bloggang.com mainmenu search




หลานหนี่งคนจำเป็นต้องมี
Car Seat เท่าไรกันเนี่ย







ลูกๆสมัยนี้ พยายามช่วยตัวเอง ไม่อยากให้ปู่ ย่า ตา ยาย ต้องมาช่วยเลี้ยงหลาน
ที่นี้ก็มีเนสเซอรี่ Pre school เปิด มากมาย มีคุณภาพ มีครูที่จบปริญญาทาง
จิตวิทยาของเด็ก และมีผู้ช่วยคุณครู ตามอายุเด็ก ถ้าเด็กเล็กๆ เริ่มรับเด็กตั้งแต่
เด็กอายุ  3 เดือน จะมีคุณครู และผู้ช่วยคุณครูดูแล เด็กสองคนต่อคนดูแลหนี่งคน
พอเด็กอายุมากขี้น คนดูแลก็เพิ่มเด็ก เป็น 4-3 ตามอายุ เด็ก ราคาค่าดูแลเด็ก
ต่างกัน เด็กราคาแพงกว่าเด็กโต 

เนสเซอรี่ Preschool ก็เหมือนไปโรงเรียน เขาดูแลเด็กและการเติบโตด้วยเด็กถึงเวลาคลาน ก็ช่วยดูแลให้เด็กคลาน เวลาเดิน ก็ช่วยให้เด็กเดิน เจริญไปตามวัย มีครูแต่ละสาขามาสอนด้วย ส่วนมากคุณพ่อ คุณแม่ก็พอใจกับการดูแลของเนิสเซอรี่ หรือ Pre school เตรียมเด็กก่อนวัยเข้าโรงเรียน 5 ขวบ จะเข้า Kindergarten
ต่อด้วย เกรด 1-12 จบแล้วก็เข้ามหาวิทยาลัย แต่ส่วนมากจะแบ่งเป็น
เกรด 1-6 เกรด 6-9 และเกรด 9-12 เด็กต้องย้ายโรงเรียน สองถึงสามครั้ง
ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย แต่ก็ย้ายไปตามๆกัน ที่นี่เด็กต้องเรียนโรงเรียนที่ใกล้บ้าน
นอกจากจะไปเรียนโรงเรียนพิเศษ ที่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน แต่รัฐก็ยังมีรถรับส่งให้ด้วย (หมายถึงเด็กโตๆ)


เนสเซอรี่ Preschool ส่วนมาก มีอาหารด้วย สะดวกสำหรับ
คุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องเตียมอาหารให้เด็กตอนเช้าๆด้วย เพราะคุณพ่อ คุณแม่
ต้องรีบไปทำงาน มีอาหารที่โรงเรียนสำหรับเด็ก ช่วยประหยัดเวลาขี้นมาก



จขบ.นับว่าโชคดีที่ลูก เขาส่งลูกไปเข้า เนสเซอรี่ Preschool, แต่ก็ยังคอยช่วย
เขาเวลาจำเป็นเช่น เวลาเด็กไม่สบาย ก็ต้องอยู่บ้าน หรือคุณพ่อคุณแม่กลับมา
รับไม่ทัน ก็ต้องไปรับหลานที่โรงเรียน แต่ก็นับว่าไม่ลำบากมาก ถ้าต้องเลี้ยงหลาน
เอง บอกตรงๆตอนนี้สว. วิ่งตามหลานไม่ไหว ยิ่งตอนสองขวบ ชอบวิ่ง ชอบขี้นลง
บันใด นานๆดูแลทีก็พอไหว ถ้าทุกวัน สว. อาจจะตกบันใดเองก็ได้ แถมอุ้มหลาน
ก็ไม่ค่อยไหวแล้วด้วย ที่ร้ายคือเวลาหลานไปวิ่งเล่น เราวิ่งตามไม่ทัน เขามีกระเป๋า
ใส่หลังเด็กมีสายให้เราดึง คุณหลานก็ดีงสุ้ ต้องมีคนล้มแหละ เราจะสู้หลาน
ก็กลัวหลานล้ม เราต้องล้มแทน เฮ้อ ..
เพื่อนบางคนก็บอกว่าให้หลานไปโรงเรียนแต่เล็กๆน่าสงสาร ที่จริง
เขาไปโรงเรียนสนุกกว่าอยู่กับเราแน่ๆ เพราะเขามีชั่วโมงสอนต่างๆ
บ่ายก็ให้นอน ถ้าอยู่กับเรา เราก็ได้แต่ดูให้เขาไม่เป็นอันตราย
ไม่ได้สอนอะไรมาก แถมตามดูไม่ค่อยจะทันอีกด้วย

