REWALSAR - รีวัลซาร์ (2)
ที่ท่ารถในช่วงสายของวัน มีเหล่าผู้คนที่หน้าตาละม้ายไปทางทิเบต พากันเดินถือลูกประคำตามแบบการท่องภาวนาของชาวพุทธฯ เดินมุ่งตรงขึ้น มายังรถบัสคันเดียวกับที่ฉันนั่งรออยู่ก่อนเพื่อขึ้นไปยัง 'ถ้ำ' แต่ก็ได้ยินเสียง ของพวกเขาถามไถ่เที่ยวโดยสารนี้ กับคนขับรถถึง กอมปา (Gompa) หรือวัด ที่ตั้งอยู่บนเขาเช่นกัน อืม...ก็ไม่แน่ว่าจุดหมายของการเดินทางของเราอาจจะ เป็นที่เดียวกันก็ได้ เมื่อผู้คนเริ่มทะยอยขึ้นมาจนเต็มคันประกอบกับถึงเวลารถ ออกพอดีผู้โดยสารส่วนมากก็มักเป็นชาวบ้านลงมาซื้อข้าวของจากเมืองด้านล่าง ในระหว่างทางบนเขา ยังมีบ้านเรือนของผู้คนที่ตั้งอาศัยอยู่เช่นกัน แต่ไม่ได้ เป็นชุมชนที่ปลูกบ้านเรือนติด ๆ กันเพราะใช้พื้นที่แถวนี้มักจะใช้เพื่อการเพาะปลูก เสียมากกว่า ฉันชอบบริเวณแถบนี้จริงมันดูไม่น่าอึดอัดหรือวุ่นวายเท่าไหร่
ระยะทางจากด้านล่างประมาณ 7 กิโลเมตร ไม่ไกลเกินไป โดยระหว่างทาง ก่อนที่จะไปถึงกอมปาก็ยังมีวัดฮินดูที่ชื่อว่า Naina Devi ตั้งอยู่ ซึ่งบางคนเขา ก็ตั้งใจแวะมาที่วัดนี้กันโดยเฉพาะ และถัดมาไม่นานเมื่อกระเป๋ารถเมล์เดินมา บอกถึงยังจุดหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเนินทางโค้งกับกลุ่มลุงป้าน้าอาที่มาแสวงบุญ เมื่อรถหยุดจอด พวกเขาก็พากันเดินทยอยลงกันซึ่งก็รวมถึงฉันที่อาศัยติดสอย ห้อยตามพวกเขาไปด้วย
จากมุมสูงบนเขานี้เวลาที่มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นทะเลสาบที่ดูเล็กกระจิ๋วหลิว และมีป่าเขาล้อมรอบจนดูเขียวไปหมด
เขาว่ากันว่า การเดินวนรอบ (ประทักษิณ) ชาวพุทธแบบทิเบต จะกระทำยังบริเวณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กัน และที่บริเวณทะเลสาบ ต่างก็มีผู้คนมาเดินวนรอบภาวนาทั้ง เช้า-เย็น พวกเขาต่างเชื่อว่าที่ตรงนั้นเคยมีเรื่องราวเชิงอิทธิฤทธิ์ของกูรูรินโปเช ปรากฏอยู่ ซึ่งถ้าหากได้เข้าไปดูประวัติของท่านก็จะพบเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ค่อนข้างเยอะทีเดียว
ที่บนทางเนินด้านหนึ่ง ดูเหมือนจะมีการต่อเติมสิ่งก่อสร้างครอบเอาไว้จนดูคล้าย กับห้องเล็ก ๆ แต่อันที่จริงแล้วนั่นคือการก่ออิฐสร้างผนังกั้นครอบในส่วนของถ้ำ เอาไว้ และนั่นก็ฉันเกือบเดินผ่านไป แต่เพราะคนดูแลพื้นที่แถวนั้นพูดคะยั้น คะยอให้เดินกลับมาแวะชมจนได้สิน่า (เกือบพลาดซะแล้ว) ตรงพื้นที่ด้านในนอกเหนือไปจากรูปปั้น แท่นบูชาเล็ก ๆ ก็ยังมีภาพถ่ายของ พระลามะผู้นำนิกายหนึ่ง และร่องรอยจารึกที่สำคัญที่สุด ก็เห็นจะเป็นรอยประทับ เท้าข้างหนึ่งบนผนัง แม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่โตนักแต่ก็เชื่อกันว่าเป็นของท่านกูรู รินโปเช
ส่วนบริเวณรอบข้างถัดจากนั้น จะมีมนตราธวัชถูกแขวนขึงระโยงระยางเต็มพื้นที่ ผู้ศรัทธาหลายคนที่แวะมา ก็มักจะซื้อหาธงอธิษฐานมาผูกเอาไว้โดยจะมีผู้รับทำ หน้าที่บริการแขวนธงให้บนนั้นเลย
ซึ่งภาพของธงมนตรานี้ ไม่ว่าจะเห็นจากที่ใดก็มักเป็นเครื่องคอยเตือนให้ฉันคิดอยู่ เสมอว่าสถานที่แห่งนั้นคงต้องมีการรับอิทธิพลมาจากทิเบตแน่นอน แต่ว่าสำหรับ ที่นี่มันก็แลดูแปลกไปเสียหน่อยนะ ก็เพราะแถวนี้ไม่ได้เป็นที่ตั้งของชุมชนผู้ลี้ภัยฯ หรือกระทั่งมีเขตแดนติดกับทางทิเบตสักนิด แล้วทำไมรีวัลซาร์ ถึงไปมีอะไรที่ เกี่ยวพันกับเรื่องของความเชื่อทางพุทธวัชรยานเข้าได้ล่ะ?
