น ก ก ร ะ จิ บ เ ล่ า เ รื่ อ ง
ธรรมะเป็นคำตอบของคนหนุ่มสาว
Group Blog
 
All Blogs
 
ขออย่ายอมแพ้ .... อย่าท้อแท้ ระย่นย่อ -- คิดเถิดว่า คุณก็ทำได้!!!

หนทางปฏิบัติธรรม อย่าคิดว่าบารมีไม่ถึง จึงเป็นของยาก
ที่เขียนบทบันทึกนี้ขึ้นมาเพราะว่า ฟังเพื่อนๆ บ่นว่า ....
ปฏิบัติกรรมฐานยากจัง!!!
สงสัยเราคงทำไม่ได้
ทำไมทำแล้วก็ยังทำไม่ได้
เราจะทำได้จริงๆ หรือ?
คงไม่มีบุญเก่ามาหรอก
ฯลฯ
โอ๋ๆๆๆ อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวแดดเช้าจะเล่านิทานอะไรให้ฟัง ....

วันหนึ่ง คุยกะพี่คนหนึ่ง ท่านเล่าให้แดดเช้าฟังว่า มีคนบอกว่า ท่านผ่องใสและมีความสุขเหลือเกิน เขาคงปฏิบัติธรรมไม่ได้แน่ๆ เพราะบารมีไม่ถึง

พี่คนนี้ตอบกลับไปว่า
"ฉันก็มีกิเลสเหมือนๆ กับเธอ มีขา มีแขน มีมือ มีเท้า มีหน้าตาเป็นแบบเดียวกับเธอ พระพุทธเจ้าพระองค์แตกต่างจากเราสักแค่ไหน แต่ท่านก็ยังปฏิบัติจนถึงความสิ้นทุกข์ได้

พระอริยะ ท่านก็ถึงความสิ้นทุกข์ได้ แม้ว่าท่านจะมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างอะไรจากพวกเราเลย
แล้วทำไมเธอจึงคิดว่า เธอทำไม่ได้"

ฟังเช่นนี้แล้วได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย ....

ชะตากรรมก็อยู่ส่วนของชะตากรรม การปฏิบัติให้ถึงการสิ้นทุกข์ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง
เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอีกเรื่องหนึ่ง...
แดดเช้าเห็นว่า อริยบุคคลบางท่าน ปฏิบัติได้เป็นอริยบุคคลชั้นสูงแล้ว ท่านเหมือนคนมีความรู้มาก มีความสุข มีสง่า เหมือนมีการศึกษาสูง มีศักดิ์ศรี น่าเลื่อมใส

คุยไปคุยมา พบว่า บางท่านไม่มีโอกาสเรียนระดับสูงๆ เลย จบเพียงประถม 4
บางท่านผ่านมรสุมชีวิตมามากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
บางท่านประสบปัญหาต่างๆ ตามชะตากรรม แต่ทำไมดูท่านยังงามจัง

กรรมก็อยู่ส่วนกรรม ..... การปฏิบัติธรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จริงๆ

ถ้าปฏิบัติให้ถึงที่ เวรกรรมบางอย่างก็จะไม่ต้องพบพาน
หลวงปู่เคยถามคนที่มาหาว่า
"จะแต่งงานไหม ไม่ต้องมีผัวก็ได้นะ"
"ค่ะ หนูก็คิดว่า จะไม่มี แต่ถ้าจะต้องเจอล่ะคะ"
"ปฏิบัติกรรมฐานไป ถ้าเวรกรรมจะมี ก็ต้องเจอ แต่ถ้าทำกรรมฐานจนถึงขั้นอนาคามี เวรกรรมเรื่องคู่ก็จะหมดไป"

บางที ... เรื่องราวต่างๆ เราต้องพบพาน
แต่ถ้าเราสามารถสร้างกรรมใหญ่พอ ก็จะสามารถตัดรอนในสิ่งที่เราจะพบเจอได้
และที่สำคัญ การถึงมรรคผล ก็คือการสร้างอนันตริยกรรมฝ่ายดี ที่จะปิดกั้นนรก เปรต อสูรกาย เดรัจฉานได้

อนันตริยกรรม ฝ่ายชั่ว จะกั้นความดีงาม เวลาตายไปก็ต้องตกนรก ไม่สามารถขึ้นไปเสวยบุญได้ ต้องใช้กรรมนี้ก่อนเป็นอันดับแรก

อนันตริยกรรมฝ่ายดี จะกั้นสิ่งชั่ว ทำให้เราไม่ต้องเวียนตายเวียนเกิดอีก .... ดีไหมคะ?
ถ้าดีเช่นนี้แล้ว ฉะนั้น เราควรปฏิบัติกรรมฐานให้ถึงมรรคผลกันดีกว่า ใช่ไหมล่ะคะ...

ที่จริง เรื่องของ "กาย" กับ "จิต" เป็นสิ่งธรรมดา .... การดูแล กาย กับ จิต ก็เป็นเรื่องสามัญธรรมดา
ไม่ต้องคิดว่า ต้องนั่งหลับตา ขัดสมาธิแต่อย่างไรเลยนะคะ

เราทำได้ตลอดเวลาตราบเท่าที่เรายังมีกายและจิตอยู่กับตัวเรา
เราทำอะไรก็ตาม เราก็เฝ้าดูกายและจิตตัวเองอย่างเป็น "ผู้ดู" นิ่งๆ อย่างนั้นแหละ ....
แล้วเราก็จะคงที่ เห็นความขับเคลื่อนไปของกาย และสิ่งที่กระทบจิต

ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่ใครๆ เข้าใจ
ไม่ต้องเข้าวัดไปนุ่งขาวห่มขาวหลายๆ วัน
ไม่ต้องเข้าป่าไปบำเพ็ญบารมี เผาผลาญกิเลส

ท่านบอกว่า "ดีก็ไม่เอา ชั่วก็ไม่ละ"
ดี ก็ ดู ดู ดู ดูไว้
ชั่ว ก็ ดู ดู ดู ดู ไว้
ดูอย่างเดียว เดี๋ยวจะเกิดปัญญา
กิเลสจะละจากเราไปเอง ไม่ต้องคิดละกิเลส
ไม่ต้องตัดกิเลส แต่กิเลสจะถอนรากถอนโคนจากจิตของเราเอง
และจิตของเราก็จะผ่องใส สว่างใสว ไม่มัวหมอง

ธรรมะเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเราต้องดูแล "กาย" กับ "จิต" ของเรา
หยุดคิดกันได้แล้วว่า ธรรมะเป็นของยาก เราต้องอยู่กับทางโลก
เราอยู่กับทางโลก เราก็ปฏิบัติธรรมะได้ ได้อย่างดียิ่งด้วย
และเราก็สามารถทำกิจทางโลกให้ดำเนินต่อไปได้อย่างเรียบร้อย ได้รับการไว้วางใจ และมีสิริสง่า

อริยบุคคลที่ปฏิบัติภารกิจทางโลกหลายคน ไม่ได้ต้องการชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ได้ต้องการโภคทรัพย์เกินความจำเป็น ไม่ได้สนองกิเลส
แต่ยศถาบรรดาศักดิ์ คำสรรเสริญ โภคทรัพย์ต่างๆ ไหลมาสู่ท่านเอง
และท่านก็รู้เห็นตามความเป็นจริงว่า โลกธรรมเหล่านี้ เป็นของเปล่าๆ ว่างๆ เท่านั้น
ไม่ได้มีอะไรน่าครอบครองเป็นของท่านเลย
ท่านได้มา ก็ได้มาตามธรรม

สงบ สบาย ดีไหมล่ะคะ? ถ้ารู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆ
โดยไม่ได้ตั้งใจคิดเลย แต่ท่านจะเป็นไปตามจิตรู้ของท่าน

แดดเช้าเอง ยังเป็นปุถุชน
ถึงแดดเช้าจะรู้ดีว่า สิ่งต่างๆ เป็นของเปล่าๆ ว่างๆ
พยายามข่มจิตข่มใจข่มกิเลสไว้ด้วย "ศีล"
แต่แดดเช้าก็ยังมี อุปาทาน ยึดความเป็น "เรา" เป็น "เขา" อยู่

แม้อุปาทานยังไม่ดับ อวิชชายังไม่ดับ ปัญญารู้แจ้งยังไม่เกิด
แดดเช้าเข้าใจได้อย่างนี้ แดดเช้าปฏิบัติธรรม ข่มจิตข่มใจ เข้าใจธรรมด้วย "ความคิด"
แดดเช้าก็สงบ สบายได้
ง่ายดีไหมล่ะคะ?

