โรคลูปัส Systemic Lupus Erythrematosus (SLE)
โรคลูปัส คืออะไร

คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโดย

ร่างกายสร้างภูมิต้านทานชนิดผิดปกติขึ้นต่อต้านทำลายเนื้อเยื่อของตนเอง

หรือกาทำลายเนื้อเยื่อต่างๆอาจเกิดจากส่วนประกอบของระบบภูมิคุ้มกันที่

เรียกว่า “อิมมูนคอมเพล็ก” ไปสะสมในเนื้อเยื่อเหล่านี้และกระตุ้นให้เกิดการ

อักเสบขึ้น (ในคนปกติระบบภูมิคุ้มกันมีไว้เพื่อต่อต้านทำลายสิ่งแปลกปลอม

ที่มาจากภายนอกร่างกาเช่น เชื้อโรคต่างๆแต่จะไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อในร่างกาย

ของตนเองเพราะมีกลไกตามธรรมชาติที่จดจำร่างกายของตัวเองได้)

สาเหตุเกิดจากอะไร

มีการศึกษาอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางในต่างประเทศและมีหลักฐานพอสรุป

ได้ว่า โรคลูปัสมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทั้งกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม

ปัจจัยทางพันธุกรรมนั้นพบว่ามียีนส์ (Genes) หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการ

เกิดโรคและกลไกที่ยีนส์เหล่านี้ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันก็มีควาซับซ้อนมาก

เชื่อว่าไม่มียีนส์ตัวหนึ่งตัวใดที่จะอธิบายการเกิดโรคได้ทั้งหมดแต่เป็นผลที่

เกิดจากยีนส์หลาย ๆ ชนิดร่วมกัน(รวมทั้งยีนส์บางชนิดก็อาจมีคุณสมบัติใน

การป้องกันโรคได้)นอกจากนี้ใแต่ละเชื้อชาติยีนส์ที่ก่อโรคก็อาจจะต่างกัน

ไปหรือเหมือนกันก็ได้ส่วนปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลให้อาการของโรค

ปรากฏขึ้นหรือกำเริบขึ้นได้แก่รังสีอุลตร้าไวโอเลท B ในแสงแดด ,ฮอร์โมน

เพศ (พบโรคนี้ในผู้หญิงต่อผู้ชาย 9 : 1 ) ,อาหารบางชนิด เช่น Alfalfa ซึ่งมี

สาร L-Canavanine ,ทานอาหารที่ไขมันอิ่มตัวมาก) ,เชื้อโรคต่างๆทั้ง

แบคทีเรียและไวรัส ,สารเคมีและยาบางชนิด(เช่น Hydralagine

,Procainamide ,INH ,Hydantoins..)

พบโรคนี้บ่อยแค่ไหน

โรคลูปัสเป็นโรคที่ศึกษาอุบัติการณ์ (จำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อปี) ให้ถูก

ต้องใกล้เคียงได้ยาก รายงานในต่างประเทศ เช่น สวีเดน , สหรัฐอเมริกา

อุบัติการณ์อยู่ระหว่าง 3.5-5.4-9.2 ต่อแสนต่อปีในผู้หญิงความชุกของโรค

(จำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด) โดยเฉลี่ย 100 ต่อประชากรแสนคนในผู้หญิง

หรือกล่าวได้ว่าพบ 1 ใน1000 คน จัดเป็นโรคที่ไม่พบบ่อย(Uncommon)

ประมาณว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยหญิงประมาณ 3 ล้านคนและผู้ป่วยชายประมาณ 3

แสนคน ในประเทศไทยเรา ก็พบผู้ป่วยโรคลูปัสเป็นจำนวนมากที่เข้ารับการ

รักษาในโรงพยาบาลต่างๆทั้งของรัฐบาลและเอกชน จัดได้ว่าพบโรคนี้อยู่

เสมอและผู้เขียนเชื่อว่าความชุกของโรคคงไม่น้อยกว่าในต่างประเทศ

อาการของโรคเป็นอย่างไร

โรคลูปัสเป็นโรคที่มีอาการเกี่ยวข้องกับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้

แทบทุกระบบ ในระยะแรกอาจมีอาการเพียงอย่างเดียวหรือระบบเดียว แล้วมี

อาการเพิ่มเติมของอวัยวะอื่น ๆ ตามมาภายหลัง(หรือบางคนก็มีอาการหลาย

อย่างพร้อม ๆ กันตั้งแต่แรก) ความรุนแรงของอาการมีตั้งแต่เป็นน้อย , เป็นๆ

หาย ๆ หรือเป็นต่อเนื่องจนถึงขั้นรุนแรงเสียชีวิตได้ ธรรมชาติของโรคจะมี

ระยะที่อาการต่างๆ กำเริบก่อให้เกิดความไม่สบายต่างๆ นานๆ และระยะที่

โรคสงบลงจนผู้ป่วยบางคนรู้สึกเป็นปกติดีทุกประการ อาการต่างๆ แบ่งตาม

ระบบอวัยวะได้ดังนี้

อาการทั่วไป : มีไข้, อ่อนเพลีย,เบื่ออาหาร, น้ำหนักลด

ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ได้แก่ ปวดข้อ ,ปวดกล้ามเนื้อ, ไขข้ออักเสบ

