จ้างรักจอมมาร ตอน จำยอมเพราะความกตัญญู
ถ้าไม่ใช่วิธีนี้แล้วแกจะปล่อยให้พ่อกับแม่อับอายขายหน้ารึไงกันยายพินท์ ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความคิดไม่ต่างจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องเลย มันก็น่าจะมีวิธีอื่นที่ไม่ใช่วิธีนี้นี่คะคุณพ่อคุณแม่ อิศเรศยิ้มอย่างชอบใจที่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เจ้าสาวตัวปลอมของตนเองหวังไว้จะไม่เป็นจริงเสียแล้ว เมื่อหันไปเห็นเขายิ้มเยาะวงหน้านวลก็เปลี่ยนเป็นมุ่ยอย่างมาก บ้าที่สุดทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความคิดแบบเดียวกับเขาด้วยกัน ถ้าผมเปลี่ยนตัวจากปภานันท์เป็นปภาพินท์ แล้วผมจะบอกคุณพ่อคุณแม่ยังไงล่ะครับคุณอา ยังไงทั้งสองท่านก็ต้องรู้เรื่องนี้ ก็นั่นล่ะคือปัญหาที่อาคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงพ่อกับแม่ของอิฐจะไม่รู้เรื่องนี้ อิฐช่วยอาคิดหน่อยสิว่าอาควรจะทำยังไงดี อาไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องเมื่อคืนขึ้นเลยนะ ปองภพขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างต้องการความเห็นใจ ที่ผมมาหาคุณอาทั้งสองก็เพราะอยากจะมาคุยเรื่องนี้ล่ะครับ ผมมีวิธีที่จะไม่ต้องบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่รู้เรื่องนี้ครับ เพียงได้ยินดวงทิวาก็ย้อนถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน วิธีไหนเหรอตาอิฐ ก็ให้ปภาพินท์เป็นปภานันท์ไปสิครับ ได้ยินที่ชายหนุ่มอีกคนบอกทั้งสองก็ทำสีหน้างงันดวงทิวาพลางย้อนถามกลับไปอีกคราหนึ่ง ตาอิฐหมายความว่ายังไงน่ะให้ยายพินท์เป็นยายนันท์ ไม่ใช่ยายนันท์เป็นยายพินท์หรอกเหรอ นั่นสิอาก็งงเหมือนกัน อิฐพูดอะไรกัน ปองภพก็มีอาการไม่ต่างกับภรรยาเลย ไม่ผิดหรอกครับปภาพินท์ต้องเล่นเป็นภรรยาผมในชื่อปภานันท์เหมือนเดิม ถ้าหากว่าคุณอาทั้งสองไม่อยากที่จะใช้หนี้คืนคุณพ่อคุณแม่ผมก็ต้องทำแบบนี้ครับ อ๋อ แบบนี้น่ะเองแล้วยายพินท์ต้องเล่นเป็นยายนันท์นานแค่ไหนจ๊ะตาอิฐ เมื่อรับรู้อย่างชัดเจนว่าแผนการของอีกฝ่ายเป็นเช่นไรก็พยักอย่างเข้าใจแต่ไม่วายสงสัยอีกคราหนึ่ง หนึ่งปีครับแล้วหลังจากนั้นถ้าเลิกกันก็คงไม่มีใครสนใจเรื่องของผมแล้ว อิศเรศบอกคำตอบให้ทราบปภาพินท์รีบแย้งในทันที พินท์ไม่ทำนะคะคุณพ่อคุณแม่ มันเรื่องอะไรที่พินท์จะต้องมาเล่นเป็นพี่นันท์ด้วยคะ พินท์ไม่ชอบโกหกใครค่ะ แค่เป็นเจ้าสาวตัวปลอมพินท์ก็รู้สึกแย่พอแล้วนะคะคุณพ่อคุณแม่ แผนบ้าๆ อะไรเนี่ยไม่เคยพบเคยเห็น เธอก็มีชีวิตของเธอแต่กลับต้องมาใช้ชีวิตเป็นคนอื่น ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่สาวของตนเองก็ตามเถอะ งั้นฉันก็จะทำอย่างที่ฉันบอกเธอ ครั้นได้ยินเธอก็นึกถึงคำขู่ของอีกฝ่ายที่บอกไว้ช่วงที่ตนเองอยู่ในห้องนอนกับเขา มือเรียวทั้งสองซึ่งวางอยู่บนตักกำแน่นจนรู้สึกเกร็งไปหมด พลางนึกอย่างโมโหพี่สาวของตนเองที่ทิ้งปัญหาไว้ให้เธอต้องรับผิดชอบ ฟันเล็กก็ขบเม้มเรียวปากนุ่มด้วยความรุนแรงไม่ต่างกัน ถ้ายายพินท์ไม่ทำตามที่ตาอิฐบอก ตาอิฐจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ปองภพเกิดความสงสัยใคร่รู้ยิ่งนัก อิศเรศมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกลตนเอง ผมก็จะสั่งคนตามล่าปภานันท์กลับมาแล้วถ้าเจอผู้ชายอยู่ด้วยผมก็จะให้ทั้งสองคนมาบอกให้รู้ว่าเจ้าสาวผมหายเพราะไปอยู่กับผู้ชาย แล้วคุณอาทั้งสองก็จะโดนข้อหาขายลูกกินเพื่อชดใช้หนี้ เจอคำพูดของชายหนุ่มเบื้องหน้าก็เล่นเอาทั้งสองเกิดอาการสะดุ้งในพลัน พลางหันไปยังลูกสาวที่ดื้อรั้นไม่ยอมทำตาม พินท์ลูกต้องช่วยพ่อกับแม่นะ ถ้าลูกไม่ช่วยพ่อกับแม่คงแย่แน่ๆ เลย ปองภพจับมือของลูกสาว ดวงทิวาก็เอ่ยขอร้องลูกสาวไม่ต่างกัน ใช่ยายพินท์แกจะทนเห็นพ่อกับแม่โดนคนประณามว่าขายลูกสาวกินรึไงกัน เธอมองไปยังใบหน้าคมที่กำลังนั่งรอฟังคำตอบจากตนเอง ทรวงนุ่มสะท้อนขึ้นลงด้วยความอึดอัดกดดัน เห็นลูกสาวเงียบงันไม่ยอมให้คำตอบปองภพจึงเอ่ยซ้ำในลักษณะต่อว่า หรือว่าแกอยากเห็นพ่อกับแม่ต้องอับอายกันยายพินท์ถึงไม่ยอมรับปากทำตามที่คุณอิฐบอกน่ะ ผู้เป็นพ่อบอกอย่างน้อยใจ จะได้รู้ไว้ว่ามีลูกสาวแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ซึ่งผู้เป็นแม่ก็มองเธอด้วยความเสียใจและผิดหวังอย่างมาก เธอไม่อาจที่จะทนให้พ่อกับแม่ต้องลำบากหรอก ตกลงค่ะพินท์จะยอมทำตามที่คุณอิฐบอกค่ะ ได้ยินดังนั้นบิดากับมารดาก็ดึงเธอเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น ขอบใจมากเลยลูก แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าลูกกตัญญู ปองภพรู้สีกยินดียิ่งนักเมื่อลูกสาวยอมทำตามความต้องการที่ขอร้อง น่ารักมากเลยยายพินท์ ดวงทิวาใช้มือลูบไปยังเส้นผมนุ่มสลวยอย่างรักใคร่เอ็นดู ร่างระหงนั่งอยู่ในรถด้วยอาการที่เงียบงัน สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นเมียปลอมๆ ให้กับอีกฝ่าย ถ้าเขาไม่เอาเรื่องครอบครัวมาบีบคั้นตนเอง ปภาพินท์ไม่มีวันยอมทำอย่างเด็ดขาด อิศเรศจึงเอ่ยอย่างหยอกเย้าด้วยความอารมณ์ดีเมื่อสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ เงียบไปเลยเหรอปภาพินท์ มันแย่มากเลยรึไงกันที่ต้องรับหน้าที่เป็นเมียปลอมๆ ให้ฉันน่ะ น่าแปลกในคราแรกที่เขาชื่นชอบพี่สาวของเธอชายหนุ่มเรียกเธอว่าคุณพินท์ แต่พอต้องรับเธอเป็นเมียปลอมๆ ก็เรียกชื่อหญิงสาวด้วยความห่างเหินด้วยการเรียกชื่อของอีกฝ่ายเต็มๆ โดยที่เขาไม่รู้สึกว่าเวลาเรียกแล้วรู้สึกยืดยาวเลย วงหน้านวลหันไปทางเขาและตวัดสายตามองอย่างไม่ชอบใจมาก