หลายวันก่อน ฉันเข้าไปสำรวจเวปไซต์ National Gegraphic เพื่อหาไอเดียมาจุดประกายงานโปรเจกของตนเอง
ติดใจภาพนี้ ตรงที่ช่างภาพเล่นมุมมองกับ 'กรอบ'
(ขอบคุณภาพจากเวป NG)เด็กชายสองคนจากดินแดนตะวันออกไกลกำลังขนเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีแต่ตัวกรอบไปที่ไหนสักแห่ง
ฉันมองภาพนี้ทีแรก รู้สึกสงสารเด็กๆจับใจ บ้านเมืองในระยะสงคราม ทุกคนต้องดิ้นรน กรอบทีวีที่เด็กๆช่วยกันขนอยู่นี้อาจจะกลายเป็นโต๊ะวางของในบ้านเก่าๆของพวกเขา
แต่อีกแง่มุมหนึ่ง บางทีพวกเขาอาจกำลังขนกรอบทีวีไปเป็นของเล่นชิ้นใหม่ก็ได้
ภาพเดียวกัน เหตุการณ์เดียวกัน ถ้าเราเอาความรู้สึกส่วนตัวไปตัดสิน บ่อยครั้งเราก็ชี้วัดบทสรุปอย่างผิดๆถูกๆ หรือบางทีก็โดนอคติของเราเองกลั่นแกล้งให้หลงทาง
ฉันนึกถึงภาพภาพหนึ่ง ที่ฉันเก็บไว้ในโฟลเดอร์ส่วนตัว ฉันมักคลิกภาพนี้ขึ้นมาดูบ่อยๆเวลาที่ใจร่ำๆจะพ่ายแพ้ ใกล้จะเอนเอียงไปหาโหมดความเศร้า
ถ้าความทุกข์คือฤดูหนาว เรานี่แหละที่เปลี่ยนฤดูหนาวในใจเป็นฤดูใบไม้ผลิได้ ถ้าเราอยากทำ
และ 'กรอบ' บางทีก็มีไว้เปิดช่องว่างทางความคิด ไม่ใช่มีเพื่อปิดกั้นเสมอไป
ช่วงนี้โฆษณาทางทีวีชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสินค้า TV ไร้กรอบกำลังออกแพร่ภาพค่อนข้างถี่
เจ้าของสินค้าเขาคงมีเหตุผลในการผลิตนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เขา ซึ่งพอฉันเห็นโฆษณาสินค้าตัวนี้ ถึงเพิ่งสงสัยว่าเจ้า
กรอบของทีวีแสนขรึมนี้ จะมีใครรำคาญมันได้ลงคอด้วย
เพราะในความเป็นจริง ถึงทีวีจะกรอบหนา กรอบบาง ( คลับคล้ายขอบพิซซ่า) กรอบเหลี่ยม หรือกรอบมน เวลาเราดูทีวี สิ่งที่จะทำให้เราหัวเราะ หรือร้องไห้ก็เกิดจากภาพและเสียงที่โลดแล่นอยู่ในกรอบนั้นเป็นสำคัญไม่ใช่หรือ
ฉันเชื่อมั่นเสมอว่ากุญแจสำคัญที่ไขเราไปสู่ 'ความสุข' แม้ว่ามันจะถูกเก็บงำไว้ในกรอบสักกี่ชั้น อยู่ที่คำคำนี้
- - ทัศนคติ - -