บางส่วนของกิจกรรมของหลานที่โรงเรียน

















คุณครูที่โรงเรียนจะส่งรูปกิจกรรมของเด็กๆมาให้คุณพ่อคุณแม่ทุกวัน
เห็นเด็กๆสนุกกัน ไม่ร้องไห้ แสดงว่าเขาอยู่โรงเรียนมีความสุข ก็สบายใจ








ตอนนี้หลานอายุ 2 ขวบเริ่มรู้เรื่องบ้าง ขี้นรถเองแล้วนั่งให้เราใส่เข็มขัดรัด
บางวันคุณพ่อคุณแม่เขาต้องไปทำงานแต่เช้า ก็ไม่อยากรบกวนเราอีก
เลยต้องจ้างคุณครูมารับที่บ้านด้วย

ตอนเย็น คุณพ่อคุณแม่ อาจจะกลับไม่ทันก็โทรให้คุณย่า หรือคุณยายไปรับ
ที่โรงเรียนแล้วมาที่บ้าน โชคดี เขาอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 นาที่
ก็ดีเหมือนกัน ได้เจอหลานที่โรงเรียนบ้าง

ตกลงก็ต้องมีคาร์ซีส ของคุณพ่อ คุณแม่ คุณย่า คุณยาย และ คุณครู
ห้าอัน มากไปไหมเนี่ย เพราะลูกเขาอยากช่วยตัวเอง ไม่อยากรบกวน
ให้ย่า ยายมาดูแลหลานตลอดเวลา



วันนี้ไปรับหลานที่โรงเรียน เขาอยู่ในห้อง เด็กๆกลับกันเกือบหมดแล้ว
ส่วนมากเขามารับก่อนห้าโมงเย็น แต่อยู๋ได้ถึง 6.30 น. ที่จริงเขาก็กลับ
มารับทัน แต่คงไม่อยากให้หลานอยู่นานเกิน เพราะเด็กๆกลับกันเกือบหมด
เหลือหลานกับเพื่อนอีกคน เพื่อนชื่อLincoln คุณพ่อคุณแม่คงทำงานไกล
อยู่เป็นคนสุดท้ายเลย




เปิดห้องไป หลานเจอก็วิ่งมาหา รู้ว่าจะได้กลับบ้านแล้ว







เตรียมตัวไปขี้นรถ พอขี้นรถก็ปีนประจำที่ ให้ใส่ที่รัดเข็มขัดอย่างดี

สว.ไม่ได้เลี้ยงเด็กๆนาน ก็ลืมว่าจะทำไงดี สองครั้งสุดท้าย นึกได้ว่าเด็ก
คงหิว เตรียมของมาให้ทานดีกว่า มีนำ้ผลไม้ และผลไม้ เช่นแอปเปิล
สตอเบอรี่ ดีเหมือนกัน คุณหลานนั่งแล้วได้ดื่มน้ำผลไม้ ที่จริงคุณพ่อคุณแม่
เขาไม่ให้น้ำผลไม้บ่อย ให้ดื่มแต่น้ำ คุณย่า(แอบเอาน้ำผลไม้ แต่ผสมน้ำเยอะ
หน่อย พอมีรสหวานหน่อย แช่เย็นด้วย ชืนใจดี) และผลไม้ ที่จริงบ้าน
อยุ่ห่างจากโรงเรียน ขับรถประมาณ 5 นาที พอคุณหลานเข้าบ้านก็เล่นนิดหน่อย
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังมาไม่ถึงก็ให้ทานอาหารเย็น คุณหลานชอบ
หมูสับผัดขิง ไก่ผัดกะเพา หมูย่าง แต่ไม่ค่อยชอบผักเลย
แต่ไปโรงเรียน เขามีอาหารครบ เพื่อนๆเขาทานกัน
หลานก็ทานบ้าง อีกหน่อยคงทานผักได้เยอะขี้น เรื่องผลไม้
ไม่เกี่ยง ชอบผลไม้มาก

********

 5 ความเชื่อผิดๆ กับที่นั่งเด็ก Car Seat ในรถยนต์ ที่คุณต้องคิดใหม่
carseat01_head 5 สิ่งพ่อแม่ควรรู้เกี่ยว คาร์ซีท (Car Seat)

คาร์ซีท (Car Seat) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กในยุคปัจจุบัน เพื่อปกป้องลูกน้อยตลอดการเดินทางหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น และช่วยลดระดับความรุนแรงจากอุบัติเหตุ และลดการบาดเจ็บของร่างกายของลูกน้อยได้ เมื่อติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกวิธี แต่เชื่อว่าหลายคนอาจยังมีความเข้าใจผิดในการใช้งาน คาร์ซีท อยู่ไม่น้อย วันนี้เลยจะมาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันนะจะ

คาร์ซีท

1 หัน Car Seat ออกไปข้างหน้า
เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