สะใจคุณแล้วใช่ไหมที่บีบให้ฉันทำตามที่คุณต้องการน่ะ ใช่สะใจ เพราะฉันคิดว่าวิธีนี้ล่ะดีที่สุดแล้ว พลันหญิงสาวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ฉันจะยอมเป็นพี่นันท์ก็เฉพาะเวลาที่ฉันอยู่บ้านคุณแต่ฉันจะไม่ยอมเป็นพี่นันท์ตลอดไปหรอก ได้ยินที่เธอพูดอิศเรศก็ย้อนถามกลับมาด้วยความสงสัย เธอหมายความว่ายังไงกัน หญิงสาวจึงบอกให้เขาฟังว่าตนเองคิดจะทำอะไร ก็ฉันจะเป็นพี่นันท์ด้วยแล้วก็เป็นตัวฉันเองด้วย ถ้าฉันเป็นพี่นันท์คุณมีสิทธิ์ในฐานะของ...สามี เธอไม่อยากที่จะพูดคำนี้เลยนั่นเพราะไม่ได้อยากจะเป็นเมียของอีกฝ่ายสักนิด แต่ถ้าฉันเป็นตัวฉันเองคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาก้าวก่ายในตัวฉัน ถ้าเจอกันข้างนอกทำเป็นไม่รู้จักกันก็ยิ่งดี ฉันจะขอบคุณคุณมากเลย แปลว่าถ้าฉันจะนอนกับเธอต้องเป็นตอนที่เธอคือปภานันท์เท่านั้นใช่ไหม แต่ถ้าเป็นปภาพินท์ฉันไม่มีสิทธิ์นอนด้วยสินะ เกลียดคำพูดของอีกฝ่ายนัก อยากจะเอาอะไรยัดปากเขาไม่ต้องให้พูดเลยยิ่งดี ใช่ค่ะ เธอตอบรับกลับไปด้วยการผงกศีรษะ อิศเรศก็ยอมทำตามที่อีกฝ่ายต่อรองด้วยการพยักหน้าอย่างเข้าใจ ตกลงฉันจะมีสิทธิ์ในตัวเธอก็แค่ตอนเป็นปภานันท์ แล้วตอนนี้ล่ะฉันมีสิทธิ์นอนกับเธอรึยังกัน เขาช่างตอกย้ำให้เธอรู้สึกแย่เหลือเกิน ราวกับเป็นโสเภณีซึ่งมีหน้าที่บำบัดความใคร่ให้กับเขา วงหน้านวลเชิดขึ้นและบอกเขาอย่างขอร้อง ฉันต้องการเวลาในการทำใจที่จะนอนกับคุณค่ะ เป็นผู้หญิงคนแรกที่พูดประโยคนี้ นั่นเพราะปกติไม่เคยมีสาวๆ คนไหนจะรั้งรอในการได้ขึ้นเตียงกับเขาเลย เธอคือคนแรกที่เอ่ย ความจริงเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่ขาดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เพราะเข่นเขี้ยวที่หญิงสาวเคยด่าตนเองว่าเป็นผู้ชายสั่วๆ และไม่ได้ความ มันจึงทำให้เขาปฏิเสธสิ่งที่อีกฝ่ายเรียกร้องราวกับแกล้งอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเอาคืน เห็นทีจะไม่ได้หรอกนะเพราะฉันตั้งใจว่าจะไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับเจ้าสาว ถ้าไปแล้วไม่ได้นอนกับเจ้าสาวแล้วจะเรียกว่าดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ได้ยังไงกันล่ะ แบบนั้นฉันไปทัวร์เองก็ได้ พลางตอบอย่างโต้แย้ง ปภาพินท์ก็ขบปากของตนเองอีกคราด้วยไม่รู้ว่าจะจัดการกับอีกฝ่ายเช่นไร นอกจากต้องยอมทำตามในสิ่งที่เขาบัญชาทุกอย่าง คุณมันเป็นคนไม่เคยเห็นใจคนอื่นเลย ฉันอุตส่าห์ยอมรับเธอเป็นเมียปลอมๆ แล้วนะแลกกับการที่เธอกับครอบครัวไม่ต้องอับอายแล้วยังจะเรียกร้องอะไรอีกกัน ก็แค่ฉันขอเวลาจากคุณเท่านั้นเองทำไมคุณถึงให้ฉันไม่ได้กัน ปภาพินท์บอกให้เขารับรู้ถึงความลำบากใจของตนเอง