Group Blog
All Blog
|
### นอนเบิ่งตาท้าเลเซอร์ ให้หมอพิชิตต้อกระจก ### ในห้องผ่าตัดเล็กๆนี้ ฉันเห็นเตียงนอนแคบๆ แคบจริงๆ เพราะคุณอาจจะตกลงมากองกับพื้นได้ พยาบาลนำหมวกพลาสติกมาคลุมผมให้ จากนั้นเธอก็บอกให้ฉันขึ้นไปนอนราบ ก็เจ้าเสื้อพลาสติกนี่แหละ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด แต่เมื่อคลุมหน้าทำให้คนไข้รู้สึกอึดอัดในการหายใจ ไม่สามารถยกระดับผ้าบริเวณใบหน้าให้สูงขึ้น เพราะช่วงใบหน้าสามารถยกให้สูงขึ้นหน่อยได้ มันแค่ช่วยให้คนไข้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาถูกคลุมหน้า แต่ผลที่ตามมามันไม่คุ้มก็อย่างว่าแหละ โทษใครไม่ได้ หากใช้ผ้าเราสามารถนำกลับมาซักฆ่าเชื้อได้ เพราะระบบการทำลายเชื้อโรคของโรงพยาบาลนั้น เอาละๆ เพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อยไปพอสมควรแล้วเล่าต่อดีกว่า จากนั้นเธอก็นำเทปมาปิดคิ้ว ปิดขนตาล่าง เสียงเดินเบาๆเข้ามาใกล้ตัวฉัน เอาไว้นาบตัวก็ไม่ใช่ที่กลัวเผลอ แต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น เสียงคุณหมอพูดเบาๆขึ้นว่า จากนั้นฉันรู้สึกทันทีว่า โดนเข็มจิ้มเข้าสู่ร่างกายแล้ว ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณหมอฉีดยาชาให้ฉันกี่เข็ม และคิดว่าร่างกายของฉันพร้อมแล้ว ส่วนใจของฉันนั้นฉันไม่ไปท่องเที่ยวที่ไหนหรอก ตาฉันยังคงเบิ่งจ้องแสงไฟดวงนั้นตลอดเวลา จ้องอยู่สักพัก จากนั้นจิตฉันก็เริ่มว่าง โดยเฉพาะสีเหลืองอ่อนนั้นนั้นมีมากกว่าสีอื่น คุณหมอและพยาบาลคงทำงานกันอยู่อย่างเชี่ยวชาญ ฉันไม่รู้ว่าเวลาได้ล่วงเลยไปนานเท่าไรแล้ว เปรียบเสมือนดวงตา ลองถามตัวเองก่อนว่า หากเราไม่ต้องการความสว่างไสวแล้ว เพราะเขาอาจจะรุกลามจนอาจจะกลายเป็นต้อหินได้ สำหรับฉัน คิดเพียงว่าโลกนี้ยังศิวิไลยิ่งนัก มันอาจจะเป็นการสร้างความรำคาญให้กับใครต่อใคร เพราะฉันไม่แคร์แล้ว ก็ฉันมองเห็นฝั่งแล้วนี่นา และเมื่อนั้นฉันก็คงจะทิ้งไว้แค่ตัวหนังสือบอกเล่าเรื่อง แต่แปลก!!!!!!! ฉันไม่เห็นดวงไฟที่ส่องหน้าของฉัน พลัน.....ฉันก็ได้ยินเสียงคุณหมอ นี่คงเป็นการรายงานว่าเธอหยิบเลนส์ตามาไม่ผิดแน่ ฉันรู้สึกได้ว่าคุณหมอกำลังใส่เลนส์ตาให้กับฉันใหม่ เพราะไม่ต้องมีการเกาะเกี่ยวเลย ระหว่างนี้คุณหมอบอกให้ฉันเหลือบตาลงล่าง อยากจะรู้นักว่า เมื่อหมอใส่เลนส์ใหม่ให้กับฉันแล้ว สักพักแสงสีเหลืองที่กระจายอยู่ทั่วค่อยๆรวมตัวกัน โดยยังมีแสงสีเหลืองกระจายล้อมดวงไฟดวงนี้อยู่ทั่ว และแล้ว ความมืดสนิทปราศจากแสงใดๆ คล้ายแสงดาวกระจัดกระจายไปทั่ว เสียงคุณหมอพูดเบาๆว่า เสร็จแล้ว สำหรับยาหยอดตาที่จะให้ไปในวันนี้นั้น อะไรกันนี่...เสร็จแล้วหรือ ง่ายๆ ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่น่ากลัวเลยสักนิด ยังคงเหลือว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นเช่นไรก็เท่านั้น ฉันรู้สึกว่าได้มีการแกะเทปที่ปิดคิ้ว ก็เห็นว่าไฟที่ส่องหน้าได้ถูกดับลงแล้ว พยาบาลได้นำเสื้อพลาสติกที่คลุมร่างฉันออก ฉันเดินออกมาได้พบกับหมอที่ทำการผ่าตัดให้ คุณหมอบอกว่าใช้วิธีการยิงเลเซอร์ เพราะตลอดเวลาฉันไม่กรอกตาไปมาเลย จะมีบางครั้งที่คุณหมอสั่งให้มองซ้าย มองขวา ซึ่งฉันก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ฉันจะนำไปเขียนเล่าให้แฟนๆของฉัน มันไม่น่ากลัวเลยสักนิด และไม่เจ็บด้วย หรือพิษของยาพาราเซตามอลยังกระจัดกระจายในกายอยู่ คุณหมอเห็นด้วยกับฉัน ฉันกล่าวคำขอบคุณคุณหมอ และต้องใช้ชีวิตเป็นแม่เสือสาวตาข้างเดียว สำหรับวันนี้ต้องพักยกชั่วคราว |
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |