bloggang.com mainmenu search


สวัสดีค่าาา



เอนทรี่ล่าสุด รีวิว So Asean สาขาเดอะสตรีทรัชดา





วันนี้จะมาทำรีวิวสี่สาว (จะบอกสี่ป้ากลัวน้องสองคนไม่ยอมเป็นป้า 555) ไปเที่ยวเชียงใหม่กันนะคะ โดยทริปนี้จะเป็นทริปแรกที่เราจะลองทำแบบเที่ยวเป็นวันๆ ก่อน (ส่วนการแยกทำรายละเอียดย่อยนั้น...จะเลือกทำเป็นบางอัน ขอดูความขยัน (หรือขี้เกียจนั่นเอง) ของตัวเองอีกทีฮ่ะ)


โดยจุดเริ่มต้นของการไปครั้งนี้นั่น เนื่องจากสองสาว (ชื่นกับพี่แหม่ม) มีที่พักที่เชียงใหม่อยู่แล้ว เลยชวนเรา เราก็บอกได้เลย พอไปคุยในกลุ่มไลน์ สาวเหมียวสนใจด้วย แล้วก็เลยต้องหาที่พักเพิ่ม เพราะฉะนั้นทริปนี้ เรากับเหมียว nanareview พักที่เดียวกันคือบ้านแสนดอย ขณะที่ชื่นกับพี่แหม่มจะพักเดอะคอร์นะคะ ดังนั้นเรากับชื่นจะรีวิวทั้งตัวที่พักและสปาคนละที่กันค่าา ส่วนอย่างอื่นนั้นไปไหนไปด้วยกันค่า แต่การรีวิวอาหารก็อาจจะต่างกันอยู่ดี เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกันอะนะคะ 555







การเดินทางไปครั้งนี้ โชคดีที่มีโปรฯ บางกอกออกมาในช่วงนั้นพอดี เราจองไปได้ในราคา 2700 บาทค่ะ (รวมภาษีแล้ว) ไปกลับนี่พอๆ กับการไปรถทัวร์เลย 555 อันนี้รวมน้ำหนัก 20 กิโล (โหลดใต้ท้องเครื่อง) และอาหาร (มื้อหลัก) ทั้งขาไปและกลับตามมาตรฐานฟูลคอสต์แอร์ไลน์อยู่แล้วหละนะคะ แต่สะสมไมล์ไม่ได้นะคะ เพราะเป็นราคาโปรฯ อ้ะ

สำหรับวันนั้นเราเช็คอินที่เคาน์เตอร์และใช้เลาจน์บลูริบบ้อนนะคะ (สำหรับคนที่เป็นเอไอเอสเซเรเนดสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง เดือนละครั้งนะคะ โดยการเช็คอินนี่สามารถพาเพื่อนเช็คอินได้ด้วยอีกหนึ่งท่านค่ะ) หรือหากเป็นสมาชิก Flyer Bonus (โปรแกรมสะสมไมล์ของบางกอกแอร์เวย์ส) ระดับพรีเมียร์ก็ใช้สิทธิ์ตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งในส่วนของสัมภาระที่โหลดนี่จะมีติดแท็ก VIP ให้ด้วย แล้วเวลากระเป๋ามาก็จะมาก่อนนะคะ ไวมาก แบบไม่ต้องรอเลย ออกมาก่อนใครในเครื่อง อย่างงงว่าทำได้ไง บางสายการบินมี Priority แล้วก็มาเป็นลำดับแรกของใบอื่นๆ แต่ของ PG นี่ออกมาก่อนเลย แบบใบอื่นของผู้โดยสารท่านอื่นยังไม่ออกกันมาเลยง่ะ (ทั้งที่เชียงใหม่และสุวรรณภูมิด้วยนะคะ)






