bloggang.com mainmenu search



สวัสดีค่ะ


รีวิวล่าสุด Tora YakinikuxCafe สาขา CDC เลียบด่วนรามอินทรา




 
วันนี้ก็มารีวิวอีกหนึ่งบุฟเฟต์ร้านโปรดนะคะ กับ Copper Buffet ซึ่งมีการเปิดตัวฉลองโฉมใหม่ (ปิดร้านไปเกือบเดือนเพื่อทำใหม่ทั้งหมด) ไปเมื่อเมษายน 2566 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่เรียกว่าเกือบทั้งชั้นของเดอะเซนส์ปิ่นเกล้าเลยค่ะ ใหญ่โตอลังการมากกกกก





 
ก่อนอื่นทางคอปเปอร์จะมีการเปิดให้จองเป็นรอบๆ นะคะ คือจะปล่อยให้มีการจองทีละครึ่งเดือนค่ะ ซึ่งก็จะมีทั้งราคาปกติ 1359 บาทเน็ต และราคาที่มีเมนูพิเศษเพิ่มเติมเช่น ล็อบสเตอร์ เซ็ตโอนิกิริมันปู ข้าวซอยล็อบสเตอร์ ฯลฯ เช่นกันค่ะ แต่แค่ด้วยราคาเริ่มต้น 1359 บาท ก็มีเมนูมากพอที่ไปรอบเดียวก็ไม่มีทางได้กินครบแน่นอนค่ะ 555


สำหรับรอบก็จะมีดังนี้นะคะ (รอบละ 2 ชั่วโมงค่ะ)

วันจันทร์-ศุกร์ :
12:00-14:00 / 16:30-18:30 / 19:00-21:00

วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีทั้งหมด 4 รอบ
10:00-12:00 / 12:30-14:30 / 16:00-18:00 / 18:30-20:30



สำหรับท่านใดที่จองได้เรียบร้อย ต้องไปติดต่อตรงห้องนี้ก่อนนะคะ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งเบอร์โต๊ะค่ะ แล้วก็สำหรับท่านใดที่นำรถมาก็สามารถนำมาประทับตราจอดรถได้ที่นี่เช่นกันค่ะ








จากนั้นเดินไปทางเข้านะคะ ตอนนี้เค้าทำชื่อร้านตรงนี้ให้เป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินกันได้ด้วยนะคะ ตอนปาร์ตี้เปิดร้านก็เป็นจุดที่ให้ผู้ร่วมงานได้ถ่ายรูปกันเช่นกันค่ะ






 
ซึ่งนับตั้งแต่คอปเปอร์โฉมใหม่เปิดมา สำหรับผู้ที่ต่อสู้แย่งจองรอบได้ (ทางร้านเคยโพสต์ว่าเข้าจองทีเดียว 3 แสนคนอะค่ะ จนระบบจองของเว็บๆ หนึ่งล่มกันเลยทีเดียว) มักจะมีคนบ่นว่า พอขยายแล้วกว้างไป ต้องเดินเยอะ (แต่ก่อนหน้านี้ก็บอกว่า ที่นั่งชิดกันเกินไป พอเขาขยายพื้นที่เพิ่ม จัดโต๊ะให้นั่งห่างๆ สบายๆ ไม่แน่นเท่าเดิมก็บ่นว่าเดินเยอะอีก...เทอต้องการอัลลัยยยย 555)


แต่รีวิวนี้เราจะมีทริคในการบอกว่าทำไงให้ไม่ต้องเดินเยอะมาก และกินได้ครบทุกเมนูที่อยากกินนะคะ 

แต่ที่สำคัญนอกจากในส่วนของการขยายร้านให้กว้างขวางขึ้นแล้ว ทางร้านก็ยังมีการนำเข้าเครื่องมือต่างๆ เพื่อการบริการที่ดียิ่งขึ้นค่ะ (เครดิตจากบุ๊ง Close to Heaven นะคะ)

