K i t a F a m i l y ค ร อ บ ค รั ว คี ตะ
|
||||
++++ มามะมาพาข้ามน้ำข้ามทะเลสองพันกว่าไมล์เพื่อพบเธอ ซากุระ 2016 โตเกียว ++ part 1 ++ อ่านหน้านี้จบแล้วไปต่อกันที่ Part2 เลยค่ะ แล้วต่อด้วย Part3 กันเลย กลับมาจากญี่ปุ่นวันที่ 6 เม.ย.2559 ก็รีบลง+ย่อรูป เกือบ 3พันกว่ารูป เพื่อที่จะมารีวิวบอกเล่าประสบการณ์ในการไปดูซากุระที่ญี่ปุ่นให้ทุกคนได้อ่าน เผื่อว่าปีหน้าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์บ้างค่ะ ทริปนี้คุณสามีเซอร์ไพร์สครบรอบวันแต่งงาน จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และเตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อย ณ.จุดนี้ กราบงามๆ แพลนข้ามปีได้ข่าวว่าตั๋วจองตั้งแต่ตุลาหรือพฤศจิกายนปีที่แล้วนี่ล่ะ ไปวันที่ 30 มีนาคม - 6 เมษายน 2559 สายการบิน ANA ส่วนตัวประทับใจมากๆค่ะ ทริปเที่ยววันแรกที่แพลนคือ ถึงเช้าวันที่ 31 มี.ค. ไปหาซากุระที่ริมแม่น้ำสุมิดะ สวนอุเอโนะ สวนชิโดริกาฟูชิ อากิฮาบารา วัดเซ็นโซจิ พระราชวังอิมพีเรียล เอิ่บบบ..จะแน่นไปใหน?? สิ่งที่ได้คือ ไปแค่ 3 ที่ค่ะ แพลนเรา 7 วัน 6 คืน ได้มาแบบนี้ค่ะ แต่ทำได้จริงๆคือไปตามนี้เลยค่ะ เวลาไม่พอจริงๆ 31 มี.ค. 2559 sumida river , ueno , ameyoko , light up naka-meguro 01 เม.ย. 2559 Nikko -- ryuzu waterfall , lake chuzenji , kegon waterfall , rindou-no-ie 02 เม.ย. 2559 world heritage -- Rinoji temple , toshogu shrine , taiyuin temple , futarasan shrine , red shinkyo bridge -- tokyo -- light up chidorigafuchi-ryokudo 03 เม.ย. 2559 chidorigafuchi-ryokudo , midori sushi , shinjuku gyoen , harajuku , afuri ramen , light up Tokyo midtown 04 เม.ย. 2559 kawaguchiko all day 05 เม.ย. 2559 kamakura all day 06 เม.ย. 2559 Bkk เริ่มกันเล้ยยย วันที่ 30 มี.ค.2559 เวลา 5 โมงเย็น เราออกเดินทางจากบ้าน (ปทุมธานี) วิ่งเส้นรังสิต-นครนายก เข้าวงแหวนตะวันออกเพื่อไปตัดเข้า มอเตอร์เวย์ ถึงสนามบิน 6โมงเย็น เอารถไปจอดกว่าจะเสร็จเรียบร้อยปาไป ทุ่มครึ่งแล้วค่ะ ดีที่เราเช็คอินออนไลน์มาแล้ว เอาสัมภาระมาโหลดอย่างเดียว แถวโล่งมากๆเลย ไฟลท์ออก 22.05น. เวลาบอร์ดดิ้ง 21.40น. แถวรอตรวจสัมภาระยาวมาก มาเร็วหน่อยตรงตม. เที่ยวนี้มาแบบเหนื่อยๆเลย ว่าจะไปนั่งเล้าจ์คิงพาวเวอร์ก็อด เพราะเกทที่เครื่องออกอยู่คนละฝั่งกับเล้าจ์เลย ทำให้ต้องหาอะไรรองท้องสักนิด ก่อนขึ้นเครื่องข้าวเย็นก็ไม่ได้กิน หันไปหันมาเจอร้านแดรี่ควีน ไปค่ะ สั่งใส้กรอกกับเครื่องดื่ม ชุดละ 145หรือ149บาทจำไม่ได้ ANA and Anne ถึงเวลาก็เดินขึ้นเครื่องปกติ แต่..ดีเลย์ไป 1ชม.