Ride to Raid
Group Blog
 
All Blogs
 

วิถีผู้กล้า ตอน "โชว์ทางปั่นริมน้ำส่วนตัว"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ผ่านไป ยังไม่ได้มาปั่นริมแม่น้ำสักที

วันนี้ได้มีโอกาสกลับมาปั่นอีกครั้ง


บรรยากาศที่สะพานข้ามแม่น้ำมูล


ปริมาณน้ำ เหลือน้อย


ตอนนี้อยู่บนทางปั่นริมน้ำแล้วครับ พร้อมมีแฟนคลับมารอรับ 2 ตัว


มีอุปสรรคเล็กน้อยครับ ทราย


มีวิถีชีวิตกลางลำน้ำให้แวะชม


วันนี้มากับยางโทนใหญ่ เพราะติดใจในความเร็วในการเดินทาง

ล้อใหญ่ๆ ช่วยให้เราเดินทางไปพจญภัยได้ใกลจากบ้านมากขึ้น

ในคลิป ล้อขนาด 36 นิ้ว ขาจาน 150mm ปั่นช้าๆ ชิวๆ ชมวิวริิมน้ำ


เส้นทางโล่งมาก ไม่มีใครเลย ประหนึ่งเส้นทางส่วนตัว



ทางโล่ง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง


ทางปั่น มีระยะทางไกลพอสมควร โน่นเลยครับ ไกลลิบสุดโค้งน้ำ


ในคลิปข้างบน จบด้วยการขึ้นสเต็พไม่ผ่าน

มีให้แก้ตัวอีก 1 สเต็พ ผ่านได้ครับ ไม่ได้ถือกล้องแล้ว มีสมาธิกว่า

สเต็พมันค่อนข้างชัน ก่อนอื่นต้องเร่งความเร็วก่อน

จะปั่นเร็วเกินไปก็ไม่ได้ เพราะถ้าปะทะแรงๆ รถมันจะกระดอนมาก ทรงตัวยาก

ัปั่นช้าไปก็ไม่ได้ ถ้าแรงส่งไม่พอ ก็ข้ามสเต็พไม่ได้



ตอกย้ำความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยเถาวัลย์ครับ


คงไม่มีใครมาปั่นเลยมั๊ง นอกจากผม


ข้าวงอกแล้วครับ ตอนรับวันพืชมงคล


แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้าครับ






 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2555 12:20:06 น.
Counter : 1702 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนใหญ่เข้าวัด"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


