครั้ง เราได้จ่ายตังค์ซื้อโปสการ์ดของคุณพี่ชุมพล ที่บ้านศิลปิน

ซื้อของดีๆ มีคุณภาพแล้วมีความสุขนะ

ุคุณอ้อยรู้มั้ย

ถ้าคุณอ้อย เป็นนักดนตรี เราก็คงซื้อซีดีเพลงแผ่นแท้

เราอ่านแล้วชอบคลองหลวงตอนที่ 2 นี้มากกกกก...





โดย: 1 IP: 183.89.204.74 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:27:09 น.  

 
"จนขาเป็นตะคริวอย่างสาวน้อยคนนี้เลยเชียว.." หุๆๆๆ คิดเก่งจัง

ทั้งก๋วยจั๊บและข้าวเหนียวมะม่วงน่าทานมากๆ

ได้อ่านสมใจแล้วครับ ชอบจัง


โดย: bayesian วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:31:37 น.  

 
เห็นเขาว่า ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของหวาน 1 ใน 10 ของโลก
ผมยังหาต้นตอไม่เจอเลย …. ใคร หน๊อ เป็นผู้จัดอันดับ

//picpost.postjung.com/113147.html



โดย: yyswim วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:9:40:53 น.  

 
สวัสดีอีกรอบนะคะ

มาบอกว่า เราคงส่งให้ได้สัปดาห์หน้าหละค่ะ

เพราะ..วันนี้ลืมเอามา แล้วเราจะไม่อยู่ไทยยาวตั้งแต่พรุ่งนี้เลยหละค่ะ เง่อ...กลับมาอีกทีวันจันทร์หน้าเลยค่ะ

ดีใจที่ได้คุยหลังไมค์กันนะคะ เลยได้รู้จักกันเพิ่มขึ้นอีกนิดเนาะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:10:06:16 น.  

 
น้ำอ้อยทานก๋วยจั๊บกับข้าวเหนียวมะม่วงเผื่อป้าแอ๊ดหรือเปล่าคะ
ของชอบทั้งสองอย่างเลยค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:10:08:32 น.  

 
น้ำอ้อย..

หนึ่งเห็นแล้วอยากเดินเกี่ยวแขนกับใครสักคนไปเดินเล่นที
ที่นี่จัง
เรียบๆ ง่ายๆ ไม่รีบร้อน เดินปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อยได้เลยเนอะ

ก๋วยจั๊บน่ากินที่สุดเลย


ไม่ปล่อยให้คิดถึงกันนานจ้ะ...
มาชวนไปปั่นจักรยานเที่ยวกรุงฮานอยด้วยกันจ้า




โดย: chenyuye วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:10:43:55 น.  

 
ชอบดูดาวด้วยตาเปล่าครับ

เอื้อมไม่ถึงสักที หุๆๆๆ

เห็นข้าวเหนียวมะม่วงน้ำลายไหล
ที่บ้านมีมะม่วงน้ำดอกไม้ครับ หอมหวาน แต่ไม่มีข้าวเหนียวดังในภาพ


โดย: bayesian วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:13:42:49 น.  

 
อาทิตย์ที่ผ่านมา รายการเปรี้ยวปากทางช่องสามก็พาไปชิมอาหารแถวคลองบางหลวง ดูแล้วนึกถึงคุณน้ำอ้อยเลยค่ะ

บล็อคนี้ของกินน่าหม่ำมากกกก โดยเฉพาะข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวฉ่ำกะทิแบบนี้ เห็นแล้วกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลย แต่ไม่ค่อยชอบมะม่วงน้ำดอกไม้เท่าไหร่ ชอบอกร่องมากกว่า หวานสนิทใจดี


โดย: haiku วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:22:43:31 น.  

 
ผมเคยคิดอยากบวชอยู่ครั้งเดียว
นั่นคือตอนที่ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัย
เหมือนเป็นแว๊บนึงที่อยากค้นหาเส้นทางธรรมด้วยการคิดบวช (ไม่สึกตลอดชีวิต)

แต่ครูที่ผมสนิทมากท่านพูดกับผมว่า

"ถ้ารู้ว่าไปบวชวัดไหน จะตามไปต่อว่าเลย" 5555

คือท่านบอกกับผมว่า
เรียนมาตั้งเยอะเอาความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือคนอื่นก่อน
แล้วค่อยบวชเถอะ..


