Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
โครงการศึกษาวิจัยทางโบราณคดี บริเวณพื้นที่สถานีรถไฟธนบุรี(เดิม)

คอลัมน์ สุวรรณภูมิ สังคมวัฒนธรรม


*บริเวณพื้นที่สถานีรถไฟ ธนบุรี (เดิม) ในสมัยต้นอยุธยา เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่เรียกว่า 'บางกอก' เป็นชุมชนสำคัญที่มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนต่างๆ ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นชุมชนที่ทำการกสิกรรมอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำเรือกสวนไร่นา และมีการเพาะปลูกผลไม้นานาชนิด

     จวบจนกระทั่งในสมัยธนบุรี (พ.ศ.2310-2325) บริเวณพื้นที่สถานีรถไฟธนบุรี (เดิม) ทวีความสำคัญยิ่งขึ้น เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองธนบุรี อันเป็นที่ตั้งของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนคูเมือง กำแพงเมือง

ในสมัยรัตนโกสินทร์ บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญ ซึ่งมีตำแหน่งที่ตั้งใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่

พระราชวัง บวรสถานพิมุข หรือพระราชวังหลัง อันหมายถึงวังที่ประทับของพระราชวงศ์ชั้นสูงที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข อันเป็นตำแหน่งสำคัญรองลงมาจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 และตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

     ปัจจุบันบริเวณ พื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก่อตั้งขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2429 เป็นต้นมาและดำเนินกิจการทางการแพทย์และการศึกษาจนถึงปัจจุบัน สันนิษฐานว่าบริเวณสถานีรถไฟธนบุรี (เดิม) คงเป็นที่อาศัยของชุมชนหนาแน่นในคราวนั้นด้วย ตลอดจนน่าจะมีกิจกรรมที่สัมพันธ์กับวัง ครั้นปลายสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังบวรสถานมงคลทิวงคต วังนั้นจึงทิ้งร้างตลอดมา

     สถานีรถไฟธนบุรี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสถานีรถไฟบางกอกน้อย เป็นสถานีรถไฟที่มีความสำคัญยิ่ง เป็นสถานีรถไฟแห่งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ในปี พ.ศ.2446 ทั้งนี้ที่ดินก่อนการสร้างสถานีรถไฟเป็นที่ดินเวนคืนจากชาวมุสลิม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานที่ดินฝั่งตรงข้าม พร้อมกับสร้าง 'มัสยิดอันซอริซซุนนะห์' (มัสยิดหลวง) เป็นการทดแทน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟธนบุรีเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการสงคราม ในคราวนั้นบริเวณสถานีรถไฟทั้งหมดได้รับความเสียหายมาก ภายหลังสงครามจึงมีการปรับปรุงสถานีรถไฟครั้งใหญ่

     เนื่องด้วยคณะแพทย ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการวิจัยและบริหารทาง การแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการ โครงการศึกษาและวิจัยทางโบราณคดีภายในพื้นที่สถานีรถไฟธนบุรี (เดิม) จะทำให้ได้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์โบราณคดีอื่นๆ ที่เอกสารทางประวัติศาสตร์มิได้กล่าวถึง โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับชุมชนและชีวิตความเป็นอยู่ของคน ตลอดจนการใช้พื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังหลัง ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในเอกสารประวัติศาสตร์


ผลการขุดค้นทางโบราณคดีในปัจจุบัน

     ปัจจุบัน การดำเนินงานทางโบราณคดีได้ทำการขุดค้นเสร็จสิ้นแล้ว พบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ คือ ซากเรือไม้ ที่พบในบริเวณพื้นที่ Area 1 และแนวกำแพงที่พบในพื้นที่ Area 2 สามารถสรุปข้อมูลที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีได้ดังนี้


ซากเรือไม้

     จากการขุดค้นพบว่า ซากเรือที่พบมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 24 เมตร ปลายของหัวเรือและท้ายเรือค่อยๆ สอบเข้าหัวเชิดขึ้นเล็กน้อย ลักษณะของเรือที่พบเป็นเรือกระแชง ซึ่งเป็นเรือที่ใช้ในการบรรทุกข้าวสารหรือสินค้าไปตามแม่น้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเรือเอี้ยมจุ๊น มีท้องเรือเป็นทรงโค้งกลมขนาดใหญ่ ภายในเรือพบตะปูปลิงเป็นจำนวนมากไว้ตอกยึดไม้โครงสร้างเรือต่างๆ เช่น กงเรือ เป็นไม้โค้งวางตามแนวขวางตามท้องเรือ และวางเรียงกันถี่มากเพื่อความแข็งแรง

     บริเวณภายนอกใต้ท้องเรือพบว่า มีการใช้แผ่นทองเหลืองบุบริเวณใต้ลำเรือ พบตัวอักษรภาษาอังกฤษประทับที่แผ่นทองเหลือง ตรงกลางเป็นตัวอักษร A ล้อมรอบด้วยวงกลม และมีตัวอักษรพิมพ์นูนว่า 'MUN?PATENT' ซึ่งอาจจะเป็นชื่อบริษัทที่ผลิต ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล จึงไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัดในขณะนี้

