bloggang.com mainmenu search




สวัสดีค่ะ





หลังจากพาไปหม่ำอาหารเช้าและทำสิ่งที่เป็นกุศลรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระ 9 วัดไปแล้ว ๒ วัดดังนี้



หลังจากรีวิวร้านอาหารร้านแรกของทริปปีใหม่ 2554 ไปแล้วคือ ไก่ถังวังทอง พิษณุโลก (คลิกเพื่ออ่าน)

ตามด้วย ข้าวมันไก่เกียรติโอชา + ร้านหวานละมุน (คลิกเพื่ออ่าน)

รีวิวทริปไหว้พระ 9 วัด วัดแรก ณ วัดลอยเคราะห์ (คลิกเพื่ออ่าน)

และวัดที่สอง วัดหมื่นล้าน (คลิกเพื่ออ่าน)













วันนี้จะพาไปยังวัดต่อไปนะคะ นั่นก็คือวัดดวงดีนั่นเอง



เว็บไซต์ของวัดค่ะ

//www.watduangdee.com/web/














สำหรับประวัติของวัดนี้ก็มีดังนี้นะคะ



วัดดวงดี เป็นวัดที่อยู่ใกล้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งประวัติของวัดไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัดนัก แต่ตามหลักฐานที่ทางอดีตเจ้าอาวาส (พระอธิการบุญชู อภิปุญฺโญ) ได้ขอให้คุณปวงคำ ตุ้ยเขียว ค้นคว้าและเรียบเรียงประวัติวัดดวงดี เพราะเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ ในแต่ละวันมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากเพราะเหตุว่าชื่อวัดเป็นชื่อมงคล วัดดวงดีนั้นตามปรากฏหลักฐานข้อมูลที่มีมาหลายชื่อ เช่นวัดพันธุนมดี วัดอุดมดี วัดพนมดี


ในปีพ.ศ. 2513 คุณปวงคำได้เป็นผู้ช่วยวิจัยในโครงการวิจัยคำจารึกบนฐานพระพุทธรูป ในตำบลศรีภูมิและตำบลพระสิงห์ โดยมี ดร.ฮันส์ เพนธ์ เป็นหัวหน้า; ได้พบคำจารึกบนฐานพระพุทธรูปโลหะองค์หนึ่ง ประดิษฐานอยู่ในวิหาร จารึกด้วยอักษรไทยยวน มีความว่า สกราชได้ 859 ปีวายสี พระเจ้าตนนีแสนนึงไว้วัดต้นมกเหนือ (จ.ศ. 859 พ.ศ. 2039 สมัยพระเจ้ายอดเชียงรายครองเมืองเชียงใหม่) พระพุทธรูปองค์นี้น่าจะไม่มีผู้นำมาจากที่อื่น แต่สร้างขึ้นในวัดนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวัดต้นมกเหนือ หรือวัดต้นหมากเหนือ วัดดวงดีคงสร้างขึ้นหลังจากพระเจ้ามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่แล้ว คงจะมีเจ้านายเมืองเชียงใหม่คนหนึ่งเป็นผู้คิดสร้างขึ้น


ใน ปี พ.ศ. 2304 มีหลักฐานในประวัติเมืองเชียงใหม่ว่า เจ้าอาวาสวัดดวงดีได้รับอาราธนาให้ลาสิกขาบท และอัญเชิญให้เป็นเจ้าครองเมืองเชียงใหม่ เป็นระยะเวลาสั้นๆ จนปี พ.ศ. 2306 ล้านนาไทยรวมทั้งเมืองเชียงใหม่ ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าอีกครั้ง ลุจุลศักราช 1136 ตรงกับปีพ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพพระเจ้ากรุงธนบุรี สามารถยึดเมืองเชียงใหม่คืนจากพม่าได้ เมื่อวันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำ เดือนห้าเหนือ เมืองเชียงใหม่จึงเจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน


มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า วัดนี้เคยใช้เป็นสำนักเรียนสำหรับลูกเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อน และยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่เรียนของนักเรียนยุพราชวิทยาลัยก่อนที่จะมีการ ก่อสร้างแล้วเสร็จอีกด้วย


