Bloggang.com : keigolin : Taiwan, here I've come! #1

Taiwan, here I've come! #1 :: 台湾，我来了!

สวัสดีค่ะ ได้เวลาเริ่มก้าวเท้าออกไปเดินทางสู่ประเทศไต้หวัน อันเป็นประเทศที่เคโกะอยากไปมากที่สุดกันซะทีนะคะ ^^

สำหรับทริปนี้ เคโกะจะพยายามอธิบายให้ละเอียดที่สุดนะคะ รวมถึงสรุปค่าใช้จ่ายให้ด้วยล่ะ (จดไว้ค่ะ เพราะอยากรู้เป็นการส่วนตัวว่าใช้อะไรไปเท่าไหร่ ฮาๆ)

ก่อนที่จะออกเดินทางไปด้วยกัน ก็ขอเล่าเรื่องก่อนการเดินทางกันซะหน่อยนึงนะคะ ขอดูมีสาระอะไรกับเค้าบ้าง 5555

ไต้หวัน เป็นประเทศที่ต้องขอวีซ่า แต่สำหรับผู้ที่มีวีซ่าในกลุ่มประเทศที่ได้รับยกเว้นและยังไม่หมดอายุ (อาทิเช่น ญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา เชงเก้น ออสเตรเลีย เป็นต้น) ก็สามารถ apply visa ผ่านเว็บไซต์และพกติดตัวเข้าประเทศได้เลย ไม่ต้องเสียค่าวีซ่าเพิ่มเติม ซึ่งเคโกะจะไม่พูดถึง เพราะไม่มีวีซ่าพวกนั้น ฮาาาา...

หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า

passport ที่มีหน้าว่างคงเหลือและมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ฉบับ)
ใบขอวีซ่า ต้องกรอกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เท่านั้น แล้วปริ้นท์ออกมาด้วย
รูปถ่ายสี 2*2 นิ้ว พื้นหลังสีพื้น (แนะนำให้เป็นสีขาว) โดยที่รูปถ่าย 1 ใบ แปะลงไปในใบขอวีซ่าเลย
ใบจองตั๋วเครื่องบิน
statement ทางการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน หรือหลักฐานทางการเงินอื่น ๆ
ใบรับรองการทำงานหรือสถานศึกษา
(กรณีต่ำกว่า 20 ปี) ใบรับรองจากผู้ปกครอง
(กรณีมากกว่า 60 ปี) ไม่ต้องมีเอกสารทางการเงินและทำงาน
ถ้ามี passport ไต้หวัน ให้นำไปด้วย
กรณีขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว ต้องมีแผนการเดินทางและใบจองโรงแรมไปด้วย

หลังจากรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ครบแล้ว ก็นำไปยื่นในช่วงเช้า 9:00 - 11:30 น.เท่านั้นค่ะ ที่ชั้น 20 Empire tower อยู่ตรงสาทร ติดกับรถไฟฟ้าช่องนนทรี โดยมีค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า 1,500 บาทถ้วน (หากรีบด่วนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

เมื่อยื่นเอกสารขอวีซ่าแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ใบเหลือง ๆ มา พร้อมทั้งนัดวันที่มารับเล่มพาสปอร์ตคืน ส่วนใหญ่ก็จะประมาณ 1-3 วันทำการค่ะ ซึ่งในเวลาที่จะมารับเนี่ย ให้มารับช่วงบ่าย คือ 13:30 - 15:00 น.เท่านั้นค่ะ (แต่ตอนที่เคโกะไปรับ นานอะ กว่าจะ run queue เพื่อรับเล่ม ก็เกือบบ่าย 3 ละ - -")

จากนั้นก็นั่งนับวันออกเดินทางค่ะ

สายการบิน : Transaia Airways (จองในงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก ที่บูท Quality Express เพราะสายการบินไม่ขายตั๋วโดยตรงค่ะ -- ในราคา 8,999 บาท)
Departure flight : GE868
Departure Date & Time : 4 Dec 2014 20:20 ---> 5 Dec 2014 00:50
Arrival flight : GE867
Arrival Date & Time : 9 Dec 2014 16:30 ---> 19:20

overview plan : BKK - Taoyuan Airport - Sun Moon Lake - Taipei - Taoyuan Airport - BKK