บล็อกนี้ จะพาไปเยี่ยวชมวัดหนองป่าพงนะครับ


เส้นทางไปวัด มีหลายทางนะครับ แต่ผมเลือกทางออฟโรด สนุกกว่า

ถ้าเจอหมาเกเรมาวิ่งไล่เห่า วิธีแก้เผ็ดก็คือ ลงจากรถ แล้ววิ่งไล่มันกลับครับ

ทำท่าให้จริงจังเลยครับ เหมือนจะจับมันมากินให้ได้

มันจะกลัวเรา แล้วจะเกิดผลที่ตามมา 2 อย่างครับ

1) บางตัว จะกลัวเราไปเลย แล้วมันจะเลิกเห่า ไม่มายุ่งกับเราอีก

2) แต่บางตัวจะแค้นเรา มันจะยังเห่าอยู่ แต่เห่าอยู่ห่างๆ ไม่กล้ามาไล่เราอีก


เส้นทางออฟโรด จะพาเรามาเข้าด้านหลังวัดนะครับ มาลองปั่นเล่นในวัดดูครับ


วัดหนองป่าพง เป็นวัดป่าที่สงบร่มรื่นมากครับ


คิดว่า มาปั่นในวัด ไม่น่าจะรบกวนพระนะครับ มันไม่มีเสียงดัง


ในวัด มีเส้นทางคอนกรีตรอบวัด ปกคลุมด้วยป่า

ถึงแม้จะเป็นหน้าร้อน แต่ก็รู้สึกเย็นกว่าอยู่นอกวัดเยอะเลย


เสียงที่ดังที่สุด ที่เกิดขึ้นจากการปั่น ก็คือเสียงเหยียบใบไม้แห้งครับ


ใครต้องการความสงบ ปลีกวิเวก วัดหนองป่าพง คือคำตอบครับ


บริเวณพระธาตุ ของหลวงปู่ชา


ไม่มีคนเลยครับ เงียบสงบมาก



ในวัด มีป้ายธรรมะเตือนสติ หลายป้ายเลยครับ แวะอ่านสักหน่อย


จอดรถไว้ก่อนครับ เดินศึกษาธรรมะแป็บ



อันนี้เข้าใจยากจัง


ป้ายนี้ เชื่อมโยงกับป้ายแรก เสียสละ ปล่อยวาง



คำนี้ เหมือนได้ยินบ่อย แต่ผมสงสัยว่า ความตาย น่าจะเป็นสิ่งที่แน่นอนนะครับ

เพราะว่าทุกคนต้องตาย


ผมว่า ละบาป ยากกว่าทำบุญอีกนะครับ


ผมก็เลิกขอนานแล้วครับ รู้แล้วว่า อยากได้อะไร ต้องพยายามเอง


จริงครับ เดี๋ยวก็ตายกันหมดทุกคนแล้ว อย่าเสียเวลานั่งอมทุกข์อยู่เลย


เชื่อมโยงกับป้ายก่อนหน้าเลย เราไม่มีเวลาไปนั่งอิจฉาใครอีกแล้ว


ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ใช่ไหมครับ


อันนี้ตรงไปตรงมา





และยังมีอีกหลายป้ายเลยครับ ไม่สามารถถ่ายมาหมดได้


ว่างๆ ก็แวะมาเที่ยวกันได้นะครับ มีพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วย

แล้วพบกับได้อีก ในบล็อกหน้าครับ




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2555 11:21:36 น.
Counter : 3088 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนใหญ่มาราธอน ภาค 3"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