นั่นเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ผมคิดจะบวช
เพราะหลังจากนั้นไม่ว่าจะเผชิญทุกข์อะไรในใจ
ผมไม่เคยคิดจะบวชอีกเลย
เพราะได้รู้แล้วว่า

ไม่ว่าจะบวชหรือไม่บวช
ไม่เกี่ยวข้องใดใดใกับการลดหรือเพิ่มทุกข์ในใจเลย
ไม่ว่าเราจะเป็นหญิงหรือชาย เด็กหรือคนชรา
เราสามารถเข้าถึงธรรมได้ทั้งนั้น

การบวชอาจช่วยได้ในเรื่องของ "บรรยากาศ"
แต่บรรยากาศไม่เกี่ยวกับการรู้ธรรม
การศึกษาสูงๆก็ไม่ได้ช่วยให้คนละกิเลส
ความรวย อำนาจ เงินทอง ผ้าเหลือง
เหล่านี้เป็นเพียง "รูปแบบ"
ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยกับการบรรลุธรรม


ผมมักจะได้ยินหลายคนชอบพูดว่า
ตัวเองปฏิบัติธรรมมาน้อย หรือบางคนบอกว่าตนเองเป็นผู้หญิง
เลยไปถึงนิพพานไม่ได้
ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเชื่อแบบนั้น...

ถ้าไม่วางความรู้แบบนี้
คุณก็จะต้องเชื่อไปตลอดชีวิตว่าคุณนิพพานไม่ได้เพราะไม่ได้บวช
หรือนิพพานไม่ได้เพราะไม่มีอาจารย์มาเป็นครูนำทาง
หรือนิพพานไม่ได้เพราะไม่ได้นั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืน...


ผมอาจจะคิดถึงนิพพานในรูปแบบที่ตัวเองเชื่อว่า "ไปได้"
และเชื่อว่าทุกคนไปถึงได้ เพียงแต่คุณเชื่อหรือเปล่าว่าคุณไปนิพพานได้หรือรู้แจ้งกระจ่างธรรมได้


คนเราใช้ธรรมะและศาสนาเหมือนคู่มือในการเดินทาง
คือ รู้เยอะมากครับว่าอะไรเป็นอะไร
บางคนจำพระไตรปิฏกได้ทั้งชุด
รู้ไปทุกอย่างเลย

เว้นอย่างเดียว...คือ ยังไม่เคยออกเดินทางครับ
หรือเริ่มออกเดินทางบ้างแล้ว
แต่ดันไปผิดทิศผิดทางเสียอย่างนั้นเอง.







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:4:45:10 น.  

 
ตอนอ่านสิทธารถะจบ
มีหลายบทหลายตอนที่ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิทธารถะด้วยซ้ำ
คือเป็นขบถหน่อยๆครับ 5555

ตอนที่โควินทะตัดวินบวชกับพระพุทธเจ้า
แต่สิทธารถะเลือกที่จะสึกออกจากการเป็นพระ

ผมว่านี่เป็นการท้าทายตัวเองที่ยิ่งใหญ่มาก
ถึงแม้ที่สุดแล้วสิทธารถะจะพ่ายแพ้ต่อกิเลสที่ยั่วเย้า
แต่โควินทะก็ไม่ได้บรรลุธรรมใดใดใเลย
แม้จะอยู่ใกล้ชิดและปฏิบัติในแนวทางคำสอนของพระพุทธองค์


ตัวอย่างที่ชัดเจนมากนอกจากโควินทะแล้ว
ยังมีพระอานนท์ที่รับใช้ใกล้ชิด
แต่กลับบรรลุธรรมได้ในภายหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์
เป็นตัวอย่างของการยึดติดในความรู้ ยึดติดในความเป็นสมณะ


ผมชอบมากที่สุดตอนที่สิทธารถะนั่งลงแล้วคุยกับสายน้ำจนรู้แจ้งในธรรม
"แม่น้ำ" ขุนเขา เสียงลมพัด คนบ้า เด็กทารก ความทุกข์
ความตาย ความรัก การพลัดพราก ฯลฯ


เมื่อมาถึงตอนนี้อะไรหรือสิ่งใด
ก็ล้วนแต่เป็นครูนำทางแก่จิตของเราได้ทั้งสิ้นครับ

นี่ทำให้ผมชอบหนังสือเล่มนี้มากในรอบหลายปีที่อ่านหนังสือมาเลยทีเดียวครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:5:06:18 น.  

 
โควินทะตัดสินใจบวช

.
.

