bloggang.com mainmenu search





 ต้นมะเดื่อ (FIGS) บ้านเพื่อนมีหลายพันธ์  
 มีผลดกมาก 
ปลูกที่กรุงเทพ เมืองไทยค่ะ




วันนี้มีโอกาสมาบ้านเพื่อน คุณพินิจ  บ้านร่มเย็นไปด้วยต้นไม้
และมีต้นมะเดื่อ มากมาย เกิน 50 ต้น ชื่อต่างๆ คุณพินิจปลูกได้งาม
มีผลให้รับประทานมากมาย บางที่ต้องแช่แข็งไว้อีกด้วย

คุณพินิจปลูกต้นมะเดื่อได้ผลเยอะ แถมยังตอนต้นได้ด้วย
นับว่าเป็นคนทีปลูกมะเดื่อที่เชียวชาญคนหนี่งเลยทีเดียว


ชมต้นมะเดื่อกันค่ะ  
บล็อกนี้ยาวหน่อยนะคะ 
เก็บไว้เป็นความทรงจำและประโยชน์แด่ผู้จะปลูกมะเดื่อค่ะ







แม้แต่ห่อลูกมะเดื่อก็ยังมีวิธีที่ห่อที่กระรอกแย่งไม่ได้ และไม่ร้อนด้วย 
ใช้ถุงพาสติกมาตัดแล้ว
ใช้ไม้หนีบผ้ามาหนีบไว้ 











คุณพินิจ เล่าถึงการปลูกต้นมะเดื่อ
ตอนแรกที่ยังไม่มีลูก ต้นสมบูรณ์ บำรุงด้วยปุ๋ยยูเรีย รดที่โคน
พอมีใบสมบูรณ์ ใส่ปุ๋ยเร่งดอก   12 - 24 - 12 
พอมีลูกเต็มต้น เริ่มใส่ปุ๋ย   8  -24 - 24  ลูกจะหวาน 
ใส่ปุ่ยตามที่แนะนำ หรือใช้ปุ๋ย EM บ้างก็ได้





















การชำกิ่ง โดยใช้ Peat Moss  ผสมน้ำยาเร่งราก มาอัดใส่แก้ว กาแฟเก่าให้แน่น 
ฝั่นเปลือกออกจากกิ่งหนี่งเซ็นต์ ฝั่นใต้ข้อลงมาสักห้ามิล 
รดน้ำไม่บ่อย ใช้ขวดสเปรย์ด้วยน้ำผสมยาเร่งรากฉีดนิดๆ 
หนี่เดื่อนจะเห็นรากขาว รอให้รากเหลืองจึงตัดมาลงดินใบก้ามปู
รดน้ำยาเร่งรากผสมตามสูตร  ใบเยอะตัดทิ้งบ้าง บางที่ใบร่วง
ใหม่ๆ ครอบต้นไว้ ไว้ในที่ร่ม ป้องกันคลายน้ำ จนเริ่มแตกใบ ไว้ที่รำไร 
เริ่มมี  2-3  ใบ ค่อยออกแดด อบไว้หนี่งอาทิตย์ 
ใบร่วงก็ร่วงไป เดี๋ยวใบใหม่ก็จะงอกเอง
ฟังคุณพินิจเล่าแล้ว งานเยอะที่ดีเที่ยวต้องเป็นคนที่ใจเย็น
รักการทำสวน จึงจะทำได้ 




ใช้ไม้พันยางสติก ทำเป็นฐานวางแก้วที่ชำกิ่ง
















ต้นที่ชำแล้ว รอเอาลงกระถางได้แล้ว มีหลายต้น แจกให้เอากลับบ้านด้วย
ขวดครอบปลายไม้ กันเวลาก้มๆเงยๆจะทิ่มลูกตา เพื่อความปลอดภัย























สายพันธุ์มะเดื่อที่ปลูกนะคะ
1.white geneour พันธุ์แม่ลูกดก ผิวเขียว ลูกใหญ่
นน.70-80 กรัม หวานเจี๊ยบ

 2.Conadria ผิวเขียว ลูกใหญ่ เล็กกว่า white geneour นิดนึงหวาน




3.Iraqy พันธุ์ลูกเล็ก นน. 30-40 กรัม
 สุกแล้วผิวดำเข้ม รสหวาน








4. Napolinata พันธุ์ลูกเล็ก ยาว สีแดงเข้ม 

รสหวานเหนียวหนึบ อร่อย












3 ภาพบน พันธุ์ Napolinata ลูกเล็ก หวานหนึบ อร่อยมาก



5 .Calimera ผิวสีส้ม หวานฉ่ำ








Btm 6 ลูกใหญ่ พันธุ์ญี่ปุ่นเหมาะสำหรับปลูกทานลูก หวาน






7. Panasche พันธุ์ลูกลายถ้าสุกงอมรสหวาน
ถ้ายังไม่สุกดี รสอมเปรี้ยว




8. Long de' aout ลูกดก หวาน






นอกจากนี้ มีพันธุ์ Arub, black genoeur, etc.








