Group Blog
 
All Blogs
 

ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 10





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 10



จากตอนที่แล้ว โม่หม่าบอกจื้อกุ้ยเรื่องครอบครัวของเธอ
ทำให้จื้อกุ้ยเสียใจมาก ซ่งชิงพยายามปลอบเธอว่า เธอไม่ได้ตัวคนเดียว
เธอยังมีฉีเฉียวเป็นพี่สาวอีกคนหนึ่ง




จื้อกุ้ยรู้สึกสับสนในใจ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นซือจินหรือจื้อกุ้ยกันแน่
แล้วทำไมทุกครั้งที่เธอเห็นโม่หม่า เธอจะรู้สึกหวาดหวั่น
คิดไปคิดมา เลยพลาดตกเนินเขา ศีรษะไปกระแทกต้นไม้
จื้อกุ้ยจึงจำเรื่องราวในอดีตได้





โม่หม่ารู้ตัวว่าสู้อาจารย์กวนไม่ได้ จึงคิดใช้พิษงูวางยา
จะให้รออีกสิบปี ยี่สิบปีมันนานเกินไป
ทำแบบนี้ ไม่ได้นะ คิดว่าพ่อจะภูมิใจหรือ





ซ่งชิง: ไม่ได้นะ ทำอย่างนี้ไม่ได้
อาจารย์กวนเป็นปรมาจารย์ ท่านต้องดูออกแน่
โม่หม่า: ข้าไม่สน ข้าจะล้างแค้นให้ได้
ซ่งชิง: ถ้าเจ้าตาย จะล้างแค้นได้ยังไง
โม่หม่า ฟังข้านะ ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเจ้า ข้ากลับไปบ้านเหมยไม่ได้แล้ว
หากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าก็ไม่เหลือใคร
ให้เวลาตัวเองบ้าง ไม่ว่านานแค่ไหน ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า
ข้าจะช่วยเจ้าเอง

คนเขากำลังซาบซึ้งกัน จื้อกุ้ยก็มาเห็นเข้าพอดี
เฮ้อ ไม่รู้จะนึกออกไปทำไม ถ้ารู้แล้วต้องเสียใจแบบนี้





เฮ่าเซินกับเสี่ยวกวงออกตามหาจื้อกุ้ย ยิ่งใกล้มืด เฮ่าเซินก็ยิ่งร้อนใจ
จนมาพบจื้อกุ้ยอยู่ในป่าไผ่ จึงหายกังวล

ต้วนเฮ่าเซิน: ซือจิน ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะหาเจ้าไม่เจอ
ข้ากลัวว่าจะไม่ได้พบเจ้าอีก
เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน
ต้วนเฮ่าเซิน: เด็กโง่ ไม่เป็นไรแล้วนะ
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้านึกว่าข้าจะไม่ได้กลับไปสำนักมังกรดำอีกแล้ว
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าจะต้องพาเจ้ากลับไปอยู่แล้ว
เหยียนจื้อกุ้ย: ทำไม อาจารย์รองต้องไล่ข้าด้วย
ท่านบอกว่าข้าเป็นตัวถ่วงของพี่ ข้าเป็นตัวถ่วงของพี่หรือเปล่า
ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่ต้องห่วง ตราบใดพี่ยังอยู่ จะมีใครไล่เจ้าได้






หมั่นไส้พี่เฮ่าเซิน เห็นน้ำตาสาวเข้าหน่อยก็กลับไปต่อว่าอาจารย์รองทันที
แต่กลับโดนอาจารย์รองชิงต่อว่าซะก่อน อยู่ดีๆ ทิ้งการชุมนุมเจ้าสำนักไปดื้อๆ ไม่รับผิดชอบซะเลย

ต้วนเฮ่าเซิน: ก็อย่างที่ท่านพูดแหละ คนเราต้องมีความรับผิดชอบ
ข้าถึงไม่ยอมให้ท่านไล่ซือจินไปจากสำนักเรา
ซือจินความจำเสื่อม นางอยู่เมืองหลวงตัวคนเดียว
ทำแบบนี้จะไม่ใจไม้ใส้ระกำไปหน่อยหรือ
ถ้าแค่ผู้หญิงคนเดียวยังดูแลไม่ได้ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องดูแลสำนักแล้วมั้ง
หยงไป่ซุน: ถ้าไม่กระทบสำนักล่ะก็ ต่อให้เจ้าดูแลผู้หญิงเป็นร้อย ข้าก็ไม่ว่า
นี่เจ้าเรียกข้าเป็นอาจารย์รอง หรือจะไม่ให้ข้าสนใจ
ต้วนเฮ่าเซิน: ซือจินไม่เกี่ยว
หยงไป่ซุน: เจ้าออกจากที่ประชุมกลางคัน ยังว่านางไม่เกี่ยวอีก
ทำอย่างนี้ เจ้าสำนักทั้งหลายจะไว้ใจเลือกเจ้าเป็นประธานหอการค้าได้หรือ
ตัวนเฮ่าเซิน: ก็ถ้าท่านไม่ไล่ซือจินไป ข้าก็คงไม่ต้องทิ้งการประชุม
หยงไป่ซุน: ข้าทำไปก็เพื่อเจ้า เพื่อสำนักมังกรดำ
ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้ดีกว่าเจ้า ขืนปล่อยให้ผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอยู่ด้วย
ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเรื่องแน่




ต้วนเฮ่าเซิน; ซือจินไม่มีวันเป็นตัวถ่วงหรอก นางมีแต่จะเป็นกำลังใจให้กับข้า
ถ้าไม่ได้นางให้กำลังใจ ข้าคงไม่รับตำแหน่งเจ้าสำนักแทนพ่อหรอก
หยงไป่ซุน: เห็นมั้ย เพื่อผุ้หญิงคนนี้ แม้แต่อาจารย์รอง เจ้าก็ไม่ฟัง
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้านับถือท่านเสมอ ข้ารู้ว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อข้า
ข้าหวังว่าท่านจะให้เกียรติข้าบ้าง อย่ายุ่งเรื่องนี้อีกเลย
หยงไป่ซุน: หากเจ้านับถือข้าจริง ก็ไล่ผู้หญิงคนนั้นไปซะ




ต้วนเฮ่าเซิน: ท่านอยากให้ข้าเป็นเจ้าสำนัก ท่านก็ต้องให้ฟังข้าในฐานะเจ้าสำนักด้วย
หยงไป่ซุน: อ้อ เดี่ยวนี้ เอาฐานะเจ้าสำนักมาขู่ข้าแล้วหรือ
ต้วนเฮ่าเซิน: อาจารย์รอง ข้าจะตั้งใจสืบทอดสำนัก ไม่ให้เสียชื่อท่านพ่อ
ส่วนเรื่องซือจิน ข้าก็ไม่ไล่นางไป ขืนใครรู้ว่าสำนักมังกรดำ
ดูแลผู้หญิงคนเดียวยังไม่ได้ จะเสื่อมเสียชื่อเสียงสำนักเปล่าๆ
หยงไป่ซุน: ก็ดี อยากทำอะไรก็ทำ เกิดเรื่องขึ้นมาอย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ




เห็นโม่หม่าเริ่มถลำลึก ซ่งชิงก็อยากให้เลิกแผนการนี้เสีย
ขืนบอกตอนนี้ โม่หม่าคงไม่อาจถอนตัวจากความเกลียดชังไปตลอดชีวิต
อาจารย์กวนตัดสินใจพาโม่หม่าขึ้นไปฝึกวิชาบนเขา
และจะเปิดช่องให้โม่หม่ามีโอกาสลงมือสังหาร เพื่อบีบให้เขาเลือกทางเดิน
อาจารยน์กวนมั่นใจว่า สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์จะทำให้โม่หม่าเลือกทางที่ถูกต้อง





สมกับเป็นโม่หม่า ขึ้นเขาหลายวัน ก็ไม่เตรียมเสบียงมา
กะมาล่าสัตว์หากินเอาดาบหน้า
อาจารย์กวนแบ่งเสบียงให้โม่หม่า ทำให้เขานึกถึงสมัยเด็ก
ศิษย์อาจารย์แบ่งปันกันกิน
โม่หม่าไม่อยากรับน้ำใจฆาตกรฆ่าบิดา จึงแกล้งทำเป็นไม่หิว





ถึงเวลาฝีกต่อสู้ จำไว้ว่ากำลังมาจากกล้มเนื้อภายนอก
พลังมาจากภายใน หากทำจิตให้ว่าง จะสามารถควบคุมทุกการเคลื่อนไหว
รวดเร็วดุจสายฟ้า ลื่นไหลดุจสายน้ำ
การต่อสู้อย่างจริงจัง จึงจะช่วยให้โม่หม่าจับเคล็ดวิชาได้
ขอให้ระวังการจู่โจมจากอาจารย์ให้ดี เพราะอาจารย์จะไม่ออมมือเด็ดขาด





โม่หม่าไม่สามารถหลบการจู่โจมของอาจารย์ได้
มองด้วยตาก็อย่างนี้แหละ ไม่อาจมองเห็นมุมอับสายตาได้หรอก





โม่หม่าลองใช้ใจมอง ก็รับรู้การเคลื่อนไหวของอาจารย์กวน
จนสามารถเป็นฝ่ายจู่โจมอาจารย์
แต่การเคลื่อนไหวที่โจ่งแจ้ง ทำให้อาจารย์รับมือได้ทัน





เหนื่อยนักก็พักหน่อย ไม่กินอะไรเลย จะเอาอะไรมาสู้อาจารย์ได้
หากมัวแต่มองใบไม้ มีหรือจะเห็นต้นไม้ยืนตระหง่านตรงหน้า
หากไม่ยอมปล่อยวาง คงไม่อาจก้าวไปอีกขั้น




จื้อกุ้ยคิดถึงฉีเฉียว จึงไปหานางที่โรงเตี๊ยม
ยังไงก็มีพี่สาวกับเขาอยู่คนเดียว





สองวันที่แล้ว เธอยังเป็นซือจินลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสำนักมังกรดำ
ซึ่งห่วงใยดูแลเธอทุกอย่าง แม้เธอจำอะไรไม่ได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ตอนนี้ เธอจำทุกอย่างได้แล้ว เธอไม่ใช่ซือจินอีกต่อไป

