น ก ก ร ะ จิ บ เ ล่ า เ รื่ อ ง
ธรรมะเป็นคำตอบของคนหนุ่มสาว
Group Blog
 
All Blogs
 
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่า ฉันเป็นคนยังไง - มารู้จักตัวเองกันดีกว่า

"ตัวตนของฉัน" - เด็กรุ่นใหม่มักแสวงหา
แดดเช้าเคยผ่านช่วงชีวิตหนึ่งมาก่อน
แสวงหาน่าดูเลย

ฉันเป็นคนอย่างนี้
ฉันจะเป็นอย่างนี้
ไม่มีใครเข้าใจฉัน นอกจากตัวของฉันเอง
ไม่จำเป็นต้องให้ใครเข้าใจ นอกจากเข้าใจตัวเอง
ภายนอกของฉัน ไม่ใช่ตัวตนของฉัน
อย่าตัดสินฉันได้ไหม ฉันเป็นตัวของฉันเอง

ร่ำร้องอยู่อย่างนี้ .....
จมปลักอยู่กับคำว่า
"ตัวฉัน"
"ตัวตนของฉัน"
"ฉันเป็นฉันเอง"

ทุกสิ่งที่แสดงออกมา ก็เพื่อให้ใครๆ รู้จักเรา
"ฉันเป็นคนแบบนี้นะ ....." ตะโกนก้องออกมาจากใจ
ถ้าใครสรุปว่า เราเป็นอีกอย่างหนึ่ง เท่าที่เขาเห็น
เรารับไม่ได้ ก็ตะโกนก้องในหัวใจว่า
"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นแบบที่ใครๆ เห็น"

แล้ว "ฉัน" เป็นใครกันแน่ละเนี่ย?
เริ่มสับสนแล้วน่ะสิ ....
เปล่านะคะ .... แดดเช้าไม่ได้กระแทกความคิดของคุณให้กระเจิงหรอก
เพียงแต่ชี้อะไรให้เห็นเท่านั้นเอง

แดดเช้าเคยคิดว่า แดดเช้าจะต้องเป็นแบบนั้น
จะต้องให้ใครๆ เห็นว่าเป็นแบบนี้
แต่ไม่เคยดูจิตดูใจตัวเองเลยว่า พอกพูนกิเลส "ความอยาก" เพิ่มมากเท่าไหร่แล้ว

ตราบใดที่เรายังหลงตนอยู่
เราก็จะไม่สามารถเปิดจิตแท้ๆ ออกมา ดู ความจริง ให้เห็นได้

จึงเกิดเป็นภาพลวงซ้อนแล้วซ้อนเล่า
ใครๆ ก็หลงภาพลวงนั้นอย่างไม่รู้ตัว
เราสร้างภาพลวงตัวจริงของเราเองอย่างไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน

ลวงซ้อนความเป็น "ตัวตน" ของเรา
ลวงซ้อนความไม่ใช่ "ตัวตน" ของเรา
แล้วมันได้อะไรขึ้นมา

วันนี้ แดดเช้ามาเป็นปรัชญาหน่อยนะคะ .....
กระตุ้นให้สมองป่วนๆ สักพักก่อน
เดี๋ยวจะทำให้สงบและพบทางออกค่ะ : )

เป็นตัวเรา เท่าที่ เราเป็น ไม่เห็นต้องคิด ต้องตัดสิน
เป็นตัวเรา เท่าที่ เราเป็น
ไม่เห็น ต้องคิด ต้องตัดสิน
ตาดู รู้สึก นึก ได้ยิน
รสลิ้น ซึมซาบ สัมผัสกาย

คงที่ เท่าที่ จะคงไว้ได้
โลกไหว ใจมั่น อย่าแพ้พ่าย
กิเลส ยิ้มย่อง มองกราย
จิต กาย คงความหมาย มั่นคง

ง่ายแค่นี้เอง .... การที่เราจะรู้จักตัวเอง
นึกไม่ถึงเลยใช่ไหมคะ?
เพียงแต่เราดู ดู ดู อย่างเดียว
กายนิ่ง จิตนิ่ง ดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
นึกคิด อะไรเข้ามาก็ดูไว้
ชอบใจ ไม่ชอบใจ ก็ดูไว้

ทำไมง่ายจัง .... วิธีที่จะเห็นตัวเองชัดๆ
นึกไม่ถึงเลยเนาะ

ใช่สิคะ .... เรานึกไม่ถึงว่า การที่เราจะรู้จักตัวเองได้ ก็คือ การนั่งดูกิเลสของเราอย่างเดียว
แค่นี้เอง

