ซามูไรสีม่วง รักไม่ได้ชนะทุกอย่างเสมอไป แต่คงไม่เสียใจแค่ได้ลอง



ผมหยิบหนังสือเล่มนี้จากชั้นวางหนังสือในร้านคิโนะ พารากอน ร้านประจำ ด้วยเพียงเหตุผลเดียว คือ ชื่อของผู้แปล นพดล เวชสวัสดิ์ ทรานสเลเตอร์ในดวงใจ อีกนิดนึงที่ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น คือ สำนักพิมพ์กำมะหยี่นั่นเอง ซึ่งไม่เคยทำให้ผิดหวังในการคัดหนังสือเลย นอกจากเหนือจากนั้นไม่อาจมีสิ่งใดทำให้ผมอยากหยิบหนังสือเล่มนี้ จากชื่อเรื่องที่บ่งบอกถึงเส้นเรื่องของหนังสือ รวมไปถึงเรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นในหนังสือ ไม่อาจกวักมือเรียกผมให้พาหนังสือเล่มนี้กลับบ้านได้ เพราะแน่แก่ใจว่าต้องเป็นเรื่องราวของเพศที่สามในสังคมอย่างเกย์ หรืออะไรก็ตามที่สังคมให้ชื่อกำกับเอาไว้ เพราะแม้กระทั่งหนังออสการ์อย่าง Brokeback Mountain ผมก็ไม่ได้เข้าชม ไม่ใช่เพราะผมรังเกียจเพศที่สาม หรือดัดจริตรับไม่ได้กับเรื่องนี้ แต่เพราะไม่อาจรู้ว่าจะนำตัวเองเข้าไปสู่ในเรื่องราวอย่างไร วิธีอ่านหนังสือของผมช้านานมาแล้วคือนำตัวเองเข้าไปผูกกับเรื่องราวเบื้องหลังตัวอักษร แต่คราวนี้นามผู้แปลผนวกสำนักพิมพ์ ก็มีชัยเหนือเหตุผลนานา และผมอยากจะกล่าวตั้งแต่บรรทัดนี้ว่า มีเหตุผลผุดโผล่มากมายตามระยะทางระหว่างอ่านไปจนถึงบทสรุปเรื่องราว ที่ผมอยากบอกเล่ากล่าวสู่ผู้คนรอบตัว รวมไปถึงเขียนบทความนี้ขึ้นมา หวังเพียงให้ใครสักคนที่ยึกยักลังเลไม่อยากหยิบพาหนังสือเล่มนี้กลับบ้านไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ไม่ว่าจะเป็นเหตุเดียวกับผมหรือไม่ ได้รีบจ่ายเงินและพากลับบ้านทันที เช่นนั้นก็ถือว่าความตั้งใจของผมประสบชัย



และตามชื่อเรื่องที่ไม่อ้อมค้อม ซามูไรสีม่วง เป็นเรื่องราวรักระหว่างชนชั้น ซึ่งก็นับว่ายากยิ่งอยู่แล้วกับยุคสมัยซามูไร สมัยเอโดะ หากแต่ความยากมิใช่ชนชั้นระหว่างพ่อค้ากับคนธรรมดา แต่เป็นชนชั้นสุดสูงแห่งยุคสมัยอย่าง ซามูไร และชนชั้นต่ำต้อยใต้อำนาจของซามูไรอย่างชาวนา แต่ฟูซาโอะก็เป็นชาวนาหน้าสวยแถมยังเขียนหนังสือได้ เรื่องราวจึงเริ่มจากตรงจุดนั้น เมื่อซามูไรเฒ่าพ่อของโอกิโมโตะ ผู้สืบทอดตำแหน่งมหาซามูไรแห่งดินแดน เมื่อซามูไรเฒ่าสนใจต่อชาวนาหนุ่มน้อยหน้าสวย จึงออกพบถึงกระท่อมของชาวนา พาอนาคตมหาซามูไรมาด้วย เหตุการณ์ที่เป็นดั่งคำสาปจึงเกิดขึ้นกับเค้าทั้งสองคน



