bloggang.com mainmenu search


สวัสดีฮ้าบบบบบบบบบบบ



เอนทรี่ล่าสุด  รีวิว Bluerista Thai Cafe พระราม 9 ซอย 51 งาน Wongnai Sneak Peak 



เจ้าของบล็อกเดินทาง 6-13 พ.ค. นะคะ ในระหว่างนี้อาจจะไม่ได้ไปเมนท์หรือโหวตตอบใครเหมือนปกติค่ะ แต่อาจจะมีมาอัพบล็อกบ้างนะคะ





หลังจากรีวิวภาพรวมของทริปนี้วันแรกมาแล้วดังนี้

รีวิวทริปสี่สาวเที่ยวเชียงใหม่ แบบย่อ - วันแรก บิน PG เรียนทำลูกประคบ นวดสปา และกินอาหารเหนือ





วันนี้ก็มาต่อกันสำหรับวันที่สองของทริปนะคะ แปะคร่าวๆ ก่อนให้เห็นภาพรวมของวันนี้เนาะะะะะ







เริ่มต้นตอนเช้า โปรแกรมแรกที่ไปนี้เป็นโปรแกรมที่เรารีเควสท์ไปค่ะ นั่นก็คือ วัดอรัญวิเวกของหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโปนั่นเองค่ะ ท่านเพิ่งมรณภาพเมื่อ 16 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา และมีการสวดอภิธรรมทุกคืนนะคะ จะมีงานครบ 100 วันในเดือนพฤษภาคมด้วยค่ะ

ท่านใดที่จะไป จอดรถที่ลานจอดรถ มีรถกอล์ฟรับส่งไปด้านในให้นะคะ สามารถทำบุญตามจิตศรัทธา ถวายผ้าไตรแด่พระภิกษุ และกราบสรีระท่านได้นะคะ

หลังจากกราบเสร็จ สามารถรับซีดีคำเทศน์ของท่านและรูปท่านมาสักการะที่บ้านได้ค่ะ









จากนั้นก็พาเพื่อนๆ ไปวัดบ้านเด่น (หรือวัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน) ค่ะ เพราะยังไม่มีใครเคยไปเลย แล้วก็ไม่ห่างจากวัดอรัญวิเวกมากนักด้วยค่ะ ขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ

วัดนี้จะมีครูบาเทืองซึ่งเป็นพระที่มีคนเคารพนับถือมากๆ นะคะ ที่เคยทราบคือทุกวันที่ 20 ก.พ.ทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านก็จะมีการทำบุญ ทำต้นเงินที่ชาวบ้านอยากถวายท่านกันทุกปีค่ะ เราไม่ได้ไปวัดนี้สิบกว่าปีแล้ว ไปรอบนี้สิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมายเลย ทั้งวิหารหลวงพ่อทันใจ วิหารที่รวบรวมพระพุทธรูปองค์สำคัญๆ ต่างๆ ทั่วประเทศไทย และพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 พระธาตุค่ะ อันนี้มีรีวิวละเอียดอีกครั้งแน่นอนนะคะ











ไหว้พระสองวัดเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปรับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้เลือก Chef Table ค่ะ ที่ร้าน Bombay Hut อยู่เส้นแม่ริมนะคะ (ซึ่งก็เป็นทางกลับจากแม่แตงอันเป็นที่ตั้งของวัดมาเมืองเชียงใหม่นั่นเองหละค่ะ) ร้านนี้ต้องจองโต๊ะล่วงหน้านะคะ อาหารทางเชฟจะเลือกให้ว่าจะทำอะไรให้กิน ถ้าแพ้อาหารหรือกินอะไรไม่ได้ต้องแจ้งล่วงหน้านะคะ

