|
K i t a F a m i l y ค ร อ บ ค รั ว คี ตะ
|
||||||||||||||||
++++ มามะมา พาลูกเที่ยว เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง นาโกย่า ชิราคาวาโกะ 8 วัน 7 คืน ++ ภาคแรก ++ สวัสดีค่าาาา หายไปนานมากก จริงๆมีหลายทริปแต่วันนี้จะมารีวิว พาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกก่อนเพราะเพิ่งกลับมาได้ 2 อาทิตย์ กลัวจะลืมข้อมูลค่ะ พอดีการบินไทยออกตั๋วโปรช่วงเดือน สิงหาคม ถ้าจำไม่ผิดนะคะ มือสั่นพั่บๆ กดจองไปผู้ใหญ่คนละ 11,600 บาท เด็กเลย 2 ขวบมาแล้วก็จะจ่ายเกือบเท่าผู้ใหญ่ตั๋วเด็ก 9600 บาท เราไม่เคยเห็นราคาถูกขนาดนี้ก็กดจองไป เนื่องจาก โตเกียวไปมาแล้ว คิวชู ไปมาแล้ว นาโกย่ายังไม่เคยไปและอยากไปชิราคาวาโกะ มงเลยลงที่นี่ ฝากในรูปแบบ youtube ด้วยค่ะ ไฟล์ทบินเที่ยงคืนของวันที่ 20 ตุลาคม ต้องไปเช็คอิน 3 ทุ่มของวันที่ 19 ตรงนี้อย่าได้พลาดอาจตกเครื่องได้หลังจากใจหายใจคว่ำกับพายุฮากิบิส ที่ผ่านไปล่วงหน้าก่อนบิน 1 อาทิตย์ เราจอดรถไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาเตอร์การบินไทย โรลบินไปญี่ปุ่น เกาหลี เปิดให้เช็คอินทั้งแถบเลย แต่ละแถวก็ยาวพอสมควรค่ะ พร้อมบินแล้วครับ รถเข็น 1 กระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบ เป้พ่อกับแม่ขึ้นเครื่องคนละใบย่อมๆ  รถเข็นปกติได้จะแท็กแขวนเลย แต่จนท.แจ้งว่าให้ไปขอแท็กได้ที่ หน้าประตูขึ้นเครื่องได้เลยค่ะ ได้ตั๋วมาแล้ว ก็มุ่งหน้าไปเดินดูของในดิวตี้ฟรี เล็กน้อย และไปนั่งพักกินข้าว กินน้ำกันที่ Miracle Lounge กันค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปด้านในเท่าไหร่เพราะคนเยอะมากกค่ะ เรายังเดินวนอยู่หลายรอบไม่มีโต๊ะนั่ง อาหารประจำ แนะนำ ข้าวหมูแดง ที่นี่อร่อยค่ะ ชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ   งง กับลูกมาก คึกไม่หลับไม่นอนกินด้วยทุกอย่าง ณ เวลา 5ทุ่ม เรียกขึ้นเครื่อง 5 ทุ่มครึ่งได้ค่ะ เล้าจ์มิราเคิลคอนคอร์ด D กับประตูขึ้นเครื่อง อยู่ใกล้ๆกัน เลยเดินสบายไม่รีบ แต่ไม่ได้ต่องวงช้าง ต้องขึ้นรถบัสไปขึ้นเครื่องค่ะ  ขึ้นมาบนเครื่อง คุณสจ๊วตก็ไล่เช็คลิสต์ ที่นั่งเราสั่งอาหารซีฟู้ด 2 ที่ อาหารเด็ก 1 ที่ เค้าก็มาทวนออเดอร์ สักพักก็มีกล่องอาหารเด็กมาแจกให้ ที่นั่งที่มีเด็กๆ ส่วนผู้ใหญ่ก็แจกถุงเล็กๆ มีแซนวิชทูน่ากับน้ำ กล่องเด็กคือน่ารักมากกก ว้าววว มากๆ ค่ะ ยิ่งเปิดด้านใน แม่ยังกรี๊ดเลย คีธถามใหญ่ นี่อะไร นั่นอะไร แต่เก็บไว้ก่อนนะยังไม่ให้กิน   