Group Blog
 
All Blogs
 
ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 10





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 10



จากตอนที่แล้ว โม่หม่าบอกจื้อกุ้ยเรื่องครอบครัวของเธอ
ทำให้จื้อกุ้ยเสียใจมาก ซ่งชิงพยายามปลอบเธอว่า เธอไม่ได้ตัวคนเดียว
เธอยังมีฉีเฉียวเป็นพี่สาวอีกคนหนึ่ง




จื้อกุ้ยรู้สึกสับสนในใจ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นซือจินหรือจื้อกุ้ยกันแน่
แล้วทำไมทุกครั้งที่เธอเห็นโม่หม่า เธอจะรู้สึกหวาดหวั่น
คิดไปคิดมา เลยพลาดตกเนินเขา ศีรษะไปกระแทกต้นไม้
จื้อกุ้ยจึงจำเรื่องราวในอดีตได้





โม่หม่ารู้ตัวว่าสู้อาจารย์กวนไม่ได้ จึงคิดใช้พิษงูวางยา
จะให้รออีกสิบปี ยี่สิบปีมันนานเกินไป
ทำแบบนี้ ไม่ได้นะ คิดว่าพ่อจะภูมิใจหรือ





ซ่งชิง: ไม่ได้นะ ทำอย่างนี้ไม่ได้
อาจารย์กวนเป็นปรมาจารย์ ท่านต้องดูออกแน่
โม่หม่า: ข้าไม่สน ข้าจะล้างแค้นให้ได้
ซ่งชิง: ถ้าเจ้าตาย จะล้างแค้นได้ยังไง
โม่หม่า ฟังข้านะ ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเจ้า ข้ากลับไปบ้านเหมยไม่ได้แล้ว
หากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าก็ไม่เหลือใคร
ให้เวลาตัวเองบ้าง ไม่ว่านานแค่ไหน ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า
ข้าจะช่วยเจ้าเอง

คนเขากำลังซาบซึ้งกัน จื้อกุ้ยก็มาเห็นเข้าพอดี
เฮ้อ ไม่รู้จะนึกออกไปทำไม ถ้ารู้แล้วต้องเสียใจแบบนี้





เฮ่าเซินกับเสี่ยวกวงออกตามหาจื้อกุ้ย ยิ่งใกล้มืด เฮ่าเซินก็ยิ่งร้อนใจ
จนมาพบจื้อกุ้ยอยู่ในป่าไผ่ จึงหายกังวล

ต้วนเฮ่าเซิน: ซือจิน ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะหาเจ้าไม่เจอ
ข้ากลัวว่าจะไม่ได้พบเจ้าอีก
เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน
ต้วนเฮ่าเซิน: เด็กโง่ ไม่เป็นไรแล้วนะ
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้านึกว่าข้าจะไม่ได้กลับไปสำนักมังกรดำอีกแล้ว
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าจะต้องพาเจ้ากลับไปอยู่แล้ว
เหยียนจื้อกุ้ย: ทำไม อาจารย์รองต้องไล่ข้าด้วย
ท่านบอกว่าข้าเป็นตัวถ่วงของพี่ ข้าเป็นตัวถ่วงของพี่หรือเปล่า
ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่ต้องห่วง ตราบใดพี่ยังอยู่ จะมีใครไล่เจ้าได้






หมั่นไส้พี่เฮ่าเซิน เห็นน้ำตาสาวเข้าหน่อยก็กลับไปต่อว่าอาจารย์รองทันที
แต่กลับโดนอาจารย์รองชิงต่อว่าซะก่อน อยู่ดีๆ ทิ้งการชุมนุมเจ้าสำนักไปดื้อๆ ไม่รับผิดชอบซะเลย

ต้วนเฮ่าเซิน: ก็อย่างที่ท่านพูดแหละ คนเราต้องมีความรับผิดชอบ
ข้าถึงไม่ยอมให้ท่านไล่ซือจินไปจากสำนักเรา
ซือจินความจำเสื่อม นางอยู่เมืองหลวงตัวคนเดียว
ทำแบบนี้จะไม่ใจไม้ใส้ระกำไปหน่อยหรือ
ถ้าแค่ผู้หญิงคนเดียวยังดูแลไม่ได้ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องดูแลสำนักแล้วมั้ง
หยงไป่ซุน: ถ้าไม่กระทบสำนักล่ะก็ ต่อให้เจ้าดูแลผู้หญิงเป็นร้อย ข้าก็ไม่ว่า
นี่เจ้าเรียกข้าเป็นอาจารย์รอง หรือจะไม่ให้ข้าสนใจ
ต้วนเฮ่าเซิน: ซือจินไม่เกี่ยว
หยงไป่ซุน: เจ้าออกจากที่ประชุมกลางคัน ยังว่านางไม่เกี่ยวอีก
ทำอย่างนี้ เจ้าสำนักทั้งหลายจะไว้ใจเลือกเจ้าเป็นประธานหอการค้าได้หรือ
ตัวนเฮ่าเซิน: ก็ถ้าท่านไม่ไล่ซือจินไป ข้าก็คงไม่ต้องทิ้งการประชุม
หยงไป่ซุน: ข้าทำไปก็เพื่อเจ้า เพื่อสำนักมังกรดำ
ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้ดีกว่าเจ้า ขืนปล่อยให้ผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอยู่ด้วย
ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเรื่องแน่