(ข้อบวม – นิ้วบวม มักเป็นที่นิ้วมือ,ข้อมือ, หัวเข่า), เส้นเอ็นอักเสบ, กล้ามเนื้ออักเสบและอ่อนแรง

ระบบผิวหนัง ผื่นที่แก้มเป็นรูปคล้ายผีเสื้อ, ผื่นแพ้แสงแดด, ผมร่วง(ทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวร) , ผื่นอื่น ๆ หลายชนิด และการอักเสบในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง, ผื่นจากเส้นเลือดฝอยอักเสบ, แผลในช่องปากและจมูก

ระบบไต ได้แก่ อาการบวมทั้งตัว, ไตวายทั้งแบบเฉียบพลัน(เนื่องจากไตอักเสบรุนแรง) และแบบเรื้อรัง, บางรายอาจพบความผิดปกติจากการตรวจปัสสาวะและตรวจเลือดโดยไม่มีอาการภายนอก

ระบบประสาท ได้แก่ อาการชัก, อาการทางจิต, ปวดศีรษะ,เส้นเลือดสมองอุดตัน,การควบคุมการเคลื่อนไหวผิดปกติ,การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ, เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง,เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, ไขสันหลังอักเสบ, เส้นประสาทต่าง ๆอักเสบ

ระบบเส้นเลือด การอุดตันของเส้นเลือดทั้งขนาดใหญ่และเล็ก,การอักเสบของเส้นเลือด, ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด

ระบบเม็ดเลือด ได้แก่ โลหิตจาง, เม็ดเลือดขาวต่ำ, เกล็ดเลือดต่ำ

ระบบหัวใจและปอด ได้แก่ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (อาจทำให้เต้นผิดปกติ,หรือหัวใจล้มเหลว เสียชีวิตได้), ลิ้นหัวใจอักเสบ,เส้นเลือดหัวใจอุดตัน, เยื้อหุ้มปอดอักเสบ, ปอดอักเสบทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง,ความดันเส้นเลือดในปอดสูง, เลือดออกในเนื้อปอด , การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ แน่นท้อง, คลื่นไส้, ท้องเสีย, เยื่อบุช่องท้องอักเสบ, เส้นเลือดของลำไส้อักเสบ, ตับอ่อนอักเสบ,ต่อมน้ำลายอักเสบ, ตับอักเสบ

ระบบตา ได้แก่ เส้นเลือดที่จอรับภาพอักเสบ, เส้นประสาทตาอักเสบ, เยื่อบุตาอักเสบ, ต่อมน้ำตาอักเสบทำให้ตาแห้ง

อาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาในแต่ละระบบนั้น ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคลูปัสทุกคนจะต้องมีครบทุกอย่าง ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการเพียงบางอย่างเท่านั้น ส่วนความรุนแรงก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน จึงควรอ่านพอให้เข้าใจขอบเขตของโรค แต่ไม่ควรคิดวิตกกังวลจนเกินไป

วินิจฉัยอย่างไร หลักเกณฑ์ที่ยอมรับในการวินิจฉัยโรคลูปัส เรียบ

เรียงโดยสมาคมรูมาติสซั่มของสหรัฐอเมริกา(1982 Criteria) ประกอบด้วย

1. ผื่นรูปผีเสื้อ( Malar rash)

2. ผื่นแบบ Discoid

3. อาการแพ้แดด

4. แผลในช่องปาก

5. ไขข้ออักเสบ

6. เยื่อหุ้มปอดหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

7. ไตอักเสบ (พบโปรตีนและเซลล์ในปัสสาวะ)

8. อาการทางสมอง เช่น ชัก หรือ โรคจิต โดยไม่พบเหตุอื่น ๆ

9. โลหิตจาง , เม็ดเลือดขาวต่ำ , หรือเกล็ดเลือดต่ำ โดยไม่พบเหตุ จากยาต่าง ๆ

10. ตรวจเลือดพบ LE cell , anti­-ds DNA , anti-sm หรือ false- positive VDRL

11. ตรวจเลือดพบ ANA โดยไม่ได้เกิดจากยาต่าง ๆถ้าผู้ป่วยมีอาการครบ
4 ข้อ ใน 11 ข้อ จะสามารถวินิจฉัยโรคลูปัสได้โดยมีความถูกต้องถึง 98%
และความไว 97% อย่างไรก็ตามกฏเกณฑ์เหล่านี้คงจะมีการเปลี่ยนแปลง
แก้ไขต่อไปตามกาลเวลาและการค้นพบใหม่ ๆ