โซนอาหารย่าง มีเตากริลและเตารมควันที่สั่งทำมาพิเศษเพื่อคอปเปอร์โดยเฉพาะ

‘Smoke-Master’ เครื่อง Smoke ชั้นนำ มาตรฐานระดับโลก สั่งทำพิเศษ ส่งตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยให้เนื้อมีกลิ่นหอมแบบ Craft Flavor ให้รสชาติแบบ Authentic Barbecue เหมือนนั่งทานบาร์บิคิวต้นตำรับที่อเมริกา เพราะควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ ให้ความร้อนกระจายทั่วทั้งเตา ทำให้มีรสชาติที่ได้มาตรฐานเดียวกันในทุกจาน ‘The Wood Show Broiler’ เตาย่างเนื้อคุณภาพระดับโลก ที่ร้านระดับ Fine Dining เลือกใช้ โดยใช้ไม้เนื้อแข็งเป็นเชื้อเพลิง ทำให้เนื้อมีกลิ่นหอมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ แม่นยำที่สุด ทำให้เนื้อมีระดับความสุกตามต้องการของเชฟ

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องล้างจาน นำเข้าจากประเทศเยอรมนี ลงทุนกว่า 5 ล้านบาท เป็นระบบที่ดีที่สุด ในตอนนี้ ใช้สายพานลำเลียง เข้าเครื่อง ทำความสะอาดด้วยระบบที่ได้มาตรฐานระดับโลก มีระบบล้าง ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย มั่นใจได้ว่า สะอาดปลอดภัย ปลอดเชื้อ 100%


เอาหละค่ะ อย่างที่บอกว่าเรามีทริกในการสั่งอาหารให้ได้ครบที่อยากกิน ดังนั้นขอแปะแผนผังร้านเพื่อความเข้าใจเลยค่ะ


 
อันนี้คือผังภาพรวมของไลน์อาหารต่างๆ ร้านคอปเปอร์โฉมใหม่นะคะ  ที่เราจะให้สังเกตคือ สี่เหลี่ยมสีแดงๆ นี่คือ จุดเคาน์เตอร์ A-la-catre Station ที่เราสั่งเมนูบางเมนูได้ค่ะ จะเป็นเมนูที่เราสั่งไว้ก่อนได้ แล้วทางร้านก็จะไปทำแล้วก็ค่อยไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ 




 
ตัวเคาน์เตอร์นี้ เพื่อจะทำให้สั่งได้เร็ว ประหยัดเวลา ไม่ต้องไปดูเมนูต่างๆ ที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วค่อยสั่งนะคะ ให้ดูจากรูปนี้ได้เลยล่วงหน้า (หรือจะดูในไลน์ร้านก็ได้ค่ะ) แล้วจะจดไปเลยก็ได้ค่ะ พอถึงเคาน์เตอร์ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยว่าเราจะสั่งเลขอะไรบ้าง โดยแนะนำให้ดูเลขของเมนูอาหารตามด้านล่างนี้นะคะ (ภาพชัดๆ คือรูปสองและสามนะคะ แต่รูปแรกนี่ให้ดูว่ามีเมนูมากแค่ไหนค่ะ ยังไม่รวมแบบที่ต้องไปสั่งที่สเตชั่นโดยตรงนะคะ
 










ซึ่งเมนูที่สั่งที่เคาน์เตอร์ เมนูที่เราเชียร์ (ตามความชอบตัวเองนะคะ 555) มีดังนี้ค่ะ

เมนู Grilled&Smoked
- เสต็กเนื้อออสเตรเลียนสันนอก 101
- ลิ้นวัวชูวี 106
- เนื้อใบพายออสเตรเลียนรมควัน 107






Teppanyaki
- เสต็กปลากะพงซอสเลมอนดิล 302
- อกเป็ดรมควันซอสส้ม 308

ผัดไทยและกะเพรา
- ข้าวกะเพราวากิวไข่ออนเซ็น 404
 
พาสต้า (เราว่าที่นี่ทำพาสต้าดีอ้ะ ชอบหลายเมนูค่ะ)
- สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมเนื้อออสเตรเลียนวากิว 501
- สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมเบคอน 502
- ราวิโอลีผักโขมชีสและเบคอนมะเขือเทศเชอรี่ 507
- เฟตตูชินีหอยเชลล์ซอสครีมทรัฟเฟิล 510
- กุ้งถัง 512