เหยียนจื้อกุ้ย: แม้ข้าจะอยากเป็นซือจินเพียงไร
แต่มีแต่เหยียนจื้อกุ้ยที่มีท่านเป็นพี่สาว
เหยียนฉีเฉียว: ไม่ว่าเจ้าจะเป็นซือจินหรือจื้อกุ้ย
เจ้าก็เป็นน้องสาวข้าเสมอ ที่ข้าทำเป็นไม่รู้จักเจ้า
เพราะอยากให้เจ้าปลอดภัยจากไฉเหว่ย
มีเพียงสำนักมังกรดำที่ปกป้องเจ้าได้
ที่สำคัญ ข้าบอกได้เลยว่าต้วนเฮ่าเซินห่วงใยเจ้ามาก
อยู่กับเขา เจ้าจะมีความสุข
ถ้าเจ้าชอบเขา ก็ควรถนอมวันเวลานี้ไว้ ลืมเรื่องในอดีตซะ
อีกอย่างข้าได้ยินว่าบุตรชายของฉีเฉียงจะกลับมารักษาตัวที่เมืองหลวง
หากไฉเหว่ยรู้ว่าเจ้ากลับมา จะต้องจับเจ้าไปบังคับให้แต่งงานเป็นแน่
เจ้าก็เป็นซือจินต่อไปเถอะ






ต้วนเฮ่าเซินให้เสี่ยวกวงสืบประวัติเหยียนจื้อกุ้ย
เขาสงสัยว่าซือจินจะเสียความทรงจำหลังเหตุการณ์ที่พ่อแม่และน้องชายถูกฆ่าตาย
แต่เพื่อปกป้องนางจากฉีเฉียงและไฉเหว่ย
จึงต้องปกปิดชาติกำเนิดนางไว้ ให้นางเป็นซือจินต่อไป





เสี่ยวกวงเป็นเพื่อนจื้อกุ้ยไปเที่ยวตลาด
คล้อยหลังหน่อยเดียว ไฉเหว่ยก็จับตัวนางไปเสียแล้ว

ดูดิ๊ เฮ่าเซินอุตส่าห์ย้ำแล้วย้ำอีก ให้ดูแลนางให้ดี





จื้อกุ้ยจะปฏิเสธว่านางไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ยยังไง
ไฉเหว่ยก็ไม่สนใจ ถึงไม่ใช่ ถ้าข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว จะทำอะไรได้




ไฉเหว่ยจับจื้อกุ้ยขังในห้องคุณชายฉี



เสี่ยวกวงรีบรุดไปตามเฮ่าเซิน
อาจารย์สามคัดค้านไม่ยอมให้เฮ่าเซินยกพวกไปทวงคนคืนจากรองนายกเทศมนตรี
งานนี้ หม่าเฉียงขอเข้าข้างเฮ่าเซิน มีอย่างที่ไหน เป็นถึงรองนายกเทศมนตรี
กลับกล้าใช้คนมาฉุดคร่าหญิงสาวกลางตลาด กลางวันแสกๆ





ความจริง คุณชายฉีก็ไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่บิดาทำ
จื้อกุ้ยรู้สึกโล่งอกที่เรื่องไม่เลวร้ายอย่างที่กลัว




เฮ่าเซินยกพวกมาทวงคน ฉีเฉียงปฏิเสธไม่เคยเห็นนาง
ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าไฉเหว่ยฉุดจื้อกุ้ยมา ยังกล้าปฏิเสธหน้าด้านๆ อีก
เสี่ยวกวงไม่พอใจ แอบขว้างรองเท้าใส่หน้าไฉเหว่ย จนเกือบเกิดการปะทะกัน





โชคดี คุณชายฉีพาจื้อกุ้ยออกมาทันเวลา
คุณชายฉีขอประกาศให้ชัดไปเลยว่า เธอไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ยคู่หมั้นของเขา
แถมยังประกาศยกเลิกพันธะหมั้นหมายระหว่างเขาจับเหยียนจื้อกุ้ยอีกด้วย

ลูกชายว่ายังไง พ่อก็ว่ายังงั้น ตามใจลูกแล้วกัน





เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน ข้าขอโทษ ข้าก่อเรื่องให้ท่านเดือดร้อนอีกแล้ว
ต้วนเฮ่าเซิน: เจ้าไม่ผิดซักหน่อย ข้าสิรับปากจะดูแล ปกป้องเจ้า
แต่กลับปล่อยให้เจ้าต้องเผชิญกับเรื่องเช่นนั้น ข้าต้องเป็นฝ่ายขอโทษเจ้ามากกว่า
เหยียนจื้อกุ้ย: หน้าตาข้าคงคล้ายกับเหยียนจื้อกุ้ยมากสินะ
พวกเขาถึงได้เข้าใจผิดอยู่เรื่อย
ต้วนเฮ่าเซิน: แล้วถ้าเจ้าเป็นเหยียนจื้อกุ้ยล่ะ เจ้าจะยอมแต่งงานกับคุณชายฉีหรือไม่
เหยียนจื้อกุ้ย: ถ้าข้าเป็นเหยียนจื้อกุ้ย ข้ายอมตายซะดีกว่า
ต้วนเฮ่าเซิน: ตายหรือ
เหยียนจื้อกุ้ย: ใช่ ข้าไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักหรอก
อีกอย่าง ตระกูลฉีก็แค่ต้องการผู้หญิงไว้คลอดลูกชายเท่านั้นเอง
เช่นนี้ เหยียนจื้อกุ้ยก็น่าสงสารออก ข้าหวังว่าตระกูลฉีจะไม่มีวันหานางเจอ
ต้วนเฮ่าเซิน: ดีที่เจ้าไม่ใช่เหยียนจื้อกุ้ย เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า
จะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้ารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะอยู่เคียงข้างข้า พี่เฮ่าเซิน






โม่หม่ายังไม่ยอมแพ้ หาทางลอบทำร้ายอาจารย์กวน
ยิ่งลงมือหนัก ก็ยิ่งส่งผลให้ตัวเองเจ็บหนัก
คนเราต้องมีทางถอยให้คนอื่นบ้าง





อาจารย์กวนรักษาอาการบอบช้ำให้โม่หม่าจนหมดแรงสลบไป
เปิดโอกาสให้โม่หม่าลงมือ










 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:02:24 น.
Counter : 1386 Pageviews.  

ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 9





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 9



จากตอนที่แล้ว ต้วนเฮ่าเซินกับหม่าเฉียงตกลงประลองยุทธ์เลือกเจ้าสำนัก
หลังจากประมือกันพักใหญ่ อาจารย์รองหยงไป่ชุนเกรงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง
จึงรีบส่งสายตาให้หม่าเฉียงล้มมวยซะ รับปากแล้วห้ามเปลี่ยนใจ





เมื่อหม่าเฉียงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ บรรดาศิษย์ร่วมสำนักก็ยอมรับต้วนเฮ่าเซิน
อาจารย์รองดีใจที่ผลักดันเฮ่าเซินเป็นเจ้าสำนักได้สำเร็จ






เรื่องของสำนักมังกรดำกลายเป็นข่าวลือไปทั่วเมืองหลวง
ลือกันไปผิดๆ ถูกๆ บ้างก็บอกว่าโม่หม่าฆ่าตั่วนทีป๋อ บ้างก็บอกว่าทั้งคู่สู้เสมอ
ต้วนทีป๋อได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตหลังจากการต่อสู้
แถมยังเม้าท์ว่าพฤติกรรมของต้วนเฮ่าเซิน ที่มีผู้หญิงติดสอยห้อยตาม
ทำให้ศิษย์ร่วมสำนักไม่ให้ความยำเกรง คงเป็นเจ้าสำนักไม่ได้นาน ว่าไปนั่น

ฉีเฉียวรู้เข้าก็เป็นห่วงจื้อกุ้ย ฟงหนินจึงอาสาช่วยสืบความเป็นอยู่ของนางให้





ฟงหนินเดินตามจื้อกุ้ย จนนางสงสัย เขาจึงทำทีเป็นถามทางไปเหลาฉีฟงหนิน
ถามไปถามมา เริ่มซักไซ้เรื่องส่วนตัว จื้อกุ้ยระแวงว่าเขาต้องรู้จักนางมาก่อนแน่
ไม่งั้นจะห่วงใยถามไถ่ซะขนาดนี้หรือ





ต้วนเฮ่าเซินเห็นจื้อกุ้ยยื้อยุดฟงหนิน กลับคิดว่าเขาทำร้ายเธอ
จึงตรงเข้าไปผลักฟงหนิน ทำให้หยกที่ห้อยคอร่วงหล่น

หยกนี้คุ้นตาหยงไป่ชุนมาก ไปขโมยมาจากไหนสารภาพมาซะดีๆ





ที่ฉุนเฉียวซะขนาดนี้ เพราะหยงไป่ชุนจำได้ว่าเป็นหยกที่ตนมอบให้ลูกสาวก่อนจากกัน



เมื่อสอบถามเหมยฟงหนิน จึงได้รู้ว่าเขาได้รับหยกมาจากมารดา
แต่มารดาจะได้หยกมาจากไหนนั้นฟงหนินไม่รู้
เฮ่าเซินคืนหยกให้กับฟงหนินไป




ฉีเฉียวได้รู้ว่าน้องสาวสบายดีก็โล่งใจ
แหม ให้ไปถามข่าวคราวจื้อกุ้ยแค่เนี้ย เล่นหายไปครึ่งค่อนวัน
งานที่เหลายิ่งยุ่งๆ อยู่ กลับมาก็รีบไปล้างจานซะ
ฟงหนินงอนที่ฉีเฉียวห่วงแต่น้องสาวกับร้าน
ไม่ได้ห่วงใยที่เขาได้รับบาดเจ็บกลับมาเลย
งานเงินไม่ยอมทำ อ้างว่าจะไปเยี่ยมโม่หม่าซะอีก