มะเดื่อสุกหลายชนิด บางที่ทานไม่หมด ก็แช่แข็งไว้ด้วย
ขอขอบคุณ คุณพินิจสำหรับต้นมะเดือที่ให้กลับมาปลูกที่บ้าน
ได้ความรู้ในการดูแลและชำต้นมะเดื่อด้วยค่ะ 


มะเดื่อ สรรพคุณและประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง 26 ข้อ ! (Fig)

By MedThai | POSTED: 26 กรกฎาคม 2013, UPDATED: 9 พฤศจิกายน 2016
มะเดื่อฝรั่ง



1 มะเดื่อ
2 ลักษณะของมะเดื่อ
3 ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง
4 คุณค่าทางโภชนาการของมะเดื่อฝรั่งแห้ง ต่อ 100 กรัม





มะเดื่อ
มะเดื่อ ชื่อสามัญ Fig, Common Fig

มะเดื่อ ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus carica L. จัดอยู่ในวงศ์ขนุน (MORACEAE)

สมุนไพรมะเดื่อ ชนิดนี้มีชื่อเรียกอื่นว่า มะเดื่อฝรั่ง, มะเดื่อญี่ปุ่น (ลูกฟิก)

หมายเหตุ : มะเดื่อที่พูดถึงในบทความนี้จะเป็นคนละชนิดกับมะเดื่อไทย (มะเดื่ออุทุมพร, มะเดื่อชุมพร) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus racemosa L.

ลักษณะของมะเดื่อ
ต้นมะเดื่อ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง พบมากในประเทศตุรกีและกรีก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม นอกจากนี้มะเดื่อยังจัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอียิปต์ อิตาลี และกรีซอีกด้วย



ผลมะเดื่อ



มะเดื่อฝรั่งรูปมะเดื่อแห้ง

สำหรับประเทศไทยได้มีการนำเข้ามะเดื่อแห้งจากต่างประเทศ และได้มีการทดลองปลูกครั้งแรกที่ดอยอ่างขางเมื่อ พ.ศ.2524 โดยมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น นอกจากนี้มะเดื่อยังเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วย
ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง
ช่วยบำรุงร่างกายและต่อต้านอนุมูลอิสระ
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคตับ จึงรับประทานได้
ช่วยคงความอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
ช่วยทำให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติและช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากมีธาตุเหล็กและโฟเลตสูง
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
มะเดื่อมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลของกรดด่างในร่างกาย
มะเดื่อฝรั่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
สรรพคุณของมะเดื่อช่วยสมานแผลในช่องปาก
มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
สรรพคุณมะเดื่อใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก
ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยป้องกันนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ช่วยฟอกตับและม้าม
ช่วยบรรเทาอาการของโรคกามโรค
เชื่อว่าลูกมะเดื่อสามารถช่วยเสริมสร้างพลังทางเพศ
ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในหญิงวัยทอง
ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร
ประโยชน์มะเดื่อ เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้
ประโยชน์ของมะเดื่อ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟ เป็นต้น


คุณค่าทางโภชนาการของมะเดื่อฝรั่งแห้ง ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 249 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 63.87 กรัมมะเดื่อ
น้ำตาล 47.92 กรัม
เส้นใย 9.8 กรัม
ไขมัน 0.93 กรัม
โปรตีน 3.3 กรัม
วิตามินบี 1 0.085 มิลลิกรัม 7%
วิตามินบี 2 0.082 มิลลิกรัม 7%
วิตามินบี 3 0.619 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 5 0.434 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี 6 0.106 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 9 9 ไมโครกรัม 2%
โคลีน 15.8 มิลลิกรัม 3%
วิตามินซี 1.2 มิลลิกรัม 1%
วิตามินเค 15.6 ไมโครกรัม 15%
ธาตุแคลเซียม 162 มิลลิกรัม 16%
ธาตุเหล็ก 2.03 มิลลิกรัม 16%
ธาตุแมกนีเซียม 68 มิลลิกรัม 19%
ธาตุแมงกานีส 0.51 มิลลิกรัม 24%
ธาตุฟอสฟอรัส 67 มิลลิกรัม 10%
ธาตุโพแทสเซียม 680 มิลลิกรัม 14%
ธาตุโซเดียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุสังกะสี 0.55 มิลลิกรัม 6%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

คำแนะนำ : การรับประทานมะเดื่อฝรั่งแห้งอาจทำให้ฟันผุได้ เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลสูง และการรับประทานมะเดื่อในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องร่วงได้เช่นกัน

แหล่งอ้างอิง : หนังสือผลไม้ 111 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน (ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์, นิดดา หงษ์วิวัฒน์), เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, //www.organicfacts.net

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai)


ขอขอบคุณยูทูปจากอินเตอร์เนต


GIOVANNI MARRADI - El Condor Pasa
Music For Your Soul



newyorknurse


Create Date :22 พฤษภาคม 2560 Last Update :2 มิถุนายน 2560 18:36:06 น. Counter : 6347 Pageviews. Comments :30