สลัดและยำ
- ยำแซลมอน 607
- ยำเนื้อย่าง 608

ส้มตำ
- ตำข้าวโพดไข่เค็ม 701

อาหารญี่ปุ่น
- ซูชิเนื้อออสเตรเลียนวากิว 801
- ซูชิฮามาจิไข่ปลาแซลมอนซอสยูสุ 805
- ซูชิปลาไหลญี่ปุ่น 807
- มินิชิราชิ 816
- เต้าหู้เย็นฮอกไกโดโฮดาเตะ 817

ของหวาน 
- บริยอชฮันนี่โทสต์ไอศกรีมโยเกิร์ตเสาวรส 901
- บริยอชไข่เค็มโทสต์ 902






สำหรับใครอยากสแกนดูเมนูก็ตามคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้เลยค่ะ





 
แต่ก็อยากให้ดูก่อนนะคะว่า หากตอนเพิ่งเข้าเคาน์เตอร์ยังคิวยาว ก็แนะนำให้ไปสั่งอาหารอื่นๆ (ที่ต้องไปสั่ง+รับที่เคาน์เตอร์ Serving Station ที่ทำเมนูนั้นๆ โดยตรง) ก่อนค่ะ ซึ่งก็มีหลายเมนูด้วยกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยววากิว (คิวตอนเปิดร้านมักยาวมากค่ะ แต่ถ้าได้เข้าไปคนแรกๆ เลย จะให้เพื่อนไปที่โต๊ะ (เพราะเราตามไปทีหลังได้ และเรารู้เลขโต๊ะแล้ว) แล้วเราตรงดิ่งไปสั่งก๋วยเตี๋ยววากิวก่อนก็ได้ค่ะ) หอยนางรม ขนมหวานอื่นๆ ของย่าง ฯลฯ

 
สำหรับเมนูที่ต้องไปสั่ง+รับเคาน์เตอร์ที่เราเองแนะนำจะมีดังนี้นะคะ

หมวดของคาว
- ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว (แนะนำให้สั่งเกาเหลานะคะ)
- หอยนางรมสด
- หมึกดองซีอิ๊ว (เราเชียร์กว่ากุ้งนะคะ ซอสเข้าเนื้อกว่าค่ะ)







- ซุปเห็ดทรัฟเฟิล
- ซาชิมิ (แซลมอนและหอยโฮตาเตะคือดีย์ค่ะ) มีเมนูใหม่คือปูอัดเกาหลีด้วยนะคะ คือดี







หมวดของหวาน
- ชีสเค้กของเชฟมิชลิน Haikal Johari
- มาการอง
- ขนมโค
- ทาร์ตเล็ตคาราเมล Caramel Tarteltte
- ไอศกรีม (เราจะกินแบบรวมทุกรสทุกครั้งค่ะ วานิลาคือดีมากค่ะ)






 
สรุปโดยรวมสำหรับที่นี่ก็ยังคงเป็นบุฟเฟต์ร้าน Stand Alone ที่เราชอบที่สุดเลยค่ะ เมนูหลากหลาย คุณภาพระดับไฟน์ไดน์นิ่งแต่กินได้ไม่อั้นในแบบบุฟเฟต์และ All-you-can-eat การบริการที่ดี และมีเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้กลับไปกินซ้ำได้ตลอดและเสมอเลย สำคัญคือ จองให้ได้ค่ะ เพราะจองยากมากจริงจังสำหรับเสาร์อาทิตย์และวันหยุด

ล่าสุดที่แอบดีใจคือ เพจมีการถามว่า อยากให้คอปเปอร์เปิดเพิ่มที่แถวไหน ซึ่งเราลุ้นให้มาเปิดย่านบางนา ศรีนครินทร์ ฯลฯ แถบนี้มากๆ ค่ะ เพราะเราคิดว่า แถวนี้มีคนมีกำลังซื้อพอควร แล้วสำคัญคือ เราจะได้เดินทางใกล้ขึ้นด้วยค่ะ 555



ถ้าใครมีโอกาสก็อยากให้ลองไปทานกันนะคะ

 

 
Create Date :28 สิงหาคม 2566 Last Update :28 สิงหาคม 2566 0:35:29 น. Counter : 11007 Pageviews. Comments :0