Bloggang.com : ใจรัก Jairuk Channel : UFO ที่ขอนแก่น

UFO ที่ขอนแก่น

ชาวบ้านขอนแก่นตื่นลูกไฟประหลาด!! คาดจานบินมนุษย์ต่างดาว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

18 กุมภาพันธ์ 2551 14:49 น.

ชาวบ้านในตำบลหนองแวง อ.พล จ.ขอนแก่น จำนวน 20 คน ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยและแสดงภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือและกล้องวิดีโอที่สามารถบันทึกได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านดังกล่าวต่างพากันนั่งรอเพื่อดูปรากฏการณ์มหัศจรรย์ หลังพบลูกไฟขนาดใหญ่บินลอยอยู่เหนือน่านฟ้าในเวลาประมาณ 24.00 น. ไปจนถึงเวลา 24.15 น. นางสุภามาศ มากบริบูรณ์ ผู้ที่สามารถบันทึกภาพได้ เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 3 วัน ที่ได้พบเห็นลูกไฟประหลาด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาว
ขณะที่เมื่อคืนนี้จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาร่วมชม และรอบันทึกภาพจนกระทั่งพบลูกไฟที่มีแสงสีขาว สีส้ม และเมื่อนำภาพถ่ายที่บันทึกภาพได้มาดูใกล้ๆ ก็พบลำแสงสีๆ มากมาย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาว อย่างไรก็ตาม ในคืนวันนี้จะยังคงนำชาวบ้านมารอชมปรากฏการณ์ดังกล่าวเพื่อหาความชัดเจนต่อไป

https://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000020206

ช่วงวันที่มีเหตุการณ์จานบินมนุษย์ต่างดาวที่อ.พล แถวบ้านดิฉันก็มีสิ่งผิดปกติช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น คือค้างคาวบินว่อนเยอะแยะมากมายบนท้องฟ้าเหมือนแตกตื่นอะไรสักอย่าง ซึ่งปกติไม่เคยมีค้างคาวมาบินแบบนี้เลย พอไม่มีข่าวจานบินแล้วก็ไม่มีค้างคาวมาบินอีกเลย สำหรับดิฉันคิดว่าเหตุการณ์นี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกันรึเปล่าอาจมีคลื่นรบกวนหูเรดาห์ค้างคาว

คนเม้นต์จากบอร์ดพลังจิต

https://board.palungjit.org/

เราอยู่ขอนแก่นจ้า แต่อยู่อำเภอเมือง ที่สำคัญ เราขับรถไม่เปน เรายังไม่บรรลุนิตภาวะด้วยอ่าซิ จาไปได้ไง
วิเศษจิงๆๆ
ชอบๆๆๆๆ
ไมไม่มาโผล่ให้เราเหนบ้าง แล้วก็ให้พลังแปลงร่างเรา
เหมือน fantastic four ง่ะ!!! จะเป็นตัวล่องหน อิอิ

เอ้อ!! เมื่อเช้า(นี้) มีเสียงแปลกๆๆ เหมือนกัน
คือเราล้างหน้าอยู่นะ มีเสียง หวี้ หวี้ แหว๋ แหว๋ เหมือนเครื่องบินบังคับ อ่ะ แต่เสียงมันเนียนมากๆๆๆ
เราล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียง
ลอยวนๆๆ ทั่วๆ ซอยเลย
วนไป วนมา ประมาน 2 นาทีนี่แหละ
แต่ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าเปนเครื่องบินบังคับ -.-

!! หรือว่า ...

https://hilight.kapook.com/view/20709

UFO ที่ ขอนแก่น 2012

ufo-khon kaen, thailand-Jan1,2012-part1

https://www.youtube.com/watch?v=gTdKB8m66qw

ufo-khon kaen, thailand, Jan1, 2012-part 2

https://www.youtube.com/watch?v=2khAJ2b5c4o

แชร์ประสบการณ์ UFO ที่ขอนแก่น 4 ปีที่แล้ว
เมื่อ: 26 ธันวาคม 2010

https://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=164095.0

ในเมืองไทย

กระแสการพบเห็นจานบินในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนจะน้อยกว่าที่เกิดในต่างประเทศ ในประเทศเราอาจมีผู้คนสนใจอยู่ในวงจำกัด แต่เมื่อราว 1-2 ปีที่ผ่านมา กระแสความสนใจในจานบินได้เริ่มชัดเจนขึ้น โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2539 หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ได้ลงข่าว ชาวบ้านพบเห็นมนุษย์ต่างดาวและจานบินเป็นเวลาหลายวัน

