คราวนี้มาแปลกนิดนึง คือเป็นการ์ตูนที่ได้ดูระหว่างปีที่แล้วและเลยมาปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะเรื่องที่ได้ดูในปีที่แล้วมีหลายเรื่อง และเรื่องที่ได้ดูคาบเกี่ยวระหว่างปีก็มีหลายเรื่องเช่นกัน โดยปกติบล็อกที่เป็นรีวิวการ์ตูนลักษณะนี้จะรีวิวครั้งละ 12 เรื่อง ผมไม่อยากดองไว้ เลยเขียนรีวิวเลยนี่แหละดีที่สุดแล้ว





เรื่อง ไปต่างโลก! ก็ต้องไปกับสมาร์ทโฟนสิ!!!
แนว แฟนตาซี, ผจญภัย, ฮาเร็ม
จำนวน 12 ตอน

โมจิซึคิ โทยะ ดันตายจากความผิดพลาดของพระเจ้า พระเจ้าเลยให้โอกาสอีกครั้งในการมีชีวิต เพียงแต่ไม่สามารถกลับไปยังโลกเดิมได้อีกแล้ว ได้เริ่มต้นชีวิตครั้งที่สองในต่างโลก เขาได้รับร่างกายที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นจากพระเจ้า และสมาร์ทโฟนที่มีติดตัวก็สามารถใช้งานในต่างโลกได้ด้วย

เป็นเรื่องราวแฟนตาซีลักษณะคล้ายเกมแนว RPG มีได้พวกเพิ่ม ไปล่ามอนสเตอร์ หาสมบัติ และใช้เวทมนตร์ได้ โดยรวมผมชอบเรื่องนี้ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่สนุกเลยแหละ โมจิซึคิ โทยะ มันเป็นพวก All Rounder ถนัดทุกทางแถมยังประยุกต์ใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบที่เราคาดไม่ถึงอีก

ตอนจบเหมือนจะทิ้งประเด็นไว้คาดว่าน่าจะมีภาคต่อ ซึ่งถ้ามีภาคต่อได้ก็จะดีมาก





เรื่อง k-on ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว เดอะมูฟวี่
แนว ดนตรี, ตลก, สบายๆ
จำนวน 1 ตอน

เป็นเนื้อเรื่องแทรกในเนื้อเรื่องหลักช่วงก่อนจบการศึกษา ยุย, มิโอะ,ริตสึ ,สึมุกิปรึกษากันว่าจะทำอะไรดีให้ นากาโนะ อาสึสะ ก่อนจบการศึกษา พวกเธอจัดทริปเรียนจบไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้ง 5 สาว (รวมอาสึสะด้วย) ซึ่งทำให้พวกเธอได้เจอเรื่องราวต่างๆ มากมายในการเดินทางครั้งนี้

ในเรื่องมีห้างแฮร์รอดส์ และพวกยุยไปพักที่โรงแรมในเครือของ ibis นี่มันโฆษณาแฝงชัดๆ ดูแล้วก็ชวนให้หายคิดถึงเรื่องนี้ได้มาก ในทริปท่องเที่ยวครั้งนี้ถ้าไม่มี อาสึสะ มิโอะคณะนี้อาจจะไปไม่รอดก็ได้ เนื้อเรื่องเดินไปเรื่อยๆ เพลินดีครับ อ้อ เพลงที่พวกเธอแต่งให้กับอาสึสะเพราะดีนะ

โดยรวมถือว่าดีเลย สำหรับคนที่เคยดูภาคหลักแล้วชื่นชอบอยู่แล้วควรดูเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ภาคเดอะมูฟวี่หลายๆ คนอาจรู้สึกขัดใจในเรื่องของเสียงพากย์ไทย ไม่ใช่พากย์ไม่ดี เพียงแต่เราจะคุ้นหูกับเสียงของนักพากย์ที่พากย์ให้กับเนื้อเรื่องหลักมากกว่าก็เท่านั้นเอง