มาเริ่มเดินทางไปด้วยกันเลยค่ะ ^^

4-Dec-2014
เคโกะไปถึงสนามบินราว ๆ หกโมงเย็นกว่า ๆ ค่ะ เช็คอินอะไรก็ปกติเรียบร้อยดี พอเดินไปถึงตม.ขาออกไทย (เดินเข้าช่องปกติ ที่มีจนท.สแตมป์ให้อ่ะค่ะ) ก็เจอคุณจนท. ถามให้ชวนงง เพราะออกตปท.ทุกครั้งก็ไม่เคยเจอคำถามจากตม.ไทยมาก่อน

จนท. : ไปไต้หวัน ไปทำอะไร?
เคโกะ : (งงไปแปบนึง) ไปเที่ยวค่ะ

แล้วคุณจนท.ก็สแตมป์ตราผ่านออกนอกประเทศมาให้ เคโกะเดินงง ๆ ไปจนถึงหน้าเกทว่าจนท.ถามทำไมหว่า รึคงแปลกใจที่เห็นผู้หญิงไปคนเดียวมั้งคะ 555

พอไปถึงที่เกท ก็รออยู่นานเลยค่ะ เพราะสายการบินไฟลท์นี้ดีเลย์ไปราว ๆ ครึ่งชม.ได้

หลังจากที่เคโกะบินกับสายการบินโลว์คอสมานาน พอมาเจอสายการบินฟูลคอสแบบนี้ก็ถึงกับอึ้ง ๆ ไปเล็กน้อย อารมณ์แบบว่า ว้าววววว ชั้นมีทีวีให้ดู มีผ้าห่มให้ มีข้าว มีน้ำให้กินด้วยอ้ะะะะะ 555 นึกแล้วก็ยังขำตัวเองเลยค่ะ

พอเครื่องเทคออฟและไต่ความสูงคงที่แล้ว ลูกเรือก็เริ่มเสิร์ฟอาหารค่ะ มีเมนูให้เลือกแค่เมนูเดียว ก็ดีนะ ไม่ต้องคิดเยอะดี

เป็นข้าวหน้าไก่ค่ะ รสชาติก็เฉยๆ แต่พวกขนม อร่อยใช้ได้ แต่ที่นอกเหนือความคาดหมายคือน้ำส้ม รสชาติแปลก ๆ อ่ะค่ะ

ตามแผนของเคโกะ เมื่อถึงสนามบิน ผ่านตม. รับกระเป๋าอะไรเรียบร้อย คาดว่าจะเป็นเวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ ได้ ก็คิดว่าจะนอนค้างที่สนามบิน รอจนเช้าแล้วค่อยออกเดินทางค่ะ แต่ก็เป็นอันผิดแผนไป .. อดลองนอนสนามบินเลยแฮะ 555

เครื่องแลนด์ดิ้งแล้วก็รีบผ่านตม.ค่ะ ตรงนี้เป็นบริเวณก่อนถึงด่านตม. สะท้อนแล้วสวยดีเนอะ

ตม.ที่ไต้หวันกลับไม่ได้ถามอะไรเลยค่ะ พลิกหน้าวีซ่าแล้วก็ปั๊มตราลงไป คืนพาสปอร์ตให้ก็เป็นอันเรียบร้อย

เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมา เคโกะได้บอกเพื่อนไว้แล้ว (คนที่เคโกะเคยพูดถึงใน blog นี้ น่ะค่ะ) แล้วก็บอกไปแล้วด้วยว่า ไม่ต้องมารับ เพราะมันดึกมาก เกรงใจเพื่อนอ่ะค่ะ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าจะมารับ แล้วก็จะพาไป Taichung (台中) เลย แล้วไปหาที่พักที่นู่นสักครู่ดีกว่า

เอ้า เจ้าตัวเค้าปรารถนาดีมา เคโกะก็ไม่กล้าเถียงอะไรอีก ก็รับความปรารถนาดีนั้นไว้ค่ะ