ผมพิมพ์ผิดครับ แหะๆๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:5:13:32 น.  

 
สวัสดีนางกวัก
ขอกินข้าวเหนียวมะม่วงบำรุงพุงก่อน
แล้วจะไปบวชบรุษชูชก
(ตรงข้ามกับบวชชีพราหมณ์)
หึ หึ
วันนี้วันคอขาด ยังแวะมาเที่ยวอีก.....


โดย: ดาวส่องทาง IP: 124.121.50.61 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:8:25:28 น.  

 

ชอบข้าวเหนียวมะม่วง
อยากกินมากกกกกก:)


โดย: ภูเพยีย วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:12:25:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ
งานยุ่ง ถึงยุ่งมาก

ภาษาโบราณขามีคำหนึ่งว่า ยุ่งขิง
ตอนนี้ รักแรกคลิกยุ่งถึงระดับประมาณ ยุ่งกระชาย ( หมายถึงยุ่งกว่ายุ่งขิงเสียอีก ดูสิ ขนาดลอก อิน เข้าบล็อก ยังไม่สามารถเลย : (

มาลาชั่วคราวอีกแล้ว ไว้สร่างซาจากงานได้ จะแวะมาอัพบล็อก และทักทายเพื่อนๆเช่นเดิมค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: รักแรกคลิก - ในโหมด 'ยุ่งกระชาย' (มี ร เรือ ระหว่าง ก ไก่ กับ สระอะด้วยนะ :) IP: 204.136.218.8 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:15:56:26 น.  

 
ข้าวเหนียวม่ะม่วง


โดย: Junenaka1 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:19:53:05 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณน้ำอ้อย







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:6:24:34 น.  

 
แวะมาทักทายคุณน้ำอ้อยค่ะ
มาด้อมๆ มองๆ ว่ามีบล้อกใหม่มารึป่าว อิอิอิ
คุณน้ำอ้อยสบายดีนะค้า


โดย: diamondsky วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:18:24:10 น.  

 
อะ โหล คิดถึงจังเลยคะคุณน้ำอ้อยขา พี่อรเข้ามาเห็นทั้งก๊วยจั๊บ กับข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว อีม ไม่ข้ามพรุ่งนี้แน่เลย
พี่อรเพิ่งได้ข้อมูลมาว่า ข้าวเหนียวมะม่วงเมืองไทติดอันดบที่ได้เป็นของหวาน อันดับ 7 ของโลกนะคะ ยินดีด้วยกับคนไทยทุกคนคะ หนับหนุนประโยคที่คุณน้ำอ้อยเขียนเอาไว้
"ฉันอยากยกมือไหว้จานของหวานตรงหน้า...

ยังยืนยันว่าทุกครั้งที่ได้กินข้าวเหนียวมะม่วง ฉันจะอดปลื้มและตื้นตันไม่ได้ว่า บุญเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นคนไทย.." คะ แต่แล้วหนุ่มหล่อที่นี่งหันหลังนี้แกน่ากลัวนะพี่อรว่า หากไปเจอกลางคืนมืดๆดำๆ ด้วยหละก็มีหวังพีอรเผ่นแนบเน่เลยคะ กลายเป็นหุ่นไล่คน ได้เลย
แหม คุณน้ำอ้อยเข้าใจเอารูปมาลงนะคะ อีกรูปเป็นนางกวัก แต่รูปบน ก็แบบที่บอกนะคะหุ่นไล่คน contrast กันได้ดีจริงๆคะ
ไปหละนะคะ นานๆเข้ามาที อน่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ แล้วขอโทษด้วยนะคะทั้พีอรไม่เข้ามาทักทายกันเลย แต่งัยก็คิดถึงเจ้าแม่ซี้ยงไฮ้พา tour คลองบางหลวง
นะคะ จุ๊ฟฟฟฟฟฟ


โดย: cengorn วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:0:05:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณอ้อย






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:6:37:19 น.  

 
โห เสริจหา คลองบางหลวง
เจอblog นี้ ติดใจมากกับคำบรรยาย
ยินดีได้รู้จักคนชลบุรีด้วยกันอีกคนนะคะ


โดย: มิลเม วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:22:46:34 น.  

 
ชอบสำนวนของคุณจริงๆ


โดย: ผู้ที่ขุนเขาระลึกถึง IP: 192.168.10.35, 58.8.209.45 วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:38:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Love At First Click
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




An ordinary woman who loves to write and who loves to know what love is.
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
28 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Love At First Click's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.