เต็มๆ กัปตันแจ้งว่ามีปัญหาเรื่อง การขนส่งสัมภาระค่ะ สรุปเครื่องออกเวลา 23.10น. รอจนง่วงแล้วง่วงอีก พอเครื่องไต่ระดับได้สักพักแอร์เริ่มเดินแจกถุงขนม น่ารักง่าาา มีขนมปัง คุกกี้ น้ำดื่ม ผ้าเย็น กินก่อนนอน หรือใครจะขอน้ำอะไรเพิ่มก็มีบริการค่ะ เราขอน้ำมะนาวอร่อยดี แล้วก็นอน ส่วนตัวไม่ค่อยได้หลับยาวๆตื่นมามั่งไรมั่ง ชอบกดดูจอแผนที่ว่าถึงใหนแล้ว ประมาณตีสี่ได้แอร์เดินแจกเมนูอาหารถามว่าจะเลือกอะไร ระหว่างเซตตะวันตกกับญี่ปุ่น แบบญี่ปุ่นคือ ข้าวต้มมีเนื้อปลาแซลมอนเล็ก บะหมี่เย็น ผลไม้ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ขนมปัง+เนย แบบตะวันตก เบคอน ออมเล็ต บะหมี่เย็น ผลไม้ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ขนมปัง+เนย เยอะมั่กๆ กินไม่หมด เก็บขนมปังเนย โยเกิร์ตใส่ถุงยังชีพไว้ คุกกี้ก็ยังไม่ได้กินนะ ถึงใหนแล้วหนออ..ใกล้ล่ะ ขาไปหนังใหม่ล่าสุดน่าจะเป็นสตาร์วอลล์ค่ะ แต่ไม่ได้ดู ขอนอน มีเกม มีเพลง มีที่เสียบ usb อันนี้เราพลาดไม่ได้ถือขึ้นเครื่อง ไม่งั้นเสียบกับโทรศัพท์ฟังเพลงดูยูทูปที่โหลดไว้ในเครื่องก็ได้ถึงแม้ว่าจะดีเลย์ ไป 1ชม.ก็ตาม แต่กัปตันของเราก็เหยียบสุดแรงถึงสนามบินฮาเนดะ เวลาเดิมคือ 06.30น. เครื่องลงจอดอย่างราบรื่น ผ่านตม.อย่างชิลล์ รอรับกระเป๋าสักพัก ไปล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยสภาพง่วงนอน แล้วลุยยย..ออกมาหาเคาเตอร์ keikyu tourist information เลยค่ะ วันนี้เราซื้อตั๋ว welcome tokyo subway ticket (round trip) ซึ่งเป็นตั๋วไป-กลับ สนามบินฮาเนดะ ราคาคนละ 1,500 เยน ถ้าไม่ซื้อขากลับจะอยู่ที่คนละ 1,200 เยน ซึ่งตั๋วนี้จะแถม 24 hours ticket tokyo metro - toei subway ต้องใช้วันนี้เท่านั้นนะ โปรดระวัง!!.... อย่าทำหายนะครัชชชช จนท.จะแสตมป์ตรา ในวงกลมๆนั่นนะ เก็บรักษาดีๆ อ่อออ..เก๋ไก๋ไปอีก แผ่นพับรถไฟเป็นภาษาไทยซะด้วย จนท.ถามว่ามาจากใหน ไทยแลนด์..ก็ยื่นมาเลย นั่ง keikyu line มาเปลี่ยนขึ้น subway ที่สถานี sengakuji เพื่อที่จะไปลงอุเอโนะ นั่งรถโรงแรมที่มีบริการ ความพีคอยู่ตรงนี้ ....คุณสามีเข้าใจผิด คิดว่ารถรับส่งมี ตลอดทั้งวัน เราพักที่ toyoko inn asakusa senzoku tsukuba express เราเลยมาลงอุเอโนะ ซึ่งผิดค่ะ..รถโรงแรมจะมีบริการรับจากสถานีอุเอโนะเริ่มตอน 6 โมงเย็นจนถึง 5ทุ่มเท่านั้นค่ะ แต่ช่วงเช้าจะมีไปส่งที่อุเอโนะรอบเช้าออกจาก โรงแรม 06.30น และออกทุกๆครึ่งชม.ค่ะ แต่ไม่รอรับกลับ เราลงอุเอโนะเดินออกมาเพื่อที่จะหา iriya gate ซึ่งเป็นที่จอดรถ หายังไงก็ไม่เจอ ถามจนท.ก็ไม่เจอ พักก่อนถ่ายรูปแพนด้ากับซากุระเพื่อความชื่นอกชื่นใจสักครู่.. พอไม่เจอจึงตัดสินใจนั่ง subway ต่อไปอีกหนึ่งสถานีลง Iriya (H18) แล้วเดินออกมา หายังไงก็ไม่เจอ กูเกิ้ลแมพก็ขึ้นภาษาญี่ปุ่น บังเอิ๊ญ..