ต้วนเฮ่าเซิน; ซือจินไม่มีวันเป็นตัวถ่วงหรอก นางมีแต่จะเป็นกำลังใจให้กับข้า
ถ้าไม่ได้นางให้กำลังใจ ข้าคงไม่รับตำแหน่งเจ้าสำนักแทนพ่อหรอก
หยงไป่ซุน: เห็นมั้ย เพื่อผุ้หญิงคนนี้ แม้แต่อาจารย์รอง เจ้าก็ไม่ฟัง
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้านับถือท่านเสมอ ข้ารู้ว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อข้า
ข้าหวังว่าท่านจะให้เกียรติข้าบ้าง อย่ายุ่งเรื่องนี้อีกเลย
หยงไป่ซุน: หากเจ้านับถือข้าจริง ก็ไล่ผู้หญิงคนนั้นไปซะ




ต้วนเฮ่าเซิน: ท่านอยากให้ข้าเป็นเจ้าสำนัก ท่านก็ต้องให้ฟังข้าในฐานะเจ้าสำนักด้วย
หยงไป่ซุน: อ้อ เดี่ยวนี้ เอาฐานะเจ้าสำนักมาขู่ข้าแล้วหรือ
ต้วนเฮ่าเซิน: อาจารย์รอง ข้าจะตั้งใจสืบทอดสำนัก ไม่ให้เสียชื่อท่านพ่อ
ส่วนเรื่องซือจิน ข้าก็ไม่ไล่นางไป ขืนใครรู้ว่าสำนักมังกรดำ
ดูแลผู้หญิงคนเดียวยังไม่ได้ จะเสื่อมเสียชื่อเสียงสำนักเปล่าๆ
หยงไป่ซุน: ก็ดี อยากทำอะไรก็ทำ เกิดเรื่องขึ้นมาอย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ




เห็นโม่หม่าเริ่มถลำลึก ซ่งชิงก็อยากให้เลิกแผนการนี้เสีย
ขืนบอกตอนนี้ โม่หม่าคงไม่อาจถอนตัวจากความเกลียดชังไปตลอดชีวิต
อาจารย์กวนตัดสินใจพาโม่หม่าขึ้นไปฝึกวิชาบนเขา
และจะเปิดช่องให้โม่หม่ามีโอกาสลงมือสังหาร เพื่อบีบให้เขาเลือกทางเดิน
อาจารยน์กวนมั่นใจว่า สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์จะทำให้โม่หม่าเลือกทางที่ถูกต้อง





สมกับเป็นโม่หม่า ขึ้นเขาหลายวัน ก็ไม่เตรียมเสบียงมา
กะมาล่าสัตว์หากินเอาดาบหน้า
อาจารย์กวนแบ่งเสบียงให้โม่หม่า ทำให้เขานึกถึงสมัยเด็ก
ศิษย์อาจารย์แบ่งปันกันกิน
โม่หม่าไม่อยากรับน้ำใจฆาตกรฆ่าบิดา จึงแกล้งทำเป็นไม่หิว





ถึงเวลาฝีกต่อสู้ จำไว้ว่ากำลังมาจากกล้มเนื้อภายนอก
พลังมาจากภายใน หากทำจิตให้ว่าง จะสามารถควบคุมทุกการเคลื่อนไหว
รวดเร็วดุจสายฟ้า ลื่นไหลดุจสายน้ำ
การต่อสู้อย่างจริงจัง จึงจะช่วยให้โม่หม่าจับเคล็ดวิชาได้
ขอให้ระวังการจู่โจมจากอาจารย์ให้ดี เพราะอาจารย์จะไม่ออมมือเด็ดขาด





โม่หม่าไม่สามารถหลบการจู่โจมของอาจารย์ได้
มองด้วยตาก็อย่างนี้แหละ ไม่อาจมองเห็นมุมอับสายตาได้หรอก





โม่หม่าลองใช้ใจมอง ก็รับรู้การเคลื่อนไหวของอาจารย์กวน
จนสามารถเป็นฝ่ายจู่โจมอาจารย์
แต่การเคลื่อนไหวที่โจ่งแจ้ง ทำให้อาจารย์รับมือได้ทัน





