ได้ฤกษ์หล่นก้นนั่งเขียนเรื่องฮาเฮในแคมปัสของอาจารย์ส้มเช้ง
ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เฮฮากันมา
ในหมู่เด็กนักศึกษาเมื่อกลางๆปีที่แล้ว
เรื่องเฮฮาอ้าปากตอนแรกฟัง
แต่ไหงต้องปิดปากเมื่อฟังจบ
โดยเฉพาะยายแก่อาจารย์ส้มเช้ง
เพราะแกรู้จักพระเอกของเรื่องมาตั้งแต่แกเป็นนักศึกษาวัยเอ๊าะ
สมัยนั้นอาจารย์ส้มเช้งเรียกแกว่า N ซัง
ในฐานะที่แกเป็นนักศึกษาตากลมโตหน้าตาใสแจ๋ว
แต่สิบปีต่อมาอาจารย์ส้มเช้งเปลี่ยนไปเรียกแกว่า N เซ็นเซ
ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน
ในญี่ปุ่นมีเยอะแยะค่ะ
ที่ใครคนหนึ่งที่เคยเห็นๆว่ายังเป็นเด็กน้อยวัยศึกษา
แล้วหลับตาลับหลังไปแป๊ปเดียว
เด็กน้อยวัยศึกษาคนนั้นกลายเป็นเพื่อนร่วมงาน
มีทั้งที่กลายเป็นอาจารย์ และที่กลายเป็นพนักงานธุรกิจ
ในมหาตลัยนั้นๆ
ปรากฎการณ์เช่นนี้มีหนาแน่นโดยเฉพาะในมหาตลัยเอกชน
ขนาดกลางขนาดเล็ก ที่คณะกรรมการของมหาตลัยอยู่กันเอง
ใช้ลูกๆหลานๆและญาติโยมเป็นแขนเป็นขา ที่บางครั้งเข้มแข็ง
แต่บ่อยๆที่กลายเป็นแขนขาอ่อนปวกเปียกพิการหรือไม่ก็กลาย
เป็นมะเร็งไปเลย (โห ปากร้าย)
การบริหารจะเป็นไปด้วยดีถ้าสมาชิกเป็นญาติพี่น้องกัน
นี่เป็นนโยบายแข็งโป๊ก ของเขาๆแหละ
ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องของ N เซ็นเซ
ใครที่ได้พูดจากับแก ครั้งแรกก็เกิดสงสัยเลยแหละ
ว่าการที่แกหน่อมแน้มพูดจาแบบผู้หญิงๆน่ะ
เป็นเพราะแกมาจากครอบครัวที่มีการอบรมสวยงาม
หรือว่าแกเป็นชายพันธ์กุหลาบ
ชายพันธ์กุหลาบ bara-zoku 薔薇族
เป็นศัพท์เฉพาะเรียก " ชายรักชาย " มาตั้งแต่ปี 70s
เป็นชื่อนิยตสารเฉพาะพันธ์
อธิบายสั้นๆว่าเขาหมายถึงชายที่เป็นเกย์
อาจารย์ส้มเช้งไม่มีนิสัยจุ้น
ใครจะเป็นใคร ใครจะเป็นเกย์ไม่เกย์ ไม่ค่อยสน
ความสนใจแกอยู่ที่ "แมว"
( ไม่มีที่ไปอื่น น่าสงสารมากๆค่ะ )
เพราะฉะนั้นแกก็ไม่เคยสงสัยในสมัยที่ N เซ็นเซ
ยังเป็นนักศึกษา
อาจารย์ส้มเช้งแกเริ่มรำคาญการใช้มือใช้ไม้ปัดไปปัดมา
เวลาที่N เซ็นเซพูดกับแกก็ตอนที่ N ซัง
กลายเป็น N เซ็นเซ แล้วค่ะ
เพราะเขาว่ากันว่าคนที่ใช้มือใช้ไม้มากเกินจำเป็นเวลาพูด
มักจะเป็นคุณชายตระกูลกุหลาบ
จบตอน 1
ตอนนำของเรื่องกระผมต้องการนักศึกษาชายคนนั้น
โปรดติดตามถ้าท่านๆมีเวลาว่างๆ ว่างมากๆ