Group Blog
มิถุนายน 2565

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
ทนายอ้วนชวนเที่ยวอยุธยา - วัดอโยธยา (วัดเดิม) อยุธยา
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดอโยธยา (วัดเดิม) อยุธยา, อยุธยา Thailand
พิกัด GPS : 14° 22' 6.05" N 100° 35' 23.00" E

 






บล็อก  “ท่องเที่ยวไทย”  ในปีนี้ก็ยังเป็นการนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้เคยไปเที่ยวมามาโพสเหมือนปีที่แล้วครับ  เนื่องจากเจ้าของบล็อกกักตัวเองอยู่กับบ้านมาเป็นปีแล้วครับ  ไม่ออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น
 



 
 
บล็อก 
“ท่องเที่ยวไทย”  ในบล็อกนี้เจ้าของบล็อกขอกลับไปคง  concept  การท่องเที่ยวแบบเดิมๆนะครับ  คือ  การไปเที่ยวชม  วัดเก่าๆ  โบราณสถานต่างๆ  ครับ
 
 
 



 
วัดที่จะพามาชมในวันนี้เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนานมากกกกกก  อยู่ในเมืองเก่าที่เราๆ  รู้จักกันดีด้วย  แต่ว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่าวัดนี้เป็นวัดเก่า  และ  อาจจะ  เป็น  วังเก่า  ด้วยนะครับ
 




 
 
จะเป็นวัดไหน  ชื่ออะไร  อยู่ที่จังหวัดอะไร  ....  ขอเชิญติดตามอ่านกันได้เลยครับ
 
 




 

วัดอโยธยา  อยุธยา
 



 
 
 

วัดอโยธยา  อยุธยา  ตั้งอยู่ที่ตำบลหันตรา  อำเภอพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นอกเกาะเมืองอยุธยา  บริเวณตอนเหนือของเขตอนุรักษ์เมืองเก่าอโยธยา  (อยู่บนถนนเส้นเดียวกับวัดมเหยงค์  เลยวัดกุฎีดาว  ก่อนจะถึงวัดดุสิตาราม  ครับ)  เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย  ชาวบ้านจะเรียกกันว่า  วัดศรีอโยธยา  หรือ  วัดเดิม
 


 
 
ในปัจจุบันมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใหม่ๆ  มีแนวคิดทางประวัติศาสตร์ใหม่ๆจากหลายๆสำนัก  ทำให้สิ่งที่เราท่องจำกันมาว่า 
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1  ทรงอพยพผู้คนมาหนีโรคระบาดจากเมืองอู่ทอง  (ในจังหวัดสุพรรณบุรี)  มาตั้งเมืองใหม่อยู่บริเวณริมหนองโสน  ปัจจุบันเรียกว่า  บึงพระราม  ใน  พ.ศ.  1893  ก็ได้มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป
 
 




อ.มานิต  วัลลิโภดม  และ  อ.ศรีศักร วัลลิโภดม  ได้เสนอเรื่อง  การดำรงอยู่ของเมืองอโยธยาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18  จากการศึกษาหลากหลายแขนงวิชาและนำมาบูรณาการ  อาทิ  ภาพถ่ายทางอากาศ  แผนที่ เอกสารตำนาน  จารึกและพงศาวดาร  รวมทั้งการเดินเท้าสำรวจในพื้นที่ทางทิศตะวันออกของเกาะเมืองอยุธยา  โดยเน้นที่เรื่องของภูมิวัฒนธรรม  (cultural landscape)  เป็นสิ่งสำคัญ  ผลการศึกษาพบว่า  ภายหลังการสิ้นสุดของรัฐศรีวิชัย (ก่อนพุทธศตวรรษที่  18)   ซึ่งเป็นรัฐชายฝั่งทะเลบนคาบสมุทรมลายูเสื่อมลง  ในพื้นที่ประเทศไทยได้เกิดบ้านเมืองขึ้นมาหลายแห่ง  เช่น  ล้านนา  สุโขทัย  อโยธยา  สุพรรณบุรี  ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18  ขึ้นมาแทนเมืองในอำนาจปกครองของขอม  หรือ  กัมพูชา
 




 

เมืองอโยธยา   ก็เป็นเมืองหนึ่งที่อาจจะเป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยขอมมีอำนาจในดินแดนแถบนี้  หรืออาจจะเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่   มีที่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำป่าสักตอนล่าง โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ดอน  มีลักษณะเป็นเมืองในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าเช่นเดียวกับเมืองสุพรรณบุรีและราชบุรี    





