วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนใหญ่มาราธอน ภาค 3"
สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์
จากบล็อกเก่า ที่ไปปั่นมาราธอนด้วยยางโทนใหญ่ครั้งที่ 2
ใช้ขาจาน 110mm สถิติดีขึ้นไม่มากนัก เลยคิดว่า ขาจานระยะ 110mm หนักไป
ทำให้เหนื่อย ขาล้า และบวกกับการลงจากรถบ่อยด้วย ทำให้สถิติไม่ดี
เมื่อมีโอกาสอีก เลยอยากจะลองอีกสักครั้ง
คราวนี้ เติมลมยางให้แข็งขึ้นด้วย แต่ก่อนเคยใช้แค่ไม่เกิน 25psi
เพราะยางอ่อน คอนโทรลง่ายกว่า แต่ถ้าเราเติมแข็งสักหน่อย
มันจะปั่นได้ลื่น และเร็วมากขึ้น เลยใช้ 30psi
ครั้งนี้ ขาจานยาว 125mm นะครับ จะได้เปรียบเทียบดู ว่าครั้งก่อน
ใช้ 110mm แล้วทำให้ขาล้า เป็นเรื่องจริงแค่ไหน
ออกเดินทาง เวลา 16.14 ครับ
ปั่นในเส้นทางเดิม วงแหวนสาย 231 ระยะทาง 48km
แดดยังร้อนอยู่ครับ
ออกจากบ้าน ปั่นมาเลี้ยวซ้ายที่แยกไป อ.กัณทรลักษ์ เพื่อเข้าสู่ถนนวงแหวน
แยกต่อไปที่เจอ คือแยกไป อ.เดชอุดมครับ แยกนี้โดนไฟแดง
ต้องลงจากรถเป็นครั้งที่ 1 รีบวิ่งข้ามถนนเลยครับ กลัวเสียสถิติ
หลังจากนั้นถนนจะโล่งมาก
แต่ก่อนหน้านี้ โดนหมาไล่ไป 1 ครั้ง ต้องลงจากรถ ทำท่าไล่มันกลับ
มันจะได้กลัว แล้วเลิกไล่เรา เป็นการลงครั้งที่ 2
ผมนับรอบเท้าตัวเอง 1 นาที ปั่นได้สัก 110rpm ความเร็วรอบนี้
พอจะยืนระยะได้นานหน่อย แต่ปั่นๆ ไป ความเร็วก็ตกครับ ขามันล้า
ถ้าคำนวณดูจากขนาดล้อ 36 นิ้ว และความเร็วรอบที่ 110rpm
จะได้ความเร็วประมาณ 18.97 kph
ผมต้องใช้วิชายืนปั่น เป็นระยะๆ เพื่อลดแรงกดทับที่เป้า
ซึ่งเป็นตัวปัญหาสำคัญ ที่ทำให้ต้องลงจากรถ
อยากเอื้อมมือไปถ่ายด้านหลัง ให้เห็นยาง แต่ไปถึง
เห็นแต่ไฟท้ายที่หมวก
ลองถ่ายมุมเงยดูบ้าง เห็นท้องฟ้า ใสมาก
ไม่มีเมฆสักก้อนเลย
รอบนี้ ผมไม่ถ่ายวิดีโอแล้วครับ เพราะทำให้ต้องเสียสมาธิ
ไปดูแลกล้องนาน ไม่เหมือนภาพนิ่ง ถ่ายแป๊บเดียวเสร็จ
เก็บระยะทางไปเรื่อยๆ ครับ
ใช้เวลาพอสมควร แล้วก็มาถึงแยกไป อ.พิบูลมังสาหารแล้วครับ
กำลังปั่นข้ามสะพานข้ามแยก
แล้วก็มาถึง แม่น้ำมูล
แสงสะท้อนน้ำ
วันนี้เลือกมาปั่นวันเสาร์ครับ คิดว่ารถน่าจะน้อย
ผ้าบัฟ ใส่แบบนี้จนชินแล้วครับ มันดีนะครับ
ช่วยลดเหงื่อที่จะไปโดนสายรัดคาง ทำให้สายรัดคางไม่เค็มจนเกินไป
มันใหญ่ ถ่ายมุมเงย ไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ฟ้า
แล้วก็มาถึงแยกไป อ.ตาลสุม แยกนี้ได้ไฟเขียวครับ
ปั่นไปเรื่อยๆ ครับ จริงๆ แล้วผมคิดหนักนะครับ
ทุกครั้งที่มาปั่นแบบมาราธอน เพราะมันนาน และมันเหนื่อยมาก
แต่ก็อยากจะรู้ อยากทดลอง เลยมาครับ
