ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
วอร์ด

“เช็ดตัวนะคะคุณป้า”

บัวเข็นรถที่มีกาละมังใส่น้ำสะอาดกับผ้าผืนเล็กๆ เข้ามาจอดที่ข้างเตียง ก่อนรูดม่านที่อยู่รอบเตียงให้ปิดมิดชิด เธอค่อยๆ จัดการกับคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว ในสมัยที่เธอพึ่งจบพยาบาลมาใหม่ๆ ตอนนั้นเธอทำงานพวกนี้ได้ไม่เคยเรียบร้อยเลย แต่ตอนนี้เธอสามารถทำได้อย่างรวดเร็วไม่มีที่ติ แต่ความใส่ใจที่เคยมีในสมัยนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความเคยชิน และคำว่างานไปหมดแล้ว

มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำอะไรไม่ดีกับคนไข้ เธอทำหน้าที่พยาบาลของเธอได้อย่างเรียบร้อย เพียงแต่มันขาดอะไรไปบางอย่าง อะไรที่จะทำให้คนไข้รู้สึกอบอุ่นใจ มากกว่าแค่ได้รับการบริการอย่างถูกต้อง

“...หนูจ๊ะ”

ป้ามาลีเรียกเธอเอาไว้ก่อนที่จะเข็นรถไปยังเตียงถัดไป เหลืออีกเพียงสองเตียงก็จะหมดแล้ว หลังจากนั้นก็เก็บงานอีกนิดหน่อย ส่งเวรเพื่อให้เพื่อนที่จะขึ้นเวรถัดไปได้รู้ถึงงานที่อาจต้องทำต่อ หรือคำสั่งพิเศษสำหรับคนไข้บางราย หลังจากนั้นเธอก็จะได้ไปพบกับแฟนหนุ่มของเธอเสียที วันนี้ทั้งสองมีนัดกินข้าวด้วยกัน

แฟนของเธอทำงานเป็นพ่อครัวอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง และวันนี้เขาสัญญาว่าจะแสดงฝีมือทำอาหารให้เธอทาน และเธอไม่อยากจะไปสายแม้แต่วินาทีเดียว

“มีอะไรคะ”

“...ป้า ป้าอยากโทรศัพท์หาลูกที่บ้านน่ะ...แต่ป้า...เอ่อ...ป้า”

ตั้งแต่ป้ามาลีมานอนที่วอร์ดนี้เธอก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครมาเยี่ยมเลยสักคน สงสัยว่าบ้านของป้าคงอยู่ที่ต่างจังหวัดแน่ๆ และป้าก็อยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ป้าคงคิดถึงลูก

“ป้ารู้เบอร์ที่บ้านไหมคะ”

“บ้านป้าไม่มีโทรศัพท์หรอก แต่บ้านยายแม้นที่อยู่ใกล้ๆ น่ะมี ป้าจำเบอร์ยายแม้นได้”

เธอล้วงโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาก่อนถามเบอร์จากป้า

“...ป้า...ป้าขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูกดเบอร์ให้ แล้วจะไปทำคนไข้อีกสองเตียง ป้าคุยเสร็จแล้วกดปุ่มสีแดงตรงนี้นะคะ แล้วหนูจะกลับมาหาป้าอีกที”

แกยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว จนเธอต้องรีบรับไหว้และยื่นไปจับมือป้าเอาไว้

“ไม่ต้องไหว้หนูหรอกคะป้า เรื่องแค่นี้เอง โทรศัพท์ของหนูก็มีโปรโทรฟรีอยู่ ป้าไม่ต้องเกรงใจเลยนะ คุยนานๆ ก็ได้”

เธอเข็นรถไปยังเตียงต่อไป และเมื่อเธอวนกลับมาอีกครั้ง ป้าก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้ เธอเห็นสีหน้าของป้าแล้วก็รู้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ป้าพึ่งร้องไห้ และที่โทรศัพท์เองยังมีรอยคราบน้ำตาชื้นๆ ติดอยู่ด้วย แต่ป้าไม่ยอมพูดอะไร และเพราะเธออยากจะลงเวรเร็วๆ เธอจึงไม่ได้เอ่ยปากซักถาม