เมืองอโยธยา  ล้อมรอบด้วยลำน้ำสายต่างๆ  เช่น คลองหันตรา  (ลำน้ำป่าสักเก่า)  ไหลจากทิศเหนือไปออกทางทิศตะวันออกของเมืองบริเวณทุ่งพระอุทัย คลองคูขื่อหน้า  (ลำน้ำป่าสักปัจจุบัน)  สันนิษฐานว่าเป็นคลองขุดทางทิศตะวันตกของเมือง  คลองแม่เบี้ยหรือคลองสวนพลูทางทิศใต้ของเมือง   กลางเมืองมีคลองบ้านบาตรหรือคลองข้าวเม่า   ภายในเมืองพบโบราณสถานขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ - ใต้  มีพระเจดีย์เป็นประธาน  เช่นวัดอโยธยา  วัดจักรวรรดิ์  วัดกุฎีดาว  วัดสามปลื้ม  วัดใหญ่ชัยมงคล   (ต้องอธิบายกันก่อนว่า  วัดที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมดนี้เราคุ้นชื่อกันในปัจจุบัน  ถ้าไปค้นประวัติศาสตร์ก็จะบอกว่าสร้างในสมัยอยุธยา  แต่การสร้างวัดในสมัยโบราณมีทั้งการสร้างใหม่  และการบูรณะปฎิสังขรณ์และจะเปลี่ยนชื่อหรือไม่ก็ตาม  วัดที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อาจจะเป็นวัดที่อยู่เก่าแล้วตั้งแต่  เมืองอโยธยา  แล้วมาปฎิสังขรณ์ในสมัยอยุธยา)  นอกจากนี้วัดบางแห่งยังมีหลักฐานลายลักษณ์อักษรระบุถึงการสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. 1893  เช่น  วัดพนัญเชิงวรวิหาร  จากหลักฐานในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์  ระบุว่าสร้างก่อนกรุงศรีอยุธยา  26  ปี  ยิ่งไปกว่านั้นด้านทิศใต้จากการศึกษาของ  อ.ศรีศักร  วัลลิโภดม  พบว่ามีพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆและมีคูน้ำล้อมรอบจึงสันนิษฐานว่าเป็นตำแหน่งที่ตั้งของพระราชวัง
 




 

เมืองอโยธยา  สันนิษฐานว่าน่าเป็นเมืองที่มีความสัมพันธ์ควบคู่กับเมืองละโว้  โดยเป็นเมืองท่าที่รองรับกับการค้าก่อนเดินทางมาสู่เมืองละโว้จากอ่าวไทย
 






วัดอโยธยา  อยุธยา  จึงมีความเก่าแก่มาก  นับย้อนขึ้นถึงสมัยก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาก็ได้นะครับ 
 
 




ตามตำนานในพงศาวดารเหนือเชื่อว่า  บริเวณของวัดนี้เคยเป็นพระราชวังสมัยอโยธยา  ต่อมาเมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองได้ถวายพื้นที่วังให้สร้างเป็นวัด จึงได้ชื่อว่า วัดเดิม  ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยา  ปรากฏชื่อวัดนี้ในจารึกวัดศรีชุม  คือ  จารึกหลักที่ 2  ที่สันนิษฐานว่าจารึกโดยพระมหาเถรศรีศรัทธา  (พระมหาเถรศรีศรัทธา  -  เป็นพระราชาคณะที่มีความสำคัญมากในสมัยสุโขทัย  มีหลักฐานว่าพระมหาเถรศรีศรัทธาเป็นพระราชวงศ์ใกล้ชิดของกษัตริย์สุโขทัย  มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเดินทางไปลังกา  ได้สร้างสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายอย่างที่ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน  เช่น  ได้บูรณะ
พระปฐมเจดีย์   ที่ได้พาไปชมในบล็อกที่แล้วๆมาไงครับ)
 
 





บางตำนานก็เล่าว่าในปีพุทธศักราช  1454  มีอำมาตย์  9   คนกระทำศึกกันถึง  2  ปี เพื่อแย่งชิงราชสมบัติกันจนโลหิตนองท่วมท้องช้าง ต่อมาพระเจ้าหลวงขึ้นครองราชย์โปรดเกล้าฯยกวังให้เป็นวัดเรียกว่า  วัดเดิม
 




