Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
20 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

สารพัดโรคตาที่คุณต้องรู้

 

Plasadana

image source

สำหรับวันนี้ อีแมกกาซีนขอชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ โรคร้ายที่เกี่ยวกับดวงตาของคุณ ซึ่งก่อนอื่นเหล่าผู้คนที่รักสุขภาพควรรู้ไว้ว่า ดวงตานั้นค่อนข้างบอบบาง แต่กลับเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่หลายคนชอบมองข้าม และละเลยที่จะให้ความสำคัญ เมื่อเกิดปัญหากับดวงตา ก็ปล่อยวางเฉย เพราะคิดว่า อีกไม่นานคงจะดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อดวงตาเกิดความผิดปกติ คุณควรพบจักษุแพทย์อย่างเร่งด่วน

ตาเข ตาเหล่
ในวงการตลก บรรดาผู้ตาเข ตาเหล่ จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่ควรแก้ไข เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ป่วยเสียบุคคลิกแล้ว ยังจะทำให้การดำเนินชีวิตมีมาตรฐานแย่ลงด้วย

อาการ : ตาทั้งสองข้างมองไม่ประสานกัน อาจพบตั้งแต่แรกเกิดหรือตอนโตข้น บางครั้งอาจมีอาการคอเอียงเวลามองเนื่องจากมีปัญหาที่กล้ามเนื้อกลอกตาแนวเฉียงเพราะคอเอียงทำให้เกิดภาพซ้อนน้อยสุด

Plasadana

image source

สาเหตุ : สำหรับสาเหตุของโรคก็เกิดจากตาทั้งสองข้างทำงานไม่ประสานกัน คือมองคนละจุด ตาเขที่เป็นตลอดเวลาจะเรียกตาเหล่ ถ้าเป็นบางครั้งตอนเผลอเรียก ตาซ่อน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดตาเข เกิดจาก ระบบประสาทในการควบคุมกล้ามเนื้อกลอกตาทั้ง 6 มัด เช่น ประสาทอัมพาตจากเบาหวาน เป็นต้น หรือเกิดจากเด็กที่มีสายตายาวมากจนมีการเพ่งแล้วกระตุ้นให้มีตาเขเข้าใน และรวมทั้งตัวกล้ามเนื้อกลอกตาผิดปกติด้วย เช่น อุบัติเหตุที่บริเวณตา ภาวะตาเหล่ปกติถ้าเป็นตอนโตมักจะเห็นภาพซ้อน เวลามองสองตา แต่ถ้าเป็นตั้งแต่เด็กมักไม่พบภาพซ้อนเวลามอง สองตา เนื่องจากสมองในการรับภาพปรับตัวได้

การรักษา : ควรแก้ไขสายตาผิดปกติก่อน โดยเฉพาะสายตายาวหลังจากนั้นตรวจตาประเมินว่า กล้ามเนื้อตามัดใดตาข้างใดทำงานน้อยหรือมากกว่าปกติ และประเมินมุมเขเท่าไร อาจต้องตรวจหลายครั้งจนแน่ใจมุมเขที่หลังจากนั้นการรักษาสุดท้าย คือการผ่าตัดกล้ามเนื้อตา โดยการยืดหรือหดกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ตา มองตรง

Plasadana

image source

ตาแดง
เด็กที่เป็นตาแดง มักถูกเพื่อนๆ แลบลิ้นใส่ เพราะเชื่อว่า จะไม่ทำให้ติดโรค แต่คุณรู้ไหมว่านั่นคือวิธีที่ผิด เพราะนอกจากจะไม่สุภาพแล้ว ยังอาจทำให้คุณเสี่ยงแก่โรคดังกล่าวอีกด้วย

สาเหตุ : เกิดจากมีการอักเสบภายในตาโดยการอักเสบนี้ เป็นโรคติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส และเชื้ออะมีบา ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือ โรคไม่คิดเชื้อได้แก่ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันกับโรคข้อรูมาติซึม เป็นต้น

อาการ :  ตาแดงเป็นอาการโดยรวม ตาแดงอาจพบร่วมกับปวดตา ตาพร่ามัว ตาแพ้แสง ขี้ตามาก หรือตาบวมโปนแดง ส่วนโรคที่มีตาแดงที่พบบ่อย ได้แก่

- เยื่อบุตาอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อโดยเฉพาะเชื้อไวรัส อาจมีไข้และมีการระบาดติดต่อกันง่าย เชื้อบัคเตรี อาจตาแดงมากและขี้ตาเขียวข้น อาการค่อนข้างรุนแรงหรืออาจเกิดจากภูมิแพ้ คันตา และเยื่อบุตาบวม

- กระจกตาอักเสบ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะปวดตามากและตาแพแสงสาเหรุอาจเกิดจากยาหยอดตาบางชนิดได้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตาเองหรือเกิดจากติดเชื้อโรค ส่วนใหญ่มักมีประวัติอุบัติเหตุ หรือ สิ่งแปลกปลอมซึ่งควรต้องรีบรักษา มิฉะนั้นอาจลุกลามจนสูญเสียการมอบเห็นได้

- ม่านตาอักเสบ ส่วนใหญ่มักไม่ทราบสาเหตุ อาจพบร่วมกับโรคกระดูกข้อบางชนิดเช่นโรคข้อรูมาตอยด์ผู้ป่วยมักปวดโดยเฉพาะเวลาโดนแสง ถ้าตรวจตาจะพบเซลล์อักเสบลอยอยู่ภายในช่องตา

การป้องกัน : ถ้าเป็นตาแดงที่เกิดจากติดเชื้ออาจแพร่ติดกันง่ายซึ่งการติดต่อเกิดจากการสัมผัสเชื้อแล้วมาโดนตา ดังนั้นควรล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสเชื้อร่วมกับพยายามอย่าเอามือโดนตา

การรักษา : ต้องแยกสาเหตุตาแดงให้ได้ และรักษาตามสาเหตุโดยเฉพาะโรคติดเชื้อต้องรีบรักษาโดยการหยอดยาปฏิชีวนะที่ตาและหลีกเลี่ยงยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ มิฉะนั้นอาจเกิดอาการรุนแรงมากขึ้นได้

ที่มา : e-magazine.info




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2556
1 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 9:20:33 น.
Counter : 1560 Pageviews.

 

โรคตาถ้ารักษาไม่หายให้ลองย้ายที่อยู่ดู

 

โดย: tc IP: 101.108.46.82 22 มกราคม 2559 15:17:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.