ทั้งนี้ ลำดับเรื่องราวก็มีอยู่ว่า ในยุคก่อนหน้านี้ พุทธศาสนาเองก็ได้เคยเผยแพร่ มายังพื้นที่ของทิเบต แต่ก็กลับไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นักเพราะขัดกับธรรมชาติ ดั้งเดิมของชนชาวทิเบต ที่เชื่อถือในเรื่องเทพยดา,เวทย์มนตร์ และเหล่าภูติผี ปีศาจมากกว่า แต่เมื่อถึงยุคของท่านปัทมสัมภวะ ที่ได้ไปปรากฏตนขึ้น พวกเหล่ามารที่ขวางการ เผยแพร่พุทธศาสนาในทิเบตก็ถูกปราบลง ทว่าบรรดาปีศาจต่างไม่ได้สูญหายตาย จากไปแต่ได้กลับหันมาเลื่อมใสศรัทธาแทน ภายหลังเมื่อการประกาศหลักธรรม สำเร็จลุล่วง ศาสนาพุทธก็ได้ถูกยกขึ้นแทนความเชื่อเดิม จากนั้นท่านจึงได้รับการ ยกย่องและถูกเรียกกล่าวจากชาวพุทธทิเบตในสถานะ 'พระพุทธเจ้าองค์ที่สอง'
และถึงแม้ว่า รีวัลซาร์ จะไม่ได้เป็นสถานที่กำเนิดของท่านปัทมสัมภวะ แต่เมืองนี้ ก็มีความสำคัญตรงที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตหิมาลัย เพื่อการเผยแพร่ธรรม ซึ่งหลักความเชื่อดังกล่าวนี้ก็มีแนวคิดแบบตันตระ
ส่วนนิกายแรกของพุทธแบบทิเบตที่ได้ก่อตั้งขึ้นก็คือ ญิงมาปะ (Nyingmapa) และต่อมาหลังจากนั้นพุทธศาสนาแบบวัชรยาน ก็เจริญรุ่งเรืองในแถบ ทิเบต ภูฏาน เนปาล โดยได้ผนวกความเชื่อดั้งเดิมอยู่ก่อนคือ ศาสนาบอน (Bön หรือ เพิน) เข้าร่วมไปด้วย
ถ้ำแห่งนี้เชื่อกันว่า กูรูรินโปเช ได้เคยมานั่งสมาธิบำเพ็ญเพียร
ถัดจากนี้พอเดินลอดเข้าไปด้านใน ก็จะเห็นมีคนเข้าไปนั่งทำสมาธิกันด้วย
ส่วนรอยจารึกตามผนังถ้ำ ไม่รู้ว่าพวกมือบอนที่ไหนมาทำเลอะเทอะไว้ ซึ่งก็อาจ มีมานานก่อนที่ผู้ดูแลสถานที่จะป้ายติดประกาศบอกแจ้งเอาไว้ แต่ว่าถึงแม้จะไม่มี ป้ายบอกหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่น่าจะมาขีดเขียนอะไรให้สกปรกกันแบบนี้นี่นา แย่เนอะ :(
....