เรื่อง แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์
แนว แอ็คชั่น, แฟนตาซี
จำนวน 24 ตอน

เป็นเรื่องราวไซด์สตอรี่ จากเรื่องอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม ตัวเดินเรื่องคือ มิซากะ มิโคโตะ โดยเป็นชีวิตประจำวันของมิซากะ ซึ่งเป็นเลเวล 5 และเพื่อนๆ ของเธอ ร่วมกันสืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ที่เรียกกันว่า เลเวลอัปเปอร์ (LevelUpper) ซึ่งสามารถเพิ่มพลัง เพิ่มเลเวลให้กับผู้มีพลังจิต

เรื่องนี้ผมเคยดูนานแล้วแต่ไม่ต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะเคยอ่านจากหนังสือการ์ตูนแล้วเลยไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก และบางครั้งก็สับสนกับเรื่องอินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้ามด้วย เพราะ 2 เรื่องนื้ตัวละครข้ามกันไปมาตลอด ซีซั่นแรกนี้ถ้าอ่านจากการ์ตูนถึงแค่เล่มที่ 3 เองครับ โดยรวมผมชอบนะ เรื่องนี้สนุกกว่าอินเดกซ์เยอะ





เรื่อง สาววัยรุ่นกับคุณเจ้าของห้อง! (Ooya-san wa Shishunki!)
แนว ตลก
จำนวน 12 ตอน

เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มวัยทำงานที่มาอาศัยในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเป็นเพียงเด็กผู้หญิงม.ต้นเท่านั้น เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตของคุณเจ้าของหอ ซึ่วเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้

เป็นการ์ตูนสั้นตอนละ 2 นาที ดูรวดเดียววันเดียวจบ ไม่ได้รู้สึกว่าน่าจดจำแต่ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายดี อ้อ! ในเรื่องนี้มีตัวละครจากการ์ตูนเรื่องอื่น (ประเภท 2-3 นาที/ตอน) ปรากฎตัวหลายตัวอยู่นะ





เรื่อง โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ (1)
แนว แฟนตาซี, แอ็คชั่น, ผจญภัย
จำนวน 26 ตอน

เป็นเรื่องที่ทุกคนรอคอยกันมายาวนาน โดยในซีซั่นแรกจะรวมเนื้อเรื่องของภาค 1 และภาค 2 จากในหนังสือการ์ตูนไว้ด้วยกัน เนื้อเรื่องถอดแบบมาจากในหนังสือการ์ตูนเลย ทีมงานทำได้ค่อนข้างดี บางส่วนที่ควรตัดทิ้งก็ตัดทิ้ง แต่โดยมากจะคงต้นฉบับไว้

เริ่มแรกเป็นเรื่องราวของโจนาธาน โจสตาร์ กับดีโอ โดยมีหน้ากากศิลามาเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องราวของโจเซฟ โจสตาร์กับบุรุษเสาหิน โดยส่วนตัวผมเมื่อเทียบเนื้อเรื่องสองช่วงผมชอบช่วงหลังนี้มากกว่า โจเซฟมันเจ้าเล่ห์ดี ที่สำคัญเนื้อเรื่องช่วงนี้จะมีมุกที่ชอบใช้คือ "ประโยคต่อไปที่แกจะพูดคือ......" แล้วอีกฝ่ายก็ดันพูดออกมาจริงๆ





เรื่อง Brotherhood: Final Fantasy XV
แนว ผจญภัย แฟนตาซี ดราม่า
จำนวน 5 ตอน

เป็นเรื่องราวช่วงหนึ่งของการเดินทางซึ่งเกิดขึ้นในเกม แล้วตัดมาทำเป็นอนิเม โดยจุดหลักของอนิเมนี้จะเผยถึงเบื้องหลังการพบกัน และการรู้จักกันของตัวละครหลักที่เป็นตัวเอกทั้ง 4 คน ซึ่งการพบเจอและรู้จักกันของแต่ละคนดูแล้วก็รู้สึกดีครับ ผมชอบตอนที่เจอกับกลาดิโอที่สุดแล้ว