รักษาอย่างไร

โรคลูปัสในปัจจุบันนี้เป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

วัตถุประสงค์ของการรักษาคือ ลดการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ ให้กลับสู่

ภาวะใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด ซึ่งส่งผลให้อาการเจ็บปวดทรมานต่าง ๆ ลด

ลง ทำให้อวัยวะเหล่านั้นไม่ถูกทำลายและสามารถใช้งานต่อไปได้ยาวนาน

ที่สุด จึงทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมทุกอย่างดีขึ้น ในขณะเดียวกันการให้ยา

ที่ถูกต้องอาจช่วยควบคุมให้โรคสงบลงไม่กำเริบบ่อย ๆ โดยมีหลักในการให้

ยาน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นในการคุมโรค เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงของยาน้อย

ที่สุด การรักษาจะเริ่มจากการวินิจฉัยที่ถูกต้องว่าอวัยวะใดที่อักเสบบ้างและ

มีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด ผู้ป่วยประมาณ25% จะมีโรคที่ไม่รุนแรงและ

ไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงที่มีผลข้างเ

คียงมากยาที่อาจใช้ได้ได้แก่ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเอรอด์,ยต้านมาเลเรีย

(ใช้รักษาอาการทางผิวหนังและข้ออักเสบ),ยาฉีดเฉพาะที่,ยาทา,Retinoids

และ Dapsone ส่วนผู้ป่วยในกลุ่มที่มีการอักเสบของอวัยวะที่สำคัญ และมี

การอักเสบรุนแรงชนิดที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น ไต,สมอง และ

ไขสันหลัง, เส้นประสาท, เส้นเลือดในตำแหน่งสำคัญ, หัวใจ, ปอด,

ลำไส้,ระบบเลือด, การอักเสบเหล่านี้แพทย์ผู้รักษาจำเป็นต้องให้ยาในกลุ่ม

คอร์ติโคสเตอรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ควบคุมการอักเสบได้เร็วและชะงัก (ผลดีของ

ยามากกว่าผลเสีย ในกรณีเหล่านี้) เมื่อโรคดีขึ้นแล้วจึงลดขนาดยาลงใน

ระยะเวลาที่เหมาะสม อย่างช้า ๆ เพื่อมิให้กำเริบ และอาจต้องพิจารณาให้ยา

ลดภูมิต้านทานเพื่อควบคุมโรคให้สงบต่อเนื่องในผู้ป่วยบางราย ในระยะยาว

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ความรุนแรงของโรคลดลงแล้วสงบลงแล้ว อาจยังต้องรับ

ประทานยาที่ควบคุมโรคในขนาดต่ำ ๆ เพื่อป้องกันมิให้โรคกำเริบและเฝ้า

ติดตามอาการเป็นระยะ ตลอดจนการดูแลผลข้างเคียงของยาให้เกิดน้อย

ที่สุด ยาอื่นๆ ที่มีส่วนเสริมให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ได้แก่ ยาควบคุม

ความดัน, ยาคุมน้ำตาล, วัคซีนป้องกันการติดเชื้อต่างๆ , วิตามินดี,

แคลเซียม, ยาเสริมกระดูกต่าง ๆ ป้องกันกระดูกบางและผุ ,ยาป้องกันการ

แข็งตัวของเลือดในผู้ป่วยที่มีปัญหาหลอดเลือดอุดตัน

วิธีการรักษาใหม่ ๆ หลายชนิด ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาค้นคว้า

เช่น ยาลดภูมิต้านทานชนิดใหม่ๆ , การถ่ายเลือด, intravenous gamma

globulin, การฉายแสงที่ต่อมน้ำเหลือง, antibody ต่อT lymphoeyte เป็นต้น



การพยากรณ์ของโรคเป็นอย่างไร

โรคลูปัสมีอัตราการรอดชีวิต 70% ในระยะเวลา 10 ปี ขึ้นกับอวัยวะที่มีความผิดปกติ สาเหตุของการเสียชีวิตได้แก่ ภาวะไตวาย และการติดเชื้อ








Create Date : 22 ธันวาคม 2553
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 10:40:55 น.
Counter : 1605 Pageviews.

1 comments
  
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:16:04:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ramtalk.BlogGang.com

หนึ่งเสียงในกทม.
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]

บทความทั้งหมด