ฉันว่าเธอลองก่อนไหมล่ะบางทีเธออาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ว่าดีนะที่ไม่ได้ขอเวลาทำใจที่จะนอนกับฉันไม่อย่างนั้นคงไม่มีความสุขจนมากอย่างนี้ วงหน้านวลเปลี่ยนเป็นบิดเบ้ราวกับไม่ยินดีที่จะฟังคำพูดสัปดนจากเขาอีกจึงกรีดเสียงบอกดอย่างห้ามปราม พอได้แล้วค่ะ ฉันไม่อยากฟังคำพูดบ้าๆ ของคุณอีก ฉันพูดเรื่องจริงต่างหาก ฉันว่าอย่างเธอก็ไม่น่าที่จะอินโนเซ้นส์กับเรื่องพวกนี้เลยนะ ไม่เพียงพูดเท่านั้นแต่มือยังยกขึ้นลูบไล้ไปยังขานวลซึ่งอยู่ในชุดเดรสกระโปรงสั้นแบบลูกไม้แสนหวาน ปภาพินท์ยกขาหลบมือของเขาอย่างไม่ชื่นชอบ จึงทำให้มือของอิศเรศตกลงบนเบาะ ทำยังกับไม่เคยมือผู้ชายไปได้ เล่นบทไร้เดียงสายังไงก็ไม่เหมือนหรอกนะปภาพินท์ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่เคยนอนกับผู้ชายน่ะ พี่สาวยังขนาดนี้ น้องสาวก็คงใช่ย่อยหรอก เธอไม่เคยเกลียดปากผู้ชายคนไหนเท่ากับเขาเลยให้ตายเถอะ แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันยังไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนล่ะ คุณจะให้เวลาฉันก่อนรึเปล่า หญิงสาวคิดว่าการบอกความจริงให้เขารู้จะทำให้เขาเห็นใจตนเอง ได้ยินที่เธอพูดอิศเรศก็ทำคิ้วเลิกขึ้นสูงทั้งสองข้างพลางถามย้ำกลับมาอีกคราวหนึ่งคล้ายไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เธอกล่าวเลย ตอนนี้ต่อให้ครอบครัวของอีกฝ่ายพูดอะไรมันทำให้เขาเชื่อใจไม่ลงเอาเสียเลย จริงเหรอที่เธอพูดว่าไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ปภาพินท์ก็ยืนยันกลับไปให้เขาได้ยินอย่างชัดเจน จริงค่ะ ฉันยังไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน เขายิ้มเมื่อได้ยินเธอตอบเช่นนั้น ฉันต้องพิสูจน์ก่อนว่าเธอพูดจริงหรือว่าแค่สร้างภาพให้ตัวเองกัน เธออยากจะชกหน้าที่ยิ้มๆ นักซึ่งทำยังไงอีกฝ่ายก็ยังยืนกรานที่จะนอนกับตนเองให้ได้ คุณมันบ้าที่สุดเลย ฉันไม่เคยเจอผู้ชายแบบคุณมาก่อนเลย ดูเขาจะภาคภูมิใจกับคำพูดที่เธอเอ่ยอย่างมาก ก็เจอซะสิ ยังไงวันไปฮันนีมูนเธอก็ต้องนอนกับฉัน ฉันจะให้เวลาเธอทำใจคืนนี้อีกคืนเดียวเท่านั้น บ้าชะมัดทำไมเธอจะต้องมาเจอกับปัญหาเฮงซวยนี้ด้วยกัน อิศเรศเห็นใบหน้าที่ดูเครียดของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกชื่นชอบ บอกแล้วว่าคนอย่างเขาไม่ร้ายอย่ามาเรียกว่าอิศเรศอย่างเด็ดขาด ตอนนี้สิ่งที่ปภาพินท์คิดก็คือขอให้เกิดเรื่องอะไรก็ได้ที่จะทำให้เธอไม่ต้องนอนกับเขา เพราะเธอทำใจไม่ได้เมื่อต้องนอนกับคนที่ไม่ได้รัก อยากรู้จริงว่าผู้หญิงคนอื่นทำไมถึงยอมนอนกับผู้ชายแปลกหน้าแค่เพียงพบหน้ากันคืนเดียวเท่านั้น