เมื่อเจอหน้ากันแล้ว เค้าก็พาไปขึ้นรถ u-bus สุดฮิต เป็นรถบัสเดินทางไปทั่วประเทศเลยประมาณนั้น ซึ่งระหว่างรอรถบัสมารับ ก็ได้เอาของแลกเปลี่ยนกัน (เค้ามีฝากซื้อของที่ไทยไปให้ แล้วเค้าก็เอาของมาให้อ่ะค่ะ) หนึ่งในของที่เค้าให้มามีบัตร Easycard ด้วย ซึ่งมันดีมากจริง ๆ ใช้ขึ้นรถไฟฟ้าได้ รถเมล์ รถบัสก็ได้หมด รถไฟท้องถิ่นก็ยังได้ แถมยังซื้อของใน 7-11 ได้อีกด้วย .. ซึ่งตัวบัตรเนี่ย ถ้าจำไม่ผิดจะมีราคา 100NTD มีค่ามัดจำบัตรด้วย แต่พอถามเค้าว่าใช้ได้เท่าไหร่ เค้าก็บอกว่าเติมมาไว้ให้ใช้เป็น 500NTD โอ้ว ว้าวววว ดีเกินไป เคโกะเกรงใจสุด ๆ เลยค่ะ >.<~

พอรถบัสมา เราก็ขึ้นรถกัน มีเปลี่ยนรถนิดหน่อยครั้งเดียวค่ะ แล้วก็ยิงยาวไปจนถึง Taichung เลย แล้วพวกเราก็พากันเข้านอนที่ Bravo Hotel ซึ่งเค้าก็จองให้อีกนั่นแหละ ถ้าจำไม่ผิด จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Taichung ค่ะ (TRA Taichung) แล้วเดินเข้าถนนเล็ก ๆ ไปนิดเดียวค่ะ

5-Dec-2014
ตื่นเช้ามาก็ล้างหน้าแปรงฟัน เก็บของแล้วก็เชคเอาท์ค่ะ มีโอกาสได้เก็บรูปสภาพห้องไว้นิดหน่อย เผื่อใครมองหาที่พักใน Taichung กันนะคะ

ผ้าห่มยู่ยี่มาก แหะๆ >.<"

ติดกับเตียงเป็นโต๊ะทำงานค่ะ มีน้ำให้ดื่ม 2 ขวด ฟรี

เสร็จสรรพ ก็เข้า 7-11 ใกล้ ๆ กับโรงแรมค่ะ ซื้อของกินเป็นอาหารเช้ากัน เคโกะหยิบมั่วสุด ๆ ได้เจ้าสิ่งนี้มา ไอ้เจ้ากล่อง ๆ นั่นเป็นชาเขียวนมเปรี้ยวค่ะ รสชาติประหลาด ๆ ดี 555

สองอย่างนี้ราคารวม 60NTD ค่ะ

จากนั้นก็ถึงเวลา say goodbye กันชั่วคราว เค้าจะพาเคโกะไปขึ้นรถบัสไปยัง Sun Moon Lake ส่วนตัวเค้าก็จะนั่งรถกลับไปทำงานต่อ

จุดที่ขึ้นรถบัสนั้นก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ลงรถบัสเมื่อคืนนี้ ก็ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟนั่นแหละค่ะ แล้วเดินเลยไปอีกหน่อย จะมีป้ายรถบอกอยู่ว่าไป Sun Moon Lake ด้วย

ตรงนี้ก็ผิดแผนเคโกะอีกล่ะ จากแผนเดิมตั้งใจว่าจะซื้อ Sun Moon Lake Pass แบบราคา 680 บาท ซึ่งจะรวมค่ารถไปกลับ Taichung ไว้แล้วค่ะ และสามารถใช้จากตรงนี้ได้เลย

เอาล่ะ ผิดแผนก็ไม่เป็นไร ได้รถบัสก็จ่ายค่ารถตอนขึ้นเลยนะคะ เค้าจะให้ตั๋วหน้าตาแบบนี้มา พอถึงป้ายที่ลง ก็คืนตั๋วให้เค้าฉีกไปค่ะ

พอมาถึง Sun Moon Lake (日月潭) เรียบร้อยแล้ว เคโกะก็ลากกระเป๋าเข้าที่พักเลย ซึ่งเคโกะรีวิวไว้แล้ว ที่นี่ ค่ะ

เสร็จแล้วก็เดินย้อนกลับไปที่ Information Center เพื่อซื้อตั๋ว Sun Moon Lake Pass ในราคา 360NTD

แผนแรกของเคโกะเมื่อมีพาสแล้วก็คือ นั่งเรือก่อนเลยค่ะ ก่อนที่เรือจะหมด .. แต่เมื่อเดินไปถึงท่าเรือก็เจอกับภาพแบบนี้ ...