ทิ้งเมียให้ทำงานดูแลร้านอยู่คนเดียว มันใช้ได้มั้ยเนี่ย




งอนฉีเฉียว ก็มาอ้อนขอให้ซ่งชิงช่วยทำอาหารให้กิน
อาหารที่ฉีเฉียวทำก็ไม่ใช่ว่าแย่อะไร แต่กินไม่อร่อย เพราะนางชอบบ่นนั่น โน่น นี่ตลอดเวลา
ซ่งชิงก็ตามใจ เข้าไปทำหมั่นโถวให้เพิ่ม
อาจารย์กวนเห็นแขนฟงหนินเป็นรอยช้ำ จึงซักจนรู้เรื่องฟงหนินถูกหยงไป่ชุนทำร้าย

ตกลงหยกนี้ฟงหนินได้มาจากไหน อาจารย์กวนก็ชักอยากรู้
มารดาฟงหนินให้หยกนี้แก่เขา เพื่อมอบให้ซ่งชิงในวันแต่งงาน
ฟงหนินฉวยโอกาสฝากหยกให้กับอาจารย์กวนไปมอบให้ซ่งชิง




อาจารย์กวนสงสัยว่าซ่งชิงจะเป็นบุตรสาวของหยงไป่ชุน
จึงเดินทางไปหามารดาของฟงหนินถึงหมู่บ้าน

ป้าเหมยดีใจที่ได้รู้ว่าฟงหนินเปิดเหลาขายติ่มซำที่เมืองหลวง
นางยังนึกว่าซ่งชิงอยู่ช่วยฟงหนินที่ร้าน อาจารย์กวนได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป

ในอดีต ลุงกับป้าของซ่งชิงเป็นเพื่อนบ้านของป้าเหมย
ช่วงสงคราม ทั้งคู่ต้องการเดินทางเข้าเมืองหลวง
กลับพบดิถล่มเสียชีวิต ทิ้งซ่งชิงไว้ตามลำพัง
ป้าเหมยรับซ่งชิงมาเลี้ยงดู โดยตั้งใจให้นางแต่งงานกับฟงหนิน
นางเก็บหยกของซ่งชิงไว้แทนของหมั้น





อาจารย์กวนรู้ดีว่าซ่งชิงเป็นคนที่โม่หม่ามีใจผูกพัน
หากเขารู้ว่าหยงไป่ชุนเป็นคนฆ่าพ่อแม่ เขาต้องไม่ยอมละเว้นหยงไป่ชุนแน่
เพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังต้องปวดร้าวเพราะความแค้นคนรุ่นก่อน
ถึงเวลาที่ต้องยุติความแค้นลงซะ




โม่หม่าจับหมาที่มาขโมยกินไก่ได้ คิดจะฆ่ามากิน
(อันนี้ไม่ได้อำนะ คนจีนเขากินหมากันอ่ะค่ะ)
แต่พอซ่งชิงขอร้อง ก็ยอมปล่อยไป
อาจารย์กวนยิ่งมั่นใจว่ามีเพียงซ่งชิงเท่านั้นที่จะกล่อมเกลาจิตใจโม่หม่าได้




อาจารย์กวนคืนหยกให้กับซ่งชิง พร้อมกับขอร้องให้ช่วยเหลือ
ตอนนี้โม่หม่ามีแต่ความแค้นในใจ ส่งผลให้ฝีกวิชาเท่าไหร่ก็ไม่คืบหน้า
ต้องเล่นไม้โหด หลอกโม่หม่าว่าอาจารย์กวนนี่แหละเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของโม่หม่า
โม่หม่าจะได้มีแรงฮึด ฝึกวิชาทั้งหมดจากอาจารย์กวน เพื่อล้างแค้น
อาจารย์กวนยังเชื่อมั่นว่า สายสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์
และความรักที่โม่หม่ามีต่อซ่งชิงจะช่วยให้โม่หม่าละทิ้งความแค้นได้




หลิวฉวนทำตามแผน
แสร้งทำเป็นเมาแล้วเกือบพลั้งปากเรื่องฆาตกรออกมา
สร้างความสงสัยให้กับโม่หม่า




วันรุ่งขึ้น ซ่งชิงมาตามตัวโม่หม่า
โดยอ้างว่านางแอบเห็นอาจารย์กวนกับหลิวฉวนต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทั้งคู่รีบรุดไปดู เห็นอาจารย์กวนกำลังทิ้งศพหลิวฉวน
โม่หม่าหลงเชื่อสนิทใจว่าอาจารย์กวนเป็นฆาตกร





โม่หม่าเจ็บใจศัตรูอยู่ตรงหน้ากลับล้างแค้นไม่ได้
เข้าทางซ่งชิง นางเสนอให้เขาเรียรรู้วิขากังฟูของอาจารย์กวนให้หมด
ทำเช่นนี้ จึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้





จะฝึกไทเก๊กขั้นแรกต้องทำใจให้สงบ ลืมเลือนตัวตน
ทำให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อม
โม่หม่าตั้งใจฝึกปรือ จนแม้สัตว์ป่าก็ยังคิดว่าเขาเป็นก้อนหิน





ป้าเหมยคิดถึงฟงหนิน จึงเดินทางเข้ามาเมืองหลวง
มาถึงก็ทะเลาะกับฉีเฉียวซะแล้ว
เนี่ยนะ เมียคนขยันของฟงหนิน ทีป้าได้ยินลูกค้าชมหนักชมหนา
ไม่เข้าตาป้าเอาซะเลย แล้วซ่งชิงหายไปไหนเนี่ย





ไอ้ลูกโง่เอ๊ย ปล่อยซ่งชิงไปเพราะพลาดไปมีอะไรผู้หญิงคนนี้เนี่ยนะ
ผู้ชายไม่เห็นต้องมีเมียเดียวเลย คนรวยๆ เขายังมีเมียตั้งสี่
ป้าไม่เกี่ยงมีลูกสะใภ้เยอะหรอก ตราบใดที่ไม่ต้องเสียเงินแต่งเข้าบ้าน




อาจารย์กวนสอนให้โม่หม่าใช้จิตใจควบคุมพลัง
แต่โม่หม่ายังมีจิตใจที่สับสน ทำให้พลังสับสน การออกหมัดก็พลอยสับสนไปด้วย
แล้วจะสู้อาจารย์ได้ยังไง ฮึ




เห็นหน้าอาจารย์กวนทีไร ใจก็คอยคิดว่าเป็นฆาตกรฆ่าพ่อ
แล้วจะให้สงบจิตใจได้อย่างไร ซ่งชิงแนะให้โม่หม่าลืมความเกลียดชังไปซะ
หากยังทำไม่ได้ ก็ให้คิดว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่อาจารย์กวน
แต่เป็นคนที่เขาเคารพนับถือ อย่างเช่นพ่อของเขา
โม่หม่าลองทำตาม ก็สามารถก้าวหน้าไปอีกขั้น





อาจารย์กวนดีใจที่แผนการเริ่มเป็นผล
ขั้นตอนต่อไปจะยากลำบากยิ่งขึ้นไปกว่านี้
แต่เชื่อว่ามีอาจารย์กวนกับซ่งชิงคอยช่วยเหลือ
โม่หม่าจะต้องผ่านไปได้แน่




ป้าเหมยพาฟงหนินมาขอร้องให้ซ่งชิงกลับไป
แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของโม่หม่า ซ่งชิงไม่ยอมทิ้งเขาไปแน่

ป้าเหมยชักฉุน ตอนซ่งชิงเดือดร้อน ป่วยไข้ ใครล่ะคอยดูแลห่วงใย
ทำมามาตอบแทนกันแบบนี้
ซ่งชิงยอมใจแข็ง ขอตอบแทนบุญคุณด้วยวิธีอื่น





เหล่าเจ้าสำนักประชุมเครียดเลือกสรรประธานสมาคม Hua Wan คนใหม่
ต้วนเฮ่าเซินก็ฟังๆ ไปอย่างนั้น
พอเสี่ยวกวงมาแจ้งว่าหยงไป่ชุนไม่รู้พาซือจินไปไหน ก็ร้อนใจรีบออกไปตาม

ก็น่าให้ชาวบ้านเขาเม้าท์ล่ะนะแบบนี้




หยงไป่ชุนเล็งเห็นว่าปล่อยให้ซือจินอยู่ข้างกายเฮ่าเซินต่อไปคงไม่ดี
เดี๋ยวเฮ่าเซินจะเสียอนาคตซะเปล่าๆ จึงให้เงินไล่นางไป
แถมยังเอาไปทิ้งซะกลางป่ากลางเขา กะว่าให้หาทางกลับกันไม่เจอเลยใช่มั้ยเนี่ย




จื้อกุ้ยหาทางออกจากป่า กลับไปเจอโม่หม่าเข้า
จื้อกุ้ยเห็นงูแล้วตกใจ จึงลื่นตกเขาจนไหล่หลุด โม่หม่าพากลับไปรักษาที่วัดเต๋า





จื้อกุ้ยเห็นโม่หม่าแล้วเริ่มนึกบางเหตุการณ์ออก
โม่หม่ก็ไม่ละเอียดอ่อนซะเลย พอรู้ว่าเธอสูญเสียความจำ
ดันโพล่งออกไปเรื่องพ่อแม่น้องชายเธอถูกฆ่าตาย

จื้อกุ้ยเสียใจรับไม่ได้ หรือว่าในโลกนี้ นางจะต้องเหลือตัวคนเดียว
ไร้ญาติขาดมิตร ไร้ที่พึ่งพา










 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:01:55 น.
Counter : 1046 Pageviews.  

ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 8





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 8



จากตอนที่แล้ว โม่หม่าไปอาละวาดถึงสำนักมังกรดำ
และได้ประมือกับต้วนทีป๋อ ระหว่างการต่อสู้ ต้วนทีป๋อหัวใจวายเสียชีวิตกระทันหัน





อาจารย์รอง อาจารย์สาม และต้วนเฮ่าเซินกลับมาถึงสำนักไล่เลี่ยกัน
พบเหล่าศิษย์ถูกโม่หม่าทำร้าย เจ้าสำนักก็มาเสียชีวิต
ทุกคนจึงเข้าใจผิดคิดว่าโม่หม่าเป็นฆาตกร





เลือดต้องล้างด้วยเลือด โม่หม่าต้องตาย




ถูกรุมขนาดนี้ โม่หม่าคนเดียวจะสู้ยังไงไหว
แถมตอนนี้ แต่ละคนก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังคำอธิบาย เผ่นก่อนดีกว่า





สำนักมังกรดำไล่ตามโม่หม่าไปถึงป่าไผ่
โม่หม่าสู้ไม่ไหว เกือบตายแล้วงานนี้





โชคดีของโม่หม่าที่อาจารย์กวนมาทัน จึงช่วยศิษย์รักไว้ได้




อาจารย์กวนประมือกับอาจารย์รอง แล้วรู้สึกว่าวิทยายุทธของเขา
เหมือนนักฆ่าชุดดำที่หลิวฉวนเคยเล่าให้ฟัง




ใจเย็นๆ กันก่อนได้มั้ย ชันสูตรสาเหตุการตายของเจ้าสำนักต้วนก่อน
หากโม่หม่าผิดจริงก็ยินดีให้จับตัวไปลงโทษ
เฮ่าเซินไม่ยอม จะเสียเวลาทำไม





ไฉเหว่ยนำกำลังตำรวจมาขัดขวาง หากเกิดการฆาตกรรมจริง
ก็เป็นหน้าที่ของกรมตำรวจต้องดูแล จะมาตั้งศาลเตี้ยกันเองไม่ได้
พลเมืองดีควรเคารพกฎหมายสิ





อาจารย์รองตัดสินใจให้ตำรวจรับหน้าที่สืบสวนคดี
อาจารย์กวนก็ยอมให้โม่หม่าโดนจับไปขังคุก ยังดีกว่าถูกยำบาทา




ศิษย์สำนักมังกรดำ รอฟังผลการชันสูตรที่หน้ากองบัญชาการตำรวจ
ซ่งชิงได้ข่าวโม่หม่าถูกจับ จึงรีบมาฟังข่าว
แค่รู้ว่าซ่งชิงเป็นเพื่อนกับโม่หม่า หม่าเฉียงก็ไม่พอใจ
ดีที่อาจารย์สามคอยห้ามปรามไว้ อย่าทำให้เสียชื่อสำนัก





ผลการขันสูตรออกมาว่าต้วนทีป๋อหัวใจวาย
ตัวนเฮ่าเซินไม่อยากเชื่อ พ่อสุขภาพดีออกจะตาย ไม่เห็นเคยมีอาการเจ็บป่วย

ต้วนเฮ่าเซิน: ฝีมือกังฟูพ่อ คนธรรมดาเอาชนะไม่ได้
ข้ายังไม่เคยชนะพ่อซักครั้ง แล้วพ่อจะมาป่วยตายได้ยังไง
กวนซานเยวี่ย: เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้าสำนักต้วนเป็นยอดยุทธ์ ไม่มีทางแพ้คนฝีมือธรรมดา
เจ้าเคยประมือกับโม่หม่ามาแล้ว เจ้าคิดว่าฝีมืออย่างเขามีปัญญาฆ่าเจ้าสำนักต้วนหรือ





กวนซานเยวี่ยคาดว่าเจ้าสำนักต้วนน่าจะเสียชีวิตเพราะโหมฝึกกังฟูมากเกินไป
อาจารย์รองก็ยืนยันว่า ระยะหลังนี้ ตัวนทีป๋อฝีกวิชาบ่อยขึ้น




หม่าเฉียงไม่ยอมรับผลชันสูตร ดึงดันจะฆ่าโม่หม่าให้ได้
ผู้ว่าจั๊วะเตือนสติ หม่าเฉียงยังไม่ยอมฟัง
มีอาจารย์สามคนเดียวที่รั้งเขาไว้ได้





ผิดแล้วต้องยอมรับผิด ต้วนเฮ่าเซินยอมขอโทษที่เข้าใจผิดโม่หม่า
ทำให้หม่าเฉียงไม่พอใจ คิดว่าเฮ่าเซินอ่อนแอเกินไป






ดูซิ ยอดฝีมืออย่างต้วนทีป๋อยังต้องมาตายเพราะมัวแต่คิดฝีกวิชาเพื่อเป็นที่หนึ่ง
โม่หม่าน่าจะจำไว้เป็นบทเรียน จะได้ไม่เจริญรอยตาม

สอนไปก็เท่านั้น เหมือนสีซอให้ควายฟัง
โม่หม่าคิดแต่เสียดายที่เจ้าสำนักต้วนตายเร็วไป
ไม่อย่างนั้น รอให้โม่หม่าฝึกวิชาเก่งกว่านี้ จะได้ไปท้าสู้อีก

เฮ้อ อาจารย์กวนได้แต่กลุ้มใจ ดูท่าลูกศิษย์คนนี้คงต้องขัดเกลากันอีกนาน




อาจารย์กวนสงสัยว่าหยงไป่ซุนผู้เป็นอาจารย์รองและพ่อบ้านของสำนักมังกรดำ
จะเกี่ยวพันกับการตายของบิดามารดาโม่หม่า




สำนักมังกรดำกำลังจัดเตรียมงานศพตัวนทีป๋อ
อาจารย์รองเห็นหม่าเฉียงทำตัวเหมือนเป็นเจ้าสำนักคอยสั่งการต่างๆ นานาก็ไม่พอใจ
จะทำอะไรก็ควรจะถามต้วนเฮ่าเซินก่อนถึงจะถูก
แม้เฮ่าเซินยังไม่ได้รับตำแหน่งเจ้าสำนัก แต่ก็เป็นบุตรชายคนเดียวของต้วนทีป๋อ





อาจารย์สามไม่เห็นด้วย
สำนักมังกรดำ ไม่เคยมีธรรมเนียมสืบทอดเจ้าสำนักจากบิดาสู่บุตร
ตอนเจ้าสำนักยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่เคยพูดว่าจะให้เฮ่าเซินสืบทอด
ซ้ำยังพูดบ่อยๆ ว่าจะมอบตำแหน่งให้กับผู้มืฝีมือ
หม่าเฉียงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์น้องก็ต้องให้ความสำคัญเป็นธรรมดา
อาจารย์รองกับอาจารย์สามถกเถียงกันจนต้วนเฮ่าเซินโกรธ

ต้วนเฮ่าเซิน: หยุดเถียงกันซะที พ่อข้าเพิ่งตาย
พวกท่านก็ทะเลาะแย่งขิงตำแหน่งเจ้าสำนักกันแล้ว





ศิษย์น้องอาข่ายเข้าข้างศิษย์พี่ใหญ่หม่าเฉียง
หาว่าเฮ่าเซินดีแต่ก้มหัวให้คนอื่น ไม่เหมาะสมเป็นเจ้าสำนัก
แต่พอเฮ่าเซินเอาเรื่องก็ไม่กล้าจริง ศิษย์พี่ใหญ่ต้องช่วยไกล่เกลีย




ตัวนเฮ่าเซิน: ข้ารู้ว่าพ่อตั้งความหวังในตัวข้าไว้มาก
ข้าไม่อยากทำให้พ่อต้องผิดหวัง แต่ข้าก็ทำให้เขาผิดหวังจนได้
ข้าเป็นลูกชายคนเดียวชองพ่อ พ่ออยากให้ข้าสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักมังกรดำ
ข้าคิดว่ายังมีเวลาที่จะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า ข้ามีความสามารถ
ข้านึกว่าข้ายังมีเวลาอีกมาก
เหยียนจื้อกุ้ย: เฮ่าเซิน
ต้วนเฮ่าเซิน: มันสายเกินไปแล้ว ไม่ว่าข้าจะทำอะไร
มันสายเกินไปจริงๆ ข้าไม่อาจทำอะไรให้พ่อได้อีก
ตอนพ่อตาย เขาก็ยังนึกว่าข้าเป็นลูกที่ไม่เอาถ่าน
เขายังคงเป็นห่วงข้า
เหยียนจื้อกุ้ย: มันไม่สายเกินไปหรอก ถ้าท่านตั้งใจที่จะทำ ไม่สาย
ต้้วนเฮ่าเซิน: แต่ตอนนี้ ถึงข้าทำอะไร พ่อก็ไม่เห็น
เหยียนจื้อกุ้ย: พ่อท่านอยากให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิต
ไม่ใช่เพื่อให้เขาเห็น หากการจากไปของเขาทำให้ท่านละทิ้งตัวเอง
พ่อท่านจะผิดหวังแค่ไหน
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้าทำให้พ่อผิดหวังมามากแล้ว ข้าจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวังอีก
เหยียนจื้อกุ้ย: ใช่แล้ว ถึงพ่อท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ท่านทำ เขาต้องรับรู้
เพราะเขาจะอยู่ในใจของท่านเสมอ
ต้วนเฮ่าเซิน: ข้ารู้แล้วว่าข้าควรจะทำอย่างไรต่อไป






รู้นะว่าเสียใจ แต่ไม่ควรระเบิดอารมณ์ต่อหน้าศิษย์ในสำนัก
ต่อไปจะต้องหัดควบคุมอารมณ์บ้าง
หยงไป่ซุนเอง ก่อนจะเข้าสำนักมังกรดำ ก็เคยมีบุตรสาวคนหนึ่ง
ตอนฮูหยินป่วยตาย เขาต้องการสร้างชื่อเสียง จึงฝากลูกสาวให้พี่ชายดูแล
ต่อมาเกิดแผ่นดินถล่ม ทั้งครอบครัวสูญหาย คาดว่าคงเสียชีวิตกันหมดแล้ว
แม้จะไม่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดี หยงไปซุ่นก็ไม่เคยเสียใจ
เพราะได้ช่วยเจ้าสำนักต้วนสร้างสำนักมังกรดำให้เป็นสำนักอันดับหนึ่งในเมืองหลวง
ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องยอมเสียสละ
บางครั้งเพื่อประโยชน์ของสำนัก ก็ต้องละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวไปซะ

พูดมาตั้งเยอะ เฮ่าเซินเข้าใจมั้ยเนี่ย




อาจารย์กวนให้โม่หม่าฝึกวิชาด้วยการแขวนไว้บนต้นไม้
ซ่งเขิงเห็นโม่หม่าทรมานแล้วใจอ่อน ปล่อยเขาลงมา
แต่ด้วยน้ำหนักตัวของโม่หม่า ซ่งชิงยึดเชือกไว้ไม่ไหว จึงล้มทับเขา

อิอิ คนเค้าไม่ตั้งใจน้า





แค่ทายา ยังไม่รู้จักหนักเบา แล้วจะเข้าใจไทเก๊กได้ยังไง
โม่หม่าเห็นซ่งชิงไม่เป็นไรมาก จึงขอให้นางแขวนเขาบนต้นไม้อีก





โม่หม่าเห็นดักแด้กลายเป็นผีเสื้อ เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
ทำให้ร่างกายไม่แข็งขืน ไม่ฝืนอีกต่อไป
เมื่อรู้เคล็ดลับการผ่อนคลายแล้ว โม่หม่าก็ขอให้ซ่งชิงปล่อยเขาลงมา





กลับมาลองขว้างรับไข่กันอีกครั้ง คราวนี้ โม่หม่ารับไข่ได้โดยไม่แตก




ต่อไปเป็นช่วงโชว์รำมวยของโม่หม่า ประกอบเพลงที่เพราะสุดๆ



งานศพต้วนทีป๋อ ทั้งผู้ว่า และเจ้าสำนักต่างให้เกียรติมาร่วมงาน
หม่าเฉียงร้องไห้ยังก้บงานศพพ่อตัวเอง





เจ้าสำนักต่่างๆ เห็นผูัว่าให้ความสำคัญกับหยงไป่ซุนมากกว่าต้วนเฮ่าเซิน
ชักสงสัยว่าใครจะเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป





หยงไป่ซุนฉวยโอกาสให้ต้วนเฮ่าเซินสัญญาต่อเจ้าสำนักทั้งหลาย
ศิษย์พี่ศิษย์น้อง และต้วนทีไป๋ ว่าจะสืบทอดปณิธานของบิดา
นำพาสำนักมังกรดำให้แข็งแกร่ง และรุ่งเรืองสืบไป

เปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้ว ถ้าเฮ่าเซินยังไม่รู้ตัวอีก ก็อย่าเป็นมันเลยเจ้าสำนัก
หยงไป่ซุนโล่งใจที่เห็นเฮ่าเซินให้คำมั่นต่อหน้าหลุมศพบิดา
เท่ากับเป็นการประกาศเจตนารมย์ว่าจะสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก
หากอาจารย์สามยังคิดขัดขวางอีก ก็คงจะยากหน่อยล่ะ





อาจารย์สามไม่พอใจที่อาจารย์รองมัดมือชก
ทั้งที่อดีตเจ้าสำนักเคยบอกว่าผู้สืบทอดเจ้าสำนักให้ดูกันที่ฝีมือ
หม่าเฉียงทำเพื่อสำนักมาหลายปี ส่วนเฮ่าเซินดีแต่เล่นสนุกไปวันๆ

หยงไป่ซุน: ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่เรื่องความสามารถด้านกังฟู
หม่าเฉียงก็เทียบเฮ่าเซินไม่ได้
หม่าเฉียง: ข้ามั่นใจว่า ข้าไม่มีทางแพ้เฮ่าเซินแน่
อาจารย์สาม: งั้นเรามาจัดประลองยุทธ์กัน ใครชนะก็ได้เป็นเจ้าสำนัก

ทั้งหม่าเฉียงและต้วนเฮ่าเซินต่างเห็นด้วย
ให้ผู้ชนะได้เป็นเจ้าสำนัก จะได้ไม่มีใครมาโต้แย้งอีก





หยงไป่ซุนรีบมาล้อบบี้หม่าเฉียงให้ยอมสละให้เฮ่าเซินเป็นเจ้าสำนักไปก่อน
มาแย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนักตอนนี้ คนอื่นจะหาว่าหม่าเฉียงไม่รู้จักบุญคุณอดีตเจ้าสำนัก
ให้ต้วนเฮ่าเซินดูแลสำนักซักพัก ค่อยยกให้หม่าเฉียงสืบทอด
ไม่เพียงแต่ช่วยให้อดีตเจ้าสำนักได้สมหวัง ยังจะไม่มีคนครหาอีกด้วย

ถ้าเห็นแก่สำนัก ก็ขอให้สู้แพ้เฮ่าเซินในวันพรุ่งนี้
หม่าเฉียงโดนอาจารย์รองกล่อมจนยอมรับปาก




ใกล้ถีงเวลาประลองยุทธ์ เฮ่าเซินยังไม่มา อาจารย์รองล่ะอ่อนใจ
ก็มัวแต่จุ๊กจิ๊กกับผู้หญิงอยู่ได้





การต่อสู้กำลังเข้มข้น ใครจะได้เป็นเจ้าสำนักคนใหม่
โปรดติดตามตอนต่อไป











 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:01:29 น.
Counter : 1150 Pageviews.  

ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 7





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 7



จากตอนที่แล้ว ต้วนเฮ่าเซินพาเหยียนจื้อกุ้ยกลับสำนักมังกรดำ
อาจารย์รองเห็นเฮ่าเซินห่วงใยจื้อกุ้ยมาก จึงคิดใช้นางบีบให้เฮ่าเซินยอมเป็นตัวแทนสำนัก
ร่วมประลองยุทธ์ในงานชุมนุมชาวยุทธ์
อาจารย์รองใช้ลูกไม้อ้างว่าต้วนทีป๋อต้องการให้เฮ่าเซินไล่จื้อกุ้ยไปซะ
ผู้หญิงมาอยู่ในสำนักกังฟูมันไม่สะดวก
แถมเรื่องความรักหญิงชายยังทำให้เฮ่าเซินไม่สนใจเรื่องของสำนักซะอีก

ต้วนเฮ่าเซิน: พ่อเข้าใจผิดใหญ่แล้ว ที่ข้าไม่อยากเข้าร่วมงานชุมนุม
ไม่เกี่ยวอะไรกับผู้้หญิงคนนั้นซักหน่อย





เหยียนจื้อกุ้ยได้ยินที่อาจารย์รองพูดนางจึงคิดจะจากไป
ต้วนเฮ่าเซินไม่ยอม ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปอยู่ไหนได้
เขาตัดสินใจยอมเป็นตัวแทนสำนัก สมใจอาจารย์รองจนได้





โม่หม่าตั้งใจฝึกมวยไทเก๊ก เขาสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลของแมว
จึงนำมาปรับใช้้้กับกระบวนท่า จนคล่องแคล่ว





ถึงวันชุมนุมชาวยุทธ์ โม่หม่าไม่ยอมพลาด ขอไปร่วมด้วย
ท่าทางของโม่หม่าสะดุดตามุนโหยวหว่อ





ตรงข้ามกันสุดๆ เฮ่าเซินเนี่ยถ้าพ่อไม่บังคับไม่มานั่งง่วงในงานประลองเด็ดๆ
ส่วนโม่หม่า ถึงไม่มีใครชวนก็จะมา




ตัวแทนสำนักกิมเจียงเป็นฝ่ายชนะ
อาจารย์รองกับต้วนทีป๋อรีบส่งสายตากดดันให้ต้วนเฮ่าเซินขึ้นเวที




พระเอกไม่แพ้ตัวประกอบอยู่แล้ว หุหุ





โม่หม่าเห็นแล้วคันไม้คันมือ ขอร่วมประลองด้วย
ตัวนทีป๋อมั่นใจ ถึงโม่ไหม่าจะได้รับการชี้แนะจากอาจารย์ดี
แต่ฝีมือยังไม่ถึงขั้น สู้ตัวนเฮ่าเซินไม่ได้แน่นอน




เหยียนจื้อกุ้ยอยากไปดูตัวนเฮ่าเซินประลองยุทธ
เสี่ยวกวงก็ตามใจนาง




อาจารย์รองและหม่าเฉียง เห็นเฮ่าเซินประลองกับโม่หม่าแล้วไม่เก๊ท
มัวแต่รุกอย่างเดียวระวังพลาดท่าให้โม่หม่า
ไม่รู้อะไรซะแล้ว เฮ่าเซินกำลังหลอกล่อให้โม่หม่าติดกับต่างหากเล่า

ไม่เพียงแต่ด้วนทีป๋อที่ดูออก มุนโหยวหว่อก็ดูออกว่าภายใน 10 กระบวนท่า
โม่หม่าต้องพ่ายแพ้แน่นอน





เหยียนจื้อกุ้ยเห็นโม่หม่าสู้กับต้วนเฮ่าเซิน รู้สึกหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมา
ต้วนเฮ่าเซินเป็นห่วงจื้อกุ้ย จึงเผลอตัวพลาดท่าโดนหมัดโม่หม่าตกเวที





เฮ่าเซินเห็นจื้อกุ้ยวิ่งหนีไป จึงไล่ตามนาง โดยไม่สนการประลอง
เล่นเอาต้วนทีป๋อฉุนขาด ส่วนมุนโหยวหว่อก็หมดอารมณ์จะดูต่อ





ด้วยความกลัวทำให้จื้อกุ้ยกลับมามีเสียงเหมือนเดิม
เฮ่าเซินยังหลงเข้าใจผิดว่านางห่วงใยเขา หารู้ไม่ว่าเป็นเพราะโม่หม่า
สำหรับแขาแพ้ชนะไม่สำคัญ เห็นจื้อกุ้ยพูดได้
เฮ่าเซินดีใจยิ่งกว่าชนะการประลองอีก





เห็นผู้หญิงสำคัญกว่าการประลอง ทำให้สำนักต้องอับอาย
ใครๆ จะนึกว่าสำนักมังกรดำมีแต่คนขี้ขลาดน่ะสิ
อาจารย์รองพยายามแก้ตัวแทนเฮ่าเซิน งานนี้ต้องไล่จื้อกุ้ยไปสถานเดียว




