หนังสือที่ต้องอ่าน สวัสดีค่ะเพื่อนบล็อก 3ปีแล้วซินะ ที่วุ่นวายกับการเลี้ยงหลาน ตอนนี้เพิ่มมาอีก กลายเป็น2คน ยิ่งวุ่นหนัก ไหนจะมีการเปลี่ยนหุ้นส่วนทางธุรกิจอีก บล็อกแทบจะร้างไปเลย ได้มาเขียนบล็อก 3 เดือนครั้งก็ดีแล้วนะ ขนาดมีงานตะพาบเป็นตัวกระตุ้น บางครั้งยังไม่ได้เลย แต่ตั้งความหวังไว้ว่า เดือน ต.ค. คุณยายไม่ต้องไปสอนหนังสือ น่าจะพาหลาน1คนไปอยู่ด้วย เราจะได้เลี้ยงหลานเพียงคนเดียว (หวังไว้สูง ๆ หน่อย เวลาผิดหวังจะได้เจ็บมาก ๆ งัย แล้วถ้าสมหวังก็ถือว่าโชคดีไป) เลยคิดว่าเดือนหน้า น่าจะพอมีเวลาอ่านหนังสือเยอะขึ้นนะ ปกติก็อ่านอยู่แล้ว แต่ไม่ได้พามาบล็อก โดยมากพาขึ้นเฟสบุ๊คส์มากกว่า เริ่มที่ 2 เล่มแรก เหมาะสำหรับคุณครู ถึงแม้ฉันไม่มีอาชีพด้านครู แต่ฉันเลี้ยงหลาน2คนเชียวนะ อย่างน้อยก็น่าจะอ่านไว้บ้าง ไม่เสียหายอะไร 2เล่มต่อมา อ่านให้คิดทบทวนว่า ตัวเราเอง คิดอย่างไรกับสิ่งเหล่านี้ ส่วน 2 เล่มนี้ ภาพน่ารัก อ่านสบาย ๆ เรื่อย ๆ ให้ข้อคิดสะกิดอารมณ์นิด ๆ สำหรับเล่มสุดท้าย จริง ๆมีทั้งหมด 11 เล่ม สั่งคนขายไว้ว่าเล่มไหนออกมาให้เก็บไว้ ตอนนี้มีถึงเล่ม4 แต่ว่าฉันยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยซักเล่ม เรื่องนี้อ่านสร้างจินตนาการ สรุปว่า ฉันอ่านหนังสือทุกประเภทนั่นหล่ะนะ ขอแค่มีเวลา พักนี้นอนดึกไม่ได้ ด้วยโรคประจำตัว หนังสือเลยรออ่านเป็นร้อยเล่ม ถ้าหลาน ๆ โต เรียนชั้นประถมเมื่อไหร่ ฉันคงมีเวลามากขึ้น (ตั้งความหวังอีกแล้ว นี่เป็นข้อเสียของฉันอีกข้อเลยนะเนี่่ย) ปล.โจทย์ตะพาบออกมาแล้ว จะมีเวลาเขียนมั้ยนะ ถึงแม้ไม่ใช่โจทย์ที่โหวต ถ้ามีเวลาก็จะร่วมเขียน ปล.2 อารมณ์ของฉันตอนนี้ประมาณนี้ ขอยืมมาใช้นะน้องฉัตร "อย่าโต้เถียงกับคนที่ปิดใจ เพราะต่อให้เหตุผลดีแค่ไหน เขาก็จะไม่เปิดใจรับฟัง" ๛ณ ปลายฉัตร๛   Create Date : 29 กันยายน 2557 7 comments Last Update : 29 กันยายน 2557 23:34:20 น. Counter : 2141 Pageviews. Share Tweet