เครื่องขึ้นปุ๊บก็ตามเสต็บ คีธหลับเลย แม่แทบไม่ได้นอนเพราะดันมาเจอ เทอบูแลนซ์แรงช่วงเกาสง ร่องลึกริวกิว นานพอควร เค้าเปิดไฟในเครื่อง แล้วเครื่องมันสั่นจนคีธตื่น นอนไปได้แค่ 3 ชมกว่า ผ่านเทอบูแลนซ์ไปได้ ก็เริ่มแจกอาหาร ซีฟู้ด 2 ที่แต่เราไม่ได้ คุณพ่อเค้าได้คนเดียว เราก็ไม่ได้ท้วงอะไรด้วยความที่เหนื่อยและไม่อยากกิน เหลือหมูก็เลยเอาหมูพริกไทยดำมา ซีฟู้ดเป็นกุ้งกับปลาเค้าว่าอร่อยดี ของเด็กเป็นมันบด ใส้กรอก เค้กช้อคโกแลต แน่นอนคีธไม่กินเพราะคงไม่หิว แต่กินเค้กช้อคโกแลตกับน้ำส้ม     ถ่ายกับแม่หน่อยสิ สนใจกันหน่อยครับบบ   ฟ้าเริ่มสว่าง อีกไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงสนามบิน chubu centair   ถึงโดยสวัสดิภาพ 07.30น ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ลงมาก็ผ่าน ตม. เห็นได้ชัดว่ามีประกาศห้ามเอาหมูเข้าประเทศอย่างชัดเจน ทำเป็นหน้าหมู น่ารักดีค่ะ ก็ผ่านมาไม่มีอะไร รอรับกระเป๋าแล้วออกมาด้านนอก เปลี่ยนเสื้อผ้าลูก และตัวเองอากาศเย็นๆ คีธใส่แขนสั้น กางเกงยีนส์ แล้วก็มีเสื้อคลุมแขนยาวอีกตัวก็พอ   เราซื้อพาสโชริวโดมาจากที่ไทย มาถึงสนามบินก็มาแลกพาสที่เคาเตอร์ Meitetsu อยู่ตรงด้านหน้าก่อนไปขึ้นรถไฟค่ะ  ในพาสจะได้ตั๋วรถไฟเข้าเมืองนาโกย่า limited for nagoya ต้องขึ้นตู้ non reserve นะคะอยู่ท้ายๆขบวนเลยใช้เวลา 40-50 นาที แล้วแต่ขบวน มีทั้งแบบด่วน และ ไม่ด่วน เราลงสถานีนาโกย่า ที่พักเราคือ Toyoko Inn Meikei minami จริงๆก็เดินไปได้แต่ด้วยสัมภาระเยอะและไม่สะดวก เราเลือกใช้บริการแท๊กซี่ ไปส่งที่โรงแรม ราคาประมาณ 800-900เยน เช็คอินเรียบร้อยก็นั่งรถตู้โรงแรม ออกมาสถานีนาโกย่าอีกรอบ กินข้าวเที่ยงกัน แพลนคือไป Port of Nagoya Aquarium สถานีนาโกย่าคือเดินไม่ครบ ห้างเยอะ หลายที่ งงๆ เลือกกินร้าน don don tei ในห้าง meitetsu รอคิวไม่นานค่ะ อาหารก็จะเป็นของทอดเป็นส่วนใหญ่แล้วก็อุด้ง โซบะ   คีธกินโซบะอร่อยเลย ทางร้านมีถ้วย มีช้อนส้อมเด็กให้ไม่ต้องขอเลย ไปจองตั๋วรถ Meitetsu ไปชิราคาวาโกะสำหรับวันที่ 21 และตั๋วไป กุโจฮะจิมัง วันที่ 22 พาสโชริวโดซื้อแบบ 3 วันค่ะ ใช้ได้วันที่ 20-22 ตุลาคม จองเสร็จแพลนวันนี้คือไป Port of Nagoya Aquarium นั่งรถไฟผิดสาย และคนแน่นมากเนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ เพลียจากไม่ได้นอน คีธงอแง แพลนล่มสลาย ภาพตัดไปเลย กลับไปนอนเอาแรงแล้วค่อยออกมา หาข้าวเย็นกินกันจะดีกว่า ออกจากโรงแรมตอน 5 โมงเย็น นั่งรถไฟไปซากาเอะ เพราะจะไปเดินเล่นที่ Oasis 21 เลยไปหาข้าวกินกันที่นี่ รถไฟใต้ดินซากาเอะ ก็มีห้างย่อมๆ มีร้านข้าว เดินไปเจอร้านนี้ เลยกินคัตสึด้ง แล้วเพิ่มอุด้งให้คีธกินหมดเลยจ้ะ ร้านนี้อร่อยดี สั่งไก่ทอดเพิ่ม ไม่ต้องมีน้ำจิ้มบีบเลม่อนตัดเลี่ยนก็อร่อย   อ่อ เปลี่ยนชุดให้คีธกลับมาชุดเดิมเมื่อคืน เพราะอากาศหนาวขึ้นค่ะ แวะ 7-11 มีไอเท็มนึงอยากกินมานานเป็นไอศกรีมรสองุ่น มีขายที่ 7-11 เพราะที่อื่นๆไม่เห็นค่ะ จะบอกว่าซื้อเถอะแม่แนะนำแม่ว่าดี อร่อยมากก กัดแล้วละลายเลยให้ความรู้สึกเหมือนกินองุ่นเลยมันนุ่มๆละลายๆ คีธกินหมดถุงไปเลยจ้าาา ถุงละ100กว่าเยนค่ะ   หาทางออกไปยัง oasis 21 ไปเดินเล่น น่าเสียดายที่ลิฟต์ปิดขึ้นไปด้านบนสุด ไม่ได้ ทางเราไม่สามารถแบกลูก 15 โลขึ้นบันไดวนขึ้นไป 5555 อยู่ได้แค่ด้านบนที่มีทางลาดรถเข็นขึ้นไปได้แค่นั้นค่ะ ด้านล่าง oasis 21 มีร้านค้าเยอะเลย มีร้านยามัตซึโมโต้ เข้าไปดูแล้วของน้อย ไม่มีที่อยากได้เลยไม่ซื้อ มีร้าน Gong Cha โอ้โห..คิวยาวเป็นซื้อบัตรคอนยังไง ยังงั้น วัยรุ่นต่อคิวกันเพียบค่ะ  พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่ 05.30น. เพราะจองรถบัสไปชิราคาวาโกะเที่ยว08.20น. ต้องกินข้าวให้เสร็จ 07.30นขึ้นรถตู้โรงแรมลงสนานีนาโกย่า รถตู้โรงแรม ออกทุกครึ่งชั่วโมงค่ะ แต่บางที 20 นาทีก็ออกแล้ว เรากินข้าวเลทไป ทำให้รถตู้ออกไปแล้ว เราก็เลย วิ่งค่ะ เดินกึ่งวิ่งไปสถานีเองเลย บอกแล้วว่าเดินได้5555ใช้เวลา 15 นาที ก็มาถึง พอมีเวลาให้แวะ family mart หน้าสถานีรถบัส ซื้อขนมให้เด็กไว้กินบนรถ   รถตรงเวลาเป๊ะ สัมภาระวางไว้ใต้ท้องรถ เรามีรถเข็น 1 คัน แล้วก็ขึ้นไปนั่งตาม หมายเลขที่จองมาได้เลย วันที่ไปเป็นวันจันทร์ คนน้อย นั่งสบายๆ เด็กไม่เสียค่ารถ ค่าพาสใดๆ นั่งกับผู้ปกครองได้ แต่บ้านเราตัวใหญ่ทั้งคู่ สูง 185 กับ 170 ซม เรากังวลปัญหานี้ ตอนคุยกับ จนท.เค้าก็ไม่ได้บอกว่าต้อง เสียเงินเพิ่ม แต่พอขึ้นไปนั่งแล้ว ด้านหลังเบาะเราไม่มีคนนั่ง ถัดไปอีกเบาะถึงมี เราไม่แน่ใจว่า จนท.กันที่นั่งไว้ให้รึเปล่า เพราะขากลับก็เป็นแบบนี้หมือนกันค่ะ คุณพ่อเลยย้ายไปนั่งเบาะหลัง เรานั่งกับคีธสบายๆ คนน้อยด้วยแหละค่ะ ไปวันธรรมดาดีที่สุด  เยลลี่องุ่น ยี่ห้อนี้ซื้อที่ family mart อร่อยหนุบๆหนับๆ ไม่เหนียวมากกำลังดี ที่แนะนำอีกอย่างคือ ชาพีช ของ มินิเมด อร่อยหวานน้อยหอมพีชมากกก แม่แนะนำแม่ว่าดี มี 3 รส แอปเปิ้ล พีช ส้ม กินมาหมดให้พีชอร่อยสุดค่ะ ซื้อกินแทบทุกวันเลยนะ ตู้กด 160 เยน