เหนื่อยนักก็พักหน่อย ไม่กินอะไรเลย จะเอาอะไรมาสู้อาจารย์ได้
หากมัวแต่มองใบไม้ มีหรือจะเห็นต้นไม้ยืนตระหง่านตรงหน้า
หากไม่ยอมปล่อยวาง คงไม่อาจก้าวไปอีกขั้น




จื้อกุ้ยคิดถึงฉีเฉียว จึงไปหานางที่โรงเตี๊ยม
ยังไงก็มีพี่สาวกับเขาอยู่คนเดียว





สองวันที่แล้ว เธอยังเป็นซือจินลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสำนักมังกรดำ
ซึ่งห่วงใยดูแลเธอทุกอย่าง แม้เธอจำอะไรไม่ได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ตอนนี้ เธอจำทุกอย่างได้แล้ว เธอไม่ใช่ซือจินอีกต่อไป

เหยียนจื้อกุ้ย: แม้ข้าจะอยากเป็นซือจินเพียงไร
แต่มีแต่เหยียนจื้อกุ้ยที่มีท่านเป็นพี่สาว
เหยียนฉีเฉียว: ไม่ว่าเจ้าจะเป็นซือจินหรือจื้อกุ้ย
เจ้าก็เป็นน้องสาวข้าเสมอ ที่ข้าทำเป็นไม่รู้จักเจ้า
เพราะอยากให้เจ้าปลอดภัยจากไฉเหว่ย
มีเพียงสำนักมังกรดำที่ปกป้องเจ้าได้
ที่สำคัญ ข้าบอกได้เลยว่าต้วนเฮ่าเซินห่วงใยเจ้ามาก
อยู่กับเขา เจ้าจะมีความสุข
ถ้าเจ้าชอบเขา ก็ควรถนอมวันเวลานี้ไว้ ลืมเรื่องในอดีตซะ
อีกอย่างข้าได้ยินว่าบุตรชายของฉีเฉียงจะกลับมารักษาตัวที่เมืองหลวง
หากไฉเหว่ยรู้ว่าเจ้ากลับมา จะต้องจับเจ้าไปบังคับให้แต่งงานเป็นแน่
เจ้าก็เป็นซือจินต่อไปเถอะ






ต้วนเฮ่าเซินให้เสี่ยวกวงสืบประวัติเหยียนจื้อกุ้ย
เขาสงสัยว่าซือจินจะเสียความทรงจำหลังเหตุการณ์ที่พ่อแม่และน้องชายถูกฆ่าตาย
แต่เพื่อปกป้องนางจากฉีเฉียงและไฉเหว่ย
จึงต้องปกปิดชาติกำเนิดนางไว้ ให้นางเป็นซือจินต่อไป





เสี่ยวกวงเป็นเพื่อนจื้อกุ้ยไปเที่ยวตลาด
คล้อยหลังหน่อยเดียว ไฉเหว่ยก็จับตัวนางไปเสียแล้ว

ดูดิ๊ เฮ่าเซินอุตส่าห์ย้ำแล้วย้ำอีก ให้ดูแลนางให้ดี





จื้อกุ้ยจะปฏิเสธว่านางไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ยยังไง
ไฉเหว่ยก็ไม่สนใจ ถึงไม่ใช่ ถ้าข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว จะทำอะไรได้




ไฉเหว่ยจับจื้อกุ้ยขังในห้องคุณชายฉี



เสี่ยวกวงรีบรุดไปตามเฮ่าเซิน
อาจารย์สามคัดค้านไม่ยอมให้เฮ่าเซินยกพวกไปทวงคนคืนจากรองนายกเทศมนตรี
งานนี้ หม่าเฉียงขอเข้าข้างเฮ่าเซิน มีอย่างที่ไหน เป็นถึงรองนายกเทศมนตรี
กลับกล้าใช้คนมาฉุดคร่าหญิงสาวกลางตลาด กลางวันแสกๆ





ความจริง คุณชายฉีก็ไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่บิดาทำ
จื้อกุ้ยรู้สึกโล่งอกที่เรื่องไม่เลวร้ายอย่างที่กลัว




เฮ่าเซินยกพวกมาทวงคน ฉีเฉียงปฏิเสธไม่เคยเห็นนาง
ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าไฉเหว่ยฉุดจื้อกุ้ยมา ยังกล้าปฏิเสธหน้าด้านๆ อีก
เสี่ยวกวงไม่พอใจ แอบขว้างรองเท้าใส่หน้าไฉเหว่ย จนเกือบเกิดการปะทะกัน





โชคดี คุณชายฉีพาจื้อกุ้ยออกมาทันเวลา
คุณชายฉีขอประกาศให้ชัดไปเลยว่า เธอไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ยคู่หมั้นของเขา
แถมยังประกาศยกเลิกพันธะหมั้นหมายระหว่างเขาจับเหยียนจื้อกุ้ยอีกด้วย

ลูกชายว่ายังไง พ่อก็ว่ายังงั้น ตามใจลูกแล้วกัน





เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน ข้าขอโทษ ข้าก่อเรื่องให้ท่านเดือดร้อนอีกแล้ว
ต้วนเฮ่าเซิน: เจ้าไม่ผิดซักหน่อย ข้าสิรับปากจะดูแล ปกป้องเจ้า
แต่กลับปล่อยให้เจ้าต้องเผชิญกับเรื่องเช่นนั้น ข้าต้องเป็นฝ่ายขอโทษเจ้ามากกว่า
เหยียนจื้อกุ้ย: หน้าตาข้าคงคล้ายกับเหยียนจื้อกุ้ยมากสินะ
พวกเขาถึงได้เข้าใจผิดอยู่เรื่อย
ต้วนเฮ่าเซิน: แล้วถ้าเจ้าเป็นเหยียนจื้อกุ้ยล่ะ เจ้าจะยอมแต่งงานกับคุณชายฉีหรือไม่
เหยียนจื้อกุ้ย: ถ้าข้าเป็นเหยียนจื้อกุ้ย ข้ายอมตายซะดีกว่า
ต้วนเฮ่าเซิน: ตายหรือ
เหยียนจื้อกุ้ย: ใช่ ข้าไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักหรอก
อีกอย่าง ตระกูลฉีก็แค่ต้องการผู้หญิงไว้คลอดลูกชายเท่านั้นเอง
เช่นนี้ เหยียนจื้อกุ้ยก็น่าสงสารออก ข้าหวังว่าตระกูลฉีจะไม่มีวันหานางเจอ
ต้วนเฮ่าเซิน: ดีที่เจ้าไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ย เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า
จะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้ารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะอยู่เคียงข้างข้า พี่เฮ่าเซิน






โม่หม่ายังไม่ยอมแพ้ หาทางลอบทำร้ายอาจารย์กวน
ยิ่งลงมือหนัก ก็ยิ่งส่งผลให้ตัวเองเจ็บหนัก
คนเราต้องมีทางถอยให้คนอื่นบ้าง





อาจารย์กวนรักษาอาการบอบช้ำให้โม่หม่าจนหมดแรงสลบไป
เปิดโอกาสให้โม่หม่าลงมือ










Create Date : 24 พฤษภาคม 2552
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:02:24 น. 3 comments
Counter : 1389 Pageviews.

 
เฮ่าเซินรักจื้อกุ้ยมากมายเลยนะเนี่ย จื้อกุ้ยสมควรตัดใจจากโมหม่าเถอะค่ะ มีคนรักและเห็นค่าตัวเองขนาดนี้โชคดีจะแย่แล้ว

ตอนนี้จบได้น่าใจหายจัง อาจารย์กวนจะเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย เป็นห่วงค่ะ


โดย: O-yohyo วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:17:17:48 น.  

 
ตอนจบข้าน้อยร้อง อ๊ากกกก! ตัดจบได้ทรมานใจคนอ่านอีกแล้วนะเจ๊ อิอิ

ต๊าย คุณชายฉีเป็นคนดีผิดกับพ่อเลย คงเพราะขึ้โรคแต่เด็ก เลยไม่ค่อยได้ใกล้ชิดบิดา ไม่งั้นคงโตมาโหดเหมือนกันแน่


ฉากสารภาพความรู้สึกของซ่งชิงซึ้งมากเลย สองคนก็มีกันและกันอยู่แค่นี้ เฮ้อ เรื่องนี้มีแต่คนไร้ญาติขาดมิตร ก็ช่วงสงครามนินะ



โดย: แมวเก้าแต้ม IP: 192.168.182.54, 112.142.63.232 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:2:47:58 น.  

 
จื้อกุ้ยเค้าเป็นพวกความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ทีที่นั่น

ไม่ยอมแพ้เอาซะจริง ทำให้เรื่องยิ่งยุ่งหนักเข้าไปอีก

ถ้าจื้อกุ้ยยอมเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของโม่หม่ากับซ่งชิง

ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ คงไม่เกิดเรื่องทรมานใจคนดูตามมา

หนังจีนชอบจบแบบนี้แหละ ถึงทำให้ดูกันเปลี่ยนแผ่นแทบไม่ทัน

ว่าจะหยุดดูตอนนี้ หนอย มันก็ทิ้งท้ายให้อยากดูตอนหน้า

เป็นแบบนี้ทุกคอน


โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:19:31:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.