"ตรวจศีล" - "ตรวจใจ" อีกวิธีง่ายๆ ที่จะขัดเกลาตัวเราให้สมบูรณ์
นอกจากการดูกิเลสตัวเองอย่างนิ่งๆ แล้ว
แดดเช้าขอเสนออีกวิธีหนึ่งที่หลวงปู่แนะให้แดดเช้าทำ
นั่นก็คือ การตรวจศีล

ตรวจศีล ทำยังไงบ้าง?
ท่านเคยบอกว่า
"รุ่ง ก่อนนอนก็ทบทวนดูนะว่า วันนี้ทำอะไรบ้าง อะไรที่ดี ก็ทำให้เจริญขึ้น อะไรที่ไม่ดี ก็สำรวมระวังต่อไป"
เหมือนการเขียนไดอารี่ประจำวันเลย

วันหนึ่งหลวงปู่ท่านแนะนำแดดเช้าว่า
"ลองทบทวนเรื่อยไปว่า วันนี้ทำอะไรบ้าง เมื่อวานทำอะไรบ้าง สัปดาห์ที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง เดือนก่อนๆ ทำอะไรบ้าง ปีก่อนๆ ทำอะไรบ้าง จนถึงตอนเราเกิด และเราอยู่ในท้อง ทบทวนไปถึงชาติก่อนเลย แล้วเราจะได้ปุพเพนิวาสานุสติญาณ"
"ระลึกชาติได้หรือคะ หนูเคยทำ แล้วนิ่งมากเลยค่ะ"
"นั่นแหละ สมาธิเจริญ เดี๋ยววิปัสสนาญาณ ก็จะเกิด"
"เจ้าค่ะ"

หลวงปู่บอกว่า การที่เรารู้จักชาติก่อนๆ ของเรา นอกจากทำให้สมาธิเราเจริญแล้ว
ทำให้เรารู้จักตัวเองด้วยว่า เบญจขันธ์ของเรานี้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ใช่ของเที่ยง
เราจะเบื่อหน่ายภพชาติ แล้วเราจะเข้าใจในเรื่องกลไกของกฎแห่งกรรม

อภิญญาทำให้เราได้ปัญญาเพิ่มขึ้น
ท่านแสดงให้ฟังว่า อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง
ถ้าเรามีความรู้ยิ่งแล้ว เราก็จะสามารถหาทางดับทุกข์ได้
อภิญญา 6 เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสให้พวกเราเจริญให้ยิ่งๆ ขึ้น
เพราะเป็นทางไปสู่มรรคผล และการสิ้นทุกข์

ฉะนั้น การที่เราฝึกระลึกชาติ ก็เท่ากับเราฝึกสมาธิ
แล้วทำให้เราเข้าใจกลไกของชีวิตได้ดีขึ้นๆ ด้วยค่ะ

เราจึงรู้จักตัวเราเองมากขึ้น!!!

ตัวเราเอง คือ ความจริง ไม่ใช่อยู่ที่ การคิด หรือ การประเมิน
สมมติว่า เราประเมินตัวเราเองว่า เป็นคนดี
เราก็ติดอยู่ที่ความดีเก่าๆ ไม่มีความงอกเงยความดีงามขึ้นมากว่านั้นได้

ถ้าเราไปกดค่าตัวเองให้เป็นคนไม่ดี
เราก็จมอยู่กับความชั่วช้าเลวทรามเก่าๆ ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด

เพราะเราไปติดสมมติ ดี ไม่ดี ตรงนี้น่ะสินะคะ
เราจึงเจริญงอกงามยาก
และเป็นผู้ฝึกยาก

ถ้าเราจะเป็นผู้ฝึกง่ายๆ
เราก็ควรยอมรับซะว่า ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เราอาจจะทำไม่ดี เราสำนึกผิดแล้วก็สำรวมระวังต่อไป และจะไม่ทำสิ่งไม่ดีนั้นอีก

วิธีที่จะระวังในการทำสิ่งต่างๆ และทำให้เราสำรวมระวังได้ดียิ่งๆ ขึ้น นั่นก็คือ การมีสติคงที่อยู่กับ "กาย" และ "จิต" นั่นเอง
สรุปแล้วก็วนมาที่เดิมซ้ำๆ อย่างที่แดดเช้าย้ำแล้วย้ำอีก นั่นก็คือ
ชีวิตของเราสำคัญอยู่ที่ การรู้จักดูแล "กาย" กับ "จิต" เท่านั้นเอง