ความโชคดี ยังพอมี เราหิวข้าวเลยพูดออกมาดังๆ หิวข้าวววแล้ววว..สักพักมีพี่ผญ.ปั่นจักรยาน ตามมาเรียก ถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ? โหววว..น้ำตาจะไหล เจอคนไทย ณ จุดที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแรง!! พี่เค้าปั่นจักรยานผ่านมาได้ยินเราพูดว่าหิวข้าว..เลยรู้ว่าเป็นคนไทย กราบขอบพระคุณมา ณ.ที่นี่ค่ะ พี่เค้าช่วยโทรหาโรงแรม คุยกับคนญี่ปุ่นแถวนั้นให้ ทำให้รู้ทาง แต่ก็เดินหลงกันมาไกลพอควร ไหว้ขอบคุณไม่รู้จะพูดยังไง แนะนำนะคะ..ที่ใกล้ที่สุดคือแนะนำให้ลงสถานี tawaramachi (G18) เดินประมาณ 15 นาที ตรงตลอดโรงแรมอยู่ซ้ายมือ ดอกไม้สวยงามข้างทางก่อนจะกินหัวสามี หุหุ.. ดอกแมคโนเลีย สวยอ่ะเพิ่งเคยเห็นเลย จากที่อยู่ญี่ปุ่น 7 วัน เจอหลายสีทีเดียว มีทั้งสีขาว ชมพู แดง ชอบหน้านี้ที่สุดดด ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ก็ออกไปหาข้าวกินเลยค่ะ ร้านแรกที่ตั้งใจคือ ข้าวหน้าปลาไหล irokawa ย่านอาซากุสะ จากโรงแรมเดินไปเส้นที่จะไปวัดเซ็น โซจิ ตามภาพเลยค่ะ เดินตามแผนที่จนเจอร้านสีเขียวอ่อนตามรีวิวเลย แต่ไม่เห็นมีคนรอเลยแฮะ เดินไปอ่านป้ายหน้าประตู เปิด 11.30น. นี่เพิ่ง 11โมงเอง คงยังไม่เปิดแต่คงไม่ใช่ว่าปิดนะ?? ไม่ถึงนาทีมีคนเดินตามหลังเรามา 4-5 คน เริ่มใจชื้นมีเพื่อนแล้วเว้ยย.. ยืนรอต่อไปเรื่อยๆค่ะ จากแค่ 7คน แถวเริ่มยาวขึ้น มีความดีใจที่ได้เป็นคิวแรก พอ 11.30น.ปั๊บร้านก็เปิดปุ๊บเลยค่ะ เราได้นั่งตรงเคาเตอร์บาร์เพราะมากัน 2 คน กลุ่มที่มี 3-4 คนจะได้นั่งโต๊ะ คุณป้ากำลังย่างปลาไหลเลย กลิ่นเตาถ่านย่าง หอมมั่กๆ คุณป้ายื่นเมนูมาให้ดูว่าจะสั่งแบบใหน มีธรรมดากับใหญ่ มีของกินเล่นอีกไม่กี่อย่าง ตัวเองสั่งแบบไซส์ธรรมดา คุณสาสั่งใหญ่ฮะ นั่งมองป้าย่างเพลินเลย พอปลาได้ที่คุณป้าจะตักข้าวพร้อมราดน้ำอะไรสักอย่างลงไปในข้าว เอาปลาไหลโปะหน้าพร้อมเสิรฟ ตามรูปคือไซส์ใหญ่ค่ะ มี 3 ชิ้น ธรรมดามี 2 ชิ้น อิทาดะคิมัส กินล่ะนะคะ.. เดินกลับไปหน้าวัดค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะมีตึก asakusa culture tourist center เราจะขึ้นไปดูวิวโตเกียวทาวเวอร์ วัดเซ็นโซจิกัน ขึ้นไปชั้น 8 ไปดูจุดชมซากุระที่แรก ริมแม่น้ำสุมิดะ ระหว่างทางเจอไอติมซากุระ จัดสิคะ 350 เยน หวานน้อยๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ อร่อยดีค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกรถไฟสาย Tobu line ซึ่งเราจะแวะซื้อตั๋วไปนิกโก้ เตรียมไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ ข้ามถนนไปริมแม่น้ำสุมิดะ พอเดินไปถึงริมแน่น้ำก็ตื่นตาตื่นใจกับต้นซากุระ ที่กำลังบานติดๆกัน เทศกาลฮานามิ คนเอาเสื่อ ผ้า มาปูนั่งปิคนิคกัน ดื่มกัน คุยกัน อากาศกำลังเย็นสบาย 13 องศา กิ่งนี้สวยยยย.. ชื่นใจจจ ดีใจ..