เผลอแป๊ปเดี๋ยว ค้างเรื่องไว้อาทิตย์เต็มแล้วอ๊ะ
วันๆไม่รู้ทำอะไรอยู่เรา ติงๆไปก็ติงๆกลับ ไม่เป็นสาระ
เอาค่ะ ในที่สุดก็เลิกขี้เกียจ กลับมาเล่าต่อนะคะ
เรียวเฮฉลาด แต่ไม่เฉลียว
พิสูจน์ได้เลยมาตั้งแต่เรื่องขี่มอเตอร์ไซค์ของเรียวเฮ
เรียวเฮไม่ใช่ขี่เวสป้ามาตั้งแต่ต้นหรอก Free TextEditorเรียวเฮซื้อรถมอเตอร์ไซค์ขี่เป็นคันแรกก็เมื่อตอนขึ้นมัธยมปลายแล้ว
ก่อนหน้านั้น ถึงอยากขี่จนหืดจะขี้นคดก็ขี่ไม่ได้
เพราะเป็นกฎของโรงเรียน ห้ามขี่
เรียวเฮอยากขี่บรื๋อๆๆๆ มาตั้งนานแล้ว แต่ตั้งใจแล้วว่าจะหาเงินซื้อเอง
จะไม่แบมือขอพ่อขอแม่
พอเข้ามัธยมปลายปั๊บ เรียวเฮก็หางานไบโตะทำ ขายแรงงานเป็นชั่วโมง
ด้วยงานชนิดต่างๆ แต่ที่ทำนานที่สุดคือ งานในร้านอาหาร
เรียวเฮก็เลยชำนาญเรื่องหั่นผักโดยเฉพาะหั่นหัวกะหล่ำปลี
หั่นด้วยมือนะ ไม่ใช่หั่นด้วยเครื่อง
โห หั่นละเอียดเป็นฝอยสวยเชียว
หั่นอีกอย่างที่เรียวเฮบอกว่าเก่งเป็นแชมป์ได้
คือหั่นแอปเปิลให้เป็นชิ้นเล็กๆ ซ้อนๆกันเป็นขั้นๆโดยไม่หลุดออกจากกัน
หั่นไปทำอะไรล่ะ
อ้าว หั่นเอาไปใช้ประดับริมถ้วยไอติมปาเฟ่ไง
เคยเห็นไหม นึกออกไหม
นานค่ะ กว่าเรียวเฮจะเก็บตังส์ได้เป็นก้อนเป็นกำ
แต่ถึงเป็นกำเป็นก้อน มันก็ได้แค่ก้อนเล็กๆ กำน้อยๆ
ร้อนถึงพ่อเรียวเฮผู้เห็นความบากบั่นของลูกชายคนสุดท้อง
เกิดความสงสารเห็นใจว่าพ่อเห็นแล้วล่ะ ความพยายามตั้งใจของลูก
เอางี้ (พ่อใจป้ำ) พ่อจะออกตังส์ให้ส่วนหนึ่งก็แล้วกัน
ขืนรอให้เก็บตังส์ได้ครบก้อนพอที่จะซื้อได้ก็คงไม่ได้ขี่แน่
กว่าจะได้ขี่คงโน้น ....เข้ามหาวิทยาลัยไปนั่นแล้วแหนะ
ด้วยความเมตตาและความเข้าใจความรู้สึกของลูกชายของป่าป๊า
ในที่สุดเรียวเฮก็ได้ขี่รถมอเตรอ์ไซค์คันที่อยากขี่มานาน
ไม่ใช่รถเวสป้าที่แสนเฉิ่มหรอก
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่วัยรุ่นกำลังนิยมในสมัยนั้นเลยแหละ
บรื๊รรรรอ....เรียวเฮสนุกไปไหนมาไหนด้วยรถคู่ใจ บรื๊อๆๆ...ปุๆๆ บรื๊อ
ไม่นานเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เหตุการณ์ที่ทำให้เรียวเฮได้เห็นเป็นครั้งแรกว่า
ชีวิตนี้ก็มีขวากหนาม