หยุดนึก หยุดคิด แล้วชีวิตจะถึงซึ่งความเป็นจริง
เราเป็นผู้ดูเฉยๆ อยู่บนโรงละครอันกว้างใหญ่ของโลกใบนี้
ดีไหมคะ? ไม่เหนื่อยด้วย

ดูแม้กระทั่งบทบาทของตัวเองที่จะต้องแสดง
แสดงไปตามบทบาท ในขณะที่เราเป็นผู้ดูตัวเราเอง
นั่นแหละ .... เราจึงพ้นจากความเป็นภพ (ความเป็น) ความเป็นชาติ (การเกิด)

เราไม่ไหลไปตามอารมณ์
ไม่ไหลไปตามบทบาทสมมติที่โลกสร้างให้
เราเป็นผู้ดู และรับบทบาทนั้นมาแสดงให้จบสิ้นอย่างสมหน้าที่
ก็เป็นอันเพียงพอแล้ว

ถ้าเราไหลไปตามอารมณ์ ตามบทบาท
เราก็เป็นตัวละครหนึ่งที่เต้นๆ เป็นบ้าเป็นบอกับสิ่งที่ไม่จริง
สิ่งที่ไม่เที่ยง แปรปรวน เปลี่ยนแปลง ผันแปรได้
สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
แล้วเราจะไปเป็นบ้าเป็นบอกับสิ่งเหล่านี้ทำไมล่ะคะ?

เป็นผู้ดู ค่ะ ชีวิตของเราเป็นผู้ดู
แล้วเราจะเข้าใจตัวเองชัดขึ้น
เข้าถึงจิตแท้ๆ ของตัวเองชัดขึ้น
และเราก็จะมีพลังอันยิ่งใหญ่ ควบคุมชีวิตของเราเองได้มากขึ้น
โดยปราศจากกิเลสที่จะมาครอบงำ ควบคุมเรา
สบายดีไหมล่ะคะ ... สงบและไม่วุ่นวาย ดีด้วยเนาะ

แล้วเราจะเป็น "ผู้ดู" ได้อย่างไร
แดดเช้าก็เขียนไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้บอกวิธีให้คุณเป็น "ผู้ดู" ได้เลยนะคะ
เอาเป็นว่า แดดเช้าแนะนำได้อย่างเดียว อย่างที่เคยให้คำตอบไว้แล้ว
เป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับชีวิตของเรา ที่เราจำเป็นต้องทำ
เป็นเรื่องใกล้ตัว นั่นก็คือ การปฏิบัติกรรมฐาน

การทำกรรมฐาน ทำให้เรานิ่งและเป็นผู้ดูได้เป็นอย่างดี
ยิ่งถ้าทำอย่างถูกอุบายด้วยแล้ว คุณก็จะเป็นผู้ดูที่มีสิริสง่า ไม่วุ่นวาย ไม่ก่อกรรม และไม่เกิดภพเกิดชาติ

หายใจให้ถูกวิธีนะคะ
วางสมาธิให้แน่วแน่ ทำสติให้มั่นคง
"สติมั่นไม่ฟั่นเฟือน กายรำงับไม่ระสับระส่าย ใจเป็นสมาธิแน่วแน่"
แค่นี้แหละ ... คุณก็จะค้นพบความเป็นตัวคุณอย่างสมบูรณ์
เป็นผู้ที่มีคุณค่า และมีศักดิ์ศรี
มีการมองปัญหาที่แตกต่างและแก้ไขได้อย่างถูกจุด ไม่เกิดปัญหาซับซ้อนวุ่นวาย
โลกรอบข้างคุณก็จะพบกับความสงบสุข
แผ่ความสงบและความกว้างใหญ่ของกระแสจิตของคุณไปดูแลสิ่งรอบตัว

คุณค่าชีวิตของคุณ ก็เกิดขึ้น
ผู้คนรอบกายคุณ ก็จะเกิดความศรัทธาในชีวิต
ด้วยอานุภาพของคุณเอง

นี่แหละ .... "ตัวคุณ" ที่แท้จริง
ไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสิน ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องรอใครให้คำตอบ ไม่ต้องรอความหมายจากปากใครๆ ไม่ต้องประเมินค่าจากที่ใด ไม่ต้องใช้ตำราใดอ้างอิง