อ๊ากกกกกกกกกกก หมอกจากไหนเยอะแยะ -*- และเนื่องจากวิสัยทัศน์ไม่ดีกับการเดินเรือ เพราะงั้นก็จะงดออกเรือค่ะ T.T

แผนแรกพังไป ก็เลยต้องมาแผนสอง คือ นั่งรถเมล์รอบ ๆ ทะเลสาบแทน แล้วต่อด้วยขึ้นกระเช้าขำ ๆ เพราะขึ้นไปหมู่บ้านวัฒนธรรมเก้าชนเผ่า (Formosa Aboriginal Culture Village - 九族文化村) ไปก็ต้องเสียค่าเข้าต่างหากอีก และก็ไม่ได้ตั้งใจมาอยู่แล้ว (ถ้าตั้งใจไปก็ควรจะซื้อพาสราคาแพงสุดอ่ะค่ะ เพราะรวมค่าเข้าหมู่บ้านนี้ไว้แล้ว และก็ควรจะเป็น 3 วัน 2 คืน แทนที่จะเป็น 2 วัน 1 คืน แบบนี้)

พอคิดได้ตามนี้ ก็ออกเดินหาป้ายรถเมล์ค่ะ เดินงง ๆ วนไปวนมาอยู่พักใหญ่ ก็ไปจ๊ะเอ๋กับคนไทยกลุ่มนึงที่ส่งภาษาจีนทักเคโกะก่อนเลยว่าป้ายรถเมล์ไปทางไหน ไอ้เราก็ตอบไปอย่างอัตโนมัติว่าไม่รู้ค่ะ แต่พอเดินสวนกันไปได้ห้าหกก้าว ก็เริ่มเอะใจ มีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง พอหันกลับมา เค้าก็ถามต่อว่า คนไทยใช่มั้ย สำเนียงแบบนี้มันคุ้นมาก (- -")

แล้วจากนั้นเคโกะก็เลยขอเค้าไปด้วยค่ะ ซึ่งเราก็เจอป้ายรถเมล์ในที่สุด ซึ่งมันอยู่ข้าง ๆ กับบูธที่ซื้อพาสนั่นแหละ (- -")

แปะแผนที่ให้ดูก่อนเนอะ ว่าทั้งรถเมล์ เรือ และเคเบิ้ลคาร์มันต่อกันยังไงค่ะ

แผนที่ตัดมาจากรูปพาสในเว็บรายละเอียดพาสราคาต่าง ๆ ค่ะ (//www.sunmoonlake.gov.tw/smlbus/ticket.asp?lang=en)

ป้ายแรกที่พวกเราลงก็คือ ป้ายวัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple - 文武庙) ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมาเบา ๆ (สาเหตุที่ทำให้หมอกลงจัดนี่แหละ - -") แล้วก็เดินเข้าไปในวัด ถ่ายรูปอะไรกันตามอัธยาศัย

รูปนี้เคโกะถ่ายจากกระถางธูปด้านหน้าวัด ออกมายังถนนค่ะ จะเห็นได้ว่าหมอกลงจัดมากจริง ๆ หลังจากประตูวัดไปแล้วก็มองอะไรไม่เห็นเลย ทั้ง ๆ ที่ควรจะเห็นวิวทะเลสาบบ้างไรงี้

ด้านหน้าตัววัดอีกตึกนึงที่อยู่ด้านในเข้าไปอ่ะค่ะ ตรงกลางของบันไดสองฝั่งแกะสลักเป็นรูปมังกร สวยมากเลย

เดินถ่ายรูป + ชมวัดจนพอใจแล้ว ก็เดินออกมาจากวัดค่ะ มองหากลุ่มคนไทยกลุ่มนั้นที่ขอเค้าไปด้วย (คือเคโกะหมายถึงว่าจะไปด้วยตลอดทางรถเมล์จริง ๆ นะ) แต่พอเหลียวไปเหลียวมาก็ไม่เจอค่ะ เลยรู้ตัวว่า "ถูกทิ้ง" ซะแล้ว T.T

