bloggang.com mainmenu search




สวัสดีค่ะ





ก่อนอื่นเลย ขอประกาศผลผู้ที่มาร่วมสนุกจากการถามความคิดเห็นเรื่อง Bloggang Popular Award 2554 ที่บล็อกนี้ (คลิกเพื่ออ่าน)





และผู้ที่โชคดีได้แก๊......




....





....





....







คุณ Love at First Click ค่า


รบกวนคุณ Love at First Click ส่งที่อยู่มาทางหลังบ้านเพื่อจะได้จัดส่งวอชเชอร์ที่พักไปให้ด้วยนะคะ













หลังจากรีวิวร้านอาหารร้านแรกของทริปปีใหม่ 2554 ไปแล้วคือ ไก่ถังวังทอง พิษณุโลก (คลิกเพื่ออ่าน)

ตามด้วย ข้าวมันไก่เกียรติโอชา + ร้านหวานละมุน (คลิกเพื่ออ่าน)

และรีวิวทริปไหว้พระ 9 วัด ณ เชียงใหม่ไปแล้ว 1 วัดคือ วัดลอยเคราะห์ (คลิกเพื่ออ่าน)









วันนี้จะพาไปไหว้วัดที่สองของการไหว้พระ ๙ วัดของเรานะคะ


นั่นก็คือ วัดหมื่นล้านนั่นเองค่ะ วัดนี้ไม่มีเว็บไซต์ของทางวัดเองนะคะ แต่ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้ดังนี้ค่ะ (เครดิตจาก //www.chiangmai-thailand.net/temple/10000_lan/10000_lan.html)



วัดหมื่นล้านถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. ๒๐๐๒ ถึงปีมะเเม พ.ศ. ๒๐๐๕ ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช ผู้สร้างวัดหมื่นล้านคือ "หมื่นโลกสามล้านขุนพลแก้ว" คู่บัลลังก์ของพระเจ้าติโลกราชซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของ "หมื่นด้ง" หรือ "หมื่นด้งนคร"


การสร้างวัดของหมื่นโลกสามล้านตามหลักฐานในคัมภีร์ประวัติศาสตร์กล่าวไว้้ว่าหลังจากที่หมื่นโลกสามล้านได้ตีทัพอยุธยาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถให้ถ่อยร่นจากสุโขทัยไปถึงกำแพงเพชรแล้ว หมื่นโลกสามจึงได้ทูลเเจ้งข่าวการมีชัยแก่พระเจ้าติโลกราช แล้วพระเจ้าติโลกราชจึงได้กรีฑาทัพหลวงตามไป ครั้นไปถึงแล้วจึงได้มีึำคำสั่งให้หมื่นโลกสามล้านถอยทัพกลับไปรักษาการที่นครเวียงพิงค์ เมื่อหมื่นโลกสามล้านกลับคืนมารักษาการยังนครเวียงพิงค์แล้วจึงมีดำริกุศลเจตนาปรารถนาจะสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่ง เพื่ิอเป็นการสร้างกุศลอุทิศแก่แม่ทัพของอยุธยาที่ผ่ายในการทำสงครามจนต้องเสียชีวิตในสนามรบตลอดถึงอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกกองของล้านนาด้วย

วัดที่หมื่นโลกสามล้านได้ สร้างขึ้นตามหลักฐานบ่งชี้ไว้ว่า ไ้้ด้จัดหาสถานที่สร้างวัดขึ้นภายในกำแพง เมืองเบื้องบูรพาทิศห่างจากประตูเมืองไปยังใจกลางเมืง ๑๐๐ ขาธนู (๑ ขาธนูเท่ากับ ๑ วา) คือประมาณ ๑๐๐ วา ในปีมะเส็ง จ.ศ. ๘๒๒ ตรงกับ พ.ศ. ๒๐๐๒ ครั้นถึงปีมะแม พ.ศ. ๒๐๐๕ จ.ศ. ๘๒๕ จึงได้ืทำการเฉลิมฉลองถวายเป็น พุืทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา


และตามข้อสันนิษฐานของนักประวัติศาสตร์ได้สันนิษฐานว่า วัดที่หมื่นโลกสามล้านไ้ด้สร้างขึ้นนั้นได้แก่ "วัดหมื่นสามล้าน" ในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะการสร้างวัด การขนานนามของวัดนิยมขนานนามของผู้สร้าง เช่น ชีปะขาวยอด ชีปะขาวสวย สร้างวัดขึ้นมาแล้วได้ขนานนามวัดว่า วัดผ้าขาวน้อย วัดผ้าขาวหลวง แม้แต่วัดหมื่นเงินกอง ขุนเมธังและพระเจ้าแสนเมืองมา เป็นต้น


ฉะนั้นวัดหมื่นล้านจึงเป็นวัดที่หมื่นโลกสามล้านขุนพลแก้วคู่บัลลังก์ของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาประเทศในสมัยราชวงศ์มังราย หรือ เม็งราย เป็นผู้สร้างโดยนำเอาพยางค์ต้นตำแหน่งคือ "หมื่น" และพยางค์ท้ายคือ "ล้าน"