 
 

วัดอโยธยา  หรือ  วัดเดิม   นี้  ไม่ปรากฏหลักฐานในพงศาวดารอยุธยาถึงการบูรณปฏิสังขรณ์แต่ประการใด แต่น่าเชื่อว่าคงจะเป็นวัดหลวงที่เจ้าอาวาสที่ความสำคัญและมีบทบาททางศาสนาในสมัยอยุธยาวัดหนึ่ง
 
 



 
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  เสด็จประพาส 
วัดอโยธยา  หรือ  วัดเดิม  ในปลายรัชสมัย พ.ศ. 2451 ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า  
 
 
 
 

"วัดเดิมนี้คือวัดโบราณมีมาแต่สมัยอโยธยา  เป็นวัดคามวาสีที่ตั้งอยู่กลางพระนครอโยธยา  ดังนั้นพื้นที่ในบริเวณนี้จึงเชื่อกันว่าเป็นเมืองอโยธยาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ดังนั้นในระยะต่อมาจึงได้มีการเรียกชื่อใหม่เป็นวัดอโยธยา เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อนี้"
 
 
 
 



โบราณสถานที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันก็มี
 



 

ซุ้มประตูทางเข้า  ตั้งอยู่ทางด้านหน้า  ทิศตะวันออก  หน้าพระอุโบสถ  (หลังใหม่)  ยังพอจะเห็นรูปร่างคร่าวๆงว่ามีลักษณะเป็นเสาย่อมุมไม้สิบสองสูงประมาณ  2.50 เมตร

 
 
 
ส่วน 
เจดีย์  2  องค์ สร้างคู่กันตรงซุ้มประตูทางเข้า  (องค์นึงได้รับการบูรณะ  อีกองค์นึงที่เห็นในรูปแค่ฐานเจดีย์ไม่ได้รับการบูรณะ)  สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 5   เพื่อใช้บรรจุอัฐิของพระอธิการวัดและญาติ   








 




 
 
 

พระอุโบสถ  สร้างขึ้นใหม่บนฐานพระอุโบสถเก่าในสมัยอยุธยา   ด้านหน้าพระอุโบสถยังคงปรากฏซากกำแพงแก้วที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาให้เห็นอยู่บ้าง  นอกจากนี้ยังมีใบเสมาที่ทำด้วยหินทรายคล้ายใบโพธิ์แบบเก่าหาดูได้ยาก  
 
 



จะเห็นว่าหน้าบันของพระอุโบสถไม่ได้มีการประดับตกแต่ง  มีเรื่องเล่ากันว่า  .....
 


 
 

พระฉาย  (เงา)  ของพระประธานประจำพระอุโบสถได้ปรากฏขึ้นบนหน้าบัน  (จั่ว)  ของพระอุโบสถอย่างประหลาด  ช่างที่บูรณะพระอุโบสถจึงมิกล้าแตะต้องหน้าบันส่วนนี้แต่อย่างใด  คงพระฉายของพระประธานไว้ให้เป็นที่สักการะแก่มหาชน
 
 















 

พระประธานประจำพระอุโบสถ  สร้างขึ้นใหม่สวมทัพซากพระประธานเดิม  มีนามว่า  หลวงพ่อศรีอโยธยา
 
 















 
ด้านหลังพระอุโบสถมี 
เจดีย์  ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่าเจดีย์ทั่วไปบนเกาะอยุธยาเชื่อกันว่าเป็นเจดีย์อโยธยารุ่นแรกๆ  มีอายุราวๆ  500  ปี  ขึ้นไป  ตัวเจดีย์มีลักษณะเป็นทรงลังกาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่บนฐานสูงผังรูปสี่เหลี่ยม มีบันไดขึ้นทางด้านหน้าและด้านหลัง เหนือขึ้นไปเป็นชุดฐานบัวในผังแปดเหลี่ยมลักษณะค่อนข้างเตี้ยรองรับองค์ระฆัง
 


 
 