แล้วก็มาถึงแยกไป อ.ตระการพืชผล แยกนี้โดนไฟแดง
ต้องรีบเดินข้ามถนน พร้อมดื่มน้ำที่แยกนี้ด้วย คอแห้งมาก
จังหวะเดินข้าม
ถึงห้วยวังนองแล้ว
ก่อนหน้านี้ โดนไปอีก 1 ไฟแดง ที่สามแยกแห่งหนึ่ง
เป็นการลงจากรถ ครั้งที่ 4
ถึงแยกไป จ.อำนาจเจริญแล้วครับ โดนอีกไฟแดง ต้องลงจากรถ
เป็นครั้งที่ 5
ถึงแยกไป จ.ยโสธรแล้วครับ โดนอีกตามเคย ไฟแดง ต้องลงจากรถเป็นครั้งที่ 6
แต่ก็พยายามข้ามไฟแดงให้ไวนะครับ ไม่โอ้เอ้
ตอนนี้วนกลับมาข้ามแม่น้ำมูลอีกครับ มืดแล้วด้วยครับ
ครั้งก่อน เดินพักนานที่สะพานนี้ ครั้งนี้ไม่มีพักแล้วครับ ปั่นยาวเลย
ลงเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ถึงแยกไปศรีษะเกส ก็โดนอีกไฟแดง เป็นการลงเดินครั้งที่ 7
กินน้ำที่แยกนี้ด้วย คอแห้งสุดๆ
เหงื่อตกครับ มันไกล และนาน อยากกลับบ้านสุดๆ
ในที่สุดก็ถึงแยกสุดท้าย แยกไป อ.กัณทรลักษ์ วนกลับมาที่เดิมแล้ว
ใกล้ถึงเส้นชัย พยายามปั่นเต็มที่เลยครับ
ผลคือ กลับถึงบ้านเวลา 19.08
ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 54 นาที หรือคิดเป็น 2.90 ชั่วโมง
จับหารกับ 48 km ได้ความเร็วเฉลี่ยออกมาที่ 16.55 kph
ดีกว่าครั้งก่อนเพียง 0.11 kph เท่านั้น
จึงวิเคราะห์ผลการปั่น เทียบกับครั้งก่อน ดังนี้ครับ
1) เชื่อว่าขาจาน 110mm เร็วกว่า 125mm และคิดว่าไม่ดูพลังมากด้วย เพราะขากลับมาบ้าน ขามันก็ล้าพอๆ กัน ทั้งสองครั้ง ครั้งก่อน ที่ใช้ระยะ 110mm สถิติช้ากว่าครั้งนี้เล็กน้อย เพราะพักนานในครั้งสุดท้าย ที่เดินข้ามสะพาน ที่พักนาน เพราะตอนนั้น ยังใช้วิชายืนปั่นไม่คล่อง ทำให้ก้นระบม จำเป็นต้องพัก
2) ที่สถิติครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย เพราะไม่ได้พักเลย มีแต่ลงจากรถเมื่อจำเป็น ทั้งหมด 7 ครั้ง แล้วก็รีบปั่นต่อ วิชายืนปั่นเป็นระยะๆ ใช่ได้ผลดีครับ
หมายความว่า ถ้าใช้ขาจาน 110mm แล้วปั่นแบบไม่พักเลย ก็จะเร็วขึ้นอีกหน่อย ประมาณดู คิดว่าน่าจะได้สัก 17 kph ที่สภาวะการทดลองเดียวกันนี้
แต่คิดว่า ไม่ค่อยอยากไปปั่นอีกแล้วหละครับ เพราะมันเหนื่อยมาก และนานด้วย
และัปัจจัยรบกวนมีเยอะด้วย เช่นไฟแดง รถเยอะบางจุดที่ผ่านชุมชน
ส่วนขาจาน 110mm คิดว่าคงไม่กลับไปใช้แล้วหละครับ เพราะมันเหมาะกับมาราธอนเท่านั้น
ถ้าไม่ได้ปั่นมาราธอน มันจะหนักไป เล่นยากตอนความเร็วต่ำ
และการไปปั่นมาราธอน มันก็ไม่ได้ไปบ่อยๆ ด้วยครับ
ถ้าจะไปอีก คงต้องมียางโทนเกียร์ก่อนครับ จะได้เร็วขึ้นอีก
Create Date : 04 พฤษภาคม 2555 | | |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 17:40:18 น. |
Counter : 2862 Pageviews. |
| |
|
|
|