มาต่อตอนสองกันเลยดีกว่า ไม่พูดมากให้เสียเวลาดีกว่า มาดูรีวิวกันต่อเลย






เรื่อง เซนต์เซย์ย่า เซนต์เทียโช
แนว แฟนตาซี
จำนวน 10ตอน

เซนต์เซย์ย่านภาคนี้เน้นที่ตัวละครหญิงเป็นหลัก เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นคาบเกี่ยวช่วง กาแล็กเซี่ยนวอร์ และ หลังการต่อสู้กับพวกโกลด์เซนต์ปราสาท 12 ราศี ศัตรูในคราวนี้เป็นเทพเอริส (ลูกสาวของเฮร่ากับซุส)

ในช่วงต้นของเรื่องจะเน้นการปูพื้นเพของโชโกะ (กลุ่มดาว Equuleus) กว่าจะเข้าเนื้อเรื่องจริงๆ ก็ไปถึงตอนที่ 7 แล้ว โดยรวมผมรู้สึกว่ามันไม่สนุกเหมือนภาคหลัก จะมีดีหน่อยตรงที่มีการเอาโกลด์เซนด์หลายๆ คนขึ้นมาเล่นใหม่








เรื่อง ไหงอาจารย์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ
แนว โรแมนติค, ตลก
จำนวน 12 ตอน

เป็นเรื่องราวความรักของคนต่างรุ่น ต่างอาชีพ ที่ดูไม่เหมาะสมนั่นคือ คุณครูและนักเรียน มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นทำให้ความรักของทั้งคู่พัฒนาไปเรื่อยๆ จนก่อเกิดเป็นความรักต้องห้าม

ในเรื่องมันมีสถานการณ์ต่างๆ ที่บังเอิญเว่อร์เกินว่าไหงอาจารย์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ตัวอาจารย์ในเรื่องน่ารักดี แต่หลายๆ ครั้งดูเปลืองตัวเกินไปหน่อย








เรื่อง มิโกะ คนทรงหุ่นเทวะ
แนว หุ่นยนต์, วาย
จำนวน 12 ตอน

เรื่องราวของจิคาเนะกับ ฮิเมโกะ ผู้ที่มีชะตากรรมที่จะต้องเป็นมิโกะสุริยันและจันทราต้องปกป้องโลกให้พ้นภัยจาการคืนชีพของเทพอสูรโอโรจิ โดยมีพระเอกอย่างโองามิ โซมะ ผู้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ในเศียรของโอโรจิ

ตั้งแต่ตอนแรกๆ ก็ออกแนววายอย่างชัดเจน เรื่องนี้มีจุดพลิกผันของเรื่องในช่วงกลางเรื่อง ดูได้พักนึงจะรู้เลยว่าจบไม่สวยแน่นอน โดยส่วนตัวไม่ใช่แนวที่ดูครับ ถ้าใครชอบแนววายก็น่าลองหามารับชมนะ








เรื่อง รับน้องกระต่ายซักแก้วมั้ยคะ?? เดอะมูฟวี่ (Dear My Sister)
แนว ตลก เยียวยาจิตใจ
จำนวน 1 ตอน

เรื่องราวจากภาคหลัก โคโค่อาได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของเธอ โดยบ้านเกิดของเธอเป็นร้านขายขนมปัง เราจะได้เห็นบทบาทของตัวละครในเรื่อง ในหลากหลายแง่มุมที่เนื้อเรื่องหลักไม่ได้กล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวของโคโค่อา การพบกันของจิโนะและริเซ่ ความลับเรื่องตุ๊กตาของจิโนะ รวมไปถึงเรื่องราวน่ารักอื่นๆ ในเรื่อง

โดยรวมยังคงความน่าดูไว้เหมือนภาคหลัก ดูสบาย เรื่อยๆ คนที่ดูการ์ตูนสายเยียวยาจิตใจไม่ควรพลาด








เรื่อง เลิฟไลฟ์! เดอะ สคูล ไอดอล มูฟวี่
แนว ชีวิตนักเรียน ตลก ดราม่า
จำนวน 1 ตอน

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังอนิเมภาค 2 ในวันจบการศึกษาของนักเรียนปี 3 ซึ่งเสมือนการสิ้นสุดของ μ's โดยสมาชิกทั้งเก้าได้เดินวนรอบโรงเรียนเพื่อระลึกความทรงจำอันมีค่าที่อันแน่นอยู่ในโรงเรียน แต่ทว่าเมื่อพวกเขาจะออกจากประตูโรงเรียนก็ได้มี อีเมล์ส่งมาถึงพวกเขาและนี่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวบทใหม่

เป็นเหมือนภาคปิดตำนานวง μ's อย่างแท้จริง ต่อไปจะไม่มีวง μ's อีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่สมาชิกวง μ's ได้ทำไว้ก็น่าชื่นชมนะ ในส่วนของเนื้อเรื่องพวกเธอมีโอกาสได้ไปแสดงในต่างประเทศด้วย จะเป็นอย่างไรอยากให้ไปชมด้วยตัวเอง ไม่ผิดหวังแน่นอน

อีกนิด เรื่องชุดการแสดงที่สมาชิกในวง μ's ใส่ในการแสดงนั้นเหมือนทำออกมาเพื่อขายโมเดลมากกว่า เห็นมีโมเดลที่ใส่ชุดการแสดงใหม่ออกมาครบวงเลย ใครแฟนๆ เรื่องนี้ก็ต้องทำใจหน่อยล่ะ (ถ้าจะเก็บให้ครบ)








เรื่อง Saikano อาวุธสุดท้ายคือเธอ
แนว สงคราม ดราม่า
จำนวน 13+2 (OVA) ตอน

จิเสะ เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ขี้อาย ตัวเล็ก ซุ่มซ่าม ได้สารภาพรักกับพระเอก ชูจิ หนุ่มมาดเข้มที่ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง จนกระทั่งวันหนึ่งมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้เข้ามาโจมตีเมืองที่ทั้งสองคนอยู่ และชูจิได้รู้ความจริงที่แสนโหดร้ายเกี่ยวกับจิเสะ เธอถูกกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น นำไปดัดแปลงให้กลายเป็นอาวุธที่มีชีวิต ชูจิพยายามที่จะหาทางแก้ไขชะตากรรมอันแสนโหดร้ายนี้ แต่ดูเหมือนว่าชะตากรรมกลับเป็นฝ่ายเปลี่ยนชีวิตของเขาทั้งสองไปตลอดกาล

เรื่องนี้หากไม่ดูชื่อเรื่อง เหมือนจะเป็นอนิเมความรักใสๆ แต่ไปๆ มาๆ เนื้อเรื่องดราม่า และโหดร้ายกว่าที่คิด ปริศนาหลายๆ อย่างไม่มีเฉลยในเรื่องหลัก ต้องไปดูเพิ่มเติมในส่วนของ OVA ถือว่าเป็นอนิเมที่เน้นเนื้อเรื่องมากกว่าความน่ารักของตัวละคร








เรื่อง New Game! (ซีซั่น 1-2)
แนว ตลก
จำนวน 13 + 13 ตอน

สึซุคาเสะ อาโอบะ เด็กสาวที่พึ่งเรียนจบมัธยมปลาย ได้เข้าไปทำงานที่บริษัท Eagle Jump บริษัทผลิตเกม Fairies Story ซึ่งเป็นเกมที่เธอหลงใหลตั้งแต่เด็ก และในวันแรกของการทำงานอาโอบะก็ได้พบกับพนักงานสาวในแผนกเดียวกันหลายคนและรวมไปถึง ยากามิ โคว ผู้ออกแบบตัวละครของเกม Fairies Story อีกทั้งยังเป็นไอดอลของอาโอบะอีกด้วย เรื่องราวชีวิตการทำงานของ สึซุคาเสะ อาโอบะ จะเป็นอย่างไร ติดตามชมกันได้ภายในเรื่องเลย

เรื่องนี้ตีแผ่บริษัทเกมในส่วนของกราฟฟิค ในเรื่องมีการนอนค้างออฟฟิศ และเลิกงานเลทประจำ นี่มันงานทาสชัดๆ ชีวิตจริงมันไม่ได้สวยงามเหมือนที่หลายๆ คนคิดหรอกว่า บริษัทเกมเข้าไปได้เล่นเกมทั้งวัน มันไม่เป็นแบบนั้นหรอก