องค์ระฆังของเจดีย์เป็นทรงระฆังกลมขนาดใหญ่  ลักษณะเป็นรูประฆังเรียวปากแคบไม่ผายกว้าง องค์ระฆังกลมประดับปูนปั้นเป็นรูปกลีบบัวลดหลั่นโดยรอบ  สันนิษฐานว่าคงเป็นงานประดับเพิ่มในภายหลัง  ส่วนเหนือองค์ระฆังขึ้นไปหักหายไปแล้ว จากรูปแบบที่ปรากฎนี้ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเจดีย์องค์นี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นและน่าจะมีการบูรณะเพิ่มเติมมาโดยตลอด  ในพงศาวดารเหนือบันทึกไว้ว่า  พระมหาเถรศรีศรัทธาได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่เจดีย์นี้ตอนพระมหาเถรศรีศรัทธากลับจากลังกาซึ่งในขณะนั้นมีการสถาปนาพระนครศรีอโยธยา  (เมืองอโยธยาเก่า)  )เป็นราชธานีแล้ว
 



 
 
แต่บางความเชื่อกล่าวว่าทั้งเจดีย์ประธานและเจดีย์บริวารน่าจะมีอายุอยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง ราวปีพุทธศตวรรษ  21 - 22  และได้รับการบูรณะอีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
 
 


 
น.  ณ ปากน้ำ  ได้เขียนเล่าถึงวัดเดิม  หรือ  วัดอโยธยา  ไว้ในหนังสือห้าเดือนกลางซากอิฐที่อยุธยาว่า ....
 
 




..... มีเจดีย์ทรงลังกาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่บนฐานสูง เห็นได้แต่ไกล  ตัวเจดีย์ยอดหักลงมาแต่บัลลังก์ฐานทักษิณก่อสูงมาก  แปลกตา  ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน องค์ระฆังปั้นปูนเป็นกลีบบัวซ้อนเหมือนกลุ่มหัวเสา  มีบันไดขึ้นองค์เจดีย์ด้านหน้าและด้านหลัง  ใบเสมาวัดเดิมทำด้วยหินทรายขาวลายคล้ายใบโพธิ์ขนาดใหญ่ติดอยู่ตรงกลาง  จัดเป็นใบเสมาแบบเก่าเห็นมีอยู่หลายชิ้น เข้าใจว่าจะเป็นของเดิม  ทางวัดก่อสร้างอุโบสถใหม่  ได้เอาใบเสมาแบบนี้มาติดอยู่หน้าอุโบสถอันหนึ่ง  ซุ้มประตูกำแพงฝีมือช่างสมัยพระนารายณ์และเห็นใบเสมารุ่นพระนารายณ์พิงอยู่ อันหนึ่ง  จึงเข้าใจว่าจะมาปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่สมัยพระนารายณ์  เจดีย์ฐานย่อมุมสิบสองถูกรื้อทำลายเสียแล้ว  กลายเป็นอุโบสถแทนที่  ภูมิประเทศรอบๆ วัดเดิมเป็นที่ลุ่ม  ตัววัดตั้งอยู่บนดอน  ยังมองไม่เห็นว่ามีเค้าของเก่าอยู่ตรงไหน  แปลกตรงฐานเจดีย์ซึ่งก่อสูงมาก  บางทีอาจจะเป็นฐานเจดีย์เก่าแล้วจึงปฏิสังขรณ์ สร้างเจดีย์แปดเหลี่ยมบนนั้นในภายหลัง
 
 
 


เมื่อครั้งอุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554  เจดีย์วัดอโยธยาองค์นี้ก็ได้รับความเสียหายจากถูกน้ำขังเป็นเวลานานหลายเดือนตั้งแต่บริเวณรอบฐานรากจนถึงองค์เจดีย์









 
 










 

วัดอโยธยา  อยุธยา  ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2486 โดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา
 

















ขอขอบคุณท่านผู้มือรายชื่อต่อไปนี้สำหรับข้อมูล  ที่ทำให้การท่องเที่ยวของเรามีสาระมากขึ้นครับ   
 
 
 
 
 

นานาสาระ​ตอน : เจดีย์วัดอโยธยา หรือวัดเดิม -  go.ayutthaya.go.th

วัดอโยธยา – วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี

วัดอโยธยา - FB  อยุธยา-Ayutthaya Station

วัดอโยธยา – touronthai.com

204. วัดอโยธยา (วัดเดิม) - huexonline.com

วัดอโยธยา  (วัดเดิม) จ. พระนครศรีอยุธยา - thailandtemples.org

อโยธยาศรีรามเทพนคร – มูลนิธิเล็ก – ประไพ วิริยะพันธุ์






 
138140135
 



Create Date : 20 มิถุนายน 2565
Last Update : 20 มิถุนายน 2565 11:46:49 น.
Counter : 918 Pageviews.