ซึ่งสำหรับลูกค้าทั่วไปก็จะมีเลาจน์ให้ได้ใช้เช่นกันค่ะ มีไวไฟฟรี ของกินอร่อยๆ (อย่างข้าวต้มมัดอันลือชื่อ) ให้ แต่ของบลูริบบ้อนจะมีของกินมากกว่าหน่อยค่ะ สำหรับเลาจน์บลูริบบ้อนของในประเทศ จะอยู่เยื้องกับประตู A3 A3A นะคะ สบายเลย เพราะเป็นเกทที่เราจะใช้ในการนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่องอยู่แล้ว







ไลน์อาหารภายในเลาจน์ค่ะ แต่ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (น่าจะเอามาใส่รอบบ่าย) จะเห็นว่าตัวเลือกเยอะกว่าฝั่งเลาจน์ปกติ แล้วก็มีอาหารร้อนให้เลือกด้วยนะคะ เช้านั้นจะเป็นเกี๊ยวกุ้งกับข้าวต้มบ๊ะกุ้ดเต๋ค่ะ เราเลือกข้าวต้มบ๊ะกุ้ดเต๋ อร่อยหละ รสเข้มข้นดี แต่เครื่องตุ๋นไม่แรงเกินไป ขนมเทียนกับใส่ไส้ก็ดี ซาลาเปาไส้ครีมก็อร่อย นี่ต้องกินยั้งๆ เพราะยังมีอีกหลายร้านรออยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ (มีเสียงถามลอยๆ ว่า นี่ป้ายั้งแล้วเหรอคะ?)







อิ่มแล้วเราก็ขึ้นเครื่องกัน สมาชิกพรีเมียร์ก็จะขึ้นเครื่องได้ก่อนเช่นกันค่ะ (ไปขึ้นรถบัสก่อนหละนะคะ) วันนี้เครื่องที่ใช้เป็น A320 ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 นะคะ









อาหารที่เสิร์ฟเป็นเมนูเต็มคอร์สนะคะ ของหวานเป็นซอฟท์คุ้กกี้สีฟ้าโรยไอซ์ซิ่ง ฉลองครบรอบ 50 ปีสายการบินนี้ อร่อยด้วยค่ะ ไม่หวานจัด เนื้อนิ่มๆ หน่อย ส่วนข้าวผัดกุ้ง รสจะอ่อนๆ นะคะ กุ้งสดดีค่ะ น้ำผลไม้และชากาแฟก็มีให้นะคะ

พนักงานเที่ยวบินนี้น่ารักค่ะ attitude ดี บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ถามอะไรก็ยินดีตอบ ไม่รู้ก็ขอไปหาคำตอบมาให้ อันนี้เราค่อนข้างชอบ FA ของสายการบินนี้นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนขาไปนี่ FA ที่ชื่อนันท์นภัส (อยู่ในรูปขวาล่างนะคะ) นี่ดีมาก ถามอะไรไปนี่พยายามหาคำตอบมาให้ตลอดๆ อ้ะ (ไม่รู้ว่ารำคาญป้าบ้างป่าวนะ 555) แต่ตอนขากลับ เจอพนักงานคนหนึ่ง เราว่าไม่น่าจะใช่มาตรฐานบางกอกแอร์เวย์สนะ คือ เห็นชัดว่าไม่กระตือรือร้นแล้วก็ attitude แบบ...ทำแบบไม่เต็มใจอ้ะ ซึ่งงงมากว่า ไม่เคยเจอคนของ PG เป็นแบบนี้นะ (ถ้าสายการบินอื่นจะเจออยู่)







ไปถึงสนามบินก็ไปรอที่ประตูสาม เพื่อนโทร.คอนเฟิร์มกับบริษัทรถ True Leasing ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ เพื่อนไปซื้อคูปองในงานไทยเที่ยวไทย (ซึ่งเจ้าตัวก็ซื้อโปรฯ เดียวกันสำหรับไปภูเก็ตมาก่อนหน้านี้) มาหารกันสี่คน สามวันนี่ตกคนละห้าร้อยกว่าบาทเอง ถือว่าโอเคค่ะ เติมน้ำมันตอนจบทริป (เติมแก๊สโซฮอล์91) หมดไป 800 ซึ่งเราว่าโอเคเลยนะคะ