ตามปกติพ่อแม่มักจะติดตั้งคาร์ซีทหันไปด้านหน้ารถ หรือ Forward Facing เหมือนปกติที่ทุกคนในรถจะนั่งกัน แต่หากเกิดอุบัติเหตุ แรงปะทะจะทำให้สายรัดของคาร์ซีทรัดที่คอเด็กได้ อีกทั้งส่งผลไปยังกระดูกต้นคอ และเส้นประสาทไขสันหลังอีกด้วย เนื่องจากกระดูกคอและหลังของเด็กยังไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับกับแรงกระชากหรือแรงปะทะ ดังนั้น วิธีนั่งที่ถูกวิธี ก็คือการตั้งคาร์ซีทหันไปทางเบาะหลังของยานพาหนะ หรือ (Rear-Facing) เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นแรงกระแทกจากศีรษะ ต้นคอ กระดูกสันหลัง รวมไปถึงอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย และควรให้เด็กนั่งในวิธีนี้จนถึงอายุ 2 ขวบ

2 คาดสายรัดหลวมหรือพลิกกลับด้าน
เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

การคาดสายรัดคาร์ซีทที่หลวมจนเกินไป หรือปล่อยให้สายพลิกกลับด้าน อาจจะทำให้ตัวเด็กหลุดออกจากเบาะที่นั่งได้ วิธีคาดสายรัดที่ถูกวิธี ควรจัดสายรัดให้เรียบไปกับตัวเด็กอย่าให้สายผลิกกลับด้าน และปรับสายให้กระชับกับตัวเด็ก ถ้ายังหยิบสายรัดขึ้นด้วยนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เป็นจีบขึ้นมาได้ แสดงว่าสายรัดยังหลวมเกินไป

3 คลิปล็อคสายอยู่ในตำแหน่งต่ำ
เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

ไม่ควรให้ตัวล็อคหรือคลิปของสายรัด อยู่ต่ำจนเกินไปหรือผิดตำแหน่งที่คู่มือได้แจ้งไว้ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้ตัวเด็กหลุดออกจากเบาะที่นั่ง รวมไปถึงอาจได้รับบาดเจ็บในส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วยวิธีติดคลิปหรือตัวล็อคที่ถูกวิธี ควรติดตั้งคลิปหรือตัวล็อคให้อยู่สูงระดับเดียวกับรักแร้ของเด็ก หรืออยู่ตรงกลางหน้าอกของเด็ก เพราะเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องที่สุด

4 สวมชุดคลุมเด็กหนาเกินไป
เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

ไม่ควรใส่เสื้อผ้าหรือมีอะไรปกคลุมหนามากจนเกินไป เพราะจะทำให้สายรัด และตัวล็อคคาร์ซีทไม่ได้ป้องกันร่างกายของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูกต้อง ควรเลือกเสื้อผ้าที่พอดีกับตัว สวมใส่สบาย เพื่อให้สายรัดและตัวล็อคได้รัดกระชับกับตัวเด็กที่สุด

5 ใช้ Car Seat หมดอายุการใช้งาน
เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

เครดิตภาพจาก assets.babycenter.com

โดยทั่วไปแล้วคาร์ซีทจะมีอายุ 6 ปีนับจากวันที่ผลิต และจะทำให้อุปกรณ์เริ่มเสื่อมสภาพ ไม่สามารถรับแรงกระแทกได้ดี เท่ากับคาร์ซีทใหม่ๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ควรจะเช็คดูวันที่ผลิตของคาร์ซีท และซื้อคาร์ซีทอันใหม่ให้กับลูกน้อยเพื่อความปลอดภัยค่ะ

ดังนั้น คาร์ซีทจึงมีความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กเป็นอย่างมาก และยังมีหลายแบบหลายยี่ห้อ ที่เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก การวางคาร์ซีทในตำแหน่งที่เหมาะสมกับที่นั่งในรถ ควรศึกษาจากคู่มือการใช้งานของรุ่นนั้นๆให้ละเอียด เพื่อจะได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปกป้องลูกน้อยของคุณให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน

ที่มา : assets.babycenter.com , theasianparent.com




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากอินเตอร์เนต


Klaibann Blog


newyorknurse

  • Comment
    * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
  • สวัสดีคะคุณน้อย
    เป็นการบอกเล่าได้ดีมากๆค่ะ
    มีประโยชน์มากเลยคุณพ่อ-แม่สมัยใหม่จะใช้อุปกรณ์
    ช่วยในการดูแลเด็กๆยุค 4.0 กันเยอะมากๆ
    สมัยเรามีแค่เก้าอี้หัดเดิน กับรถเข็น /baby carriage
    รักษาสุขภาพนะคร้า ขอบคุณคะ
    โดย: Tui Laksi 8 กันยายน 2561 8:36:41 น.
  • คาร์ซีท สำคัญกับเด็กเล็กสมัยนี้พอสมควรเลยนะคะ
    ที่เมืองไทยก็นิยมใช้กัน
    วันนี้ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเลยค่ะ ดีมากๆเลย