จากบล็อกเก่า ที่ไปปั่นมาราธอนด้วยยางโทนใหญ่ครั้งที่ 2

ใช้ขาจาน 110mm สถิติดีขึ้นไม่มากนัก เลยคิดว่า ขาจานระยะ 110mm หนักไป

ทำให้เหนื่อย ขาล้า และบวกกับการลงจากรถบ่อยด้วย ทำให้สถิติไม่ดี


เมื่อมีโอกาสอีก เลยอยากจะลองอีกสักครั้ง


คราวนี้ เติมลมยางให้แข็งขึ้นด้วย แต่ก่อนเคยใช้แค่ไม่เกิน 25psi

เพราะยางอ่อน คอนโทรลง่ายกว่า แต่ถ้าเราเติมแข็งสักหน่อย

มันจะปั่นได้ลื่น และเร็วมากขึ้น เลยใช้ 30psi


ครั้งนี้ ขาจานยาว 125mm นะครับ จะได้เปรียบเทียบดู ว่าครั้งก่อน

ใช้ 110mm แล้วทำให้ขาล้า เป็นเรื่องจริงแค่ไหน


ออกเดินทาง เวลา 16.14 ครับ


ปั่นในเส้นทางเดิม วงแหวนสาย 231 ระยะทาง 48km


แดดยังร้อนอยู่ครับ


ออกจากบ้าน ปั่นมาเลี้ยวซ้ายที่แยกไป อ.กัณทรลักษ์ เพื่อเข้าสู่ถนนวงแหวน


แยกต่อไปที่เจอ คือแยกไป อ.เดชอุดมครับ แยกนี้โดนไฟแดง

ต้องลงจากรถเป็นครั้งที่ 1 รีบวิ่งข้ามถนนเลยครับ กลัวเสียสถิติ


หลังจากนั้นถนนจะโล่งมาก

แต่ก่อนหน้านี้ โดนหมาไล่ไป 1 ครั้ง ต้องลงจากรถ ทำท่าไล่มันกลับ

มันจะได้กลัว แล้วเลิกไล่เรา เป็นการลงครั้งที่ 2


ผมนับรอบเท้าตัวเอง 1 นาที ปั่นได้สัก 110rpm ความเร็วรอบนี้

พอจะยืนระยะได้นานหน่อย แต่ปั่นๆ ไป ความเร็วก็ตกครับ ขามันล้า

ถ้าคำนวณดูจากขนาดล้อ 36 นิ้ว และความเร็วรอบที่ 110rpm

จะได้ความเร็วประมาณ 18.97 kph


ผมต้องใช้วิชายืนปั่น เป็นระยะๆ เพื่อลดแรงกดทับที่เป้า

ซึ่งเป็นตัวปัญหาสำคัญ ที่ทำให้ต้องลงจากรถ


อยากเอื้อมมือไปถ่ายด้านหลัง ให้เห็นยาง แต่ไปถึง

เห็นแต่ไฟท้ายที่หมวก


ลองถ่ายมุมเงยดูบ้าง เห็นท้องฟ้า ใสมาก


ไม่มีเมฆสักก้อนเลย


รอบนี้ ผมไม่ถ่ายวิดีโอแล้วครับ เพราะทำให้ต้องเสียสมาธิ

ไปดูแลกล้องนาน ไม่เหมือนภาพนิ่ง ถ่ายแป๊บเดียวเสร็จ


เก็บระยะทางไปเรื่อยๆ ครับ


ใช้เวลาพอสมควร แล้วก็มาถึงแยกไป อ.พิบูลมังสาหารแล้วครับ


กำลังปั่นข้ามสะพานข้ามแยก


แล้วก็มาถึง แม่น้ำมูล


แสงสะท้อนน้ำ


วันนี้เลือกมาปั่นวันเสาร์ครับ คิดว่ารถน่าจะน้อย


ผ้าบัฟ ใส่แบบนี้จนชินแล้วครับ มันดีนะครับ

ช่วยลดเหงื่อที่จะไปโดนสายรัดคาง ทำให้สายรัดคางไม่เค็มจนเกินไป





มันใหญ่ ถ่ายมุมเงย ไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ฟ้า


แล้วก็มาถึงแยกไป อ.ตาลสุม แยกนี้ได้ไฟเขียวครับ



ปั่นไปเรื่อยๆ ครับ จริงๆ แล้วผมคิดหนักนะครับ

ทุกครั้งที่มาปั่นแบบมาราธอน เพราะมันนาน และมันเหนื่อยมาก

แต่ก็อยากจะรู้ อยากทดลอง เลยมาครับ


แล้วก็มาถึงแยกไป อ.ตระการพืชผล แยกนี้โดนไฟแดง

ต้องรีบเดินข้ามถนน พร้อมดื่มน้ำที่แยกนี้ด้วย คอแห้งมาก


จังหวะเดินข้าม


ถึงห้วยวังนองแล้ว


ก่อนหน้านี้ โดนไปอีก 1 ไฟแดง ที่สามแยกแห่งหนึ่ง

เป็นการลงจากรถ ครั้งที่ 4


ถึงแยกไป จ.อำนาจเจริญแล้วครับ โดนอีกไฟแดง ต้องลงจากรถ

เป็นครั้งที่ 5


ถึงแยกไป จ.ยโสธรแล้วครับ โดนอีกตามเคย ไฟแดง ต้องลงจากรถเป็นครั้งที่ 6

แต่ก็พยายามข้ามไฟแดงให้ไวนะครับ ไม่โอ้เอ้


ตอนนี้วนกลับมาข้ามแม่น้ำมูลอีกครับ มืดแล้วด้วยครับ

ครั้งก่อน เดินพักนานที่สะพานนี้ ครั้งนี้ไม่มีพักแล้วครับ ปั่นยาวเลย

ลงเมื่อจำเป็นเท่านั้น


ถึงแยกไปศรีษะเกส ก็โดนอีกไฟแดง เป็นการลงเดินครั้งที่ 7

กินน้ำที่แยกนี้ด้วย คอแห้งสุดๆ


เหงื่อตกครับ มันไกล และนาน อยากกลับบ้านสุดๆ


ในที่สุดก็ถึงแยกสุดท้าย แยกไป อ.กัณทรลักษ์ วนกลับมาที่เดิมแล้ว

ใกล้ถึงเส้นชัย พยายามปั่นเต็มที่เลยครับ


ผลคือ กลับถึงบ้านเวลา 19.08

ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 54 นาที หรือคิดเป็น 2.90 ชั่วโมง