ต้วนเฮ่าเซินกลับมาขอโทษบิดา

ต้วนทีป๋อ: ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ
เหยียนจื้อกุ้ย: ท่านลุงคะ อย่าโทษเฮ่าเซินเลย
ข้าผิดเอง ข้าจะไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
ต้วนเฮ่าเซิน: เจ้ายังจำอะไรไม่ได้ จะไปไหนได้
เหยียนจื้อกุ้ย: ถึงข้าจะไม่มีที่ไป แต่ข้าก็ละอายเกินกว่าจะอยู่ที่นี่
ต้วนเฮ่าเซิน: เจ้าไม่ผิดซักหน่อย ข้าผิดเอง
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้าอยู่ต่อไป ก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้ท่านอีก
ต้วนทีป๋อ: พอแล้ว พอแล้ว ข้าไม่เคยพูดว่าจะไล่เจ้าไปซักหน่อย
ผู้ฝึกกังฟูต้องมีจิตใจกว้างขวาง ข้าไม่เชื่อว่าสำนักเราจะดูแลผู้หญิงซักคนไม่ไหว





ต้วนทีป๋อ: เจ้าไม่มีใครคอยดูแล หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า
ข้าคงไม่สบายใจ เสี่ยวกวง พานางกลับห้อง





เฮ่าเซินโล่งอก อย่างน้อยพ่อก็ไม่ไล่จื้อกุ้ยไป
จะทำโทษยังไงก็เต็มใจรับโทษทุกอย่าง

ต้วนทีป๋อ: โตแล้วยังไม่รู้จักอะไรก่อนหลัง
ทำผิดแล้วมาขอโทษทีหลังมันใช้ไม่ได้
โลกภายนอกมันไม่ง่ายดาย หากเจ้าทำผิดพลาด อาจต้องชดใช้ด้วยชีวิต
ต้วนเฮ่าเซิน: เอ่อ ผิดนิดผิดหน่อย พ่อคงไม่ฆ่าข้าหรอกมั้ง (เออ เอ้า ทำเป็นเล่นเข้าไป)
ต้วนทีป๋อ: ยังมาทำหน้าทะเล้นอีก ออกไปฝีกยืนท่าม้าเลยไป
หากข้าไม่สั่ง ห้ามกินห้ามดื่มอะไรทั้งนั้น
ดูซิว่าถึงเวลานั้น เจ้ายังจะยิ้มออกอยู่อีกมั้ย





มุนโหยวหว่อขอประลองฝีมือเล่นโกะ และวิชาไทเก๊กของอาจารย์กวน
แต่ก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปครึ่งกระบวนท่า






อาจารย์กวนให้โม่หม่าส่งแขก
มุนโหยวหว่อไม่รู้ตัวเลยว่ายุจนได้เรื่อง
ดันไปบอกโม่หม่าว่าที่จริงต้วนเฮ่าเซินจะเอาชนะโม่หม่าได้อยู่แล้ว
โม่หม่ายิ่งเป็นพวกไม่ยอมแพ้อยู่




มุนโหยวหว่อเป็นพี่น้องร่วมสาบานของไฉเหว่ย
ไฉเหว่ยเห็นเขาในงานประลองจึงติดตามมาถึงวัดเต๋า

ที่แท้ไฉเหว่ยเคยช่วยชีวิต มุนโหยวหว่อและช่วยส่งเสริมให้เขาได้ฝึกกังฟู
ไม่คาดว่ามุนโหยวหว่อจะหลงใหลในวิชาจนมุ่งหวังจะเป็นสุดยอดยุทธ
ไม่รู้จะฝึกไปทำไม ใช่ว่าเป็นสุดยอดยุทธแล้วจะสู้ปืนในมือได้
ไฉเหว่ยทวงสัญญา 5 ปี ที่มุนโหยวหว่อรับปากจะกลับมาช่วยเขาสร้างอาณาจักร

ยังไงไฉเหว่ยก็ไม่พอใจที่จะเป็นแค่ผู้บัญชาการตำรวจ
เขาจึงคิดจะอาศัยรองผู้ว่าฉีเจียงไต่เต้าขึ้นไปอีก




เหยียนจื้อกุ้ย: ขอโทษด้วย ข้าทำให้ท่านต้องถูกลงโทษ
ตัวนเฮ่าเซิน: ไม่ต้องขอโทษหรอก ข้ากำลังนึกว่าตัวเองเล่นเกมนั่งบนเอากาศอยู่
รางวัลที่ข้าจะได้รับ ก็อย่างเช่น มีใครซักคนห่วงใยข้า
เหยียนจื้อกุ้ย: ขนาดถูกห้ามดื่มน้ำ ท่านก็ยังยิ้มออกอยู่อีก
ไหนๆ ก็ไม่มีใครเห็น ท่านจิบน้ำซะหน่อยสิ
ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่เอาหรอก ข้าเต็มใจยอมรับการลงโทษนี้เอง
ข้าจะไม่ขี้โกง แอบฝ่าฝืนคำสั่ง
เหยียนจื้อกุ้ย: ซื่อสัตย์มันก็ดีอยู่หรอก




ตัวนเฮ่าเซิน: เจ้าทำอะไรเนี่ย
เหยียนจื้อกุ้ย: ก็ท่านถูกห้ามดื่มน้ำ แต่ไม่ได้ห้ามน้ำไหลเข้าปากท่านนี่
แบบนี้ ถือว่าไม่ผิดใช่มั้ย
ต้วนเฮ่าเซิน: นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกว่า น้ำเปล่าก็มีรสหวานชื่นใจ
ขอบใจเจ้ามาก
เหยียนจื้อกุ้ย: ข้าควรเป็นฝ่ายขอบคุณที่ท่านคอยดูแลข้ามากกว่า
ตัวนเฮ่าเซิน: ผู้ชายก็ต้องมีหน้าที่คอยดูแลผู้หญิงอยู่แล้ว
เห็นแก่น้ำชามนี้ ข้าจะช่วยเจ้าฟื้นความจำให้ได้





จื้อกุ้ยไปเซี่ยงไฮ้ตั้งนานไม่ส่งข่าวคราวมา ฉีเฉียวอดเป็นห่วงไม่ได้
ไฉเหว่ยยังคอยมารังควานอยู่บ่อยๆ ยังไงเขาก็ไม่เชื่อว่าจื้อกุ้ยจะไปไหนไกล




ต้วนเฮ่าเซินพาจื้อกุ้ยออกมาเดินเล่นเผ่ือนางจะจำอะไรได้บ้าง
ระหว่างที่เขาไปซื้อน้ำให้จื้อกุ้ย ฉีเฉียวก็พบนางเข้า
จื้อกุ้ยจำฉีเฉียวไม่ได้





ไหนบอกว่าจื้อกุ้ยไม่อยู่ไง หลอกกันแบบนี้ ต้องจับตัวไปสั่งสอนให้เข็ด
ดีนะที่ต้วนเฮ่าเซินกลับมาทันเวลา





กล้ามารังแกคนของสำนักมังกรดำเชียวหรือ




โทษทีลงมือหนักไปหน่อย เห็นฉุดคร่าผู้หญิงกลางถนน นึกว่าโจรซะอีก

ไฉเหว่ย: เหยียนจื้อกุ้ยเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของรองผู้ว่าฉี
เมื่อข้าพบนาง ก็จำเป็นต้องทำตามหน้าที่
นำตัวนางกลับไปตระกูลฉี เพื่อแต่งงานตามพันธะสัญญา




ฉีเฉียวกลัวน้องสาวจะเดือดร้อน รีบปฏิเสธว่าจำคนผิด

ไฉเหว่ย: คุณชายต้วนอย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่า
ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่ยุ่งได้ไง นางเป็นญาติผู้น้องของข้า เป็นคนของสำนักมังกรดำ
ไฉเหว่ย: นางเป็นญาติท่านจริงหรือ
ด้วนเฮ่าเซิน: ข้ารับนางมาจากเซี่ยงไฮ้ ใครกล้ารังแกนาง
ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับสำนักมังกรดำ




ฉีเฉียวโล่งใจที่ไฉเหว่ยยอมล่าถอย ส่วนจื้อกุ้ยก็นึกว่าที่เฮ่าเซินพูดเป็นเรื่องจริง

เหยียนจื้อกุ้ย: ทำไมท่านไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้
ต้วนเฮ่าเซิน: เอ่อ ก็ข้าอยากให้เจ้านึกออกเอง (แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ เจ็บสีข้างมั้ยนั่น)





ฉีเฉียวโกหกไปแล้วก็ได้แต่ปากแข็ง
ยืนยันว่าจื้อกุ้ยไม่ใช่น้องสาวเธอซึ่งหนีการแต่งงานไปกวางเจา
นางเห็นเฮ่าเซินห่วงใยจื้อกุ้ยมาก ก็รู้สึกเบาใจ
อย่างน้อยไฉเหว่ยก็เกรงใจสำนักมังกรดำ คงไม่กล้าตามไปรังควาน





เฮ่าเซินช่วยทายาที่แขนจื้อกุ้ย

เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน ข้าเป็นญาติผู้น้องท่าน ท่านต้องรู้สิว่าครอบครัวข้าอยู่ไหน
ทำไมพี่ไม่พาข้ากลับบ้านล่ะคะ
ต้วนเฮ่าเซิน: ตั้งแต่ครอบครัวเจ้าไปจากเมืองหลวง พวกเราก็ไม่ได้ติดต่อกัน
ข้าไม่รู้หรอกว่าครอบครัวเจ้าอยู่ที่ไหน
เหยียนจื้อกุ้ย: อ้อ งั้น ข้าชื่ออะไร
ต้วนเฮ่าเซิน: เอ่อ ซือจิน




ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะดูแลปกป้องเจ้าเอง
เหยียนจื้อกุ้ย: พี่เฮ่าเซิน ถ้าไม่มีท่าน ข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

จื้อกุ้ยได้กลิ่นยานวดแล้วนึกถึงตอนที่นางได้รับบาดเจ็บ
มีชายคนหนึ่งนำยามาให้ แต่นางกลับนึกหน้าเขาไม่ออก





ต้วนเฮ่าเซินออกตระเวนซื้อสมุนไพรให้กับจื้อกุ้ย
เผื่อนางได้กลิ่นแล้วจะนึกอะไรออกอีก
กลับเจอกับโม่หม่า ซึ่งยังคาใจการประลองหนที่แล้ว
โม่หม่าขอท้าประลองอีก ไม่มีปัญหา เฮ่าเซินไม่ซีเรียส อยากสู้ก็ได้ ชิลชิล
เที่ยงพบกันที่ป่าไผ่