นอกจากนั้นที่วัดนี้ยังมีปูชนียสถานที่สำคัญของวัด โดยกรมศิลปกรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 76 ตอนที่108 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 รวม 4 รายการ คือ วิหาร เจดีย์ โบสถ์และหอไตรด้วยค่ะ












เอาหละค่ะ หลังจากทราบประวัติแล้ว ก็ไปชมภาพวัดกันบ้างดีกว่าเนาะ


ซึ่งพอจอดรถปุ๊บ เดินไปเจอตรงนี้ก่อนค่ะเป็นที่จำหน่ายดอกไม้ต่างๆ (แต่อยู่ทางด้านหลังวิหารนะคะนี่ แหะๆ เข้าผิดทางอีกแล้วหรือเปล่าหละเรา )





















แต่วันนั้นเราทำอันนี้ด้วยค่ะ เค้าเรียกตุงทานหรือเปล่าหว่า แหะๆ

ทำบุญ 99 บาทค่ะสำหรับชุดนี้

แล้วก็เขียนชื่อนามสกุลด้วยนะคะ





















จากนั้นก็มาไหว้ + แขวนเงินไว้ที่เขาทำเป็นตาข่ายสูงๆ เหนือหัวเราเนี่ยค่ะ





















ตรงที่เราไหว้นี่คือตัวองค์เจดีย์ซึ่งอยู่ด้านหลังวิหารค่ะ
(ถึงบอกว่า สงสัยเข้ามาจากทางหลังวัดอีกแล้วนะนี่ )




















แอบส่องไป ปรากฏว่า ฟากขะโน้นเป็นอุโบสถค่ะ เห็นใบเสมากันปะคะ อิอิ
(ถ้าหันหน้าเข้าด้านหน้าวิหารจะอยู่ทางซ้ายมือแทนนะคะ พอดีเราไปจากทางด้านหลังวิหารง่ะ)





















หลังจากนั้นเราก็เข้าไปไหว้พระประธานของวัดนี้ค่ะ





















ส่วนองค์นี้นี่ น่าจะเป็นธรรมาสน์หรือเปล่าคะ?





















เดินไปทางด้านหน้าวิหารค่ะ 1 ใน 4 ที่ได้รับขึ้นทะเบียนของกรมศิลป์ฯ นะคะ





















ด้านข้างๆ ของวิหารก็มีทางขึ้นค่ะ แล้วก็มีสิงห์ทุกบันไดเลยด้วยค่ะ




















จากนั้นเราก็เดินมาทางด้านหน้าวิหารค่ะ นี่น่าจะเป็นประตูทางเข้าหน้าวัดมากกว่าอะนะคะ แหะๆ

แต่เหมือนว่า ทางนี้จะไม่มีที่ให้จุดดอกไม้ธูปเทียนนะคะนี่




















ซุ้มประตูทางเข้าวิหารค่ะ ลวดลายเหนือประตูงามดีนะคะ

สิงห์ฝั่งซ้ายนี่คาบอะไรด้วยเนี่ย





















เฟิร์มว่า วิหารจริงๆ น้า อิอิ (ตัวอักษรแถวบนนี่เป็นตัวเขียนแบบล้านนาหรือเปล่าคะนี่?)





















ส่วนนี่ก็หอไตรค่ะ 1 ใน 4 ที่ขึ้นทะเบียนเช่นกัน

จะอยู่ตรงประตูทางเข้าเลยนะคะ ใกล้ๆ ทางขึ้นวิหารหละค่ะ























สำหรับวัดนี้ก็มีแต่เพียงเท่านี้นะคะ (ข้าพเจ้าลืมถ่ายเจดีย์กับอุโบสถเดี่ยวๆ มาให้ดูง่ะ แหะๆ )


บล็อกหน้าจะพาไปไหว้วัดที่ 4 ค่ะ นั่นก็คือวัดชัยพระเกียรตินั่นเอง



















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะคะ

813491+37727+9697=860915/6330/570


Create Date :07 มีนาคม 2554 Last Update :7 มีนาคม 2554 8:37:43 น. Counter : Pageviews. Comments :61