ไปเดินซุปเปอร์เหลือขวดละ 98 เยน   ระหว่างทางมีจุดจอดให้คนขึ้นลง ประมาณ 4 จุดมั้งคะ แต่จะจอดให้เข้าห้องน้ำ 1 ครั้งค่ะวิวระหว่างทางใบไม้กำลังเริ่มเปลี่ยนสี เข้าอุโมงค์ใต้ภูเขาเยอะมาก  จุดจอดรถบัส ไป กลับ ที่จุดนี้นะคะ จะเป็น information ด้วย มีห้องน้ำ มีห้องพักรอรถมาแต่ไม่ใหญ่เท่าไหร่  มาถึงปุ๊บก็เข้าห้องน้ำทำอะไรเรียบร้อยก็ไปหยิบแผ่นพับแนะนำหมู่บ้าน มีภาษาไทยด้วยนะเราจะขึ้นไปจุดชมวิวกันก่อนแล้วค่อยลงมากินข้าวเที่ยง หลังจากนั้นค่อยเดินชมหมู่บ้านกันจากจุดจอดรถบัสเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกเป็นจุดรอขึ้นรถไปชมวิวด้านบน คนละ 200 เยนต่อเที่ยว จ่ายเงินบนรถค่ะ มาต่อแถวแต่ไม่ทัน คนเต็มก่อน เราเลยได้เป็นคิวแรก ระหว่างรอพาคีธไปเดินถ่ายรูป   เดินไปจะเจอร้านขายของที่ระลึก แล้วก็เดินไปหาไอติมกันกัน    สักพักรถก็มาค่ะ นั่งไปไม่ถึง 10 นาที ก็จะถึง ตอนแรกนึกว่าเค้าแวะให้ลงจุดอื่น เพราะมองไปไม่เห็นวิวสรุปคือลงที่เค้าจอดนี่ล่ะ แล้วเดินเข้าไปด้านใน ใครเช่ารถมาก็สามารถขับขึ้นมาได้ ด้านบนมีที่จอดรถค่ะมีห้องน้ำ มีไอติม มีของที่ระลึกขาย มีบริการถ่ายรูปด้วย 1500 เยน บ้านเราก็ใช้บริการนะ สวยดี    ลงมาบ่ายโมงแล้ว ร้านข้าวที่ดูไว้คือติดกับที่รอรถ ปรากฏว่าคนเยอะ น่าจะมีทัวร์ลง เลยเดินถัดไปเจอร้านนึงไม่ต้องรอคิวเลยเข้าไป เมนูมีไม่เยอะ เป็นเซตเนื้อ เซตเต้าหู้ บ้านเราไม่กินเนื้อกัน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่อยากกิน เราเลยสั่งเซตเนื้อ คุณพ่อสั่งเซตเต้าหู้ ราคาแพง ชุดละ 1800 เยน รสชาติก็ปกติทั่วๆไปไม่ได้หวือหวาอร่อยมาก    ที่นี่ไม่มีถังขยะนะคะ ทางที่ดีมีถุงไว้ใส่ขยะเอากลับไปทิ้งด้วยค่ะ อิ่มแล้วก็เดินกันเลย ใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสี พอเจอต้นที่เปลี่ยนแล้วก็จะตื่นเต้น อ่อ ที่นี่เป็นหมู่บ้านมรดกโลกเป็นที่ท่องเที่ยวก็จริง แต่ก็มีบ้านที่เค้าอยู่กันปกติ ไม่ให้เข้าไปถ่ายรูป บางคนเดินลัดสวนเค้าไปถ่าย ขนาดเอาเชือกขึงไว้   ฝาท่อ สัญลักษณ์ของเมืองนี้  สวยมากเลย เดินไม่เบื่อ ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีหมดต้องสวยสุดๆๆ   เดินหาบ้าน 3 หลังที่ซ้อนๆกัน เห็นเค้าถ่ายรูปออกมาสวยดี อยู่ตรงกลางๆเลย มีป้ายให้ถ่ายด้านหน้าด้วยแต่เราไม่อยากรอคิว เดินไปถ่ายริมถนนด้านบนแทน ด้านหน้าบ้านเค้ามีแปลงผักนะคะ ไม่ให้เดินลัดเข้าไป  มุมสวยๆเยอะมากเลยค่ะ วิวด้านหลังเป็นภูเขาสวยงาม   มองไปทางใหนก็สดชื่น   ตรงสะพานก็สวยดีค่ะ แต่มันโยกไปโยกมา น่ากลัวเพราะกลัวความสูงทั้งคู่ แต่คีธชอบมากก จะวิ่งเล่นต้องคอยจับ   เราจองเวลากลับ 15.30น ขากลับมีกันอยู่ไม่เกิน 10 คน ส่วนมากต่อรถไป ทาคายาม่า คานาซาว่ากันเห็นแถวยาวเลย เราเจอรถติดบนทางด่วนทำให้เลท ไป 40 นาที หิวข้าวกันมาก สุ่มกินร้านข้าวหมูทอด รสชาติธรรมดาที่สถานีนาโกย่า มาต่อของหวานด้วยเครปเย็น แป้งเหนียวไปหน่อยแต่รสชาติโอเค    เช้าวันที่ 22 ตุลา เราจองรถไปกุโจฮะจิมัง แต่ดูพยากรณ์อากาศ ฝนตก 90% จนถึงบ่าย 3 โมงเลยต้องทิ้งตั๋ว เพราะถ้าตกหนักตลอดแบบนี้เดินเที่ยว ไม่ได้แน่ๆ เปลี่ยนแพลนไป ศาลเจ้าอิเสะแทน ที่ toyoko inn มีอาหารเช้าเมนูก็เดิมๆแทบทุกวัน มีทัวร์คนไทย คนจีน เยอะค่ะ  นั่งรถไฟประมาณ 2 ชม จากนาโกย่า ถึงสถานีอิเสะชิ รถไฟโล่งๆดี    วันนี้วัดใจเด็ก ไม่เอารถเข็นมาเพราะทางเดินไปศาลเจ้าเป็นกรวดเล็กๆ ไม่เหมาะกับรถเข็น เราไหว้ศาลเจ้านอกก่อน Geku เค้าไม่ให้ถ่ายรูปมานะคะ จะมีจนท.ยืนคอยมองอยู่ ด้านในร่มรื่น เราเดินไม่ทั่วเพราะมีเด็กเล็กไปด้วย ไหว้แค่ศาลหลัก และ ไปรับพลังจากดวงอาทิตย์เท่านั้น ออกมากินข้าวเที่ยง บริเวณด้านหน้ามีหลายร้านเลย เราเลือกร้านที่มีหอยย่าง ดูแล้วน่ากิน คุณพ่อเค้าอยากกินข้าวปลาชีราสึด้วย  เรานึกว่าเป็นหมูทอดนะนั่น จริงๆคือหอยนางรมชุบแป้งทอด แม่แนะนำแม่ว่าดี หอยสดมาก  หอยนางรมย่าง หวานมากกกก ให้ตายสั่งเถอะ 3 ตัว 600 เยน   ตู้กดน้ำ มีน้ำเปล่า กับ ชาเขียวค่ะ  นั่งรถบัสไปต่อที่ศาลเจ้าด้านใน Naiku ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที ศาลเจ้าในมี ความกว้างใหญ อลังการกว่ามากก มีถนนคนเดินด้านหน้าด้วย เดินข้ามสะพาน สะพานนี้เค้าเชื่อกันว่าเป็นสะพานเชื่อมต่อโลกมนุษย์กับเทพเจ้า   เด็กยังเดินอย่างอดทน 555 มีร้องให้อุ้มบ้างสลับกันไป  จุดนี้ขึ้นไปไม่ให้ถ่ายรูปแล้วนะคะ เราก็ขึ้นไปไหว้ขอพรกัน  ขากลับผ่านบ่อปลาคาร์ฟ นั่งพักกันแป๊บนึง  ถนนคนเดินหน้าศาลเจ้า เดินไม่ทั่วเลยค่ะ เย็นแล้วด้วย แวะซื้อซอฟครีมเจ้านี้ มีหลายรสชาติ เลือกองุ่นเพราะคีธชอบ ถ้าแม่ไม่เจ็บคอก็จะลองสัก 2 โคน    ลูกชิ้นปลาหมึก อร่อยดีค่ะ เด้งๆหนึบๆ  โมจิเจ้าดัง คิวยาว ปกติใส้จะต้องอยู่ด้านใน แต่ร้านนี้อยู่ด้านนอก แล้วแป้งอยู่ด้านในแทน ส่วนตัวว่าใส้หวานไปหน่อย  ฝาท่อเมืองนี้เป็นรูปนักแสวงบุญ  นั่งรถไฟกลับอีก 2 ชม ขากลับต้องมาต่อรถไฟที่สถานีมัตสึซากะ เพื่อเข้าเมืองนาโกย่าเล็งร้านโคโค่อิจิบันยะไว้ ใต้ดินสถานีนาโกย่า ตอนแรกลังเลว่าจะให้ลูกกินอะไร สรุปสั่งไข่ต้มไป