เรื่อง AKB0048
แนว ไอดอล, เพลง, วิทยาศาสตร์
จำนวน 13 ตอน

เป็นเรื่องราวในโลกอนาคต ดาวบางดวงสิ่งบันเทิงกลายเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฏหมาย แต่ก็ได้มีกลุ่มไอดอลได้ฝ่าอันตราย จัดคอนเสิร์ทอย่างลับๆ กลุ่มไอดอลนั้นก็คือ AKB0048 เนื้อเรื่องกล่าวถึงกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งที่ต้องการจะเป็นไอดอลตามความฝันที่พวกเธอได้เห็นตอนที่ยังเด็ก แต่หนทางในการเป็นไอดอลนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิดเลย

พอดูเรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจว่าการเป็นไอดอลแบบที่เราเห็นพวก AKB48 BNK48 ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด (ความจริงก็รู้อยู่แล้วแหละ) มีการซ้อมที่หนัก การแข่งกันกันเองในทีม ปัญหาที่เกิดเฉพาะหน้า เรียกได้ว่าพอดูเรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจหลายๆ อย่างเกี่ยวกับไอดอลมากขึ้น ปัญหาการอิจฉากัน การร่วมมือกัน แต่ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ในเรื่องนี้มันดูเหมือนฝึกทหารหญิงมากกว่า

โดยรวมถือว่าสนุกดีครับ แต่ถ้าไม่รู้คำศัพท์พื้นฐานมาก่อนที่จะดูเรื่องนี้อาจจะงงในหลายๆ จุด เช่นพวก โอตะ โอชิ คามิโอชิ แต่โดยรวมมันพอเดาได้ในบริบทของมัน ถ้าชอบ AKB48 อยู่แล้วเป็นทุนก็น่าดูครับ มีเพลงของ AKB48 ให้ฟังหลายเพลงอยู่เหมือนกัน





เรื่อง AKB0048 ภาค 2
แนว ไอดอล, เพลง, วิทยาศาสตร์
จำนวน 13 ตอน

เป็นภาคต่อจากซีซั่นแรก โดยเนื้อเรื่องทวีความเข้มข้นผสมดราม่ามากขึ้นในช่วงท้ายๆ และภาคนี้นี่แหละที่จะไขปริศนาของ เซ็นเตอร์โนว่า ว่ามันคืออะไร จากในเรื่องมีการพูดถึงอัตจังบ่อยมากจนทำให้ผมอดไม่ได้ต้องไปหาข้อมูลเลยว่าเธอหน้าตาอย่างไร (ตามประสาคนไม่ได้ติดตาม AKB48 มาก่อน)

ช่วงหลังกลายเป็นสงครามปกป้องดาวอากิบะสตาร์ ตอนจบทำแบบเปิดไว้ เหมือนจะทิ้งท้ายเพื่อดูกระแสว่าจะสร้างภาคต่อไปหรือไม่ โดยรวมเรื่องนี้ก็น่ารักดีครับ มีฉากที่เห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจหลายฉากเหมือนกัน อย่างที่บอกคนที่ชอบ AKB48 น่าจะชอบเรื่องนี้มากขึ้น เพราะในเรื่องมีเพลงของ AKB48 เยอะอยู่





เรื่อง โดคุโระจัง ภูตสาวโหดทะลุมิติ
แนว ตลก เลือดสาด
จำนวน 8 ตอน

เป็นอนิเมสั้นๆ ตอนละ 12 นาทีเป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปของตัวเอกซากุระ กับโดคุโระจัง ซึ่งตัวเอกตายทุกตอน เลือดสาดทุกตอน จริงอยู่มันอาจจะดูตลก แต่มันดูโหดแบบหน้าตายมากๆ แบบนี้แหละที่น่ากลัว