เรียวเฮขี่รถไปทำงานไบโตะแล้วก็ขี่กลับ
ที่เก็บรถในบ้านก็มีนะ แต่เรียวเฮไม่ได้เอาเข้าไปจอด
เพราะที่จอดในรั้วบ้านมีรถฮอนด้าของพ่อจอดประจำอยู่แล้ว
จะเอารถบรื์อเข้าๆออกๆมันยุ่งยาก
อย่าเลย เรียวเฮจึงมักจะจอดไว้ริมรั้วหน้าบ้าน
รุ่งเช้าวันหนึ่งในหน้าหนาวเหน็บ
เรียวเฮตื่นขึ้นมาเจอรถบรื๊อของตัวเองถูกเผา
ไม่ได้ถูกเผาแบบหมดตัวรถ
เฉพาะตรงที่นั่งกับยางท้ายรถเท่านั้นที่ถูกเผา
เบาะนั่งเนียไล้เละ ยางเนี่ยละลายไม่เป็นรูปเชียว
หน้าหนาวอ่ะ
หน้าต่างบ้านปิดสองชั้นหนาแน่น
ไม่มีใครได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ
คนเผาก็คงไม่ได้ตั้งใจเผาให้เป็นการเป็นงาน
เอาแค่พอไหม้ๆ ไฟก็คงจะมอดดับไปเอง
เรียวเฮยืนงงอยู่เป็นนาน กว่าจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขี้นกับรถของตัวเอง
แต่ป่าป๊าของเรียวเฮได้สติ ปลอบลูกชายว่า
"ไอ้พวกจิตไม่ปกติ แต่ดีกว่าถูกเผาบ้านนะลูก"
นั่นแหละ
เรียวเฮก็ได้สูญเสียรถมอเตอร์ไซด์สุดรักเป็นคันแรก
เอ๊ ครั้งแรกนี่หมายความว่ามีครั้งที่สองหรือไง
อะไรที่เกิดขึ้นได้ ถ้ามีครั้งที่ 1 ก็มีครั้งที่ 2
Free TextEditorเมื่อเสียรถคันแรกไป เรียวเฮก็ฮึดอดทนทำงานไบโตะสารพัด
เพื่อที่จะซื้อรถคันใหม่ให้ตัวเอง
แต่คราวนี้พ่อไม่ช่วยแล้ว
เรียวเฮรอ รอจนเมื่อปีใหม่มา
เรียวเฮได้รายได้พิเศาจาก otoshidama
เงินอั่งเปาที่ญาติๆให้เป็นของขวัญปีใหม่
รถคันที่สองก็เหมือนคันที่หนึ่ง คือสวยหรูเท่เก๋สำหรับวัยรุ่น
พอขี่รถคันใหม่ได้สักพัก
ในตอนดึกของคืนหนึ่ง
คืนที่ลมหนาวยังพัดให้สั่นสะท้าน
รถของเรียวเฮก็ถูกราดด้วยเบนซิน
ถูกเผาเป็นเปลวเพลิงจนรถหวอมา
หวอออ...
ความไม่เฉลียวของเรียวเฮอยู่ตรงนี้แหละ
เมื่อเรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว เรียวเฮถึงได้ถามตัวเองว่า
" ทำไมไม่เก็บรถไว้ในบ้าน
ทำไมจอดไว้นอกรั้วบ้าน
ทำไมไม่เฉลียวใจว่าสิ่งร้ายๆบางทีมันก็เกิดแล้วเกิดอีก"
แต่แปลกนะ ตั้งแต่เรียวเฮเปลี่ยนมาขี่รถเวสป้ามือสอง
เก่า ซอมซ่อ ไม่เก๋ไม่เท่ ไม่สะดุดตา
เหตุการณ์แบบนั้นก็ไม่ยักจะเกิดขึ้นอีก
ทั้งๆที่เรียวเฮก็ยังจอดมันไว้หน้ารั้วบ้านทุกคืน