เธอไม่กินจ้าาา เธอกินข้าวเปล่าๆ แม่ล่ะปวดหัว ที่นี่ให้ข้าวเยอะ รู้สึกว่าข้าวอร่อยกว่าที่ไทยสั่งเผ็ดระดับ 2 ก็เผ็ดเยอะล่ะ ส่วนใหญ่ร้านอาหาร ที่เข้าแทบทุกร้านจะเตรียมถ้วย ช้อนส้อมของเด็กไว้ให้ตลอดเลย ดีจังค่ะ     ก่อนจะกลับแวะซื้อองุ่น shine muscat ที่ห้าง meitetsu พวงละ 1080 เยน และเค้กสตรอเบอรี่ช้อตเค้ก ชื่อร้านชื่อเดียวกันกับคีธเลย องุ่นกรอบ กัดดังกร้วมๆ คีธชอบแต่หวานน้อยไปหน่อยนึง ตัวเค้กยังธรรมดาเพราะเคยกินที่คิวชูอร่อยกว่านี้     วันพรุ่งนี้เราจะไปปราสาทนาโกย่า และ Nabanano Sato ดูดอกไม้และไฟประดับกันค่ะ ฝากติดตามกันต่อนะคะ บล็อคนี้รูปเยอะแล้วค่ะ 
ตามเที่ยวด้วยคนค่ะ
 โดย: โอน่าจอมซ่าส์
 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา:1:47:15 น.มาตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
น้องคีธสนุกกว่าใครหมดตามเคยเลยนะคะ ยายอยากเคี้ยวองุ่นกรอบๆบ้างจังค่ะ จะมาติดตามตอนต่อๆไปด้วย ขอบคุณที่ชมว่ายังทำบล็อกได้เรื่องอยู่นะคะ   โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า
 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา:8:25:32 น.ผมอยากไป ชิราคาวาโกะ มากครับ ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย ไปช่วงหิมะหนาๆ คงสวยน่าดู
ผมก็ชอบซื้อองุ่นจากซุปเปอร์มาทานครับ หอมอร่อยเหมือนขนมรสองุ่นเลย จากบล๊อก เกาะล้าน ร้อนมากครับ 5555 ถ้าน้องโตหน่อยคงจะเล่นน้ำสนุกครับ ^^ โดย: จันทราน็อคเทิร์น
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา:14:26:40 น.ตามมาเที่ยวกับน้องคีธด้วยค่ะ
เมืองมรดกโลกชิราคาวาโกะสวยสดชื่นน่าเที่ยวมากค่ะคุณแอน อาหารก็น่าอร่อย ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ โดย: Sweet_pills
 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา:0:49:08 น.กล่องเด็กน่าร้ากกกกกกกกกกกกก
คีธไปเที่ยวตปท.แต่เด็กเลยลูกกกกกก เป็นเราเราทวงนะคะ 555 แต่ถ้าง่วงๆ ไม่หิวก็ไม่แน่ แต่พลาดได้ไงหว่าการบินไทย หมวดท่องเที่ยวเนาะคะ? บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต ตะลีกีปัส Food Blog ดู Blog nonnoiGiwGiw Diarist ดู Blog JinnyTent Travel Blog ดู Blog life for eat and travel Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2562 เวลา:11:03:23 น. |
life for eat and travel
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
|||||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||||||||||