สำหรับสถานที่สุดท้ายที่ควรแวะชม นั่นคือจุดชมวิวของเมืองตรงที่เป็นรูปปั้น ขนาดใหญ่ของกูรูรินโปเช โดยเริ่มจากทางประตูใหญ่หน้าทางเข้าทะเลสาบ ให้ เดินไปทางเดียวกับที่ชาวบ้านเขาออกเดินวนรอบไปทางขวา แต่เมื่อพอถึงโค้งแรกจะมีทางแยกออกไปด้านข้าง ให้เดินออกไปตรงนั้นเพราะมัน จะพาลัดเชื่อมต่อไปยังเนินขึ้นวัดนั่นเอง
บริเวณใต้ฐานรูปปั้นฯ จะเป็นพื้นที่ของอาคารด้านในสำหรับปฏิบัติศาสนกิจทาง- ศาสนา แต่ไม่แน่ใจเรื่องนิกายว่าเป็นของอะไร ส่วนบริเวณรอบข้างเป็นที่ตั้งของ Zigar Drukpa Kagyu Institute
เรื่องตะเกียงที่จุดไฟ จากที่เคยอ่านเจอในบันทึกเรื่องราวของชาวทิเบต ก็พบว่า พวกเขามักจะนำ 'เนย' มาถวายเป็นเครื่องบูชากัน แต่จากภาพที่เห็นก็เดาไม่ออก ว่ามันเป็นน้ำมันเติมตะเกี่ยงประเภทไหนกัน หรือจะยังคงเป็นเนยตามรูปแบบ ประเพณีดั้งเดิมอยู่?
ส่วนอาคารนี้น่าจะเป็นสถาบันการเรียนการสอนสำหรับพระ
โชคร้ายหน่อย ที่ฉันขึ้นแวะไปเยี่ยมชมสถานในช่วงเย็น ดังนั้นพื้นที่ของวัดจึงไม่มี ผู้คน กระทั่งร้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ก็ยังปิดให้บริการ ฉันจึงแทบไม่ได้เจอ ใครมากไปกว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียครอบครัวหนึ่งที่แวะมาถ่ายรูปกันตรงจุด ชมวิวบนลานรูปปั้นเท่านั้น
อีกมุมหนึ่งที่ทะเลสาบ ตรงนี้จะเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาให้อาหารปลาและแวะมานั่งพักผ่อน
เรื่องของเมืองเล็ก ๆ ชื่อรีวัลซาร์ ที่เก็บมาฝากกันในครั้งนี้ คงอาจไม่ได้ดูเด่นใน เชิงการท่องเที่ยวมากนัก แต่หากได้ค้นดูจากการจัดวางหมวดหมู่สถานที่ ก็จะพบว่ารีวัลซาร์ ได้ถูกระบุรวมให้เป็นหนึ่งใน'เส้นทางแสวงบุญของชาวพุทธ วัชรยาน' และด้วยเหตุนี้เองฉันจึงหายสงสัยแล้วล่ะ ว่าเพราะอะไรกันจึงทำให้ ชาวตะวันตกบางส่วนถึงได้เลือกเดินทางแวะมาพำนักยังเมืองอันสงบเงียบแห่งนี้
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2560 15:37:02 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1426 Pageviews. |
|
|
รีวัลซาร์ ถ้าไม่เอามาเล่าให้ฟังก็ไม่มีทางรู้จักเลยค่ะ เมืองเล็กๆนี่เพิ่งเคยได้ยินชื่อจากที่คุณรีวิวนี่เอง
เป็นเส้นทางแสวงบุญของชาวพุทธซะด้วยแม้จะเป็นวัชรยานก็ตาม
ถ้าถามรุ้งแสวงบุญก็นึกถึงแต่อินเดียแหละค่ะ 3 สถานที่สำคัญที่ควรไปสักการะสักครั้งในชีวิต ที่อื่นนี่ไม่รู้จักเลยทีเดียว
สถาปัตยกรรมรีวัลซาร์สวยสดใส งดงามแปลกตาดีนะคะ ดูเพลินเลย
เห็นตัวหนังสือบนก้อนหินแล้วก็เนอะ ที่ไหนก็ไม่ต่างกันทำไมชอบเขียนชื่อตัวเองนักนะ มันเลอะแล้วก็รก
บ้านเราเติมตะเกียงด้วยน้ำมัน บ้านเขาเติมด้วยเนยสิเนี่ย
แล้วในวัดมีตู้บริจาคมากมายเหมือนวัดบ้านเรามั้ยคะ
เพราะเท่าที่ดูจากภาพไม่เห็นเลยค่ะ
โหวต Travel Blog ค่ะ