คนขับขับรถมารับพวกเรา แล้วก็ไปเซ็นเอกสารกันที่ปั๊มน้ำมันใกล้ๆ ตรวจรถ (อย่าลืมถ่ายภาพรอบรถเก็บไว้ด้วยนะคะ) เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันค่า 

หน้าตารถที่เราเช่ากันนะคะ มีไวไฟให้ใช้ฟรีในรถด้วยค่ะ แต่การเชื่อมต่อไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ง่ะ (เพื่อนบอกไวไฟในรถที่ภูเก็ตไม่มีปัญหาแบบนี้เลย) เวลาดับเครื่อง ไวไฟก็จะดับด้วย ต้องมาเปิดใหม่หลังสตาร์ทเครื่องตลอดค่ะ ขณะที่เพื่อนบอกว่าตอนใช้ที่ภูเก็ต มันจะติดให้เลยอัตโนมัติ ก็เลยงงอยู่ว่าทำไมมันต่างกันอะนะคะ







สถานที่แรกที่เราไปก็คือโรงเรียนไทยโอเอซิสสปาค่ะ ซึ่งจะอยู่ติดกับคาเฟ่เดอโอเอซิสเลย โดยปกติถ้าไม่ใช่นักเรียน หรือลงคอร์สเรียนไว้ จะไม่สามารถเข้าไปได้นะคะ ซึ่งคอร์สก็มีทั้งแบบระยะสั้นครึ่งวัน เต็มวัน หรือระยะยาวแบบเอาไปใช้ทำมาหากินได้แบบ 150 ชม. 500 ชม.ค่ะ 

ไปถึงทางพนักงานก็นำผ้าเย็นกับเครื่องดื่มมาต้อนรับก่อน จากนั้นก็ชมวีดิทัศน์แนะนำร.ร. เรียบร้อยแล้วคุณครูก็เริ่มในการสอนค่ะ มีอุปกรณ์สำหรับทำไว้ให้พร้อมพรั่งเลย (อันนี้จะรีวิวละเอียดๆ อีกทีนะคะ เพราะน่าสนใจมาก แล้วก็ไม่เคยเห็นรีวิวของใครแฮะ) สำหรับวันนั้นพวกเราเลือกเรียนทำลูกประคบค่ะ โดยมีทั้งลูกประคบใช้งานสำหรับการนวดร่างกายจริงๆ กับลูกประคบพวงกุญแจสำหรับเป็นของที่ระลึกด้วยนะคะ







สำหรับการทำลูกประคบ ก็มีทั้งไพล ใบเตย ตะไคร้ ผิวมะกรูด วันนั้นไม่มีใบเปล้วค่ะ (จะมีมากช่วงฤดูฝน) ก็ใช้เท่าที่มีเนาะ หั่น ซอย แล้วก็คลุกเคล้ากับพิมเสนและเกลือสินเธาว์ จากนั้นก็ใส่ผ้าห่อ จับอัดบีบให้เป็นก้อนกลมแล้วก็มัดเชือกค่ะ

ทำแล้วเค้าก็ให้กลับบ้านมาด้วยนะคะ มาแช่ตู้เย็นไว้ เวลาจะใช้ก็เอาออกมานึ่งแล้วก็ประคบค่ะ







เรียบร้อยแล้วก็กินมื้อเที่ยงกันที่ Cafe de Oasis ค่ะ (จะทำโดยละเอียดอีกทีนะคะ) วันนั้นที่กินแล้วชอบมากก็จะมีสปาเก็ตตี้ไส้อั่วบาร์บีคิวกับข้าวราดกระเพราพริกแห้งเนื้อค่ะ ส่วนของหวาน เค้กมะพร้าวอ่อนถือว่าดีเลยค่ะ ส่วนแมงโก้ชีสพายก็อร่อยนะคะ