14 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณหอมกร, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณJohnV, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณชีริว, คุณกิ่งฟ้า, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

  
ผมเคยไปวัดนี้ แต่ตอนนั้นเดินได้แปบเดียว รีบไปวัดอื่นต่อครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:13:31:05 น.
  
ขอบคุณที่พาไปเที่ยว
พระประธานสวยมากคุณบอล

โดย: หอมกร วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:13:49:43 น.
  
วัดดูสะอาด พระประธานงามมากเลยค่ะ
โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:14:17:40 น.
  
คุณบอลดูท่าทางจะชอบประวัติศาสตร์
ชอบเมืองเก่านะครับ
การเที่ยวเมืองเก่า ถ้าไม่มีความรู้ เดินยังไงก็คงไม่สนุกจริงๆครับ
แต่พอศึกษาข้อมูลแล้วไปเดินชม
จะรีู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองในอดีตเลยนะครับ

ปล.ผมฉีดเข็ม 4 ก็ปวดแขนอยู่ 2-3 วันเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:14:43:24 น.
  
ตัวจั่วของวัดนี้ดูแปลกตาดี วันนี้ยังไม่เคยไปครับ ไว้มีโอกาสไปอยุธยาคราวหน้าต้องแวะหน่อย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:18:11:39 น.
  
อยุธยาอยู่ใกล้ๆนี่เอง แต่ยังไม่เคยไปเที่ยวสักที คงต้องไปบ้างแล้วล่ะครับ
โดย: JohnV วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:19:34:43 น.
  
ด้วยความยินดีครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:22:05:47 น.
  
มาเที่ยว ไหว้พระด้วยครับ วัดนี้ยังไม่เคยไปครับ
พระฉายที่หน้าบัน น่าสนใจครับ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:23:31:25 น.
  
กราบพระ ตามเที่ยววัดเดิมกับคุณบอลด้วยค่ะ
เจดีย์ทรงลังกาแปดเหลี่ยมงดงาม
ขอบคุณคุณบอลที่พาเที่ยวนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 20 มิถุนายน 2565 เวลา:23:51:22 น.
  
ดูทีแรก เห็นหน้าบัน เรียบๆไม่มีงานปูนปั้นประดับ
ก็ว่าแปลกๆตา
ที่แท้ พระพุทธศรีอโยธยา พระประธาน ศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะครับ
ที่ดลบันดาลให้เห็นภาพพระฉาย ปรากฏที่หน้าบัน

ส่วน เจดีย์ประธานของวัดอโยธยานี่ ตอนที่สมบูรณ์
น่าจะงดงามมากๆเลยเชียวนะครับ

ปล.ชมวัดเสร็จ ได้ไปกินกุ้งแม่น้ำต่อหรือเปล่าครับ อิอิ
น้องบอลบอก ดูเอ็งสนใจ กุ้งมากกว่าวัด นะเนี่ย
ข้าก็ชิมไป นิดหน่อย แค่ 2โล เอง เย้ย 555



โดย: multiple วันที่: 21 มิถุนายน 2565 เวลา:5:40:49 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2565 เวลา:5:59:41 น.
  
สวัสดีค่ะคุณบอล ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกขนมจีนแกงไก่นะคะ

ตามมาเที่ยวอยุธยาด้วยค่ะ

วัดอโยธยาสวยงามดูสะอาดตามากค่ะโดยเฉพาะพระประธานสวยงามมาก

โหวต Travel Blog ค่ะ


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 มิถุนายน 2565 เวลา:23:15:41 น.
  
กราบพระและเดินชมวัดด้วยค่ะ
ซากอิฐกับร่องรอยอารยธรรมก็สวยงามไปอีกแบบนะคะ
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 มิถุนายน 2565 เวลา:8:51:46 น.
  
สวัสดีครับพี่บอล 555555 โทษทีครับพี่ที่ทำให่เป็นห่วง 5555 ไม่ว่างานจะเยอะหรืองานจะน้อยอ่ะนะ แต่ยุ่งมาดจิงๆ ครับๆ นี่ก็เม้นพี่ก่อนเข้าพรีเซ้นงานลูกค้าเนี้ยครับ

ตั้งแต่ทำบ้านผมไปอยุธยาบ่อยมาครับ เพราะใกล้ๆ ไปแล้วกลับมาดูบ้านได้ครับ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 22 มิถุนายน 2565 เวลา:9:43:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]