    โดย: mambymam 8 กันยายน 2561 9:13:49 น.
  • หลานก็ใช้ทุกครั้งค่ะ ปลอดภัยดี และเขาก็ชินด้วยนะคะ
    โดย: tuk-tuk@korat 8 กันยายน 2561 9:29:42 น.
  • สวัสดีมีสุขค่ะ

    ตอนลูกเล็กๆไม่เคยใช้เลยค่ะ
    เพราะส่วนใหญ่จะอุ้มเองและรัดเข็มขัดเอา
    อาจเป็นเพราะสมัยก่อนโน้น ไม่มีขายค่ะ
    ถ้ามีขายก็คงต้องซื้อใช้เพื่อความปลอดภัยของลูก
    โดย: ตะลีกีปัส 8 กันยายน 2561 15:11:58 น.
  • ชอบๆๆค่ะ
    อยากใก้บ้านเราแก้ กม
    ให้บังคับเด็กๆต้องนั่ง Car Seat.
    Voteค่ะ
    วันนี้อ้อยังดองบล็อคเดิมอยู่
    พรุ่งนี้อ้อถึงจะup blog ตะพาบ 212
    โดย: เริงฤดีนะ 8 กันยายน 2561 21:58:18 น.
  • หลานชายพี่น้อยตาโตแป๋ว น่ารักจังค่ะ
    กิจกรรมในเนสเซอรี่ เด็กๆน่าจะถูกใจและมีความสุขนะคะ
    คาร์ซีทสำหรับหลานห้าอันจำเป็นทุกอัน ดูลงตัวมากค่ะพี่น้อย


    โดย: Sweet_pills 8 กันยายน 2561 23:48:14 น.
  • หนุ่มน้อยคนนี้หล่อมากเลยค่ะพี่น้อย
    โดย: วลีลักษณา 9 กันยายน 2561 5:39:11 น.
  • ขอบคุณที่แวะชมพืชสวนครัวค่ะ


    โดย: mambymam 9 กันยายน 2561 9:27:17 น.
  • ที่นั่นเขามีความพร้อมเรื่องคนดูแลมากๆเลยนะครับ
    การเดินทางไปโรงเรียนก็ไม่ไกลมากนัก
    การมีผู้ใหญ่ช่วยดูแล หรือไปรับกลับบ้าน
    ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆของคนเป็นพ่อแม่ของเด็ก

    โดย: Insignia_Museum 9 กันยายน 2561 14:07:56 น.
  • สวัสดีจ้า..
    โดย: ก้นกะลา 9 กันยายน 2561 16:49:42 น.
  • เดี๋ยวนี้คนให้ความสำคัญกันคาร์ซีทกันเยอะมาก พึ่งทราบว่าจริงๆ ควรหันไปอีกทาง ปกติที่เห็นมักจะเห็นหันไปทางเดียวกันกับคนขับ

    ถ้าเลิกแล้วเพื่อนๆ กลับกันหมด บางทีเด็กจะรู้สึกใจเสียนะครับ ประมาณว่าเมื่อไหร่จะพ่อแม่จะมารับ ถ้ามีเพื่อนอยู่ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเพื่อนๆ กลับกันหมดแล้วนี่คงนั่งหน้าหงิกแน่ๆ
    โดย: คุณต่อ (toor36 ) 9 กันยายน 2561 17:26:09 น.
  • ดีจังได้รู้เรื่องการใช้คาร์ซีท
    สมัยเราแค่รถเข็นก็หรูแล้ว อิอิ
    โดย: ซองขาวเบอร์ 9 9 กันยายน 2561 18:31:09 น.
  • เข้ามาอ่านเรื่องเนิสเซอรี่ของเมกาครับ ดูแล้วน่าหนุกหนาน ^^ เน้นการเรียนรู้และทดลองลงมือทำ
    น้องผมมีลูก คาร์ซีทแรกๆก็ยากนะครับกว่าเด็กจะยอมนั่ง แต่ก็จำเป็นต้องมีจริงๆ พอใช้ไปเรือ่ยๆชักชินละ เวลาถึงที่ก็หิ้วลงมาประกอบกับรถเข็นได้เลย ^^
    โดย: ชีริว 9 กันยายน 2561 20:08:14 น.
  • คาร์ซีทมีประโยชน์มากจริงๆค่ะ มีหลายคนไปรับเลยต้องมีหลายคาร์ซีทอิอิ
    โดย: เรียวรุ้ง 11 กันยายน 2561 15:08:30 น.