Group Blog
All Blog
|
### โรคมะเร็งรังไข่น่ากลัวกว่าที่คิด ...สาวๆควรรู้ไว้ ###
โรคมะเร็งรังไข่ภัยร้ายสำหรับสตรีที่ต้องระวัง ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้นมะเร็งปากมดลูก ส่วนอันดับสองตกเป็นของมะเร็งรังไข่ ที่น่ากลัวไม่แพ้กัน และหลายคนคงอยากรู้จักมันมากยิ่งขึ้น เพื่อจะหาทางรักษาได้ทันท่วงที คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า มะเร็งรังไข่มีอุบัติการณ์เกิดประมาณ 5 คน ต่อประชากรสตรี 1 แสนคนต่อปี คิดแล้วในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่ประมาณ 1,500 คน ยิ่งสตรีที่มีอายุมากขึ้นโอกาสที่จะเป็นมะเร็งรังไข่ก็สูงขึ้นตามไปด้วย หรือถ้ามีอาการก็มักจะเป็นอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อย ทำให้คนไข้ไปพบแพทย์และวินิจฉัยโรคได้ช้า โรคมะเร็งรังไข่ถ้าวินิจฉัยได้ตั้งแต่ยังเป็นน้อย ๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้ แต่ถ้าเป็นมากโอกาสหายขาดจะยาก ญาติใกล้ชิด เช่น มารดา หรือพี่น้องเป็นมะเร็งรังไข่ ตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม หรือลำไส้ หรือมะเร็งอื่น ๆ อายุมากขึ้น โดยเฉพาะมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป การรับประทานอาหารที่มีไขมัน นมเนยสูง หรือน้ำในท้อง โดยที่ผู้ป่วยอาจคลำก้อนได้ เหมือนมีลูกแตงโมอยู่ในท้อง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท้องมาร รู้สึกว่าอาหารไม่ย่อย ท้องผูก อาการของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย ขัด เนื่องจากก้อนของรังไข่ไปกดเบียด ผู้ป่วยจะผอมลง เป็นอาการของมะเร็งทั่วไป บางรายอาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ดังนั้นเพื่อให้ทราบว่าเป็นโรคโดยเร็วที่สุด ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเอง ถ้ามีอาการตามที่กล่าวมาในข้างต้นให้ไปพบแพทย์ทันที เพื่อความไม่ประมาท แต่ถ้ามีความผิดปกติก็จะได้ตรวจค้นต่อและรักษาแต่เนิ่น ๆ สตรีที่อายุ 35 ปีขึ้นไป หรืออายุไม่ถึง 35 ปีแต่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรตรวจภายในทุกปี แม้ไม่มีอาการผิดปกติ หรือเป็นมะเร็งชนิดอื่น หรือตัวเองเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม จะต้องเฝ้าระวังเรื่องมะเร็งรังไข่ให้มากขึ้น เนื่องจากพบว่าสาเหตุของมะเร็งรังไข่ส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม และตรวจภายใน อาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวด์ คนที่มีก้อนที่รังไข่อาจไม่เป็นมะเร็งรังไข่ก็ได้ เนื่องจากก้อนที่รังไข่อาจเป็นถุงน้ำธรรมดา ถุงช็อกโกแลต หรือเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเป็นก้อนที่ไม่ใช่ถุงน้ำธรรมดาของรังไข่ จะแนะนำให้ผ่าตัด ส่งชิ้นเนื้อจากการผ่าตัดไปตรวจเท่านั้น ในการผ่าตัดรักษาโรคนี้ส่วนใหญ่จะตัดทิ้งมดลูกและรังไข่ทั้งสองข้าง นำน้ำในช่องท้องส่งตรวจเซลล์มะเร็ง และเลาะต่อมน้ำเหลืองส่งตรวจด้วย แต่ถ้าเป็นมากขึ้นจะ ต้องได้รับการรักษาต่อด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งยาเคมีบำบัดนี้ก็มีผลข้างเคียงหลายอย่างที่พบบ่อยได้แก่ กดไขกระดูก ทำให้เม็ดเลือดต่ำ คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งแพทย์จะมีวิธีดูแลรักษาที่สำคัญคือ จะต้องมารับยาตามที่แพทย์นัด เพื่อให้ผลการรักษาดีที่สุด หลังการรักษาผู้ป่วยจำนวนหนึ่งหายจากโรค แต่อีกส่วนหนึ่งมีการกลับคืนมาเป็นมะเร็งรังไข่ ในกรณีที่มีการกลับคืนมาของโรคมะเร็ง แพทย์ก็จะมีวิธีรักษา เช่น การผ่าตัดหรือให้ยาเคมีบำบัดชนิดอื่น ซึ่งอาจทำให้โรคหายไปได้ หรือถ้าไม่หายก็ทำให้ยุบ หรือคงขนาดไปชั่วขณะ จนเมื่อไหร่ที่แพทย์พิจารณาแล้วว่า ควรหยุดการรักษาที่จำเพาะต่อโรค เช่น ผ่าตัด เคมีบำบัด ก็จะบอกให้ผู้ป่วยทราบ หลังจากนั้นก็จะดูแลรักษา แบบประคับประคองตามอาการ ญาติและผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยจะมีส่วนช่วยเหลืออย่างมาก ทั้งร่างกายและจิตใจในช่วงนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.พญ.สฤกพรรณ วิไลลักษณ์ ภาควิชาสูตินรีเวชฯ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
|
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |