คำบอกเล่า ของแมลงชีปะขาว ![]() คำพ่อเล่า กับหนังสือโลกของแมลงที่เคยอ่านตอนเด็กๆ บอกเล่าตรงกันว่าแมลงชีปะขาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่วงจรชีวิตสั้นที่สุด คืออายุไม่เกิน 1 - 2 วัน ฉันไม่เคยเกิดเป็นแมลงชีปะขาว หรือถ้าเคยก็จำอะไรเกี่ยวกับชีวิตแสนสั้นชาตินั้นไม่ได้เลย จึงไม่รู้ว่าแมลงที่ว่ารู้สึกอย่างไรที่เกิดมาไม่ทันไรก็ได้ตาย โดยไม่ทันได้เข้าอนุบาล โดยไม่ทันได้หางานทำ โดยไม่ทันได้รู้จัก การแก่ การเจ็บ ฯลฯ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันทราบว่าคนคนหนึ่งที่ฉันรู้จักดี ไปทบทวนกิจกรรมที่คนธรรมดาไปห่อตัวด้วยชุดขาว และที่คนธรรมดากลุ่มนั้นไม่ได้อยู่ในโรงเจ หรืออยู่ระหว่างเทศกาลกินเจ เธอว่า เธอไปเป็นแมลงชีปะขาว... เธอเล่าว่า มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆของการอยู่กับตัวเองด้วยปัจจัยสี่พื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุด ชีวิตที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีนาฬิกา ไม่มีเครื่องสำอาง ไม่มีกระจกส่องหน้า ไม่มีอาหารมิ้อเย็น จำนวนนับของชีวิตแมลงชีปะขาวที่เธอเรียนรู้และกำหนดเป็นวิชานับเลขอย่างง่ายๆ มีตัวเลขอยู่ไม่กี่ตัว 1 คือ จุดกำหนดลมหายใจเข้าออก 2 คือ จำนวนขาที่เดินสลับกันไปช้าๆ 3 คือ จำนวนครั้งที่ก้มลงหน้าพระพุทธรูป 4 คือ เวลาลุกจากที่นอน เมื่อเข็มสั้นเดินทางไปหยุดที่เลขนั้น ชีวิตแบบแมลงชีปะขาว ไม่มีเสียงพูดคุย มีแต่เสียงสนทนาข้างใน รู้ได้ข้างใน จากการเดินทางข้างใน เป็นการเดินทางเชื่องช้า ผ่านสถานีเมื่อย สถานีหิว สถานีง่วง สถานีผ่องแผ้ว สถานีสาธุยินดี เธอจำไม่ได้ว่าตอนตีตั๋วครั้งแรก จะไปลงสถานีไหน หรือบางทีเธออาจขึ้นโดยสารโดยไม่มีตั๋ว เอาแต่ตัวมาเฉยๆ โดยบอกเจ้าหน้าที่สถานีต้นทางว่า จะไปหาสติ... อารมณ์ต่างๆที่แวะเวียนเข้ามาทักทายระหว่างทางก็หลากหลาย บ้างปิติ บ้างมานะ และบ้างชูใจ ตกกลางคืน เธอได้ยินเสียงหมาหอนหลายครั้ง เป็นเสียงหมาหอนจริงๆที่ไม่มีการทำซาวด์ เอฟเฟค อาจารย์ที่เป็นหัวหน้าแมลงชีปะขาวบอกว่า ช่วงที่มีกิจกรรมรวมตัวของกลุ่มชีปะขาว มักเป็นแบบนี้ สิ่งที่มองไม่เห็นมักเดินทางมาเพื่อขอรับส่วนบุญจากพวกเรา ส่วนบุญแบ่งกันได้ แล้วส่วนบาปล่ะ ขอขายทอดตลาดที่ไหน จะมีใครรับซื้อไหม การอยู่ในสถานที่ที่เขาเรียกว่าวัด แล้วมีเสียงหมาหอนเป็นเพลงกล่อมนอน ที่ไม่ได้ออกมาจากลำโพงทีวี หรือลำโพงวิทยุ ก็ดูจะเปิดหูเปิดตาให้เธอได้ตื่นตู ตื่นตา และตื่นเต้นระทึกใจไปพร้อมกัน ระหว่างที่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น รู้สึกคล้ายใครมาสะกิดที่แขน พอลืมตาขึ้นมา มีเงาตะคุ่มอยู่ข้างหน้า " ไม่มีผ้าห่มเหรอ เอานี่ไปสิ " เงาตรงหน้าบอก ยื่นผ้าห่มให้ "ขอบคุณค่ะ ไม่เป็นไร ไม่หนาวค่ะ"เธอส่ายศีรษะปฏิเสธ โล่งใจลึกๆที่เงาข้างหน้าเป็นคน.... " เอาไปเถอะ พื่เหลืออยู่ผืนนึง" แล้วเงานั้น ก็หันไปง่วนกับการปลอบลูกสาวตัวเล็กที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมด้วย ความสงัดปกคุลม เวลายาวนานเหมือนไม่มีรุ่งเช้า ประกอบกับความกระวนกระวายใจของเธอจากการที่ช่วงหัวค่ำดื่มน้ำมากไปหน่อย ทำให้การนอนพักผ่อนไม่เป็นสุขนัก เธอนึกถึงระยะทางจากจุดที่นอนไปถึงห้องน้ำ เธอถอนใจเบาๆพร้อมได้ยินเสียงพูดในใจ มืดหนอ หมาหอนหนอ ทนไหวหนอ เวลายาวนานเหมือนไม่มีรุ่งเช้าเพิ่มความยาวอีกหลายเท่า หลังจากนั้น ปวดหนอ นิ่วหนอ ไปหนอ ลุกหนอ เธอกลั้นใจลุกขึ้นฝ่าความมืดและเสียงหมาหอนเป็นระยะ ไปถึงห้องน้ำจนได้ จินตนาการนั้นดี แต่ควรใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ...เธอคิด ขากลับเธอเดินผ่านจุดใกล้ที่นอนของเธอ เงาที่ลุกขึ้นยื่นผ้าห่มให้เธอเมื่อครู่ใหญ่ มีเงาเล็กๆนอนคุดคู้ใต้ผ้าห่มอยู๋ข้างๆด้วย แต่เงาของหญิงคนเดียวกับคนที่ยื่นผ้าห่มผืนนั้นให้เธอ นอนกอดอกโดยไม่มีผ้าห่มอยู่บนตัว เธอตัวชา และนึก ...ความรักของแม่เป็นสากล แม้แต่กับใครสักคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม... คำบอกเล่าของเธอเงียบหายไประยะหนึ่ง ฉันอดใจไม่ได้จึงถามออกไป แล้วไงต่อ - - ฉันถาม ในที่สุด ก็มีรุ่งเช้า - - เธอตอบ แล้ว... - - ฉันถามซ้ำ หวังให้เธอเติมประโยคให้สมบูรณ์ พอรุ่งเช้า เลยเข้าใจว่าอ้อ ชั่วข้ามวัน ข้ามคืนมันสั้นแค่นี้เอง แมลงชีปะขาวมีชิวิตพริบเดียว มันเลยรู้จักแต่เล่นไฟ แล้วก็ตกลงมาตาย เพราะมันไม่รู้ว่าไฟมันร้อน บางทีถ้าวงจรชีวิตมันยาวกว่านี้ มันอาจเรียนรู้อะไรจากแสงไฟของคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้มันก็จะได้ไม่ไปเล่นไฟอีก - - เธอพูดช้า ไม่มีหนอลงท้าย แต่ฉันรู้สึกคล้ายว่าเธอทอดเสียงเป็นจังหวะราวกับกำลังพูดจงกรม ฉันหมายถึงเธอทำยังไงต่อกับผ้าห่มต่างหาก - - ฉันแย้ง วงจรชีวิตแมลงชีปะขาวก็เหมือนอารมณ์ เกิดขึ้นวิบเดียว แล้วก็ดับไป เกิดๆดับๆทั้งวันทั้งคืน จะว่าไป วงจรชีวิตของอารมณ์สั้นกว่าแมลงชีปะขาวอีกนะ - - เสียงเธอเบาลงทุกที แต่ในหนังสือโลกของแมลงบอกว่า... - - ฉันพูดไม่ทันจบก็ชะงักเมื่อเห็นแสงไฟวาบมาตรงหน้าสั้นๆ เหมือนแสงจากรถยนต์ที่เปิดไฟสูง เธอคนที่ฉันคุยด้วยหายไปพร้อมแสงนั้น พอปรับสายตาเข้ากับความมืดได้ ฉันเห็นเหมือนมีวัตถุเล็กๆ ปีกบางใสบินขึ้นไปในอากาศ ค่อยๆลดขนาดเล็กลง กระทั่งลับหายไปในความมืด when you are alone
sometime, when your heart break who is the curer for you... you always, in some moment of your life.. stay alone and feeling lonely even peoples are around you; friend, family even lover but deep in your heart you still felt like something in your life is gone, you scream for help, for love and for many thing that you want but...saden that their is no one there for you, why don't you go to "GOD" ask he for help believe me you will find the ways out and be ready for miracal to happen into your life as it does happen to me โดย: da IP: 124.120.22.16 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:21:52:02 น.