ผู้เขียนพาเราไปสำรวจความสัมพันธ์ของชายรักชายในยุคเอโดะ ถ้าเป็นยุคนี้สมัยนี้คงไม่ผิดแปลกเท่าใดนัก เมื่อบ่อยครั้งเรายังเห็นหนุ่มหนุ่มเดินจับมือกัน หรือจะเป็นสาวสาวนั่งโอบไหล่กัน มีให้เห็นกันจนเจนสายตา แต่กับเรื่องราวในสมัยนั้นไม่ได้ง่ายดายเลย อีกทั้งอีกชายเป็นถึงผู้สืบทอดตำแหน่งมหาซามูไร การทำอะไรจึงอยู่ในสายตาตลอด แต่ทั้งสองก็เล็ดลอด หลีกหลบ แอบพบปะกันได้เนือง ๆ เส้นเรื่องของซามูไรสีม่วงนี้ดำเนินไปสองภพสองสถานะเวลา ตัดไปมาระหว่างสมัยเอโดะที่สองหนุ่มมีชีวิตโลดแล่นอยู่ กับสมัยปัจจุบันที่ทายาทของมหาซามูไรได้นำบันทึกลายมือที่ตกทอดมา ให้มายูมิ นักสืบประวัติศาสตร์ ได้ช่วยไขปริศนาบันทึกเก่าแก่ฉบับนี้ ที่หะแรกครอบครัวต่างคิดว่าเป็นบันทึกจากซามูไรต้นตระกูล แต่กาลกลับกลายเป็นว่าบันทึกฉบับนี้ถูกขีดเขียนโดยฝีมือชาวนาผู้ต่ำต้อย



ความรักของทั้งสอง นอกจากจะหลบเร้นแล้ว ยังมีอุปสรรคมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ได้พ่ายแก่อุปสรรคนั้นโดยง่าย ยังเฝ้าพยายามแม้จะมองไม่เห็นปลายทางเลยก็ตาม ความรักของทั้งคู่ในเรื่อง ผมมองว่าบางครั้งสวยงามไม่ว่าจะเป็นบทบรรยาย หรือบรรยากาศในเรื่อง จนทำให้บางครั้งมีน้ำตาซึมกับความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน แต่บางครั้งก็รู้สึกได้ถึงความสุดโต่งและเกินไปในบางจังหวะ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมท้ายเรื่องในที่สุด ซึ่งไม่มีผู้เกี่ยวข้องคนใดในเรื่องมีความสุขสมหวังเลย ดีหน่อยก็จะเป็นเพียงปมปมหนึ่งติดค้างอยู่ในใจแต่ไม่มีวันจะคลายปมได้ หนักสุดก็สิ้นชีพลาโลก ทั้งในรูปธรรมและนามธรรม



งานเขียนชิ้นดีเล่มนี้ ได้รับการถ่ายทอด โดยสารภาษา จากมือแปลฉมังยุทธ์ ทำให้ภาษามีความสละสลวย ไม่ได้หวานเยิ้มจนเลี่ยนสายตา หรือหนักหน่วงจนปวดขมับ แต่วางเรียงเพื่อกระชับเรื่องราวได้อย่างเหมาะสม ทำให้ผมสัมผัสได้ว่าหากเป็นในภาษาดั้งเดิมต้นฉบับจะสละสลวยกว่านี้เพียงใด เป็นงานที่อ่านง่ายไม่รีดเค้นบีบคั้นสมองให้พองตัวมากเกินไปนัก ผมไม่อาจกล่าวว่าเมื่ออ่านจบเราจะเข้าใจและเห็นใจคู่รักเพศเดียวกัน แต่สิ่งที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ คือ



“ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ แต่มิอาจมีชัยเหนือทุกอุปสรรค กระนั้นก็มิอาจกล่าวได้ว่าเสียใจหากเพียงแค่ได้ลอง”





ขอบคุณรูปหนังสือจากเวปไซท์ สำนักพิมพ์กำมะหยี่ ครับ gammemagie.com




Create Date : 09 เมษายน 2554
Last Update : 17 กรกฎาคม 2556 12:18:37 น.
Counter : 3605 Pageviews.