จับหารกับ 48 km ได้ความเร็วเฉลี่ยออกมาที่ 16.55 kph

ดีกว่าครั้งก่อนเพียง 0.11 kph เท่านั้น

จึงวิเคราะห์ผลการปั่น เทียบกับครั้งก่อน ดังนี้ครับ

1) เชื่อว่าขาจาน 110mm เร็วกว่า 125mm และคิดว่าไม่ดูพลังมากด้วย เพราะขากลับมาบ้าน ขามันก็ล้าพอๆ กัน ทั้งสองครั้ง ครั้งก่อน ที่ใช้ระยะ 110mm สถิติช้ากว่าครั้งนี้เล็กน้อย เพราะพักนานในครั้งสุดท้าย ที่เดินข้ามสะพาน ที่พักนาน เพราะตอนนั้น ยังใช้วิชายืนปั่นไม่คล่อง ทำให้ก้นระบม จำเป็นต้องพัก

2) ที่สถิติครั้งนี้ดีกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย เพราะไม่ได้พักเลย มีแต่ลงจากรถเมื่อจำเป็น ทั้งหมด 7 ครั้ง แล้วก็รีบปั่นต่อ วิชายืนปั่นเป็นระยะๆ ใช่ได้ผลดีครับ

หมายความว่า ถ้าใช้ขาจาน 110mm แล้วปั่นแบบไม่พักเลย ก็จะเร็วขึ้นอีกหน่อย ประมาณดู คิดว่าน่าจะได้สัก 17 kph ที่สภาวะการทดลองเดียวกันนี้

แต่คิดว่า ไม่ค่อยอยากไปปั่นอีกแล้วหละครับ เพราะมันเหนื่อยมาก และนานด้วย

และัปัจจัยรบกวนมีเยอะด้วย เช่นไฟแดง รถเยอะบางจุดที่ผ่านชุมชน

ส่วนขาจาน 110mm คิดว่าคงไม่กลับไปใช้แล้วหละครับ เพราะมันเหมาะกับมาราธอนเท่านั้น

ถ้าไม่ได้ปั่นมาราธอน มันจะหนักไป เล่นยากตอนความเร็วต่ำ

และการไปปั่นมาราธอน มันก็ไม่ได้ไปบ่อยๆ ด้วยครับ

ถ้าจะไปอีก คงต้องมียางโทนเกียร์ก่อนครับ จะได้เร็วขึ้นอีก





 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 17:40:18 น.
Counter : 2862 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ปั่นหาของกิน ที่เชียงคาน"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์


กลับมาต่อ กับบล็อกสุดท้าย ของปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 7 ภูกระดึง-เชียงคาน


ยามเช้า ที่เชียงคาน มีตักบาตรข้าวเหนียว คล้ายๆ ที่หลวงพระบางเหมือนกันครับ

ผมไม่ได้มาถ่ายเองหรอกครับ ยังนอนอยู่เลย


ตื่นมานั่ง ชมบรรยากาศริมโขง ไม่ต้องรีบครับ


จากนั้นก็ค่อยออกพจญภัย หาของกิน เท่าที่ถามดูแล้ว สิ่งที่ต้องไปลองกิน

เมื่อมาที่เชียงคาน ได้แก่ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว และปาท่องโก๋สอดใส้

ดังนั้น ภาระกิจวันนี้คือ ตามหา item สองอันนี้แหละ


item ชิ้นแรก พบแล้วครับ อยู่ในซอย ถ้ามาหาเองโดยไม่ถามชาวบ้าน คิดว่าหายากอยู่

ผมยังจำไม่ได้เลย ว่าซอยไหนอย่างไร แล้วก็มัวแต่กิน ลืมถ่ายรูปหน้าตาอาหารไว้ด้วย

อธิบายได้เป็นคำพูด ว่ามันคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยว เพียงแต่ใส่เส้นขนมจีนนั่นเอง


จากนั้นก็ออกตามหา item ชิ้นที่สอง อยู่ในตลาดสด


จอดรถไว้ แล้วเดินหา


เจอแล้วครับ ปาท่องโก๋สอดใส้ มีสองรส


มีป้ายเตือนด้วยนะครับ ของแท้ต้องทรงบูมเมอแรง ปาไปแล้ววนกลับมาได้


จอดรถไว้ที่ร้านไข่กะทะ อันนี้ผมอยากกินเอง


มาดูหน้าตา item ชิ้นที่สองกันครับ หลังจากที่ไม่ได้ถ่าย item ชิ้นแรก เพราะกลืนลงท้องไปหมดก่อน

มันจะมีสองใส้ คือใส้กล้วย กับใส้เค็ม (ผมเรียกถูกป่าวนะ)


ที่สำคัญคือ ปริมาณมันเยอะมากครับ อยากจะลองซื้อของปลอมมากินเทียบก็ไม่ได้

เป็นความชาญฉลาดทางการตลาดโดยแท้ ซื้อของแท้ทีเดียวอิ่ม

ไม่มีที่ว่างในพุง ไว้ใส่ของปลอมแล้ว

ใส้กล้วย อารมณ์จะคล้ายๆ โรตีกล้วยหอมครับ แต่แป้งหนานุ่มกว่า

ส่วนใส้เค็ม อารมณ์จะคล้ายๆ ปอเปียะ บวกตือคาโค มีน้ำจิ้มให้

สรุปว่าอร่อยมากครับ มาเชียงคาน ต้องมาลองให้ได้นะครับ


อันนี้ของโปรดผมเอง ไข่กะทะ หากินได้ทั่วไป


นี่ไงครับ ปาท๋องโก๋สอดใส้ของปลอม เจอแล้วครับ

ผมอยากจะให้ความเป็นธรรม ทั้งของจริง และของปลอมนะครับ

คือผมไม่ยึดติดอยู่แล้ว ไม่แน่ ของปลอดอร่อยกว่าก็ถมไป

แต่ปัญหาคือ พุงไม่มีที่ว่างแล้ว


ภาระกิจเสร็จสมบูรณ์ครับ เก็บ item ทั้งสองชนิดลงพุงเรียบร้อย


จากนั้นก็ปั่นกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวเช็คเอาท์


มีทางปั่นแคบๆ ริมโขมด้วยครับ


คิดว่าคอจักรยาน น่าจะชอบเชียงคานนะครับ มันน่าปั่น


กินแล้ว ก็มาปั่นเผาผลาญ จะได้ไปกินใหม่


เห็นร่องบล็อคตัวหนอนแล้ว คิดถึงสมัยอดีต ตอนที่หัดยางโทนใหม่ๆ

ตอนโน้น แค่ร่องเล็กๆ ตื้นๆ ก็สะดุดล้มแล้วล้มอีก

เรียกได้ว่า ถ้าหัดใหม่ พื้นต้องเรียบสุดๆ เลยครับ สะดุดมดยังไม่ได้เลย ตลกมาก

แต่ตอนนี้ ถือว่าหมูมาก เพราะชั่วโมงบินเยอะแล้วครับ


และจอดถ่ายภาพ ให้พาหนะคู่ใจ


ยางโทน 24@เชียงคาน


อ่าว รถนำขบวนของผม หายลับเลย แต่ก็ไม่หลงหรอกครับ มันมีอยู่เส้นเดียวนี่แหละถนน


กำลังจะถึงที่พักแล้วครับ


บรรยากาศตรงข้ามที่พัก


ผมมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อน่อง กับกล้ามเนื้อบริเวณหน้าแข่ง

จากการเดินลงภูกระดึงครับ มันคงต้องยั้งๆ เกร็งๆ ขาบ่อย ทางมันชัน

ส่วนกล้ามเนื้ออื่น ที่ใช้ร่วมกับการปั่น ก็ไม่เจ็บนะครับ


นอนเล่นชิวๆ ก่อนอำลาเชียงคาน

ก็เป็นอันจบปฏิบัิิติการนอกสถานที่ครั้งที่ 7 ภูกระดึง-เชียงคาน แต่เพียงเท่านี้ครับ




จากนั้นก็ไปพักที่ของแก่นอีก 1 คืน


เห่อเสื้อเชียงคานนิดหน่อย


แวะกินไข่กะทะร้านดัง ที่ขอนแก่น


ยางโทนกลับรัง

ภาพบรรยากาศ ณ บขส. ปรับอากาศ จ.ขอนแก่น




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 3 พฤษภาคม 2555 12:10:07 น.
Counter : 2377 Pageviews.  