และการรู้จักข่มกิเลสตรงนี้แหละ .... จะทำให้กิเลสค่อยๆ เบาบางลง
แล้วสมาธิจะเกิดง่ายๆ ทำให้แดดเช้าเข้าถึงมรรคผลได้เร็ววัน
สาธุ ...

ความจริง ไม่ใช่ ความคิด ความจริง คือ ความจริง ความคิด คือ ความคิด
หลายครั้ง ... ปุถุชนอย่างเราๆ มักจะคิดหาเหตุผล
เรายังไม่เห็นทุกข์แท้ๆ หรอก เราเห็นด้วย "ความคิด" ของเราต่างหาก
เราใช้สมองมากไป เราไม่ค่อยใช้จิตในการดู
เรายังคงที่น้อย เวลาความคิดเข้ามา เราก็สำคัญเป็นว่า เราคิด
ทั้งที่ "จิต" ต่างหากเป็นผู้ทำงาน

จิตสั่งให้สมองคิด
แล้วถ้าสมองคิด โดยที่เราขาดสติ ขาดความคงที่
เราหลงเพลินไปกับความคิด
ทั้งคิดดี คิดไม่ดี
เราก็หลงไปกับความคิด
จิตเราก็ยึดความคิดเป็นของเรา

ฉะนั้น การมีสติอยู่กับกายกับจิตให้คงที่
เราจะเข้าใจเองว่า แม้แต่ความคิด ก็ไม่ใช่จิต
ความคิดปรุงแต่งให้เราติดอยู่กับสมมตินาม
แล้วหลงไปกับอารมณ์ต่างๆ เป็นอารมณ์ที่เราติดอยู่กับสมมตินาม

โลกนี้ ... เป็นของสมมุติ
เราเป็นก้อนโลก ... เราอาจจะคิดได้
แต่เรายังไม่อาจเห็นได้
ถ้าจะให้เรามีปัญญาเห็นได้ เราต้องปฏิบัติกรรมฐาน

เป็นของไม่ยากเกินไปค่ะ ...
กรรมฐานทำให้เราหยุดนึก หยุดคิด รักษาอาการฟุ้งซ่าน สงสัย
แล้วเราก็จะพบความจริง เมื่อทุกสิ่งสงบลง
ไม่คิด ไม่นึก เห็นด้วยอาศัยตา ได้ยินด้วยอาศัยหู ฯลฯ
แล้วเราคงที่อยู่ได้ เราจะเข้าใจสรรพสิ่ง
ได้ยินเสียงของสรรพสิ่ง ได้เห็นความแปรปรวนของสรรพสิ่ง
เป็นเสียงที่ไม่เงียบแต่อยู่บนความเงียบสงัด
เป็นความไม่มีแต่อยู่บนสิ่งต่างๆ มากมายก่ายกอง

ปฏิบัติกรรมฐานกันเถอะ แล้วคุณจะเข้าถึงสัจธรรม
ไม่ยากสำหรับคุณเลย ... อย่าท้อแท้สิ
อย่าด่วนประเมินค่าตัวเอง
แดดเช้ายืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า "คุณทำได้"
และทำได้อย่างดีด้วย

ถ้าคุณทำได้ คุณก็จะสามารถช่วยใครต่อใครได้มากมาย
เพราะสมาธิสามารถแก้เวรกรรมได้ สามารถรักษาโรคได้ สามารถแก้ปัญหาได้ สามารถทำให้คุณมีปัญญารู้เห็นสิ่งต่างๆ ได้ สามารถทำให้คุณช่วยกิจทางศาสนาได้อีกเยอะ กลับใจคนคิดไม่ดี ให้เป็นดีได้ ฯลฯ

ทุกคนเป็นคนดีนะ แดดเช้าคิดเช่นนั้น ....
เพียงแต่ ยังไม่ถึงจุดที่จะเป็นคนดีโดยสมบูรณ์ได้
เพราะจุดของแต่ละคนแตกต่างกันไป

คุณสนใจเข้ามาอ่านบันทึกธรรมะของแดดเช้า
นั่นก็แสดงว่า คุณมีหวังที่จะปฏิบัติได้แล้ว
และคุณมีหวังที่จะมีความสามารถในการช่วยเหลือคนอื่นๆ เหมือนๆ กับผู้ที่พอจะช่วยได้
เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปนัก!!!