เอาจริงๆ เลยไม่รู้ทนดูจบได้ยังไงบั่นทอนปัญญาเกิน





เรื่อง ดราก้อนบอล ซุปเปอร์
แนว ต่อสู้, ผจญภัย, แอคชั่น
จำนวน 131 ตอน

เรื่องนี้ถือเป็นการ์ตูนในตำนาน เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ตามหาลูกแก้วประหลาดที่มีดาวทั้ง 7 ซึ่งเมื่อรวบรวมครบก็จะสามารถเรียกเทพเจ้ามังกรออกมาเพื่อขอพรได้

เรื่องราวในภาคนี้เดินเรื่องในช่วงหลังจากจัดการกับจอมมารบู และก่อนช่วงงานประลองยุทธครั้งสุดท้ายของภาคแซด โดยแบ่งเนื้อเรื่องหลักย่อยๆ ตามลำดับดังนี้

- ศึกสงครามเทพเจ้า
- ฟรีเซอร์ฟื้นคืนชีพ
- การประลองกับจักรวาลที่ 6
- การกลับมาของทรังคส์อนาคต
- ความอยู่รอดของจักรวาล

ภาคนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน ผมเริ่มดูภาคนี้ช่วงที่ทางญี่ปุ่นฉายถึงช่วงการประลองกับจักรวาลที่ 6 โดยค่อยๆ ดูตั้งแต่ตอนแรกจนตามทันญี่ปุ่น จากนั้นก็ค่อยๆ ติดตามดูสัปดาห์ละตอนจนจบ

ส่วนตัวผมรู้สึกว่าดูเพลินดี ทำให้หายคิดถึงเรื่องนี้ แต่ที่หลายๆ คนบ่นจะเป็นเรื่องของสเกลพลังที่ดูแล้วมั่วมาก ถ้าไม่คิดมากเรื่องนี้ก็ถือว่าสนุกดีนะ เนื้อเรื่องช่วงที่มันส์สุดจะเป็นช่วง การประลองกับจักรวาลที่ 6 ส่วนการกลับมาของทรังคส์อนาคตถือเป็นช่วงที่เดากันไม่ออกเลยว่าแบล็คโกคูมันเป็นใครมาจากไหน จนกระทั่งในเรื่องมันเฉลย เลยทำให้รู้ว่าไคโอชินกับเทพแห่งการทำลายล้าง มันผูกวิญญาณไว้ด้วยกัน (แบบเรื่องโอ้มายก็อดเดสเลย) แบบนี้เราสมควรไปไล่ฆ่าไคโอชินจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงในการจัดการเทพแห่งการทำลายล้าง

ในบท ความอยู่รอดของจักรวาล เราพอจะเดาตอนจบได้เลยว่าจักรวาลไหนจะชนะ และพรที่ขอคืออะไร ซึ่งก็ไม่ผิดความคาดหมายมากนัก ถ้าเป็นแฟนดราก้อนบอล และชอบเรื่องนี้หามาดูก็ช่วยให้หายคิดถึง มีหลายๆ ฉากที่เห็นแล้วนึกถึงฉากเก่าๆ ในภาคแซดที่ผ่านมาเหมือนกัน

ความจริงแล้วภาค ซุปเปอร์ก่อให้เกิดความขัดแย้งหลายๆ อย่างกับเนื้อเรื่อง ส่งผลให้หลายๆ คนจับผิดเรื่องดราก้อนบอลกันอย่างสนุก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเกลพลังที่ห่างชั้นกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเทียบกันแทบไม่ได้ อีกทั้งตัวที่ขัดแย้งกับแทบทุกสิ่งเลยคือ บิล เทพแห่งการทำลายล้าง ถ้าเราสังเกตเฉพาะในภาคซุปเปอร์ จะเห็นได้ว่าบิลมันทำลายดาวทำลายมนุษย์แบบมั่วมาก ทั้งที่มันกับไคโอชิน เป็นเหมือนผู้บริหารจักวาลซึ่งมีหน้าที่ยกระดับคะแนนเฉลี่ยนของมนุษย์ในจักวาลที่ตนปกครองอยู่ น่าคิดเหมือนกันว่าถ้าหากตอนที่บิลมาที่โลกแล้วทำลายโลกทิ้งตายกันทั้งเรื่องพอถึงเนื้อเรื่องช่วง ความอยู่รอดของจักรวาล มันจะทำหน้ายังไง และถ้ามองในภาคแซด ยิ่งต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องมันขัดแย้ง ไคโอชินดันไปเสี่ยงจัดการบาบิดี้ที่มีเวทมนต์คลายสะกดจอมมารบูด้วยตัวเอง แทนที่จะไปตามมาบิลมาจัดการ ซึ่งถ้าทำแบบนั้นตัวเองก็จะไม่ต้องเสี่ยงตายด้วย