คุณพ่อพเยีย
แล้วตกลง มีตลาดไหนรับซื้อไหมคะ To Khun Da, Thanks for your note. To me God is Nature and I think I have met "God". โดย: Love At First Click
![]() ชอบภาพถ่ายของคุณจังค่ะ ไม่เคยถ่ายภาพแสงไฟกลางคืนได้สวยเลยสักครั้ง ชอบตรงนี้มากเลยคุณ --วงจรชีวิตแมลงชีปะขาวก็เหมือนอารมณ์ เกิดขึ้นวิบเดียว แล้วก็ดับไป เกิด ๆ ดับ ๆ ทั้งวันทั้งคืน จะว่าไป วงจรชีวิตของอารมณ์สั้นกว่าแมลงชีปะขาวอีกนะ-- รู้เหมือนไม่รู้ (หรือว่าไม่รู้แล้วทำรู้กันนะ) รู้แต่ก็ยังเป็นคนฟุ่มเฟือยเรื่องการใช้อารมณ์ฟุ้ง ๆ รู้แต่หนีไม่พ้น รู้ทั้งรู้ สักแต่ว่ารู้น่ะค่ะ ไม่ดีเลยเนาะ แงแงแง แต่ที่รู้..ชอบการเขียน ชอบเรื่องที่คุณเล่า ชอบการทิ้งท้ายของเรื่องนี้จัง .. ![]() โดย: ภูเพยีย
![]() ขออภัย เราลืมให้เครดิตรูปของเอนทรี่นี้
รูปนี้ขอยืมมาจาก google ค่ะ อยากถ่ายรูปประกอบเอง แต่แถวบ้านเราอยู๋หลังเขา ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน แมลงชีปะขาวเลยไม่มาบินเล่นให้ถ่ายรูปสักตัว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ โดย: Love At First Click
![]() เล่าเรื่องได้น่าอ่าน สำนวนการเขียน และทิ้งท้ายทิ้งทวนสมกับนามสกุลคนเขียนจริงๆ
ที่เขียนๆมาหลายเอนทรี่ น่าจะลองเอาไปรวมเล่มดูนะ โดย: แม่แอมเบอร์
![]() เออ ...แมลงชีปะขาวนี่มันเป็นยังไง ไม่ใช่แมงเม่าใช่ไหม
โดย: แม่แอมเบอร์
![]() ดีใจที่ได้อ่านเรื่องดีๆของคุณ ขอบคุณค่ะ
โดย: กัญญณัช IP: 171.6.195.251 วันที่: 25 มิถุนายน 2556 เวลา:9:58:40 น.
ขออนุญาตินำเรื่องของคุณ อ่านให้เด็กๆฟังนะคะ
เพื่อสอนเรื่องส่งเสริมการอ่าน โดย: กัญญณัช IP: 171.6.195.251 วันที่: 25 มิถุนายน 2556 เวลา:10:03:55 น.
ขอยืมภาพนี้ได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: ธัญลักษณ์ IP: 49.49.244.54 วันที่: 1 มกราคม 2559 เวลา:2:56:04 น.
ขอยืมภาพนี้ได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: ธัญลักษณ์ IP: 49.49.244.54 วันที่: 1 มกราคม 2559 เวลา:2:56:22 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ไม่ว่าเล่าเรื่องอะไร ไม่ทิ้งลายนักเขียนเชียวนะ
ติดใจประโยคนี้...
ส่วนบุญแบ่งกันได้ แล้วส่วนบาปล่ะ ขอขายทอดตลาดที่ไหน จะมีใครรับซื้อไหม