รักคุณนะ .... อยากให้คุณได้พบสิ่งดีๆ
ถ้าคุณปฏิบัติกรรมฐานอย่างถูกวิธี
ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคนอย่างคุณ!!!

ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ บุญกุศลต่างๆ ของข้าพเจ้าที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมด ขอมอบให้ผู้อ่านทุกท่าน ให้มีกำลังใจในการปฏิบัติกรรมฐานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยปราศจากการระย่อท้อ เพื่อถึงมรรคผลในปัจจุบันชาติด้วยเทอญ

ขอให้ความปรารถนาของข้าพเจ้าจงเป็นจริงทุกประการ ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยเทอญ สาธุๆๆๆ


Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2548 18:56:46 น. 3 comments
Counter : 383 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านนะคะ


โดย: รักดี วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:19:11:36 น.  

 
อ่านกี่ครั้งก็รู้สึกดี บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขาขอบคุณจ๊ะ ที่ช่วยแนะแนวทางไว้ให้
เฮ้อจิตนี่ก็แปลกเนอะ อยู่ว่าง ๆ ก็ดีอยู่แล้วชอบหาอะไรก็ไม่รู้มาปรุงซะเปรอะ ทำให้เศร้า เหงา ร้องไห้ ไปก็ดี พอตัดได้ก็สบายเนอะ


โดย: lily_b IP: 202.142.218.108 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:11:17:21 น.  

 
ได้ขอคิดทุกเรื่อง ขอให้ปัญญาแตกฉานยิ่ง ๆ ขึ้นไป สาธุ


โดย: นัทธมน IP: 203.150.96.90 วันที่: 1 เมษายน 2548 เวลา:12:19:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แดดเช้า
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[จะเป็นสะพานพาคนให้พ้นทุกข์]
...........................................................
หวังเกื้อกูลพระศาสนา
จึงตั้งค่าการหยั่งรู้ สู่มรรคผล
เพื่อรู้แจ้ง แห่งสัจธรรม นำใจคน
พาหลุดพ้น เป็นคันฉ่อง ครรลองธรรม : )

เกิดตายมาหลายหนจนนับไม่ถ้วน
ชาติหน้า หน่ายแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว )

..............................................................
นาม ฉันนั้นแดดเช้า ........... ทอทอง
รูป แจ่มสดใสมอง ................ สุขล้ำ
จุดหมาย ดั่งครรลอง ............. หวังวาด
คติ แน่นในเนื้อน้ำ .......... ดิ่งซึ้งรสธรรม

หวัง นำชนสู่เป้า ................... แดนฝัน
กิจ ที่อธิษฐานพลัน ............... หยั่งรู้
ใน ชีวิตคิดสรรค์ .................... สร้างโลก
ธรรม สถิตมั่นสู้ ........... ปราบสิ้นกิเลสมาร

สานชีวิตแดดเช้า .................... หยาดอรุณ
มองโลกเพื่อเจือจุน ................. แหล่งหล้า
อาบอุ่นประกายคุณ .............. ไตรรัตน์
เพียงนบสนองแกล้วกล้า ..... แจ่มแจ้งปัญญา

ค่าแห่งอุดมคติเน้น .............. ตรงธรรม
ประกาศศาสน์น้อมนำ ........ อริยะแจ้ง
ฉุดผองเหล่าชนถลำ ............ จมทุกข์
ชี้ฝั่งให้เห็นแห้ง ......... แห่งห้วงทะเลกรรม

จึงบำเพ็ญตบะกล้า ......... ทางใจ
เพื่อมรรคผลอำไพ ........... จิตแจ้ง
เห็นอริยสัจจ์สว่างใส...... ทุกข์ปลด
แล้วจึ่งล้างขัดแย้ง .......... เบิกฟ้าสันติธรรม

หวังนำคุณพระแพร้ว......... ชี้ทาง
สถิตจิตในสิ่งวาง ............. มั่นเข้า
แผ่คุณเมตตาถาง .............. อุปสรรค
สู่ทุกจิตค่ำเช้า ........... พบแผ้วผ่องใส.

Friends' blogs
[Add แดดเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.