เรื่อง อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม เดอะมูฟวี่ ปาฏิหาริย์แห่งเอนดีเมียน
แนว แอ็คชั่น, แฟนตาซี
จำนวน 1 ตอน

เรื่องราวเริ่มต้นขณะที่ คามิโจ โทมะ กับอินเด็กซ์ ซึ่งกำลังเฝ้าดูลิฟท์โคจรอวกาศทีถูกสร้างขึ้นโดยเมืองแห่งการศึกษาทั้งคู่ ได้พบกับเมโกะ อาริสะ ซึ่งกำลังถูกสตีลจอมเวทของศาสนจักรอังกฤษเล่นงาน ทำไมเหล่าจอมเวทจึงเล่นงานคนของเมืองแห่งการศึกษา จนในที่สุดหน่วยพิเศษของเมืองต้องออกโรงเพื่อปกป้องอาริสะ

ภาคนี้ดูแล้วเฉยๆ ครับ มันพอจะเดาได้ว่าน่าจะจบลักษณะไหน แต่ก็มีจุดที่เดาไม่ได้อยู่จุดนึงเหมือนกัน (ไม่สปอย) เอาเป็นว่าถ้าชอบซีรี่ย์นี้เป็นทุนก็ควรดูภาคนี้ละกันครับ





เรื่อง สอนหมากหนูที คุณพี่จ้าวมังกร
แนว ฮาเร็ม หมากรุก
จำนวน 12 ตอน

คุซึยุ ยาอิจิ แชมป์หมากรุกญี่ปุ่น (โชกิ) ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ในระดับริวโอ (ราชามังกร) วันหนึ่งฮินาซุรุ ไอ เด็กหญิงประถมอายุ 9 ขวบมาขอเป็นลูกศิษย์ตามคำสัญญาที่ได้เคยให้ไว้ แต่เขาจำไม่ได้ (แต่ก็ดันรับเป็นศิษย์)

ในเรื่องเดินเรื่องในโอซาก้า ถ้าใครเคยไปเที่ยวโอซาก้าน่าจะรู้สึกคุ้นกับสถานที่หลายๆ แห่งในเรื่อง เรื่องราวน่ารักดีครับ ไอจังน่ารัก ขี้หึงซะด้วย เรื่องนี้ออกแนวฮาเร็ม ดูแล้วก็ทำให้รู้สึกอยากลองเล่นหมากรุกญี่ปุ่นดูเหมือนกัน แต่ถ้าใครจะดูเพราะหวังว่าเนื้อเรื่องจะเน้นในส่วนของหมากรุกญี่ปุ่นอาจจะผิดหวัง

อ้อ ท่าตอนฮินาซุรุ ไอตอนเข้าสู่สมาธิ (เอาจริง) หรือจิตตก ดูแปลกจนน่ากลัวเลยล่ะ



อย่างที่บอกไปปี 2017 ผมดูการ์ตูนมากเกินไป มีบางเรื่องดูมาถึงปีนี้เลย ไหนๆ ก็ดูแล้วเลยรีวิวสักหน่อย ถึงแม้บางเรื่องอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ก็ตาม ในปี 2018 นี้ไม่ทราบว่าจะได้ดูมากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวปลายๆ ปี หรือต้นปีหน้าเรามาดูกันครับ