13 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วิชา ภูผา ชีวิต : กะว่าก๋า
(30 มิ.ย. 2568 05:01:21 น.)
รีวิวหนังสือ อร่อยลวงตาย: Ultra-Processed People สุดท้ายที่ปลายฟ้า
(28 มิ.ย. 2568 10:17:05 น.)
19. รักพยศ : แสงหล้า ณ เวียงแก้ว สามปอยหลวง
(28 มิ.ย. 2568 16:10:46 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - หล่นไปในสมมุติ : กะว่าก๋า
(24 มิ.ย. 2568 04:11:57 น.)
  
เขียนซะน่าอ่าน.ม๊ากกกน๊ะ..ไว้จะลองหาเวลาอ่านดู..
โดย: kitty IP: 125.24.177.7 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:12:17:32 น.
  
ขอบใจนะแก อุตส่าห์ตามมาอ่าน ^^
โดย: i.am.Victor วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:23:43:22 น.
  
ผมขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อนนะครับ
ชอบและหลงไหลงานของมูรากามิเหมือนกันเลย
เขียนบลอคเกี่ยวกับนักเขียนคนนี้เยอะๆเลยนะครับ
ผมจะรออ่าน
โดย: Mr.Feynman วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:22:21 น.
  
Mr.Feynman ยินดีครับ แวะมาอ่านบ่อยๆนะครับ อย่าลืมงานหนังสือตุลานี้นะครับ 1Q84
โดย: i.am.Victor วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:57:48 น.
  
กำลังอ่านอยู่เลยค่ะ สนุกมากมาย
โดย: POOKLOOK IP: 203.131.215.213 วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:16:35:13 น.
  
คุณ POOKLOOK อ่านจบแล้วอย่าลืมมาหล่นคอมเมนต์อีกนะครับ ... อ่านให้สนุกครับ
โดย: i.am.Victor วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:17:42:51 น.
  
เพิ่งอ่านจบเมื่อกี้เองค่ะ
อ่านจบแล้วแต่อารมณ์ไม่จบ ถึงกับต้องมา search หาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเตม จนมาเจอบล็อกคุณนี่ล่ะค่ะ
อยากรบกวนขอความคิดเห็นจากคุณสักหน่อย เพราะเราอ่านจบแล้วรู้สึกว่ามีคำถามไม่เฉลยอยู่เยอะทีเดียว (หรือเราเก็บรายละเอียดไม่ครบเอง)
ช่วงที่นายท่านกับฟูซาโอะลอบพบกันที่โรงชงชา แล้วมีคนแอบดูอยู่หลังพุ่มไม้นั่น ตกลงว่าคือใครหรือคะ แล้วตอนท้ายๆ ที่มีเงาตะคุ่มบนหลังม้าตัวสวยมาแวะจอดหน้าบ้านฟูซาโอะนั่นคือนายท่านหรือเปล่า? แล้วสุดท้ายงานเขียนชุดนี้ตกไปอยู่กับพวกซามูไรได้อย่างไร แล้วทำไมโรงชงชาถึงกลายมาเป็นสมบัติของบ้านฟูซาโอะได้ แล้วไหงโมโทโกะถึงมีโอกาสไ้ด้รับใช้นายหญิงโมโมเอะ เธอน่าจะจงเกลียดจงชังบ้านนี้มากๆ ไม่ใช่หรือคะ...โอย หลายคำถามเหลือเกิน แต่เผอิญว่าเราขาดคำตอบจนอึ้งกับตอนจบที่ขมวดปมแบบไม่ให้เงื่อนงำไม่ชี้นำอะไรเลย เฉลยกันซึ่งๆ หน้า...นี่ซื้อมาเพียงเพราะโดนชื่อนักแปลล่อลวงทีเเดียวเชียว ฮะๆ หวังว่าจะได้แง่มุมที่แตกต่างจากคุณบ้างนะคะ
โดย: ศิริ IP: 101.108.120.95 วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:25:33 น.
  
คุณศิริ ครับ ..
ผมตอบได้บางประเด็นนะครับ เพราะก่อนอ่านจบมานานเนิ่น หลงลืมบางรายละเอียดไป อีกทั้งอ่านต่อมาอีกหลายเล่ม เอาเป็นว่าเท่าที่พอจำได้และพอรู้สึกแล้วกันนะครับ ...