ชาวบ้านแถบจังหวัดกาญจนบุรีอ้างว่า เคยพบเห็นมนุษย์ต่างดาวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว พวกชาวบ้านเรียกสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดนี้ว่า"ผีเสื้อห้วย" พวกเขาบรรยายลักษณะของ ผีเสื้อห้วยว่ามีตัว เตี้ยว ท้องพลุ้ย ตาใหญ่ พูดภาษาที่ไม่เข้าใจโดยจะใช้การสื่อสารทางจิตแทนนอกจากนั้นยังเสริมอีกว่าพวกผีเสื้อห้วยเป็นพวกที่วิ่งเร็วมากและแข็งแรง

ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 21 กค. 2539 ได้เขียนเรื่องของนายประเสริฐ เขี้ยวปริ่ม อายุ 55 ปี เป็นชาวท่ามะขาม จ.กาญจนบุรี เป็นผู้หนึ่งที่อ้างว่า เขา เคยพบเห็น UFOและมนุษย์ต่างดาวมาก่อนเมื่อราวปี 2519 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงพลบค่ำขณะที่นายประเสริฐนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่กับหลานและน้องภรรยาอีก 4คน ที่บริเวณลานล้าน เขาเล่าว่า เขาเห็นแสงสว่างพุ่งลงมาจากท้องฟ้าลงสู่ป่าละเมาะที่ล้อมรอบบ้านอยู่ ห่างจากจุดที่นั่งราว 500 เมตร เขาตกใจมาก หลังจากนั้นเขาเห็นเงาดำ 3-4 เงา รูปร่างคล้ายสุ่มไก่แต่เล็กกว่าปรากฎขึ้นพร้อมเสียงค่อยๆ ไม่ชัดเจน เสียงคล้ายเครื่องปรับอากาศในปัจจุบัน

นอกจากนั้นยังมีวัตถุคล้ายใบไม้ร่วงลอยลงมาอีกด้วย เมื่อวัตถุเหล่านั้นปะทะกับกระแสลมก็ปลิวกระจายออกไปเป็นลำแสง แล้วจึงค่อยเลือนลางจนมองไม่เห็น

ขณะเกิดเหตุ เขาคิดว่า มันเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมตก รุ่งเช้าเขาจึงออกมาดูที่เกิดเหตุพร้อมชาวบ้าน และพบเศษโลหะตกเกลื่อนพื้นดินโดยรอบ มีรูปร่างคล้ายท่อน้ำเรียวยาว สีเหมือนอลูมิเนียม และมีส่วนที่คล้ายล้อจักรยานยนตร์ เขาและชาวบ้านไม่ได้สนใจอะไรนัก แต่เด็กๆได้นำเศษวัสดุนั้นไปขายเป็นเศษเหล็ก

จากนั้นอีก 3วัน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับเดียวกันซึงยังคงติดตามเรื่องนี้อยู่ได้ออกสัมภาษณ์ชาวบ้านในจังหวัดกาญจนบุรีที่อ้างว่า เคยเห็นจานบินมาก่อน ทั้งยังเก็บชิ้นส่วนจานบิน ได้ด้วย ผู้พบเห็นชื่อ นายโปเย่ง สังขจิต อายุ 55 ปี เป็นชาวตำบลหนองลุ อำเภอสังขละบุรี เขาเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ขณะที่เกิดเวลาราว 4 โมงเย็น เขาและภรรยากำลังทำไร่อยู่ กลางภูเขา กุยยายโถ ทันใดนั้นได้เกิดพายุฟ้าผ่าและมองเห็นประกายไฟพุ่งชนต้นไม้ ประกายไฟแตกออกเป็นสองส่วน เนื่องจากมีฝนตกจึงทำให้ไฟดับลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่นายโปเย่งเก็บมาได้ มีลักษณะคล้ายขวาน ปลายคมแบน ผิวเกลี้ยงสีเทาดำคล้ายเหล็กและหินอ่อนมีน้ำหนักเบา