กระทั่งรถจอดยังบ้านหลังใหญ่ของอิศเรศแต่ดูเหมือนว่าปภาพินท์จะไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ตนเองต้องนอนกับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปากช้ำหมดแล้วมั้งปภาพินท์ เห็นเธอทำท่ากัดเรียวปากมาหลายรอบแล้วตั้งแต่ที่อยู่บ้านของตนเองกระทั่งไปบ้านของบิดากับมารดาแล้วก็ขึ้นมาบนรถยันถึงบ้านอีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกที่จะขบปากของตนเองจนเขาอดพูดสัพยอกไม่ได้ ปภาพินท์รีบตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วน มันก็ปากของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ ผิดแล้วล่ะปภาพินท์ ตัวของเธอรวมถึงทุกส่วนของเธอเกี่ยวกับฉันแน่นอนเพราะฉันต้องจูบมันทั้งหมด ฉันไม่อยากให้ปากของเธอช้ำเพราะเวลาจูบมันไม่ได้อารมณ์ ถ้าจะช้ำต้องช้ำเพราะจูบของฉันเท่านั้น คุณมันเป็นผู้ชายที่ฉันไม่รู้จะด่าว่าอะไรแล้ว เธอพูดขึ้นมาอย่างเหลืออดกับคำพูดประดักประเดิดของอีกฝ่าย เดี๋ยวอีกไม่นานเธอก็จะเลิกด่าฉันเปลี่ยนเป็นติดใจแทน เขาตอบด้วยความมั่นใจ หญิงสาวเถียงกลับด้วยความมั่นใจ ไม่มีวันหรอก ฉันไม่มีวันเป็นอย่างนั้นแน่นอน พิสูจน์กันไหมล่ะปภาพินท์ว่าฉันสามารถทำให้เธอติดใจฉันได้น่ะโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง รับรองเธอจะแทบไม่อยากออกห่างฉันเลย ผู้หญิงพยศแบบเธอน่ะฉันเจอมาเยอะแล้วเห็นสุดท้ายก็กลายเป็นลูกแมวช่างอ้อนหมด อิฐคะ อิฐขา เธอรู้ว่าพูดไปก็เสียเวลาเปล่าจึงได้แต่นั่งเงียบเพียงอย่างเดียว พูดไปก็เข้าเนื้อตนเองทุกอย่าง มือเรียวเปิดประตูก้าวลงมาจากรถและเตรียมที่จะเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่มีเขาเคียงข้าง แต่อิศเรศไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างนั้นพร้อมกับคิดอย่างเจ้าเล่ห์แบบร้ายกาจ ฉันจะทำให้เธอเปลี่ยนคำพูดให้ได้ปภาพินท์ พร้อมกับที่เขาก้าวเร็วๆ ไปยังร่างระหงที่กำลังเดินขึ้นตึกหลังงาม มือของชายหนุ่มโอบไปยังเอวเล็กเธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่ชื่นชอบ เขาจึงกระซิบข้างหูเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน อย่าลืมนะเราต้องเล่นละครว่าเราเป็นคู่แต่งงานที่รักกันมาก เธอต้องทำท่าหวานใส่ฉันด้วย อย่าทำหน้าบึ้งแบบนี้ถ้าเธอไม่อยากให้คนคิดว่าเรามีปัญหากันแค่เพียงแต่งงานข้ามคืนเท่านั้น แล้วก็เรียกฉันว่าที่รักด้วย เขาเน้นทุกประโยคให้เธอได้ยินอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการหลอกลวงอย่างมาก นั่นเพราะเธอไม่ได้รักเขาเลยสักนิดแต่ก็จำต้องเล่นละครช่างเป็นบทละครที่แย่อย่างมาก เมื่อคนเล่นไม่คุ้นเคยแค่เรียกชื่อเขาก็เต็มกลืนละให้เรียกว่าที่รักอีก นึกแล้วเกิดอาการขนลุกเป็นที่สุดถ้ารักจริงจะไม่ว่าเลย พลันความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา อย่าบอกนะว่าถ้าเธอรักเขาจะยอมเรียกด้วยความเต็มใจ ปภาพินท์สลัดความคิดเมื่อครู่ออกไปในทันทีเมื่อรู้สึกว่าวันนี้ตนเองชักจะคิดอะไรเลื่อนเปื้อนไปแล้ว เดี๋ยวเราขึ้นไปจัดเสื้อผ้ากันนะที่รัก พรุ่งนี้จะได้เตรียมตัวเดินทางไปฮันนีมูนกัน เธอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากนึกถึงเรื่องนี้หรอกแต่อิศเรศก็แกล้งพูดให้เธอรู้สึกแย่มากขึ้นเพราะรับรู้ว่าสิ่งที่เขาเอ่ยถึงมันคือการที่เธอต้องนอนกับอีกฝ่ายน่ะเอง โดยมือก็โอบเอวอย่างกระชับและเผลอโลมไล้ไปยังสะโพกได้รูป ปภาพินท์ตัวแข็งเกร็งเมื่อถูกสัมผัสกายเช่นนั้น โดยอิศเรศมองหน้าเธอเหมือนจะให้หญิงสาวทำตามที่ได้รับปากตนเองไว้ด้วย ซึ่งเธอจำต้องเล่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ ค่ะที่รัก หวานจังเลยค่ะคุณอิฐ ผลัดกันเรียกว่าที่รัก แม่บ้านได้เห็นความกุ๊กกิ๊กของเจ้านายหนุ่มก็อดพูดไม่ได้ ก็คุณนันท์เป็นผู้หญิงที่ฉันรักมากนี่รื่น ช่วยเอาเสื้อผ้าของคุณนันท์ไปไว้ที่ห้องด้วยนะรื่น อิศเรศเล่นบทหวานอย่างคล่องปาก เสมือนว่ารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ ซึ่งเธอก็คิดอยู่ว่าถ้าเขาพูดออกมาจากใจเธอคงรู้สึกดีหรอก แต่มันคือการเสแสร้งปภาพินท์ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลย นี่เธอคิดบ้าอะไรกันจะให้เขาพูดออกมาจากใจเหรอ จะไปหวังได้ความรักจากเขารึไงกัน บ้าแล้วคิดอะไรไร้สาระที่สุด รื่นได้ยินที่เจ้านายสั่งก็รีบรับคำอย่างดี ได้ค่ะคุณอิฐ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในบ้านคุณบุษราเห็นลูกสะใภ้เดินเข้ามากับลูกชายก็บอกอย่างปลอบขวัญพร้อมกับจับมือด้วยท่าทางที่ใจดีช่างผิดกับลูกชายเสียจริง แม่เข้าใจนะจ๊ะว่าลูกสาวที่ไม่เคยห่างอกครอบครัวมาตลอดชีวิตรู้สึกยังไง คิดถึงคุณพ่อคุณแม่สินะจ๊ะ ตอนแม่แต่งงานใหม่ๆ ก็เป็นแบบนี้ล่ะจ้ะแต่พอมีครอบครัวของตัวเองมีตาอิฐกับตาอัคแม่ก็หายเหงาไปเยอะเลยล่ะ เราจะมีลูกกันสักกี่คนดีล่ะที่รักสักโหลหนึ่งเป็นไง เขาพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างต้องการแกล้งอีกฝ่าย พงศ์พันธ์ซึ่งเป็นบิดาได้ยินคำพูดของลูกชายก็พูดแซวเล่นอย่างอารมณ์ดี จะตั้งทีมฟุตบอลรึไงกันตาอิฐ เท่ดีออกครับคุณพ่อ มีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองว่าแต่ที่รักจะไหวรึเปล่าเท่านั้นแต่ผมน่ะไหวอยู่แล้ว มือเรียวกำแน่นอยากจะยกขึ้นชกปากคนนักเชียว +++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ พบกับเรื่องนี้ได้ในงานหนังสือวันแรกนะคะทุกคนที่บูทนายอินทร์ค่ะ ฝากเรื่องบ่วงรักจอมมาเฟียของข้าวด้วยนะคะ
Create Date : 17 มีนาคม 2557 |
Last Update : 17 มีนาคม 2557 10:41:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1356 Pageviews. |
|
|