สวัสดียามเช้าครับพี่โอ๋ พี่โอ๋เลี้ยงหลานมากับมือจริงๆ สองสาวคงทำให้พี่โอ๋กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงเด็กอ่อนไปแบบไม่รู้ตัวนะครับ 555 ผมเองก็ไม่เคยเชื่อหรอกครับว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกได้ดี 555 โดยธรรมชาติไม่ใช่คนรักเด็ก ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีลูก พอมี มันก็เป็นไปตามสัญชาติญาณจริงๆครับ ปล. ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องการอ่านเขียนของเด็กเล็ก ถ้าทำใจได้ ลองปล่อยๆเค้าไป ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องจี้ให้เขียนให้อ่าน แต่เปลี่ยนมาเป็นการเล่านิทานให้เค้าฟังเยอะๆ หัดเขียนสัก 4-5 ขวบแบบสนุกๆ ให้เค้าเขียนคำที่เค้าอยากเขียน ถ้ากล้ามเนื้อมือพร้อม อารมณ์พร้อม เดี๋ยวเค้าเขียนอ่านได้คล่องปรื๊ดจนเราตกใจเลยครับพี่โอ๋ หมิงหมิงทั้งเขียนและอ่านได้คล่องตอน 6 ขวบกว่านะครับ ดูเหมือนช้า แต่พออ่านเขียนได้ก็พัฒนาเร็วปรี๊ดเลย ส่วนใหญ่เราชอบเร่งเด็กให้เขียนอ่านเร็วๆ อย่างเด็กอนุบาล 1 บางแห่งแทบจะบวกลบเลขได้แล้ว บ้าไปแล้วครับพี่ ไม่รู้จะรีบเก่งไปไหน 5555 กะจบปริญญาตรีอายุ 12 เลยรึเปล่าก็ไม่รู้ หลักสูตรและหนังสือบางเล่มก็น่ากลัวมากๆครับ ความรู้เด็กประถม 1 ยังกะความรู้เด็ก ประถม 4 ในสมัยเราครับ   โดย: กะว่าก๋า 30 กันยายน 2557 6:34:31 น.

สวัสดีค่ะคุณโอ๋ ขอบคุณมากค่ะที่ไปทักทาย การอ่านหนังสือต้องมีเวลานั่งอ่านนะคะ ถ้าเรามีเวลาตรงนั้นคือความสุขจริงๆ ขอให้มีเวลาอ่านหนังสือที่ชอบๆสมใจนะคะ อิอิ เลี้ยงเด็กๆบางทีเหนื่อยแต่ก็เพลินดีเหมือนกันนะคะเพราะความน่ารักของเด็ก ขอให้คุณโอ๋มีความสุขวันอังคารค่ะ >   โดย: กิ่งฟ้า 30 กันยายน 2557 8:03:04 น.

rosebayBook Blogดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้ง ตามมาอ่านมาvoteค่ะ   โดย: เริงฤดีนะ 1 ตุลาคม 2557 8:14:31 น.

หลากหลายแนวดีนะครับ ถือเป็นการเรียนรู้นะยิ่งหลากแนวยิ่งดี จะว่าไปช่วงหลังๆ ผมก็เริ่มอ่านแนวใหม่ๆ มากขึ้นเหมือนกัน +   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 2 ตุลาคม 2557 0:18:06 น.

สวัสดีค่ะ พี่โอ๋ ^^ นานๆจะอัพบล็อคนะคะ คงยุ่งๆเลี้ยงหลานมากเลย หนังสือดีหลายเล่มเลยค่ะ น่าอ่าน โดยเฉพาะต้นไม้นี้ชื่อความรัก ต้นไม้นี้ชื่อความสุข ขอบคุณสำหรับคำแนะนำหนังสือดีๆค่า มี่ความสุขมากๆ ค่า   โดย: lovereason 2 ตุลาคม 2557 12:36:36 น.

สวัสดีค่ะคุณโอ๋ พี่แวะมาทักทาย มาดูหนังสือคุณโอ๋ค่ะ เลี้ยงหลานยังมีเวลาอัพบล็อกเน๊าะ คุณโอ๋มีความสุขมากๆนะคะ   โดย: tanjira 3 ตุลาคม 2557 9:50:43 น.

สวัสดีค่ะคุณโอ๋ นานเหมือนกัน ไม่ได้แวะเข้ามาหาคุณโอ๋เลย เราต่างมีภารกิจกันเนาะ แต่ทักทายกันเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะค่ะ มีหนังสือรออ่านเป็นร้อยเหมือนกันค่ะ เคยตั้งใจว่า ถ้าลูกเข้าเรียนแล้ว โตแล้ว จะขนมานั่งนอนอ่านให้บันเทิงเริงใจ แต่หนังสือซื้อใหม่ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็อ่านไม่ทันค่ะ   โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 4 ตุลาคม 2557 16:40:24 น.