สำหรับเบอร์โทร.ที่ร้านคือ 053-920191 นะคะ







อิ่มเรียบร้อยแล้วก็ไปส่งสองสาวที่ The Core นะคะ จากนั้นเรากับเพื่อนก็ขับไปยังที่พักของเราที่บ้านแสนดอย (Baan Saen Doi Resort and Spa) ซึ่งก็เป็นโรงแรมในเครือโอเอซิสสปาหละค่ะ สามารถเซิร์ชหาได้ด้วยคำค้นหาว่า Baan Saen Doi Resort and Spa นะคะ google map มีปักหมุดไว้แล้วค่ะ พิกัดอยู่ในหมู่บ้านบ้านในฝันนะคะ

website ของที่นี่
https://www.oasisluxury.net/home.php

ที่นี่เดี๋ยวเราจะทำรีวิวละเอียดๆ อีกทีนะคะ แต่ให้ข้อมูลคร่าวๆ ก่อนค่ะ

ที่นี่จะมีห้องพัก 11 ห้องค่ะ และมีห้องหลายไทพ์ด้วยกัน อย่างห้องที่เราพักจะเป็นห้อง Corner Suite ซึ่งจะเป็นห้องระดับที่สองนะคะ คือใหญ่กว่าเดอลักซ์อีกหน่อยหนึ่งค่ะ







หลังจากนอนเล่นกันสักพักก็ได้เวลาที่นัดหมายไปทำสปาตอน 15.00 น.ค่ะ เราเลือกสาขาบ้านแสนดอยนี่แหละ เดินข้ามถนนไปอีกหน่อยก็เจอแล้วค่ะ (คนที่เลือกพักที่นี่ก่อนจองเช็คโปรฯ ดีๆ นะคะ มีแบบพักสองคืนได้นวดอโรมาฟรีด้วยนะคะ ถ้าคิดจะนวดอยู่แล้วก็คุ้มดีนา หรือถ้าอยากได้นวดอย่างอื่น พักที่นี่ก็มีส่วนลดสปา 15% ด้วยนะคะ)

วันนั้นไหนๆ ก็ไปเชียงใหม่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดโอเอซิสสปาทั้งที่ เราเลือกแพ็คเก็จที่มีเฉพาะที่เชียงใหม่ค่ะ กับ Lanna Exotic 1 hr ราคา 1700++ บาทนะคะ 

ซึ่งการนวดจะเริ่มจากเท้าแล้วก็มาตัวเช่นเคยค่ะ แต่ที่ต่างไปก็คือ มีอุปกรณ์ในการตอกเส้น เป็นแท่งไม้ (ลิ่ม) และฆ้อนตอกค่ะ ซึ่งจะตอกไปตามเส้นต่างๆ ตามแนวข้างกระดูกสันหลังและบ่าค่ะ เหมือนจะเจ็บ แต่ไม่เจ็บนะคะ (ถ้าหนักไปก็บอกเทราพิสต์ได้ค่ะ) จากนั้นก็จะเป็นการนวดมือปกติค่ะ วันนั้นเราได้คุณโบว์ซึ่งน้ำหนักมือดีมากกกก นวดดีเวอร์วัง เสียดายเลย อยากให้นวดคิงฯ ให้เลยค่ะ 555









สปาเรียบร้อยก็ได้เวลาไปรับสองสาวที่สปาสาขานิมมานฯ (ที่ได้ข่าวว่าคนเยอะมากกว่าสาขาเราเยอะค่ะ) แล้วก็ไปกินอาหารเหนือด้วยกัน กับร้าน ฮ้านถึงเจียงใหม่ค่ะ พิกัดสามารถเซิร์ชใน google map ได้เช่นกันนะฮับ ไปทางเดียวกับที่จะไปวัดอุโมงค์ได้นะคะ