ไม่ต้องห่วงน่า สู้กันครั้งที่แล้ว เฮ่าเซินก็อ่านทางมวยโม่หม่าออกหมด




หม่าเฉียงรู้เรื่องเฮ่าเซินนัดประลองกับโม่หม่าแล้วไม่พอใจ
เขาคิดว่ายังไงเฮ่าเซินก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ขืนปล่อยให้ไปสู้ มีแต่จะขายหน้าสำนักเปล่าๆ




อาจารย์กวนสอนโม่หม่าฝึกไทเก๊ก โดยพลังอ่อนหยุ่นรับไข่ไม่ให้แตก
โม่หม่าไม่เชื่อว่าจะทำได้ อาจารย์กวนต้องทำให้ดู

ซ่งชิงช่วยปาไข่จนหมดตะกร้าแล้วโม่หม่าก็ยังทำไม่ได้





ซ่งชิงเป็นห่วงกลัวโม่หม่าจะแพ้ให้กับเฮ่าเซิน จึงไปขอเคล็ดลับจากอาจารย์กวน

กวนซานเยวี่ย: คนที่คิดแต่จะเอาชนะอย่างโม่หม่า ข้าเห็นมาไม่น้อย
คนเหล่านี้จะเที่ยวท้าประลองไปวันๆ ถึงชนะ มือก็เปื้อนเลือดผู้อื่น
ทั้งชีวิตวนเวียนอยู่กับการแก้แค้น
ซ่งชิง: งั้นทำไมท่านยังฝึกกังฟู แถมสอนให้กับโม่หม่าอีกด้วย
กวนซานเยวี่ย: ที่ข้าทำก็ตั้งใจจะใช้ไทเก๊ก สอนจริยะนักสู้ให้กับโม่หม่าต่างหาก
นี่จึงเป็นสิ่งที่พ่อของโม่หม่ายึดมั่นมาตลอดชีวิต




หม่าเฉียงพาศิษย์น้องมาดักรอโม่หม่า
เพื่อขัดขวางไม่ให้โม่หม่าไปตามนัด




เฮ่าเซินไปรอโม่หม่าตามนัด รอเท่าไหร่โม่หม่าก็ไม่มาซะที




โม่หม่านึกว่าต้วนเฮ่าเซินไม่กล้าสู้กับเขา
เป็นถึงสำนักใหญ่กลับมีพฤติกรรมเช่นนี้
โม่หม่าเลือดขึ้นหน้า บุกไปถึงสำนักมังกรดำเพื่อตามหาเฮ่าเซิน





สุดท้ายกลับได้พบกับต้วนทีป๋อ
ต้วนทีป๋อเห็นโม่หม่าแล้วคิดถึงตัวเอง ที่เคยคิดว่าตัวนั้นเก่งกว่าชาวบ้าน
จนได้มาพบกับกวนซานเยวี่ยจึงรู้ว่าเหนือฟังยังมีฟ้า

โม่หม่า: ท่านยังแพ้ให้กับอาจารย์ข้า ลูกชายท่านก็ต้องแพ้ให้กับข้าด้วย (โห เหตุผลดีมากกก)
ต้วนทีป๋อ: เจ้าคิดผิดแล้ว เจ้าน่ะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฮ่าเซินหรอก
โม่หม่า: ใครแพ้ ใครชนะ ไม่ได้อยู่ที่ท่าน

โม่หม่าไม่พอใจลงมือกับต้วนทีป๋อ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย
คิดไม่ถึง ระหว่างการต่อสู้ ด้วนทีป๋อเกิดโรคหัวใจกำเริบ










 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 10:01:02 น.
Counter : 1556 Pageviews.  

ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 6





ไทเก๊ก หมัดทะลุฟ้า The Master of Taichi ตอน 6



จากตอนที่แล้ว โม่หม่าได้พบกับหลิวฉวนลูกน้องเก่าบิดา
จึงรบเร้าให้อาจารย์กวนเล่าประวัติของตนให้ฟัง

อาจารย์กวนพบกับโม่ชิ บิดาของโม่หม่าในกองพลไร้้้เทียมทาน
ซึ่งเป็นหน่วยงานของราชวงศ์ชิงที่ก่อตังขึน
เปลือกนอกเป็นหน่วยงานที่รวมผู้มีวิทยายุทธ์เป็นเลิศมาสอนกังฟูให้เด็กๆ ชาวแมนจู
แต่มีภารกิจลับรวบรวมสุดยอดวิชา
เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวฮั่นก่อกบฎล้มล้างราชวงศ์ชิง

ที่อาจารย์กวนเข้าร่วมกองพลนี้ เพราะคลั่งไคล้ในวิทยายุทธ์





วิทยายุทธของแต่ละสำนักล้วนมีจุดอ่อนจุดแข็งแตกต่างกัน
ยากจะบอกว่าสำนักไหนยอดเยี่ยมกว่า ขึนอยู่กับจริยะอันสูงส่งของจอมยุทธ์
นายพลโม่ชิมีอุดมการณ์ที่จะรวบรวมเคล็ดวิชาของทุกสำนัก
ไว้ในคัมภีร์ยุทธไร้เทียมทาน เพื่อสืบทอดแก่คนรุ่นหลัง

ต่อมาโม่ชิถูกศัตรูสังหารเพื่อชิงคัมภีร์ยุทธไร้้เทียมทาน
อาจารย์กวนจึงเปลี่ยนชื่อ ถอนตัวจากยุทธภพ
และพาโม่หม่าไปซ่อนตัวยังป่าเขา

โม่หม่าต้องการแก้แค้นแทนบิดา แต่อาจารย์กวนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร
ซ้ำคนร้ายยังมีวิทยายุทธ์ล้ำลึก หากโม่หม่ายังไม่สำเร็จยุทธ์
ก็อย่าเพิ่งคิดเรื่องแก้แค้นเลย





ไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาสพบหน้าหลิวฉวนสหายเก่า
หลิวฉวนรู้สึกผิดที่ไม่อาจรักษาคัมภีร์ไร้เทียมทานไว้ได้
ตอนนั้น พระราชวังถูกเผา เหตุการณ์วุ่นวาย
หลิวฉวนมีหน้าที่ต้องขนย้ายพระราชสมบัติ จึงทำให้คัมภีร์ถูกเผาทำลายไป

หลิวฉวนได้ประมือกับคนร้ายที่สังหารโม่ชิ
และจดจำได้ว่าคนร้ายคนหนึ่งมีวิชาหมัดที่ร้ายกาจและรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน





อาจารย์กวนไม่อยากให้โม่หม่าหมกมุ่นกับการล้างแค้น
จึงขอให้หลิวฉวนอย่าบอกรายละเอียดเรื่องคนร้ายให้โม่หม่ารู้้
ต่อหน้าโม่หม่า หลิวฉวนจึงทำเป็นไม่รู้้เรื่องคนร้าย





โม่หม่าโกรธตัวเองที่หลงเข้าใจพ่อแม่ผิดมาหลายปี
คิดว่าพ่อแม่ทอดทิ้งไม่ต้้องการเขา
ซ่งชิงอยากจะช่วยปลอบใจ ก็ไม่เป็นผล

พลังความแค้นกลับทำให้โม่หม่ามุ่งมั่นฝึกนวดแป้งจนสำเร็จ





อาจารย์กวนเห็นสภาพโม่หม่าแล้ว จึงขอให้ซ่งชิงอยู่ต่อ
อย่าเพิ่งตามซือไท่ไปตอนนี้เลย




รัฐบาลจัดชุมนุมชาวยุทธ โดยขอให้ทุกสำนักส่งตัวแทนเข้าร่วม
อาจารย์สามในฐานะครูฝึกของสำนักมังกรดำ เสนอให้หม่าเฉียงเป็นตัวแทน
แต่อาจารย์สองไม่เห็นด้วย น่าจะส่งเฮ่าเซินมากกว่า

อาจารย์สาม: เฮ่าเซินไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ตั้งนาน ฝีมือเป็นยังไงก็ไม่รู้
ป่านนี้สนิมจับแล้วมั้ง อีกอย่างถ้าเฮ่าเซินกลับมาแล้วได้เป็นตัวแทนเลย
เกรงว่าศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นๆ จะไม่ยอมรับ
ต้วนทีป๋อ: เจ้าลูกคนนี้ ไม่เคยตั้งใจฝึกวิชาจริงจัง
พอได้้ไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ ก็ไม่ยอมกลับบ้านท่าเดียว
อาจารย์รอง: คนหนุ่มก็ต้องรู้จักโลกภายนอก ต่อไปจะเป็นประโยชน์กับสำนัก
ตัวนทีป๋อ: ก็เพราะเจ้าเนี่ยแหละ ตามใจเฮ่าเซินจนเคยตัว
ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะยอมให้้เฮ่าเซินไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้หรือ
ดูซิ ตอนแรกบอกว่าจะไปเรียนหมอ อยู่ดีๆ ก็หันไปเรียนดนตรีซะนี่
อาจารย์สาม: ข้้าก็ไม่เข้าใจว่าดนตรีตะวันตก จะเป็นประโยชน์กับสำนักเราได้อย่างไร
ตัวนทีป๋อ: พอก้าวเท้าออกจากบ้านไป พ่อเชื้อมันยังไม่สนใจ
มีหรือมันจะสนใจเรื่องสำนัก ต่อให้เก่งแค่ไหน หากไม่กลับมา ก็ไม่มีประโยชน์
อาจารย์รอง: เรื่องนันปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง





เหยียนจื้อกุ้ยหนีมาอยู่เซี่ยงไฮ้ วันวันเอาแต่กินเหล้าเมายา
เสียอกเสียใจที่โม่หม่าไม่รับรัก จนค้างค่าเช่าห้องเป็นอาทิตย์
จื้อกุ้ยเมาทะเลาะกับเถ้าแก่โรงเตี๊ยม ถูกผลักจนศีรษะกระแทกเคาน์เตอร์
เถ้าแก่เห็นเธอสลบไป จึงให้้เสี่ยวเอ้อแบกไปทิ้ง (เอากันดื้อๆ อย่างนี้เลยนะ)






แค่เปิดตัวเฮ่าเซิน แม่ยกก็กรี๊ดสลบ เอ่อม เตะลูกขนไก่เนี่ย มันเท่ได้้้้้ปานนี้เลยเหรอ