ในเรื่องมีความไม่สมจริงมากมาย เช่นในบริษัทไม่มีผู้ชายเลย (เป็นไปได้ยังไง) แต่ก็น่ารักดี การทำงานสำคัญที่เพื่อนร่วมงานกับ หัวหน้าที่ดีนี่แหละ ถ้ามีเพื่อนร่วมงาน และหัวหน้าที่ดี อะไรมันก็จะรู้สึกดี ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ค่าตอบแทนนี่แหละ (ชักนอกเรื่องแล้ว)


ซีซั่นสองในภาคนี้ สึซุคาเสะ อาโอบะ ทำงานที่บริษัท Eagle Jump ได้ 1 ปีแล้ว ในเรื่องมีการพูดถึงโปรเจคเกมใหม่ที่จะทำ โดยในช่วงครึ่งแรกของซีซั่นนี้มีดราม่าเล็กน้อยในสำนักงาน ก่อนที่ในช่วงครึ่งหลังของเรื่องจะมีตัวละครใหม่เข้ามาเพิ่ม และในช่วงท้ายของเรื่องยากามิ โควได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

โดยรวมถือว่าสนุกและน่าติดตามไม่แพ้ภาคแรก ใครที่ได้ดูภาคแรกมาแล้วภาคนี้ก็ไม่ควรที่จะพลาด เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวซึ่งทุกตัวเติบโตขึ้น








เรื่อง To LOVE-Ru Darkness (ซีซั่น 1-2)
แนว ฮาเร็ม
จำนวน 12+14 ตอน

เรื่องราวในภาค Darkness (ซีซั่น 1) จะเน้นไปที่ นานะ, โมโมะ, ยามิ, โนอา และมิคัง เป็นหลัก โดยเราจะได้เห็นศัตรูของยามิปรากฎตัวขึ้น เรื่องราวเริ่มซับซ้อนมากขึ้น แต่ในส่วนของสิ่งที่ "ดี" ยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจจะมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ (มันผ่านพวกไดโนเสาร์ไปได้อย่างไร)

ภาคนี้เริ่มเดินเรื่องจริงจังมากขึ้น ไม่เดินเรื่องเรื่อยๆ เหมือนภาคก่อนแล้ว โดยเน้นตัวละครใหม่ที่ชื่อเมย์อา ซึ่งมีความสัมพันธ์บางอย่างกับยามิ และเราจะได้รู้เรื่องราวลึกๆ ของยามิกับตัวละครที่ชื่อว่าเทียร์ในภาคนี้ด้วย ภาคนี้ตอนจบดันจบแบบค้างคาให้ไปดูซีซั่น ต่อไปอีก

ซีซั่นสอง ยังคงไม่ต่างจากซีซั่นแรก แต่คราวนี้มาสเตอร์ของพวกนักฆ่าปรากฏตัว และมีปริศนาที่เกี่ยวของกับดาร์กเนส ดาร์กเนสคืออะไร อยากรู้ต้องติดตาม ใครเป็นแฟนเรื่องนี้เป็นทุนอยู่แล้วควรติดตามต่อ เหมือนภาคก่อนๆ แต่ถ้าดู 2-3 ตอนแรกรู้สึกว่าไม่ใช่แนว หรือไม่สนุกไปกับมัน แนะนำให้หยุดดูทันทีครับ








เรื่อง เซ็นโกะซังเทพจิ้งจอกจอมป่วน
แนว ตลก
จำนวน 12 ตอน

คุโรโตะ นากาโนะ มนุษย์เงินเดือนที่มีชีวิตที่ไม่มีความสุข เครียดจากการทำงาน คืนหนึ่งเมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาพบเด็กสาวน่ารักที่มีหูจิ้งจอกกำลังทำอาหารเย็น เธอคือ เซ็นโกะ เป็นเทพจิ้งจอกอายุ 800 ปี เธอ ถูกส่งมาที่โลกเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าจากชีวิตที่ไม่มีความสุข เพื่อช่วยในนากาโนะกลับมามีความสุขอีกครั้ง