เบอร์โทร.ร้าน 091-0766100 / 091-0766100

ที่จอดรถมีพอควรค่ะ จอดน่าจะได้เป็นสิบคันหละ 

ที่นี่จะมีอาหารเหนือแบบเนื้อเหนือออออให้กินนะคะ (อาหารเหนือพื้นๆ ที่คนภาคอื่นรู้จักอย่างน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ไส้อั่วก็มีค่ะ) เพราะงั้นใครที่อยากลองกินอาหารเหนืออย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบที่เคยๆ กิน ก็แนะนำนะคะ แต่ร้านนี้ไม่มีห้องแอร์นะคะ ถ้าไปช่วงค่ำๆ ยุงจะชุมหน่อยค่ะ

วันนั้นถูกใจน้ำพริกน้ำปู๋ (สั่งเผ็ดพิเศษ) มากๆ ส้มตำเมืองคือตำไทยใส่ปลาร้า ออกหวานดีค่ะ อร่อยนะ ตัวยำไข่ต้มยางมะตูม ใส่น้ำกระเทียมดองด้วยอ้ะ เราเลยไม่ค่อยถูกปาก และมีแอ๊บรังผึ้ง ซึ่งรสชาติจะออกมันๆ และมีน้ำผึ้งแซมๆ มาหน่อยด้วยค่ะ ออเดิร์ฟเมือง ไส้อั่วโอเค น้ำพริกหนุ่มอร่อยค่ะ







ยังค่ะ กินคาวไม่กินหวานเหมือนขาดอะไรไปปปปป เพื่อนคนหนึ่งเล็งร้านนี้ไว้เลยไปกันค่ะกับร้าน  Cervidae (แปลว่าสัตว์มีเขาจำพวกกวาง แทนผู้พิทักษ์ของพ่อแม่และตัวแฮร์รี่เอง) ซึ่งขนมและเครื่องดื่มในนี้ก็ทำในธีมแฮร์รี่รวมทั้งสัตว์เลี้ยงตระกูลเดียวกับนกฮูก (คือสารภาพว่าไม่รู้ว่าตกลงที่ที่ร้านเลี้ยงไว้นี่ น้องเค้าเป็นนกฮูกหรือนกเค้าแมว 55555) ก็มีเช่นกันค่ะ

น้องนกฮูก (หรือนกเค้าแมว) ทางร้านจะให้มาบินเล่นราวๆ 1 ทุ่มนะคะ เพราะเค้าจะตื่นแล้ว ถ้าไปกลางวันจะไม่เจอ เพราะน้องเค้าหลับอยู่ค่ะ









จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่กาดหน้ามอ เสียดายว่าฝนตกค่ะ ก็เลยช็อปได้แค่ร้านที่อยุ่ใกล้ๆ ไม่ได้เดินไปร้านที่อยากไป (แต่ได้ข่าวว่าก็ได้ของมาไม่น้อยนะป้านะ) แล้วก็เดินทางกลับที่พักค่าา จบทริปวันแรกเรียบร้อยยยย สำหรับอีกสองวันเดี๋ยวจะทยอยทำนะคะ รวมทั้งรีวิวบางที่ที่จะทำโดยละเอียดค่ะ (แล้วจะมาแปะลิงก์ในรีวิวนี้เพิ่มอีกที เผื่อใครอยากคลิกอ่านเนาะ)






ปฏิทินธรรม




วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 

ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447


2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันพุธที่ 4 เมษายน 2561

1. ฟังธรรมพระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย จ.อุดรธานี 

ณ ชมรมพระพุทธศาสนา บริษัท เอไอเอ จำกัด ชั้น 8 อาคาร เอไอทาวเวอร์ ถ.สุรวงค์ 



วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561

1. บำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน การละสังขาร น้อมถวายองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 

ณ วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) จ.เชียงใหม่




วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561

1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี
แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน 

ตั้งแต่เวลา 9.30-13.30 น. พัก 11.00-12.00 น. 
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2



วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28 และ 29 เมษายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร





วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
1. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2










ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+6154064=7623760/13238/1656




      Travel Blog


Create Date :02 พฤษภาคม 2561 Last Update :2 พฤษภาคม 2561 9:45:46 น. Counter : 1812 Pageviews. Comments :29