สำหรับวันนั้นตับไก่บดอร่อยมาก เป็นจานเปิดตัวเรียกน้ำย่อยที่ดีค่ะ สลัดก็อร่อยทั้งสองจานเลย จานหลัก เพเน่ดีกว่าแกงไก่ใส่ถั่วชิกพีนะคะ ของหวานเป็นข้าวเหนียวมะม่วงไอศกรีมวานิลากับสาคูแคนตาลูปซึ่งสาคูไม่ใช่สาคูเหมือนที่อื่นด้วยหละ สรุปเราชอบตัวตับบดกับสลัดค่ะ อย่างอื่นยังไม่ว้าวนะคะ 

แต่สำคัญเลยคือราคาค่ะ เชฟเทเบิลในราคาหัวละ 280 บร้าไปแล้ว ถูกเวอร์วัง ถูกเกิ๊นนนน เชฟคะ มีกำไรบ้างมั้ยคะ? อาหารสามคอร์สเต็ม+1 อาหารเรียกน้ำย่อยเนี่ย สรุปแล้วควรไปลองสักครั้งค่ะ ดีงาม นี่เดือนกันยาเชฟจะขยายร้านนะคะ







เสร็จอาหารกลางวันแล้วก็ไหว้พระกันต่อค่ะ เพื่อนๆ มีภารกิจกันที่วัดพระธาตุดอยคำนะคะ ทางขึ้นพระธาตุชันและคดโค้งพอควร ใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้นนะคะ ที่จอดรถค่อนข้างแน่นหนาพอควรค่ะ แต่เราโชคดีขึ้นไปปุ๊บมีที่จอดปั๊บ แหะๆ

สำหรับขั้นตอนที่นี่ก็นำธูปสามดอกไปไหว้หลวงพ่อทันใจนะคะ ขอสิ่งที่เราต้องการ โดยบอกว่าหากได้ตามประสงค์จะถวายมะลิกี่พวง (มีเสียงคอยบรรยายบอกว่าควร 50 พวงขึ้นไปค่ะ) ซึ่งพวงมะลินี่มีขายตั้งแต่ด้านล่างก่อนขึ้นเขาพระธาตุอีกหละค่ะ อ้อๆ ลอตเตอรี่ข้างบนขายเกินราคาหละ เจอใบละ 100 บาทมาแล้ว เหอๆ







ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว กินต่อค่ะ 555 กับร้าน Chom Cafe ซึ่งห่างจากพระธาตุดอยคำราวๆ สัก 15-20 นาทีได้นะคะ ร้านนี้มีคิวรอด้วยค่าาา แต่ตอนเราไปเป็นคิวแรกเลย รอราวๆ 10 นาทีได้ มีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ว่าทุกชม. จะมีปริงเกอร์ปล่อยน้ำออกมาให้ความชุ่มชื่นกับต้นไม้ต่างๆ ให้ระวังของเปียกด้วยนะคะ

ร้านมีที่นั่งสองส่วนที่เป็นห้องแอร์ค่ะ แล้วก็ไฮไลท์คือสวนที่จัดไว้สวยมากกกกกกกกกกกกก คนไปเพื่อถ่ายรูปกันชัดๆ เลยค่ะ ส่วนขนมเค้ก...ไม่ผ่านนะคะ เครื่องดื่มสั่งมาสองตัว ตัววานิลาลาเต้เราโอเคค่ะ แต่ตัวมันม่วงมันไม่มีความเป็นมันม่วงง่ะ งือออออ สรุปแล้วเหมาะไปเช็คอินถ่ายรูปค่ะ ไม่แน่ใจว่าอาหารคาวเค้าจะอร่อยกว่าป่าวนะคะ









เสร็จจากร้านนี้ก็ไปต่อร้านที่สองของรอบบ่ายค่ะกับ Nakara Jardin นั่นเองงงงง

ร้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมปิงนครานะคะ (น่าจะเจ้าของเดียวกัน) แต่ก็แยกโซนออกมาพอควรค่ะ แค่อยู่ใกล้ๆ กัน คนไม่พักที่นี่ก็มากินได้เป็นปกติค่ะ ขับรถเข้าไปทางจะค่อนข้างเล็กหน่อยค่ะ ที่จอดรถมี แต่รถก็เยอะเช่นกัน อันนี้ก็แล้วแต่ดวงนะคะ