     บริเวณเปลือกเรือด้านทิศ ตะวันตกพบว่าไม้มีร่องรอยของไฟไหม้ตลอดทั้งแนว ร่องรอยไหม้ที่พบนั้นกินบริเวณเกือบครึ่งลำ ทำให้สันนิษฐานว่า หลังจากเรือลำนี้ได้ถูกชะลอมาจอด ณ ที่แห่งนี้แล้ว ต่อมาบริเวณนี้มีไฟไหม้เกิดขึ้น เรือบางส่วนก็ถูกไหม้ในคราวนั้นด้วย

     บริเวณ ใต้ท้องเรือพบคานไม้ที่ใช้รองลำเรือ คล้ายซุงทั้งท่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 23 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4.50 เมตร ใช้เป็นคานรองรับเรือไว้ นอกจากนั้น พบว่ากระดูกงูจะวางอยู่ใต้ท้องเรือ ในบริเวณใกล้กันพบท่อนไม้กลมที่ถูกตัดเป็นท่อนสั้นๆ ขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20-30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 80-90 เซนติเมตร จำนวน 6 ท่อน ไว้เพื่อประคองลำเรือ


กำแพง

     เป็นกำแพงก่ออิฐโดยใช้ดินสอหรือยึดประสานกันระหว่างอิฐ กำแพงอิฐที่พบเรียงเป็นแนวขนานไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย (แม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม) มีความกว้างของกำแพงประมาณ 1.50-2 เมตร

     จากการขุดตรวจสอบด้านตัด (section) เพื่อตรวจสอบฐานรากของแนวกำแพงอิฐ พบว่าแนวกำแพงอิฐทั้งหมดมีความสูงที่วัดได้ในปัจจุบันประมาณ 2.3 เมตร สอด้วยดินทุกชั้น ใต้แนวอิฐก่อรองพื้นด้วยชั้นทราย ชั้นทรายมีความหนาประมาณ 30-50 เซนติเมตร ทั้งนี้ไม่อาจทราบได้อย่างแน่ชัดว่าจะมีไม้เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักหรือไม่ เนื่องจากน้ำใต้ดินที่ไหลออกมาตลอดเวลา ทำให้ชั้นทรายที่ใช้รองใต้แนวกำแพงอิฐพังทลาย และทำให้แนวกำแพงอิฐพังทลายลงมาด้วย

ทั้งนี้ ผู้ศึกษาสันนิษฐานว่าไม่น่าจะมีระบบของการใช้คานไม้หรือไม้ปีกเพื่อรองรับ แนวกำแพงดังกล่าว เนื่องจากไม่พบไม้ที่ใช้วางรองใต้ชั้นแนวอิฐแต่อย่างใด

     เป็นที่น่าเสียดายว่า อิฐบริเวณด้านบนถูกทำลาย หรือถูกรบกวนจากการก่อสร้างในสมัยหลัง ทั้งในสมัยที่เป็นสถานีรถไฟ และการก่อสร้างอาคารในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อดูจากทิศทางการวางตัวของแนวกำแพงอิฐ พบว่าปลายด้านหนึ่งของแนวกำแพงอิฐวิ่งไปทางเขตที่เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคาร ในปัจจุบัน ซึ่งโดนรื้อทำลายไปหมดไปแล้ว ปลายอีกด้านหนึ่งของแนวกำแพงอิฐมีแนววิ่งไปยังโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งอาคารสมัยใหม่คงจะทำลายและรบกวนไปเช่นกัน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนรายวัน วันที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2551 หน้า 20

H O M E



Create Date : 09 กันยายน 2551
Last Update : 9 กันยายน 2551 19:41:19 น. 3 comments
Counter : 1301 Pageviews.

 
เออ... ท่าทางโกโบริ กับอังศุมาลินรุ่นต่อไปจะต้องใช้กราฟฟิกช่วยสร้างบรรยากาศ สถานีรถไฟธนบุรีแบบเดิมๆ แระ...

เสียดาย ว่าผู้บริหารศิริราช และมหิดล ใช้ความไม่ฉลาดไม่ยอมขยายงานด้วยการไปเปิด ศิริราช 2 3 ที่อื่นๆ เพื่อกระจายความเจริญ แล้วรักษาพื้นที่ที่เป็นชุมชนศาลาน้ำร้อน ที่เป็นเหมือนกับ Farmers' Market ของเมืองนอก ที่เคยอยู่ตรงนี้ไว้นะ


โดย: le doc วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:20:08:57 น.  

 
มาหาความรู้ครับ


โดย: boyblackcat วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:20:41:28 น.  

 
หมอ เชื่อมั่นตัวเองมาก เอาเรื่องของตัวเป็นศูนย์กลาง
แทนที่จะย้ายตัวเองออกไปนอกเมือง เพื่อคืนพื้นที่ประวัติศาสตร์ให้แกอนุชน กลับอ้างเหตุเบื้องสูงขยายถิ่นตนเองไปใหญ่


โดย: s IP: 124.121.89.205 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:50:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.