ตกบ่ายเธอก็เดินออกมาจากตึกโดยสวมชุดสวย ชุดพยาบาลนั้นถูกแขวนเก็บไว้ในตู้ของเธอบนวอร์ด แต่ในขณะที่หันหลังเดินจากไป ภาพใบหน้าของป้ามาลียังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ เธอเคยเห็นใบหน้าแบบนั้นมาก่อน เธอทำงานเป็นพยาบาลมาหลายปีแล้ว เธอเคยพบเจอกับคนไข้มากมาย และเธอเคยเห็นใบหน้าแบบนั้นมาก่อน

เธอไปตามนัดหมาย อาหารมื้อนั้นอร่อยมาก และแฟนหนุ่มก็ดีกับเธอเสียเหลือเกิน แต่ลึกๆ ลงไปภายในใจของเธอกลับเกิดความรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก เธอทำอะไรลงไปนะ สุดท้ายเธอก็ต้องขอตัวกลับก่อนเวลา และย้อนไปยังโรงพยาบาลอีกครั้ง

“เมื่อเย็นนี้ป้าแกพยายามจะโดดตึก”

เพื่อนของเธอที่มาขึ้นเวรต่อกระซิบบอก แต่สีหน้าท่าทางนั้นเหมือนกับรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้น มากกว่าจะเป็นความตกใจ หรือเศร้าใจ มันเป็นไปอย่างที่เธอคิดจริงๆ ใบหน้าแบบนั้น คือใบหน้าของคนที่รู้สึกว่าชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

“หมอให้ยาคลายเครียด กับสั่งให้จับตาดูเป็นพิเศษ...แต่ถ้าคนไข้เคยพยายามฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็คงไม่มีอะไรหรอก คนเราส่วนใหญ่พอถึงจุดต่ำสุดแล้ว และผ่านมันไปได้ เดี๋ยวก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเองแหละ”

เธอเองก็คิดคล้ายๆ กัน หากถึงจุดที่ตีบตันไร้ทางออก เมื่อผ่านช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตายมาแล้ว ส่วนใหญ่จะสามารถรับมือเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น เธอเดินมาหยุดที่ข้างเตียงมองดูใบหน้าของป้ามาลีในขณะที่กำลังหลับ ลมหายใจนั้นผ่อนช้า สม่ำเสมอ แต่บนใบหน้านั้นยังคงมีร่องรอยที่เธอเคยเห็นเมื่อตอนบ่าย

ทุกเรื่องราวล้วนมีข้อยกเว้น เธอนั่งลงที่ข้างเตียงท่ามกลางความแปลกใจของเพื่อนๆ

“ฉันขอนอนเฝ้าป้าละกันนะ”

เพื่อนพยาบาลต่างมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร อย่างน้อยก็ต่อหน้าเธอ แต่ลับหลังไม่รู้ว่าพวกเธอจะไปแต่งเติมเรื่องราวในวันนี้ให้มันเป็นอย่างไรต่อไป

บัวตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย แต่แล้วก็ลืมตาขึ้นอย่างเต็มที่ เธอมองไปบนเตียง และป้ามาลียังคงนอนอยู่ตรงนั้น ป้าเองก็จ้องมองเธออยู่เช่นกัน ข้างนอกยังไม่สว่าง ภายในวอร์ดยังคงมืดสนิท มีเพียงโต๊ะพยาบาลที่เปิดไฟไว้สลัวๆ ทิ้งไว้เท่านั้น แต่เธอก็สามารถมองเห็นแววตาของป้าได้อย่างชัดเจน

“...หนูรู้เรื่องของป้าแล้วใช่ไหมถึงมานอนอยู่อย่างนี้”

ป้ากระซิบเบาๆ

“...ค่ะ”

เธอตอบเพียงสั้นๆ ในใจอยากจะถามถึงเหตุผล แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

“...ผัวป้าตายไปแล้ว”

“เมาแล้วไปขับมอเตอร์ไชด์...ไอ้แดง...ลูกป้าที่ซ้อนรถไปก็...ก็ตายด้วย”

น้ำตาของป้าค่อยๆ ไหลรินลงมา เสียงของเธอแหบแห้ง

“ไม่มีใครส่งข่าวมาบอกป้าเลย...ถ้าป้าไม่โทรกลับไป ก็คงไม่รู้”