เขาได้ลองนำวัตถุที่ตกจากฟ้านี้ไปผสมเป็นกระสายยาแก้โรคต่างๆ ใหกับผู้ป่วยในหมู่บ้าน ซึ่งได้ผลเฉพาะโรคปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนั้นถ้านำน้ำมันมะพร้าวมาทาบริเวณคมแล้ว นำน้ำมันนั้นไปถูนวดตัว อาการปวดเมื่อยจะหายไปอย่างประหลาด แต่นายโปเย่งไม่ยอมให้นำชิ้นส่วนนั้นไปทำการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เราจึงไม่อาจทราบได้ว่าสิ่งที่เขาเก็บมาได้นั้นคือวัตถุประเภทใด และมีความเกี่ยวข้องกับ จานบิน หรือไม่

นักวิชาการไทยอีกหลายคนที่สนับสนุนเรื่องราวเกี่ยวกับ จานบิน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา คือ นักวิทยาศาสตร์ไทยท่านหนึ่งผู้เคยร่วมงานในการสร้างยานบินอวกาศของนาซา ดร.อาจอง เชื่อในเรื่องจานบินและชีวิตต่างดาว เนื่องจากท่าน "เคยพบเห็นด้วยตาตนเอง 14 ครั้ง" โดยบอกว่า พบเห็นในประเทศไทย 2 ครั้ง คือ ที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดขอนแก่น ที่เหลือ คือ พบเห็นที่สหราชอาณาจักร ขณะยังเป็นนักศึกษาไปเข้าค่ายบนภูเขาเพื่อเฝ้าสังเกตจานบิน

นอกเหนือจากความเป็นนักวิทยาศาสตร์ท่านยังบอกว่า ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถทางจิตในการรับรู้ได้ว่าใครคิดอย่างไรกับตนเองหรือเรียกว่ามีพลังจิต ท่านบอกว่าตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่พบเห็นจานบิน จิตใจจะสงบ ดังนั้นจึงสรปว่า
"มนุษย์ต่างดาวเป็นพวกที่มีจิตใจสูง เป็นนักบุญ"
และให้เหตุผลอีกว่า ถ้าจิตใจพวกเขาไม่สูงเช่นนี้ ด้วยวิทยาการอันก้าวหน้าจนสามารถเดินทางมายังดาวเคราะห์โลกได้ พวกเขาอาจทำลายล้างกันเองจนหมดสิ้นแล้ว แต่กระนั้น ท่านยอมรับว่าไม่เคยเห็นตัวของมนุษย์ต่างดาวมาก่อน ส่วนสาเหตุที่มนุษย์ต่างดาวมาโลก คือ เหตุผลเดียวกับที่เราส่งยานอวกาศไปศึกษาดวงดาวอื่นนั่นเอง

นักวิชาการอีกท่านหนึ่งซึ่งมีความคิดเห็นสอดคล้องกับดร.อาจอง ในด้านจิตวิญญาณ คือ นพ. ประสาน ต่างใจ เจ้าของคอลัมน์ "เจาะจักรวาล" ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการมาเยือน โลก ของมนุษย์ต่างดาวว่า พวกเขามาให้เราเห็นจริง แต่ไม่ใช่ในโลกทางกายภาพ มันเป็นคนละตำแหน่งคนละมิติ เนื่องจากข้อจำกัดทางกายภาพทำให้ ไม่สามารถที่จะเดินทางเป็นระยะไกลเช่นนั้น ได้ แต่จิตใจสามารถทำได้ และยืนยันดังเช่น ดร.อาจอง ว่า มนุษย์ต่างดาวมีจิตใจสูงส่ง ท่านคิดว่า"มนุษย์ต่างดาวกับผี เหมือนกัน มนุษย์ต่างดาวกับเทพทั้งหลายก็เหมือนกัน

ดร. วิชัย เชิดชีวศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอีกผู้หนึ่งสนใจศึกษาปรากฎการณ์จานบินและมนุษย์ต่างดาว แม้ว่า ดร.วิชัย จะไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้เพราะ "ผมไม่เคยเห็น ถ้าจะให้เชื่อคงยาก" แต่กระนั้นก็ยังไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ออกไปโดยสิ้นเชิง เปิดใจไว้ส่วนหนึ่งเพื่อรับเรื่องเหล่านี้และหวังว่าจะสามารถพบเห็น จานบิน และมนุษย์ต่างดาวได้สักวัน