ที่ได้มาเจอแบบเต็มๆๆ ฝั่งตรงข้ามก็สวยมากกก เรียงกันเป็นแถวแนวยาวเลยแน่นขนัดไปหมด เดินมาด้านที่ฟูลบลูม สวยงาม จัดไปหนึ่งรูป ไปต่อกันที่สวนอุเอโนะ นั่ง ginza line ไปแค่ 2 สถานีลง ueno (G16 or H17) มองหาทางออกจะมีป้ายเขียนว่า ueno park ออกมาเจอกับฝูงชนเยอะแยะ มากมายมุ่งหน้าสู่สวนอุเอโนะ เราก็ไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่ฟูลบลูมวันที่ไปพอดี สวยงามสะพรั่ง คนก็เช่นกัน สะพรั่งงงง.. ชอบหน้านี้จัง ดอกไม้สวยๆเยอะเลย กุหลาบหรือเปล่า แต่ต้นใหญ่และไม่หอม ซากุระสีขาว ก็สวยไปอีกแบบนะ ด้านในมีร้านขายของเยอะมากค่ะ เลือกซื้อเลือกนั่งกันได้เลย เบียร์กระป๋องลายพิเศษช่วงซากุระเท่านั้น ในงานกระป๋องละ 500 เยน ในร้านสะดวกซื้อ 188เยน เดินไปมา ได้หอยย่างมาไม้นึง สดนะแต่เค็มไป ปลาย่างก็ช่างน่ากิน แต่คิวนั้นไซร้ยาวๆไป ขอบายก่อน แวะกินกาแฟสตาร์บัคแป๊บ ต่อรอคิวยาวนาน แต่ก็ต้องต่ออยากนั่งพักขาด้วย นั่งอยู่ 15 นาทีได้ ไปถ่ายรูปกันต่อเด๋วจะเย็นมากกว่านี้แสงไม่สวย บางช่อผุดขึ้นมาจากลำต้นก็มี สวยจังเลยนะเธอ ขอบคุณที่ฟูลบลูมให้เห็นสมกับที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา ไปหาข้าวเย็นกินกันที่ร้านข้าวหน้าปลาดิบในพันทิปแนะนำ ชื่อร้าน minatoya อยู่กลางๆซอยในตลาดอเมโยโกะ เห็นปุ๊บก็จำได้เลย เล็งเมนูไว้ถ่ายรูปแล้วเอาไปยื่นให้เค้าดูว่าเอาชามนี้นะ สดมากกก อร่อยมากกก เยอะ+ถูกมากเมื่อเทียบกับตามร้านอาหาร ดีงามแนะนำเลยค่ะ เพิ่งเคยกินไข่หอยเม่นครั้งแรก อืมม..ไม่ถูกจริตอ่ะ แวะซื้อสตรอเบอรี่กินถาดละ 500 เยน หวานอร่อย ระหว่างทางเจอร้านตู้คีบตุ๊กตา..จัดๆๆ ถามว่าได้มั้ยย..ได้สิ.. ตู้คีบหน่ะ ได้เงินจากตรูเต็มๆๆ ตกกลางคืนเราไปดูงาน light up ที่ naka meguro เห็นตามเวบที่เป็นคลอง แล้วจะมีต้นซากุระโน้มกิ่งลงมานั่ง subway hibiya line ลงสถานี Naka-Meguro (H01) นั่งไปครึ่งชม.เลยค่ะ ออกมาพบกับความหนาวที่เพิ่มขึ้นมา เพราะลมแรงด้วย หนาวมั่กๆ คนเยอะเช่นเคย ลองไทยากิซากุระ มีความรู้สึกว่าเนื้อแป้งเค้าใส่กลีบซากุระลงไปผสมด้วยอ่ะค่ะ ใส้ไม่หวานมากกำลังดี กินร้อนๆ อากาศเย็นๆ ฟินกันไป เก็บภาพได้ไม่มากเพราะกล้องไม่สู้ ไว้จะเก็บเงินซื้อ mirrorless กับเค้าสักตัว กลับโรงแรมดีกว่าง่วงแย่ละ ผ่านซุปเปอร์ไปจัดเบียร์มาให้คุณสามีลอง ส่วนตัวเองขอลองแบบมีแอลแค่ 3% แน่นอนถูกกว่าในงาน |
life for eat and travel
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
คนไปชมก็เยอะด้วย ดูน่าสนุกไปอีกแบบ เหมือนมีงานบุญ :)