โดยรวมถือว่าสนุก ถ้ามีเทพจิ้งจอกในบ้านแบบนี้บ้างคงดี จุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ก็คือ "ครอบครัว" ครอบครัวในที่นี้อาจไม่ใช่พ่อแม่ลูก หรือเมีย แต่เป็นใครก็ได้ที่อยู่ที่บ้าน และรอการกลับมาของเรา หรือเรารอที่จะกลับไปหาคนที่รอเรา การที่มีคนรอต้อนรับการกลับมาของเรา สิ่งนี้แหละที่ทำให้การกลับบ้านมันมีความหมายมากขึ้น








เรื่อง Goblin Slayer
แนว ดาร์คแฟนตาซี
จำนวน 12 ตอน

นักบวชคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์ได้เข้าร่วมกลุ่มผจญภัยครั้งแรก ในการผจญภัยครั้งแรกได้เกิดความผิดพลาดบางอย่างส่งผลให้สมาชิกปาร์ตี้ของเธอตายแทบไม่เหลือ จากน้ำมือพวกก็อบลิน โชคดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ก็อบลินสเลเยอร์ นักผจญภัยที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว คือการกำจัดก็อบลินให้หมดไป

เรื่องนี้ค่อนข้างโหดร้าย ใครจะไปคิดว่าพวกก็อบลินมันจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ โดยปกติในเกมพวกก็อบลินมักจะกระจอกไม่ค่อยมีฝีมือ แต่ในเรื่องนี้มันโหดกว่าที่เราเห็น ยิ่งโดนรุมยิ่งลำบาก ในตอนท้ายของเรื่อง ก็อบลินสเลเยอร์ได้ระดมพลปกป้องหมู่บ้านจากพวกก็อบลิน จะปกป้องได้หรือไม่ไปติดตามกันเองนะ








เรื่อง การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ
แนว วิทยาศาสตร์ ลึกลับ
จำนวน 1 ตอน

เรื่องราวเกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม ถึง 24 ธันวาคม ในปีเดียวกัน ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากงานวัฒนธรรม เช้าวันที่ 18 ธันวาคม เคียวน์มาถึงโรงเรียน และพบว่าทุกสิ่งเปลี่ยนไป ฮารุฮิ, โคอิซึมิ และเพื่อนบางห้องสาบสูญไป เขาต้องเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อโดยที่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป หรือสืบหาเบาะแสเพื่อเอาชีวิตในแบบเดิมที่แสนวุ่นวายคืนมา

ถ้าใครเคยดูเรื่องราวภาคหลักมาก่อนจะทำให้ดูรู้เรื่องมากขึ้น แต่อย่างที่หลายคนทราบ เคียวน์มันขี้บ่นและบ่นไม่หยุดจริงๆ








เรื่อง Hitori Bocchi no Marumaru Seikatsu
แนว ตลก ชีวิตในโรงเรียน
จำนวน 12 ตอน

ฮิโตริ โบจจิ เด็กสาวผู้ไม่ได้เรื่องด้านการเข้าสังคม โดนเพื่อนสมัยเด็กขู่ว่าย้ายโรงเรียนไปแล้วถ้าหาเพื่อนไม่ได้จะเลิกคบด้วย เรื่องราววุ่นวายของสาวน้อยโดดเดี่ยวที่ไม่ต้องการอยู่คนเดียวจึงได้เริ่มต้นขึ้น!

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ในเรื่อง ฮิโตริ โบจจิไม่ได้เรื่องในด้านการเข้าสังคมมาก แต่ถ้าสังเกตให้ดีๆ คนรอบตัวเธอแต่ละคนก็จะมีส่วนที่ไม่ได้เรื่องของแต่ละคนอยู่เช่นเดียวกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มันอยู่ที่เราจะกล้าพอที่จะลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ถ้าชอบการ์ตูนที่ตลก ไม่เครียด ดูได้เรื่อยๆ เรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดชม




ปีที่ผ่านมาได้ดูการ์ตูนหลายเรื่องมาก เนื่องจากจัดตารางการใช้ชีวิตได้ดีขึ้น การดูการ์ตูนก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนอีกทางเหมือนดูหนัง แต่มันยังไม่จบแค่นี้หรอก รอดูรีวิวตอนสามต่อได้เลย (ตอนสามจะเป็นรีวิวคาบเกี่ยวระหว่างปี 2019 - 2020)