จิตแท้ๆ จะบอกความเป็นตัวคุณให้โลกรู้
โดยที่คุณไม่ต้องตะโกนก้องประกาศให้ใครๆ ได้ยิน
ไม่ต้องกระซิบบอกอะไรกับตัวเอง

จิตแท้ๆ จะเปิดเผยทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวคุณเอง
ให้ครอบคลุมกับจักรวาลอันกว้างไกล
ให้ลึกหยั่งลงไปในความต้องการแท้ภายใน
ที่ต่อให้ผู้ใดก็ให้คุณไม่ได้

อย่าลืม "ตรวจศีล" และ "ตรวจใจ" ก่อนนอนทุกคืนนะคะ : )

และด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ขอให้บันดาลแสงสว่างที่จะสาดส่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้รู้เห็นจิตที่แท้และความต้องการอันแท้จริงของตัวเอง เพื่อที่จะค้นพบตัวเองโดยไม่ต้องแสวงหา และเกิดปัญญาที่จะเกื้อหนุนสรรพสิ่งให้เกิดความสุขสงบอย่างมหาศาล ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยสงฆ์ นี้ด้วยเทอญ สาธุๆๆ



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2548 23:15:26 น. 5 comments
Counter : 364 Pageviews.

 
ขอบคุณค่า


โดย: prncess วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:23:50:30 น.  

 
:)


โดย: jibเองค่า IP: 203.145.12.97 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:11:10:03 น.  

 
เห็นด้วยจ้า


โดย: พี่อิ๋ว IP: 61.91.125.133 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:8:11:54 น.  

 
ให้ข้อคิดที่ดีมากเลยค่ะคุณแดดเช้า
อายุคุณก็นิดเดียวแต่ปัญญาไม่นิดเลย
อนุโมทนาค่ะ


โดย: นัทธมน IP: 203.150.96.90 วันที่: 1 เมษายน 2548 เวลา:11:37:20 น.  

 
ไม่รุ้เรื่อง อยุ่ ดี
ทำไมต้องพุดยาวๆด้วยให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อยไม่ได้ หรอ


โดย: แอน IP: 203.154.95.138 วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:21:47:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แดดเช้า
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[จะเป็นสะพานพาคนให้พ้นทุกข์]
...........................................................
หวังเกื้อกูลพระศาสนา
จึงตั้งค่าการหยั่งรู้ สู่มรรคผล
เพื่อรู้แจ้ง แห่งสัจธรรม นำใจคน
พาหลุดพ้น เป็นคันฉ่อง ครรลองธรรม : )

เกิดตายมาหลายหนจนนับไม่ถ้วน
ชาติหน้า หน่ายแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว )

..............................................................
นาม ฉันนั้นแดดเช้า ........... ทอทอง
รูป แจ่มสดใสมอง ................ สุขล้ำ
จุดหมาย ดั่งครรลอง ............. หวังวาด
คติ แน่นในเนื้อน้ำ .......... ดิ่งซึ้งรสธรรม

หวัง นำชนสู่เป้า ................... แดนฝัน
กิจ ที่อธิษฐานพลัน ............... หยั่งรู้
ใน ชีวิตคิดสรรค์ .................... สร้างโลก
ธรรม สถิตมั่นสู้ ........... ปราบสิ้นกิเลสมาร

สานชีวิตแดดเช้า .................... หยาดอรุณ
มองโลกเพื่อเจือจุน ................. แหล่งหล้า
อาบอุ่นประกายคุณ .............. ไตรรัตน์
เพียงนบสนองแกล้วกล้า ..... แจ่มแจ้งปัญญา

ค่าแห่งอุดมคติเน้น .............. ตรงธรรม
ประกาศศาสน์น้อมนำ ........ อริยะแจ้ง
ฉุดผองเหล่าชนถลำ ............ จมทุกข์
ชี้ฝั่งให้เห็นแห้ง ......... แห่งห้วงทะเลกรรม

จึงบำเพ็ญตบะกล้า ......... ทางใจ
เพื่อมรรคผลอำไพ ........... จิตแจ้ง
เห็นอริยสัจจ์สว่างใส...... ทุกข์ปลด
แล้วจึ่งล้างขัดแย้ง .......... เบิกฟ้าสันติธรรม

หวังนำคุณพระแพร้ว......... ชี้ทาง
สถิตจิตในสิ่งวาง ............. มั่นเข้า
แผ่คุณเมตตาถาง .............. อุปสรรค
สู่ทุกจิตค่ำเช้า ........... พบแผ้วผ่องใส.

Friends' blogs
[Add แดดเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.