วิถีผู้กล้า ตอน "ยางโทนเจอยางโทน ที่เชียงคาน"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์

กลับมาต่อ ในปฏิบัติการนอกสถานที่ครั้งที่ 7 ภูกระดึง-เชียงคาน



หลังจากปั่นวอร์มแถวๆ สวนสาธารณะได้ที่แล้ว ก็ออกพจญภัยกันดีกว่า

หาป้ายสักหน่อย จะได้มีหลักฐานชัดเจน ว่าอยู่เชียงคาน


เวลาจะถ่ายภาพ ในตำแหน่งที่ต้องการ เทคนิคการกระโดดอยู่กับที่ จำเป็นมากครับ

ถ้าใครคิดจะเล่นยางโทน ต้องทำเทคนิคนี้ให้ได้ จะได้ใช้ประโยชน์บ่อยมาก

ไม่ว่าจะกระโดดรอ เช่นรอไฟแดง รอเวลามีสิ่งกีดขวางต่างๆ

ใช้กระโดดเพื่อแต่ง เวลาเราขึ้นรถไม่ได้สมดุลย์ ก็กระโดดแต่งได้

ใช้กระโดด เวลาจะเสียหลักล้ม ในกรณีที่ปั่น off road ก็จะช่วยให้ทรงตัว พารถไปต่อได้

และใช้เืพื่อการถ่ายรูป ในตำแหน่งที่ต้องการก็ได้ด้วยครับ


โอ้ ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง มียางโทนจอดโชว์ไว้ ราวกับว่า รอผู้กล้ามาขี่

ถ้าใครขี่ได้ ก็จะยกให้เลย ถ้าเป็นเช่นที่ผมคิดเล่นๆ นี้จริง เสร็จผมแน่



ปั่นชมเมือง ตอนเย็นครับ



อากาศดีครับ ฝนเพิ่งตกไป ยังเห็นมีน้ำขังอยู่เลย


เจออะไรน่าสนใจก็ถ่าย


ปั่นจนค่ำครับ ตอนค่ำ ที่ถนนชายโขง ก็จะกลายเป็นถนนคนเดิน



ยางโทน 24 กับถนนคนเดิน เหมาะมากครับ มันเล็ก ควบคุมง่าย คล่องตัว

จะจอดจะแวะ สะดวกมาก


ตอนนี้อยู่หน้าร้านขายเสื้อ


เสียตังจนได้


ของกินก็มีมากมาย ให้เลือกชิม


แต่ละร้าน เขาก็จัดฉากไว้ ให้เราถ่ายรูปครับ


ลองสองล้อดูครับ เผื่อจะเข้า แต่คิดว่าไม่เข้านะ


คนไม่เยอะนะครับ มาช่วงเดือนเมษา


ก็จะมีทั้งคนเดิน และคนปั่นจักรยานเที่ยว มีผมคนเดียวนี่แหละ ที่แปลกเพื่อน


อยากดูร้านไหนก็แวะได้เลยครับ


บรรยากาศก็ออกแนวรีโทรย้อนยุค บ้านไม้เก่าๆ คลาสสิคๆ


ถ้ามาช่วงพีค คนต้องเยอะแน่นอนเลยครับ

แต่ที่นี่ยังไม่บูมมากนะครับ ถ้าบูมมากๆ ก็จะกลายเป็นเหมือนปาย


จบภาระกิจวันนี้แล้วครับ ได้เวลาพักผ่อนแล้ว

พรุ่งนี้ (บล็อกหน้า) ค่อยลุยต่อ ไปหาของอร่อยกินดีกว่า






 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 15:16:47 น.
Counter : 1716 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

RouteRaideR
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




จักรยาน มีล้อเดียว มันเสียวล้ม
ต้องเพาะบ่ม หมั่นฝึกฝน จนคล่องแข็ง
จะได้ขี่ กระโดดเด้ง เร่งหลบแซง
แม้หลุมแอ่ง อุปสรรค กล้าเิผชิญ

ขี่เก่งแล้ว ก็ค่อยออก ไปเที่ยวเล่น
ปั่นแล้วเป็น เหมือนบินลิ่ว ปลิวลมเหิน
นั่งตัวตรง ไม่มีแฮนด์ เป็นส่วนเกิน
ชมวิวเพลิน ผจญภัย ไม่เบื่อเลย

by RouteRaideR
Friends' blogs
[Add RouteRaideR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.