ดร.วิชัย ให้ความเห็นว่า การที่มนุษย์ต่างดาวมีลักษณะเหมือนมนุษย์เนื่องจากมนุษย์เอาจินตนาการเข้าไปในสิ่งที่ตนไม่รู้ และยังยกตัวอย่างภาพยนตร์ที่ทำเงินได้มากของสรอ.นั้น การที่สร้างให้มนุษย์ต่างดาวดูแปลกประหลาดจะเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ ในความเห็นของท่านที่มีต่อฟิล์มภาพยนตร์ขาวดำ 16 มม. ซึ่งถ่ายภาพการผ่าตัดมนุษย์ต่างดาวที่สร้าง ความตื่นตะลึงไปทั่วโลกนั้น ดร.วิชัยคิดว่า "มีคนประหลาดเยอะแยะไป เช่น เด็กแก่ เด็กหัวโต เด็กที่มีนิ้วมือ 6 นิ้ว หรือแฝดอิน-จัน ตัวติดกันอีกหลายประเภท ความผิดปกติของมนุษย์เป็นไปได้ มันคือการผ่าเหล่าหรือโครโมโซมผิดปกติ โลกนี้มีคนหลายล้านคน การที่ลักษณะผ่าเหล่าเช่นนี้ปรากฎขึ้นมาจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้"

ด้านกระแสความนิยมที่มีอยู่มากมายในขณะนี้ ดร.วิชัย เชื่อว่าจะมาจากภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อีที ประชากรพันธุ์พิเศษจากนอกพิภพ(ET. extraterestrial) วันประกาศอิสรภาพ (Independence Day) ,สงครามดวงดาว(Star Wars) ซึ่งภาพยนตร์เหล่านี้ทำเงินได้มากมาย รวมทั้งยังมีการสร้างภาพยนตร์ออกมาอีกหลายเรื่อง

นักวิทยาศาสตร์ไทยอีกคนหนึ่งที่เปิดใจรับปรากฏการณ์ลึกลับเหล่านี้เช่นกัน คือ ดร.วิสุทธิ์ ใบไม้ นักวิทยาศาสตร์ทางด้านชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดร.วิสุทธิ์ บอกว่า"เชื่อในเรื่องธรรมชาติ พลังจิต แม้ว่าจะตรวจสอบไม่ได้ แต่มันเป็นพลังอย่างหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน" และมีทัศนคติต่อจานบินว่า "ถ้ามีจริงคงต้องเป็นยานที่มีเทคโนโลยีสูงมาก ถ้ามีมนุษย์ต่างดาวจริง ก็ไม่น่าจะมีลักษณะเหมือนมนุษย์โลกเพราะสภาพการวิวัฒนาการต่างกัน และไม่น่าจะอยู่ได้ในสภาพโลก

ดร.วิสุทธิ์ ให้ความเห็นว่าการศึกษาเรื่องจานบินลึกลับ มีประโยชน์ในการ "ท้าทายสติปัญญา เพื่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีมนุษย์ต่างดาวจริง นั่นหมายถึง เราไม่ใช่หนึ่งเดียวในจักรวาล"

By Admin 3 หรือ Por

https://www.facebook.com/UFOinThailand/posts/438646099488437

มนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร และดาวศุกร์ จะบุกโลกในปี พ.ศ 2565

เพิ่งไปค้นเจอมา เป็นคำบอกเล่าของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
เมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน 2540 บริษัทเดอะสแตลเลี่ยน อินโฟมีเด๊ย จำกัด ผู้ผลิตรายการ"เรื่องจริงที่เหลือเชื่อ" ซึ่งออกอากาศทุกคืนวันจันทร์เวลา 23.20 น. ร่วมกับห้างสรรสินค้าเดอะมอลล์และ ITV จัดงานสัมมนาครั้งแรกของประเทศไทยในหัวเรื่อง"มนุษย์ต่างดาว" ณ ห้อง Convention Center เดอะมอลล์บางกะปิ โดยงานจะแบ่งเป็นส่วนคือส่วนของนิทรรศการและ สมมนามนุษย์ต่างดาว

การสัมมนาจัดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน เริ่มงานเวลา 13.00 น. โดยมีนายปราโมทย์ ตรีวัฒนานนท์ เจ้าของรายการเป็นพิธีกร การสัมมนาครั้งนี้มีการฉาย VTR แสดงหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว จากทั่วทุกมุมโลก ฟิล์มการผ่าตัดศพมนุษย์ต่างดาว พร้อมเจาะลึกทุกปัญหาที่เกี่ยวข้องจากนักวิชาการผู้ทรง คุณวุฒิ 6 ท่านสลับกับการให้ผู้ชมได้ซักถามข้อสงสัยการแสดงความคิดเห็นหรือเล่าประสบการณ์ที่เคยพบเห็น จานบินจนกระทั่งปิดการสัมมนาเวลาประมาณ 19.00 น.
ข้อมูลจากการสัมมานาครั้งนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิในวงการวิทยาศาสตร์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องมนุยษ์ต่างดาว ให้ผู้สนใจจำนวนมากฟัง
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา กล่าวตอนหนึ่งว่า 14 ครั้งที่ผมเคยเห็นจานบินมีลักษณะแตกต่างกันไปบ้างมีอยู่ครั้งเดียวที่เห็นเป็นจานกลมๆ ที่สวิตเซอร์แลนด์นอกนั้นจะอยู่ไกลซึ่งมองเห็นไม่ชัดด้วยตาเปล่า ยกเว้นที่จังหวัดขอนแก่น ผมเห็นลักษณะเหมือนไข่สีส้มๆมีแสงสว่างของมันเอง วิ่งไปช้าๆ แต่ที่แปลกก็คือ มันมีแสงสว่างเล็กๆ 5 ดวงวิ่งไปวิ่งมารอบๆรูปไข่ที่กำลังวิ่งไป แสงนั้นเป็นแสงสีขาวๆเหลือง ๆ ไม่เหมือนยานแม่รูปไข่ นอกนั้นผมจะเห็นแสงสว่างเหมือนดาวมากกว่า คือเล็กมาก วิ่งในลักษณะไม่เหมือนกับดาว เพราะวิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วก็เปลี่ยนทิศทางเป็นมุมฉาก 90 องศา โดยไม่มีการโค้งหรือช้าลงเลย
ผมฝึกสมาธิ 40 กว่าปีแล้ว ทุกครั้งผมเห็นจากบินผมจะรู้สึกมีความสงบ ความสุข ไม่ได้เกิดความวิตกกังวลความกลัวเลย มันมีพลังบางอย่างที่ผมเชื่อว่าดี
ผมจะชี้แจงว่าทำไมเขาถึงมาโลกนี้ เขากำลังจะมาบุกโลกอีก 25 ปี เขาจำเป็นต้องมาสำรวจแผนที่ในโลกนี้ว่า มีกองทัพอยู่ที่ไหน อะไรต่างๆ และเขาถึงกับวางแผนว่า มนุษย์ดาวอังคารจะบุกมาแถบเอเชีย ส่วนดาวศุกร์จะไปแถบอเมริกาและยุโรป ที่เขาจำเป็นต้องรอถึง 25 ปีเพราะขณะนี้เขายังไม่พร้อมเขาจะบุกเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น รศ.ดร. พิชัยกล่าวว่ามนุษย์ต่างดาวมีจิตวิญญาณค่อนข้างสูง โดยปกติแล้วเขาจะไม่รุกรานใคร แต่ใครอย่ามารุกรานเขา
การที่จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ ทางจิตวิญญาณและจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงและข้อมูลที่ได้รับมาอาจจะแตกต่างกัน การที่เราได้ข้อมูลมากแค่ไหนก็อยู่ที่พลังจิตของผู้นั้นว่า ส่งจิตวิญญาณไปถึงเขาและเขาจะต้อนรับอย่างไร

https://board.palungjit.org/

Create Date : 22 มกราคม 2558

Last Update : 9 มกราคม 2564 21:59:41 น.

0 comments

Counter : 3028 Pageviews.