เธอปวดแปลบในอก ถ้าเธอใจร้ายไม่ยอมให้ป้ายืมโทรศัพท์ไปใช้ ป้าก็คงไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่ถึงอย่างนั้นสักวันหนึ่งป้าก็ต้องรู้อยู่ดี แต่ตอนนั้นป้าอาจจะรับมือได้ดีกว่านี้ก็เป็นได้ ไม่หรอก มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแม้แต่นิดเดียว

“ไม่เกี่ยวกับหนูหรอก อย่าเศร้าไปเลย”

ป้าพูดเหมือนกับเข้าใจความรู้สึกของเธอ

“ชีวิตคนเรามันก็เป็นอย่างนี้แหละ”

“...ป้าอย่าพึ่งท้อนะคะ ป้าต้องรักษาตัวเองให้หายดีก่อน แล้วป้าก็จะ...”

“สายไปแล้วล่ะหนู”

เสียงของป้าเยียบเย็น และบรรยากาสรอบกายของเธอก็เหมือนกับจะเย็นลงด้วย ขนบนหลังของเธอพร้อมใจกันลุกตั้งชัน ความรู้สึกบอกกับเธอว่าที่ด้านหลังมีใครมายืนอยู่ แต่เธอไม่กล้าพอที่จะหันกลับไป และดูเหมือนว่าร่างกายก็จะไม่ยอมรับคำสั่งจากเธอเช่นกัน

“ผัวกับลูกมารับป้าแล้ว พวกเราจะไปด้วยกัน”

เธอรู้สึกเหมือนกับมีเงาดำเคลื่อนไหววูบวาบมาตรงหน้าก่อนจะลืมตาตื่นขึ้น เธอมองไปบนเตียง และป้ามาลียังคงนอนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของป้าดูแปลกไป เธอรีบเอื้อมมือไปจับชีพจรที่คอของป้าทันที ตัวของป้ายังอุ่นอยู่ แต่ไม่มีอะไรเต้นอยู่ข้างใต้นั้น หรือไม่มันก็เต้นช้าเต็มที

เธอเอื้อมมือไปที่ปุ่มเรียกพยาบาลซึ่งห้อยอยู่ข้างเตียง ความฝันก่อนที่จะตื่นย้อนกลับมา เธอคล้ายกับได้ยินเสียงป้ามากระซิบที่ข้างหู ปล่อยป้าไปเถอะหนู ป้าอยากไปอยู่กับทุกคน เสี้ยววินาทีนั้นคล้ายกับยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเธอคิดจะช่วยชีวิตป้าก็ต้องทำเดี๋ยวนี้ทันที เสียงกระซิบนั้นยิ่งดังมากขึ้น ปล่อยป้าไปเถอะ

เธอส่ายหน้าอย่างแรง กดปุ่มเพื่อเรียกเพื่อนๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง เธอรีบจัดท่านอนของป้าเพื่อเริ่มการช่วยหายใจ และปั๊มหัวใจทันที มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เสียงเพจประกาศ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ และผู้คนวิ่งไปมา จนคนไข้ที่อยู่เตียงอื่นๆ พากันตื่นขึ้นมาจนหมด

บัวยืนอยู่บนดาดฟ้า ตรงตำแหน่งที่เธอคงไม่รู้ว่าป้ามาลีเคยมายืนอยู่ในตอนที่คิดจะกระโดดลงไป ตอนนี้ป้าปลอดภัยแล้ว แต่จิตใจของป้าจะเป็นอย่างไรบ้างคงไม่มีใครสามารถตอบได้ เธอได้แต่ถามตัวเองไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม แต่ก็ไม่มีคำตอบ ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงตัดสินใจไปอย่างนั้น

ถ้าปล่อยให้ป้าจากไปมันจะดีกว่าไหมนะ

บัวทอดถอนใจ มองดูดวงอาทิตย์สีส้มกลมโตที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าที่ขมุกขมัวจากควันพิษ และเงาทะมึนของหมู่ตึกที่เรียงรายปิดบังสิ่งอื่นๆ ที่ขอบฟ้าไปจนหมดสิ้น


Create Date : 21 กรกฎาคม 2554
Last Update : 21 กรกฎาคม 2554 12:18:45 น. 0 comments
Counter : 477 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.