มรณสักขี : เรื่องสั้นเยียบเย็น จากอนุสรณ์ ติปยานนท์


.
.
.
.
ผลงานเล่มล่า จากปลายปากกาของ อนุสรณ์ ติปยานนท์ ที่ใครๆเรียกเค้าว่า มูราคามิ เมืองไทย "มรณสักขี" โดยสำนักพิมพ์เคหวัตถุ
.
ผม ได้เล่มนี้มาด้วยความบังเอิญ(อีกแล้ว) แต่จากสถานที่ที่ไม่บังเอิญ เพราะเป็นร้านประจำที่ถ้ามีโอกาสก็มักจะแวะไปบ่อยๆ คิโนะฯพารากอน มีโอกาสได้ผ่านไปที่นั่น จึงเข้าไปสำรวจร้านสักหน่อย ทั้งๆที่หนังสือรออ่านยังมีอยู่อีกเพียบ จนถูกคนข้างตัวสะกิดเตือน หลังจากสำรวจชั้นวางหนังสือใหม่ ไม่มีเล่มไหนน่าสนใจเป็นพิเศษ จึงเดินไปที่ชั้นหนังสือด้านใน ได้พบกับหนังสือของคุณอนุสรณ์ ซึ่งทั้งหมด ผม เป็นเจ้าของหมดแล้ว แต่ระหว่างที่เปิดผ่านๆนั้น ก็มีเจ้าเล่มบางเล่มนี้ เอนตัวเข้ามาหามือของผม หน้าตาไม่คุ้น เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พลิกดูหลังปก พิมพ์1 ธันวา'52 เดาเอาว่าน่าจะเป็นเล่มใหม่ แต่ก็แอบแปลกใจที่ "เพลงรักนิวตริโน" ยังไม่ปรากฎตัวสักที
.
เจ้าเล่มบางนี้ บางประมาณ43หน้ารวมคำตาม (คำตามจริงๆครับ เพราะไม่มีคำนำ เหมือนใน "นิมิตวิกาล") แต่เรื่องราวในเล่มไม่ได้เบาบางตามขนาด เนื้อหาเข้มได้น้ำหนัก อิงเรื่องจริงของ "มรณสักขี" ในศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับนักบุญของชาวคริสเตียนที่ถูกทำร้าย หรือถูกทรมานจนตาย จากความเชื่อในศาสนาคริสต์ และยังอ้างอิงถึงการสถาปนา "บุญราศีมรณสักขี" ที่มีขึ้นในเมืองไทย ที่วัดสองคอน มุกดาหาร บรรยากาศการเดินเรื่องรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของ มูราคามิ อยู่เนืองๆในแต่ละช่วง เหมือนในเล่มอื่นๆของเค้าที่มักจะรู้สึกได้ถึงกลิ่น หรือความรู้สึกที่คล้ายกับบรรยากาศในเรื่องราวของมูราคามิ และยังรู้สึกถึงความเย็นเยียบของเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านไป
.
เหตุการณ์เริ่มจากโรงพยาบาลที่แม่ของ"ผม" ซึ่งเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมด ได้เสียชีวิตลง และเค้าได้กลับมาซับซาบความรู้สึกของแม่เค้าที่เตียงของแม่ก่อนเสียชีวิต และได้บังเอิญได้ยินเสียงประหลาด ทำให้เค้าออกเดินทางไปตามความรู้สึกจนถึง บุญราศี ที่มุกดาหาร และที่นั่นทำให้เค้าได้พบกับบาทหลวงอนาโตล และเนียนแม่ครัวคนเดียวของโบสถ์ กลุ่มคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวเหนือธรรมชาติ และกระตุ้นความศรัทธาความเชื่อในศาสนาของเค้ามากขึ้นอีก
.
เรื่องราวต่อจากนั้น ผมไม่อยากจะสปอยล์มาก เพราะสรีระที่บางสะโอดสะองอยู่แล้วของ จะเสียอรรถรสเสียเปล่าๆ สำหรับคนที่อยากอ่านเอง เอาเป็นว่าถ้าเป็นแฟนหนังสือของคุณอนุสรณ์ อยู่แล้ว ไม่ผิดหวังครับ เส้นเรื่อง การเล่าเรื่อง ยังคงความเป็นคุณอนุสรณ์ได้ดี เหมือนในเล่ม "นิมิตวิกาล" ซึ่งสไตล์รูปเล่มและขนาดใกล้เคียงกัน ก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง ใครที่ตามงานของคุณอนุสรณ์ ไม่อยากให้พลาดครับเล่มนี้
.
.

.
.
" หลังการตายของแม่ ผมก็กลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ผมเลือกโรงพยาบาลเดียวกับแม่ ห้องพักเดียวกับแม่ เตียงเดียวกับแม่ ผมไม่ได้ป่วยไข้ ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ไม่มีแม้รอยขูดขีดบนร่างกายด้วยซ้ำ ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน ผมเพียงอยากสัมผัสความตายของแม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ด้วยสายตาของผู้เจ็บป่วยมิใช่สายตาของผู้เฝ้ามอง "





Free TextEditor



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2553 2:37:16 น.
Counter : 2403 Pageviews.

2 comments
  
น่าอ่านเหมือนกันนะเนี่ย แต่เศร้าจิต
อยู่ต่างแดนจะอ่านหนังสือไทยลำบาก ลำบนเหลือเกิน
กว่าจะได้อ่านก็โน่นเลย วันที่กลับไทย แบบว่ากลับเมืองไทยทีก็ขนกลับมาที
โดย: sati_always วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:22:57:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

My-codename-v.BlogGang.com

i.am.Victor
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

บทความทั้งหมด