ตรงป้ายรถเมล์ที่รถเมล์ปล่อยให้ลงนั้นจะมีทางเดินลงไปด้านล่าง ซึ่งเค้าจะให้ผูกกับกระดิ่ง (ป่ะนะ?) คล้าย ๆ กับป้ายเขียนคำขอพรแบบในวัดญี่ปุ่นอ่ะค่ะ แล้วแต่ละขั้นบันไดก็คือวันแต่ละวันในรอบปี ถ้าจำไม่ผิด จะเริ่มที่วันที่ 1 เดือน 1 ก่อน เคโกะก็กะว่าจะเดินไปให้ถึงวันเกิดนะ แต่ไม่ไหวอะ ไกลไป - -"

ระหว่างรอรถเมล์ก็ถ่ายรูปจากด้านหน้าอีกซักทีค่ะ ป้ายชื่อวัดยังคงเขียนแบบโบราณอยู่ คืออ่านจากขวาไปซ้ายล่ะค่ะ

จากนั้นรถเมล์มา แล้วก็ไม่จอดป้ายที่รถเมล์คันแรกปล่อยให้ลง เคโกะก็งง อ้าวเฮ้ยยยย ไรอ่ะ พอมองไปทางขวานิดหน่อยก็เห็นเค้ารอกันตรงนั้น มีป้ายรถเมล์อยู่ด้วย T.T (ไม่รู้นี่นาาาาา แง่ม) ก็เลยรีบใส่เกียร์สี่เท้าโกยโลดค่ะ ซึ่งคนขับรถก็มองเห็นแล้วว่ามีกะเหรี่ยงตัวนึงวิ่งหน้าตั้งจากด้านหลังรถ เค้าก็เลยใจดีจอดรอให้ขึ้น (ไม่งั้นรอรถอีกคัน T.T)

ป้ายถัดไปที่เคโกะลงก็คือสถานีกระเช้าลอยฟ้าค่ะ จากตรงนี้สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปดูหมู่บ้านวัฒนธรรม 9 เผ่าได้ (ที่เคโกะว่าจะไม่เข้านั่นแหละ แค่จะขึ้นไปดูวิว และเดินดูรอบ ๆ เฉย ๆ)

ตัวสถานีกระเช้าจะอยู่ด้านในตึก ต้องเดินทะลุผ่านลานจอดรถไปก่อนค่ะ ฉีกตั๋วในพาสให้จนท.ก็ผ่านได้เลย ซึ่งกระเช้าสุดท้ายก็คือเที่ยว 16:00 น. แต่เคโกะขึ้นไปอ่ะ ก็ 15:40 แล้วววว ..

ชั้นมาทำอะไร ณ จุดนี้ .. ?

เอาล่ะ ด้วยเกรงว่าเนื้อหาในบล็อคจะยาวววววเกินไป ก็ขออนุญาตตัดกันห้วน ๆ สั้น ๆ แบบนี้เลยนะคะ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในบล็อคหน้าค่ะ ^^"

ขอบคุณและสวัสดีนะคะ Smiley

Create Date : 24 มกราคม 2558

Last Update : 24 มกราคม 2558 16:22:10 น.

5 comments

Counter : 2155 Pageviews.

มาอ่านแก้คิดถึงจ้าา

เป็นอีกประเทศที่ตั้งใจจะทำรีวิวละเอียดๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอ้ะ แง

สมุดจดอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้

วีคนี้พี่จะยุ่งยาวๆ เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะแว้บมาโหวตให้นะจ๊ะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 25 มกราคม 2558 เวลา:20:53:35 น.

ไหนๆ ก็อยู่จนเลยเที่ยงคืนแระ มาโหวตให้เลยดีกว่า อิอิ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 26 มกราคม 2558 เวลา:0:09:42 น.

去过,挺不错

โดย: sutham IP: 192.99.14.34 วันที่: 27 มกราคม 2558 เวลา:14:18:17 น.

ตอบคุณ sutham .. ^^ จริงค่ะ

โดย: keigolin

วันที่: 29 มกราคม 2558 เวลา:23:36:49 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 30 มกราคม 2558 เวลา:3:05:41 น.