วันนั้นน้ำปิงน้ำเต็มเลยยยยย ไม่ร้อนเท่าไหร่ด้วย ดีงามอยู่ค่ะ

วันนั้นเราไปถึง 4 โมงเย็นแล้ว ของอร่อยหมดหลายอย่างเลยง่ะ เลยสั่งมาเท่าที่มีนะคะ

ตัวสกอน (สโคน) โอเคค่ะ เนื้อค่อนข้างร่วน แต่เราชอบ clotted cream เขานะ เบาๆ นุ่มๆ หวานอ่อนๆ หอมดี ตัวชาไทยทิรามิสุ เหล้าเข้มมาก ตัวชาเบาไปหน่อยค่ะ ไอศกรีมสั่งมาสองรส สตรอเบอร์รี่กล้วยหอม กล้วยหอมกลบสตรอฯ มิดเลยค่ะ ส่วนรสมิกซ์เบอร์รี่ มันคือวานิลาใส่เบอร์รี่ง่ะ คือโดยชื่อคิดว่าเป็นซอร์เบต์น่ะนะ เลยไม่ค่อยต้องจริตเท่าไหร่ แหะๆ







ของหวานเรียบร้อยแล้วก็ไปเดินเล่นกันที่ห้าง One ห้างเปิดใหม่ย่านนิมมานฯ กันค่ะ จอดรถในอาคารจอดรถของทางห้างได้เลยนะคะ 

ตรงโซนที่เป็นทางเดินไปยังส่วนของฟู้ดสตรีท (ชั้นล่างสุด) จะมีร้านค้าต่างๆ มากมาย หลายแบรนด์และหลายร้านดูอาร์ทมาก (มีร้านที่ให้ทำกล่องดนตรี DIY ด้วยหละ) น่าสนใจที่จะไปนั่งเล่นชิลล์มากๆ ค่ะ ตัวฟู้ดสตรีทก็มีหลายร้านเลยอ้ะ ถ้าใครขี้เกียจไปตระเวน ก็มากินที่นี่เลยก็ได้นะคะ







ส่วนชั้นบนของห้างนี้จะเป็นที่รวมบรรดาของที่ระลึกของฝากทั้งหลาย มีหลายอย่างน่าสนใจค่ะ แต่บางอย่างก็เน้นไปที่ชาวต่างชาติอะนะคะ อย่างพวกเครื่องหนังจระเข้เป็นต้น หรือผลิตภัณฑ์สปา เครื่องหอมต่างๆ เสื้อผ้า จนกระทั่งของกินพื้นเมืองค่ะ เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้ามีข้าวซอยสำเร็จรูปแล้วด้วยอ้ะ แบบเติมน้ำร้อนกินได้เลย เหมาะแก่การขนไปต่างประเทศมากๆ 555 ที่ชอบมากคือกระเป๋ารูปทุเรียนค่ะ เกือบเผลอใจซื้อแล้ว ได้แต่ห้ามตัวเองว่า บ้านไม่มีที่เก็บแล้วเฟ้ยยยย

สำหรับการเดินชั้นสองนี่ ถ้าขึ้นบันไดเลื่อนฝั่งจากลานที่เค้าไปถ่ายรูปกันเยอะๆ ขึ้นไปจะเจอโซนพวกเครื่องหอม+สปาก่อน ถ้าเลี้ยวขวาไปจะมีร้านค้าต่างๆ รวมทั้งเครื่องหนังจระเข้นะคะ แต่จะวนครบรอบไม่ได้ ต้องกลับมาตรงสปาแล้ววนทวนเข็มนาฬิกาค่ะ ถึงจะครบทั้งอาคาร ซึ่งการเดินจะเป็นทางเดียวด้วย คือ ไม่สามารถย้อนศรกลับได้ (แม้ว่าบันไดเลื่อนลงกับขึ้นจะอยู่ติดกันก็ตาม 555) 