ศิลปะวัตถุ เช่น เจดีย์และลวดลายหน้าบันของพระวิหารที่มองเห็นส่วนใหญ่เป็นศิลปะแบบพม่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ หรือปีมะเส็ง จ.ศ. ๑๒๗๙ ได้มีคหบดีท่านหนึ่งคือ "หลวงโยนการพิจิตร" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ขุนหลวงโย" ซึ่งเป็นต้นตระกุลอุปโยคิน ได้สละืทุนทรัพย์ขึ้นมาทดแทนของเดิมที่หายไป ท่านจึงได้จัดการเจรจาตกลงกับท่านพระครูอนุสรณ์ศีลขันธ์เจ้าอาวาสในขณะนั้นขอเป็นเจ้าภาพบูรณะเสริมสร้างให้ดีขึ้น พร้อมทั้งขอเป็นเจ้าภาพบูรณะเจดีย์ของวัด เมื่อท่านพระึครูตกลงยินยอม ขุนหลวงโยจึงได้จัดการบูรณะเจดีย์ของวัดและสร้างเสริมมุขของวิหารออกมาเพื่อให้บันไดอยู่ในร่ม

ฉะนั้นหน้าบันของมุขวิหารจึงมีลวดลายของพม่าปะปน ที่ได้อย่างชัดเจนคือ รูปนกยูงรำแพนอันเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะพม่า ส่วนเจดีย์ไม่ต้องพูดถึง เพราะเห็ำนได้้ัชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นศิลปะพม่าโดยตรง










เอาหละค่ะ ไปชมวัดกันมั่งเนาัะ

ก่อนอื่นก็ถ่ายป้้ายและทางเข้าวัดมาให้ดูก่อนค่า





















เข้าไปปุ๊บ ทางซ้ายมือจะเป็นศาลาสำหรับนวดของชมรมรักษ์การนวดไทย (เชียงใหม่) ค่ะ

มีน้ำดื่ม+ข้าวไข่เจียวขายด้วยอ้ะ




















จากนั้นก็เดินไปที่วิหารค่ะ บันไดก็เป็นมกรคายนาคอะนะคะ ส่วนนี่สร้างเสริมมาเพื่อให้บันไดอยู่ในร่ม รวมทั้งหน้าบันจะเป็นรูปนกยูงรำแพน ศิลปะแบบพม่าตามประวัติที่แปะไว้ในตอนต้นนั่นแหละค่ะ แหะๆ


มีกล่องรับบริจาคอยู่ตรงทางขึ้นด้วยค่ะ





















ภายในวิหารค่ะ ลายที่เสาจางไปเยอะแล้วเหมือนกันนะคะนี่





















พระประธานของวัดนี้ค่ะ

ที่ปักเทียนด้านหน้านี่มีชื่อเรียกนะคะ แต่..ข้าพเจ้าคืนอาจารย์ไปแล้ว (เรียกว่าอะไรน่อ )





















สำหรับภาพจิตรกรรมภายใน มีภาพเกี่ยวกับการเทศน์มหาชาติ (เวชสันดรชาดก) ด้วยนะคะ

อย่างภาพนี้ก็เป็นกัณฑ์สักบรรพค่ะ





















ที่ประตู ลายก็จางไปมากแล้วเช่นกันค่ะ แต่ยังพอเห็นว่าน่าจะเป็นรูปเทวดานะคะ
























นอกจากนั้นตรงส่วนหนึ่งของประตู (แน่นอนว่าจำศัพท์ไม่ได้อีกเช่นเคย อาจารย์ขาหนูขอโต้ด ) ก็มีลวดลายเป็นเหมือนคาถาหรือยันต์บางอย่างอยู่ด้วยหละค่ะ อ่อนจางไปมากแล้วเช่นกัน





















ออกจากวิหารมา หันหลังให้วิหาร เราก็เดินไปทางขวามือค่ะ (จะอยู่ทางด้านหลังศาลาของชมรมรักษ์นวดฯ อะค่ะ) ก็จะเจออาคารหลังหนึ่ง งามดีค่ะ เดาว่าน่าจะเป็นหอไตรนะคะ (ใครคนท้องถิ่น ให้ข้อมูลเพิ่มได้นะคะ แหะๆ)

ส่วนทางขวามือก็เป็นพระเจดีย์ค่ะ ไม่มีข้อมูลใดเพิ่มเติมนอกจากบอกว่าเป็นการสร้างในสมัยขุนหลวงโย

ก็เลยทำให้มีศิลปะแบบพม่าด้วยค่ะ





















หอไตร (หรือเปล่า?) ง้าม งามนะคะ ชอบจัง























เจดีย์ที่ตามประวัติบอกว่าเป็นศิลปะพม่าค่ะ

แต่ไหงมีเหมือนๆ ย่อมุมไม้สิบสองด้วยหว่า





















ใกล้ๆ กันนั้นก็เป็นพระอุโบสถค่ะ

ทราบได้อย่างไรคะเด็กๆ

ตอบ เพราะมีใบเสมาค่า (อันนี้ถ้าลืม ครูเอาตายแน่ )

























สำหรับการมาไหว้พระวัดที่ ๒ ในบรรดา ๙ วัดคือวัดหมื่นล้าน ก็มีแต่เพียงเท่านี้นะคะ แฮ่...


บล็อกหน้าจะพาไปไหว้วัดที่ ๓ ค่ะ คือ วัดดวงดีนั่นเองงงงงง



















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาบล็อกเราค่ะ

813491+33120+4616=851227/6319/569








ป.ล. เจ้าของบล็อกจะไม่อยู่ยาวตั้งแต่วันพุธนะคะ จะอัพบล็อกใหม่อีกทีวันจันทร์หน้าเลยค่ะ


Create Date :28 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update :28 กุมภาพันธ์ 2554 7:55:13 น. Counter : Pageviews. Comments :99