เฮ่าเซินเตะลูกขนไก่แรงไปหน่อย เลยบังเอิญเจอจื้อกุ้ยสลบอยู่ในพงหญ้า
จื้้้้อกุ้ยฟื้นขึ้นมากลับไม่มีเสียง เฮ่าเซินจึงพาไปส่งโรงพยาบาล






หมอตรวจร่างกายจื้อกุ้ยแล้ว
สมองไม่ได้รับกระทบกระเทือนมากถึงขนาดจะทำให้ความจำเสื่อมได้
คงเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า
หมอได้ช่วยติดต่อสังคมสงเคราะห์ให้้มารับจื้อกุ้ยในวันพรุ่งนี้




อาจารย์รองใช้ลูกไม้ให้ศิษย์น้องมาหลอกเฮ่าเซินว่าพ่อป่วย
แต่เห็นหน้าเฮ่าเซินก็รู้ทันแล้ว





คัตสึฮิโร่กับจอร์จช่วยกันเกลี้ยกล่อมเฮ่าเซินให้กลับบ้าน
เอาล่ะ ขืนไม่กลับ คราวหน้าอาจารย์รองมีหวังบอกให้ไปงานศพพ่อแน่ กลับก็กลับ





จือกุ้ยแอบได้ยินนางพยาบาลคุยกันว่าจะส่งเธอไปสังคมสงเคราะห์
เธอรู้สึกหวาดกลัวจึงหนีออกจากโรงพยาบาลกลางดึก




จื้อกุ้ยหนีไปนอนข้างถนน กลับถูกอันธพาลลวนลาม
เฮ่าเซินเข้ามาช่วยเธอไว้ อันธพาลกระจอกจะมาสู้้ทายาทเจ้าสำนักมังกรดำได้ยังไง





ออกมาจากโรงพยาบาลได้้งัยเนี่ย ดูซิ รองเท้าก็ไม่ใส่
จะต้องรีบไปขี้นรถไฟซะด้วยสิ กลับโรงพยาบาลไปคนเดียวแล้วกันนะ





ยังจะตามมาอีก เผลอหน่อยเดียวก็เกือบถูกรถชนแล้วเห็นมั้ย




ความจำเสื่อมแถมพูดไม่ได้ ไม่มีคนดูแลจะทำยังไง
เฮ่าเซินตัดสินใจพาจือกุ้ยกลับเมืองหลวงด้วย
แต่ก่อนอื่นต้องพาไปซื้อรองเท้าใหม่





อาจารย์รองน้า จะโกหกทั้งทีก็ไม่เนียนเอาซะเลย
ตั้งแต่เฮ่าเซินเดินได้เนี่ย ต้วนทีป๋อเคยล้มป่วยกับเขาที่ไหน

อาจารย์รองชักกลุ้มใจ ต้วนเฮ่าเซินดันไม่กลับมาคนเดียว
เอาผู้หญิงที่ไหนมาด้วยเนี่ย ระวังเหอะ ต้วนทีป๋อจะไม่พอใจ

อ้าวก็ไหนพ่อสอนบ่อยๆ ให้ช่วยเหลือคน
นี่ก็อุตส่าห์ทำตามคำสอนของพ่อแล้วไงล่ะ





หม่าเฉียงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักมังกรดำ เข้าสำนักมาตั้งแต่สิบขวบ
ทั้งสำนัก หม่าเฉียงฝีมือดีที่สุด ตอนนี้ยังผ่านด่านการฝีกหนึ่งต่อสิบได้อีก
อาจารย์สามขอให้ต้วนทีป๋อกำหนดให้หม่าเฉียงเป็นตัวแทนสำนัก





ต้วนทีป๋อยังไม่ทันตัดสินใจ ต้้้วนเฮ่าเซินก็มาถึง
เผลอตัวดีใจไปหน่อย ต้องเก๊กไม่พอใจไว้ เดี๋ยวเฮ่าเซินจะได้ใจ

ต้้วนทีป๋อ: ยังจำพ่อคนนี้ได้อีกหรือ ข้ายังเกือบลืมไปแล้วว่ามีลูกชาย





ต้วนทีป๋อกำลังงอนลูกชาย ถ้าอาจารย์รองไม่ตามกลับมา คงไม่กลับสินะ
ตอนแรกบอกจะไปปีเดียว นี่สามปีผ่านไปก็แล้ว อีกไม่นานก็จะห้าปี

ต้วนเฮ่าเซิน: สมัยนี้ คนเราต้องมีวิชาความรู้ติดตัว
ต้วนทีป๋อ: ความรู้ทางด้านดนตรีเนี่ยนะ หรือเจ้าคิดว่าต่อไปเกิดสำนักปิดตัวลง
จะให้้ศิษย์น้้องเจ้าหันไปเอาดีทางร้องเพลงแทน
ต้วนเฮ่าเซิน: ขงจื๊อยังว่า ดนตรีเป็นหนึ่งในศิลปศาสตร์หกแขนง จึงไม่ควรมองข้าม
ต้วนทีป๋อ: แปลว่าพ่อควรจะชมเจ้าสินะ




ต้้วนทีป๋อฉวยโอกาสทดสอบฝีมือลูกชาย
เห็นฝีมือไม่ตก ค่อยโล่งอก หายโกรธไปได้





อาจารย์รองได้ทีเสนอให้ส่งตัวนเฮ่าเซินเป็นตัวแทนสำนัก
แม้ว่าเรื่องฝีมือหม่าเฉียงกับตัวนเฮ่าเซินจะสูสี
แต่เรื่องหน้าตาบุคลิก หม่าเฉียงเทียบต้วนเฮ่าเซินไม่ได้
(อ่ะแหม อาจารย์รองช่างไม่เข้าข้างเฮ่าเซินเล้ยยยยย)

ต้วนเฮ่าเซิน: ไม่เอาหรอก ชุมนุมแลกเปลี่ยนวิชาอะไรกัน
เห็นทุกสำนักจ้องจะเอาชนะกันให้ได้้้้้ ไม่เห็นสนุกตรงไหน
ตัวนทีป๋อ: เจ้าเห็นงานชุมนุมเป็นเรื่องสนุกหรือไง
นี่เป็นหน้าตาของสำนักเราเชียวนะ




เถียงกันยังไม่ทันเสร็จ ศิษย์น้องก็รายงานว่าสาวเท้าเปล่าหายตัวไป
เฮ่าเซินร้อนใจจนตัวนทีป๋อสงสัยว่าสาวเท้าเปล่าคนนั้นเป็นใคร




เฮ่าเซินพบจื้อกุ้ยสีไวโอลินอยู่ในห้อง
จึงคิดลองสีไวโอลินให้เธอฟังเผื่อจะนึกอะไรออก

(แม่ยกว่าเฮ่าเซินมาถูกทางแล้วล่ะ ระหว่างฝีกกังฟูให้สาวดู
กับสีไวโอลินให้ฟังเนี่ย อย่างหลังกินขาดค่ะ)





ต้วนเฮ่าเซิน: รู้สึกยังไงบ้าง
เหยียนจื้อกุ้ย: (เขียนคำว่า "รัก")
ต้วนเฮ่าเซิน: ใช่แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงรัก
ข้าไม่รู้ว่าทำไมถึงเลือกเรียนดนตรี ตอนนี้ ข้ารู้แล้ว
เพื่อเล่นให้คนที่รู้จักชื่นชมได้ฟัง
(มาเล่นให้้้้้แม่ยกฟังมั่งก็ได้จ้า)








วงกลมคืนพื้นฐานของกระบวนท่าไทเก๊ก
หากพุ่งหมัดออกเป็นเส้นตรง อาจถูกคู่ต่อสู้หักแขนได้ง่าย
หากงอหมัดก็ยิ่งอันตราย คู่ต่อสู้จะเข้าประชิดตัวได้ง่ายเช่นกัน

โม่หม่าเริ่มเข้าใจการวาดแขนแบบไทเก๊ก






อาจารย์กวนให้โม่หม่าใส่ชุดในการตัดฟืน
เพื่อฝีกให้คุ้นเคยกับกระบวนท่าที่ถูกต้อง
หากวาดกระบวนท่าผิด ก็จะถูกเข็มแทง




ต้วนทีป๋อฝีกวิชาแล้้วรู้สึกขัดๆ ที่หน้าอก แต่คิดว่าไม่เป็นไร
อาจารย์รองเสนอให้้วางตัวผู้สืบทอดสำนัก
หม่าเฉียงเป็นศิษย์ที่มีความโดดเด่น หากให้สืบทอดย่อมนำพาสำนักได้อย่างดี
แต่ถ้าจะยกระดับสำนักให้้ก้าวไปไกลกว่าเดิม มีแต่เฮ่าเซินที่ทำได้
เฮ่าเซินมีทั้งวิสัยทัศน์และจิตใจเปิดกว้างอย่างที่หม่าเฉียงไม่มี

อะไร อะไรก็ดีหรอก แต่นิสัยไม่รู้จักโตเนี่ยสิ
นึกจะพาผู้หญิงมาบ้าน ก็ไม่บอกกล่าวเล่าสิบใคร
ทีเรื่องของคนอื่นล่ะชอบช่วยเหลือ ทีเรื่องของสำนักไม่เห็นสนใจ

เอาน่า เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอาจารย์รองเกลี้ยกล่อมเอง
รับรองว่าเฮ่าเซินต้องยอมเป็นตัวแทนเข้าร่วมงานชุมนุมแน่





เฮ่าเซินรับปากจื้อกุ้ยจะช่วยเธอฟื้นความทรงจำ
อาจารย์รองเห็นเฮ่าเซินห่วงใยจื้้อกุ้ยเช่นนี้ จึงคิดใช้้้เป็นประโยชน์





อาจารย์รอง: จะให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่นานแค่ไหน
ตัวนเฮ่าเซิน: ก็จนกว่าเธอจะหาครอบครัวพบ
อาจารย์รอง: รู้หรือเปล่าว่าพ่อเจ้าน่ะ อยากให้ไล่ผู้หญิงคนนั้นไปซะ









 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 9:59:42 น.
Counter : 930 Pageviews.  


magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.