จากนั้นก็ไปกาดวโรรส เพราะเชื่อ google ว่าปิด 23.00 น. ค่ะ ไปถึงหกโมงร้านเก็บหมดแล้ว แงงงง เลยต้องไปที่วนัสนันท์แทน ช็อปปิ้งเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็น ซึ่งก็ไปที่ร้านนี้กันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นร้านเด็ด เผ็ดซี้ด ถูกใจชาวคณะกัน นั่นก็คือร้านลาบนัวนั่นเองงงงงงง

สำหรับร้านนี้มีห้องแอร์และเอาท์ดอร์นะคะ มีลานจอดรถที่จอดได้ราวๆ สักสิบกว่าคัน อ่านในแอพบอกว่าถ้ามาช่วงเที่ยงจะไม่ค่อยมีโต๊ะ ให้มาบ่ายสองเป็นต้นไป เราไปถึงสองทุ่มแล้ว ของหมดหลายอย่างมาก เลยสั่งได้เฉพาะที่ยังมีของค่ะ 

เมนูเด็ดสุดของมื้อนั้นคือ กุ้งแช่น้ำปลาร้า (รูปในทะเลพริกนี่แหละค่ะ) โคตรสะใจ อร่อยมาก รสจัดจ้านเผ็ดซี้ด อร่อยขนาดที่พอกุ้งหมด สั่งเส้นหมี่มาราดน้ำกิน เส้นหมี่หมด มีสั่งเนื้อย่างมา แล้วเอาน้ำราดกินอีก 5555 (นี่ทำรีวิวไปก็กลืนน้ำลายไป) ส้มตำข้าวโพดก็รสชาติดี (ใช้ข้าวโพดหวานด้วยน้า) แต่ตำปูปลาร้าเราชอบแซ่บกว่านี้อีกหน่อยง่ะนะ (ปลาร้าที่นี่คือดีย์ เรากินได้ค่ะ ไม่เหม็นเลย กลิ่นกำลังดีมาก) เสือร้องไห้นี่ ติดมันน้อยไปหน่อย ย่างค่อนข้างสุกค่ะ แต่หมักดีมีรสหวานแบบที่ชอบ ดีงามค่ะ เป็นอีกร้านที่ไปเชียงใหม่แล้วเชียร์ให้ไปลองเลยสำหรับสายแซ่บ ห้ามพลาดเด็ดขาด นี่ไปอีกก็คงไปซ้ำหละค่ะ (ร้านนี้ทำรีวิวละเอียดๆ อีกทีนะคะ)







จบทริปวันที่สองแต่เพียงเท่านี้นะคะ เป็นการปิดท้ายวันด้วยความอร่อยถูกใจมากมาย เหลืออีกวันหนึ่งค่าา แล้วจะรีบมาทำรีวิวก่อนจะทำรีวิวแยกละเอียดๆ ต่อไปนะฮ้าบบบบบ




ปฏิทินธรรม




วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 

ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447


2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันพุธที่ 4 เมษายน 2561

1. ฟังธรรมพระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย จ.อุดรธานี 

ณ ชมรมพระพุทธศาสนา บริษัท เอไอเอ จำกัด ชั้น 8 อาคาร เอไอทาวเวอร์ ถ.สุรวงค์ 



วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561

1. บำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน การละสังขาร น้อมถวายองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 

ณ วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) จ.เชียงใหม่




วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561

1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี
แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน 

ตั้งแต่เวลา 9.30-13.30 น. พัก 11.00-12.00 น. 
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2



วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28 และ 29 เมษายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร





วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
1. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2










ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+6170576=7640272/13248/1658



      Travel Blog 


Create Date :06 พฤษภาคม 2561 Last Update :6 พฤษภาคม 2561 3:39:23 น. Counter : 2302 Pageviews. Comments :36