- คนที่แอบดูหลังพุ่มไม้ คงเป็นสายลับของแม่นายท่านที่มีอยู่เต็มวังไปหมดนั่นแหละครับ
-เงาบนหลังม้า ไม่แน่ใจว่าช็อตไหน แต่น่าจะเป็นนายท่านเป็นแน่แท้ ไม่อาจเป็นใครอื่นได้ครับ
-งานเขียนชุดนี้ตกเป็นของซามูไรได้ ตอนฉากใกล้จบครับ ฟูซาโอะฝากงานเขียนชิ้นนี้กับลูกให้นำไปคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งก็คือตระกูลซามูไรครับ
-โทโมโกะ(เข้าใจว่าเป็นภรรยาของฟูซาโอะ เพราะจำชื่อไม่ได้จริงๆ)ที่รับใช้ท่านหญิง เพราะไม่ได้ทราบต้นสายปลายเหตุว่าเรื่องราวเป็นไง ส่วนท่านหญิง ก็เหมือนจะต้องการชดใช้บาปที่ก่อขึ้นอยู่ในทีครับ ,ส่วนถ้ากลับกันถ้าโทโมโกะ เป็นแม่ ก็ตีความได้ว่า รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากลูกชายตัวเองที่ไม่ยับยั้งช่างใจ จนเรื่องบานปลาย จึงยอมรับชะตากรรมนั้นครับ
-ส่วนในเรื่องโรงชงชา น่าจะเป็นคำสั่งเสียสุดท้ายจากนายท่านนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ถ้ายังไงจะลองกลับไปอ่านดูอีกรอบ จะมาต้องให้อีกทีนะครับ

... ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ คุณศิริ เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันอ่านจบอารมณ์ไม่จบต้องมาตามอ่านคอมเมนต์
โดย: i.am.Victor วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:48:03 น.
  
พึ่งจะได้อ่านเล่มนี้ครับ พอดีอ่านวิจารณ์ ของ ดร.รื่นฤทัย มาแล้วก็ทำให้ตามหา ต้องบอกว่าใช้เวลาเกือบเดือนทีเดียวกว่าจะได้หนังสือ

หลังอ่านจบ อารมณ์ไม่อยากให้จบจริงๆ จนต้องค้นหาข้อมูล ว่ามีท่านใด เขียนรีวิวไว้บ้าง และก็เจอ ....

เป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้วประทับใจ เศร้าเหงารัก
โดย: เขมปัณณ์ IP: 171.98.142.30 วันที่: 16 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:12:35 น.
  
คุณเขมปัณณ์ เป็นเล่มที่อ่านแล้วถลำลึก เอาใจช่วยตลอดเวลา ผู้เขียนนั้นเขียนได้สมจริงจนเห็นภาพเมื่อครั้งอดีตได้ชัดเจน ทำให้ผู้อ่าน(เช่นผม) อินไปตลอดจนจบเรื่องครับ
โดย: i.am.Victor วันที่: 17 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:19:45 น.
  
เพิ่งอ่านจบ สนุกมากค่ะ
โดย: แตนแม่ลูกสี่ IP: 171.97.147.173 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:23:35:07 น.
  
@คุณแตนแม่ลูกสี่ มีอีกเล่มของนักเขียนและแปลคนเดียวกันนี้ก็อ่านสนุกนะครับ เรื่องกามิกาเซ่หญิง :D
โดย: i.am.Victor วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:04:40 น.
  
พึ่งอ่านเล่มนี้จบเมื่อกี่ครับ บอกเลยว่าเป็นหนังสือน่าอ่านมากๆเเม้จะไม่โลดโผน แต่มีจุดน่าสนใจให้ซึ้งกินใจตลอด ฉากท้ายๆเรียกน้ำตาผมไปเยอะเลย สงสารฟูซาโอะมาก
โดย: arm IP: 134.196.43.36 วันที่: 14 กรกฎาคม 2558 เวลา:0:36:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

My-codename-v.BlogGang.com

i.am.Victor
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

บทความทั้งหมด