|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ข้าวต้มปลา
ฉันนั่งเหม่อมองดูแสงไฟจากรถยนต์คันแล้วคันเล่าที่วิ่งผ่านหน้าร้านข้าวต้มริมทางแห่งนี้ไป แสงไฟเหยียดยาวเป็นสายหากไม่คิดอะไรมากก็ดูสวยงามดีเช่นกัน รถเก๋งคันหนึ่งบีบแตรดังลั่นเมื่อถูกรถเก๋งอีกคันหนึ่งวิ่งแซงตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด รถเก๋งคันที่แซงพุ่งทะยานหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าจะเร่งรีบไปไหน
ข้าวต้มปลาได้แล้วจ๊ะ
ป้ามาลีที่ทำหน้าที่เป็นทั้งคนปรุง คนเก็บโต๊ะ และคนล้างจาน เพราะในร้านมีอยู่เพียงคนเดียว ยกชามกระเบื้องใบเขื่องที่มีควันร้อนฉุย มาวางลงตรงหน้า เนื้อปลาขาวๆ ชิ้นใหญ่ที่มีส่วนหนังกรุบๆ ติดมาด้วย นอนอวดโฉมอยู่บนข้าวเม็ดสวย ในน้ำซุปสีอ่อนๆ พร้อมผักโรย กระเทียมเจียว และกากหมูหอมๆ ตกแต่งมาเล็กน้อย
เอาเต้าหู้แห้งด้วยไหมจ๊ะ
ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้า เดี๋ยวนี้จะมีสักกี่ร้านที่ขายข้าวต้มพร้อมกับเต้าหู้แผ่น แห้งๆ แข็งๆ ซึ่งมีกลิ่นและรสที่เฉพาะตัวแบบนี้เหลืออยู่ ป้าเดินกลับมาพร้อมจานใบเล็กๆ ใส่เต้าหู้แห้งเอาไว้กองหนึ่ง กับเต้าเจี้ยวยำในถ้วยน้ำจิ้ม เต้าเจี้ยวที่ปรุงรสด้วยพริกกับมะนาว ซึ่งเข้ากันกับข้าวต้มปลาอย่างที่สุด
ที่ร้านแห่งนี้ไม่มีพวงเครื่องปรุงวางอยู่บนโต๊ะ ฉันจำไม่ได้แล้วว่าการกินพวกโจ๊กกับข้าวต้มนั้นต้องมีการปรุงรสด้วย น้ำตาล พริกป่น หรือพริกน้ำส้ม กันตั้งแต่เมื่อไร
ฉันหยิบเต้าหู้แห้งโรยลงไปในข้าวต้มเล็กน้อย น้ำซุปค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อของมัน ความกรอบจะค่อยๆ กลายเป็นความเหนียวนุ่มซึ่งจะให้รสสัมผัสที่แตกต่างออกไป ฉันหยิบเต้าหู้แห้งสองสามแผ่นใส่ปากอย่างเคยชิน ฉันมักกินพวกมันเล่นแบบนี้เสมอเมื่อมานั่งคุยกับ เขา เขาที่ฉันไม่อยากจะคิดถึงอีกต่อไป
มือของฉันหยุดค้างอยู่ในจานเต้าหู้ ความเคยชินของคนเรานี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ เราอาจจะใช้ชีวิตอยู่โดยไม่ต้องระลึกถึงสิ่งที่อยู่รอบกายเลยก็ได้ เพียงแค่อาศัยความเคยชิน ทำไปเหมือนๆ เดิมอย่างที่เคยทำมาเท่านั้น ฉันถอนหายใจพร้อมกับหยุดมือของตัวเอง และพยายามเลิกคิดถึงเขาด้วย
ข้าวต้มร้อนๆ อาจช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นก็เป็นได้ ข้าวเม็ดสวยในน้ำซุปรสกลมกล่อมผ่านลงสู่กระเพาะที่ว่างเปล่าของฉัน ความอบอุ่นที่ทำให้รู้สึกสบายตัวค่อยๆ ไหลซึมไปทั่วร่างกายอย่างช้าๆ นี่เป็นข้าวอย่างเป็นทางการมื้อแรกของฉันในวันนี้
ฉันใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาโดยเอาส่วนหนังจิ้มลงไปในเต้าเจี้ยวยำแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้ำจิ้มเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยเสริมรส หากมากเกินไปมันจะไปกลบรสหวานอร่อยของเนื้อปลาไปเสียหมด ฉันส่งเนื้อปลาอวบหนาชิ้นนั้นเข้าปาก
มันไม่มีรสคาวเลยแม้แต่น้อย มีแต่ความสดหวาน ที่ถูกเสริมให้ชัดเจนขึ้นด้วยรสเค็ม เปรี้ยว เผ็ด เล็กน้อยจากน้ำจิ้ม หากชีวิตคนเรามีแต่ความสุขแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน บางทีความสุขที่สม่ำเสมอก็อาจทำให้เราเคยชิน และเฉยชาต่อมันไปก็เป็นได้ เหมือนกับช่วงเวลาที่ฉันเคยอยู่กับเขา
เขาอีกแล้ว ฉันทอดถอนใจ ถึงแม้ตัวเขาจะจากฉันไปแล้ว แต่ตัวเขาที่อยู่ภายในใจฉันยังคงไม่ยอมจากไปโดยง่าย แม้แต่การนั่งกินข้าวต้มปลาของโปรดเพียงคนเดียวก็ยังไม่อาจทำได้เลย เงาของเขาที่กลายเป็นความเคยชินของฉัน ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ ตรงเก้าอี้ว่างตัวนั้นเหมือนเช่นเคย
ฉันคีบเต้าหู้แห้งที่ตอนนี้อาบชุ่มไปด้วยน้ำซุปเข้าปาก ถึงแม้รสสัมผัสของมันจะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่เมื่อเริ่มเคี้ยวมันก็แสดงลักษณะเฉพาะตัวของมันออกมาเช่นเดิม มันอาจจะเป็นเหมือนตัวฉันในตอนนี้ที่พยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตภายนอกของตัวเองเพื่อให้ลืมเขา แต่ลึกๆ ลงไปภายในแล้วทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเช่นเดิม
ฉันลืมเขาไม่ได้ น้ำตาค่อยๆ รินไหลออกมาจากสองตา ภาพเหตุการณ์ที่เขาเดินเข้ามาบอกลา ฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ภายในหัว ฉันคงไม่อาจใช้ชีวิตต่อไปได้โดยปราศจากภาพเหล่านี้ มันคงจะติดอยู่ภายในใจฉันไปตลอดกาล รวมถึง ความสุข รอยยิ้ม และหัวใจที่คงไม่อาจกลับเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ฉันกินข้าต้มปลาชามโปรดแกล้มกับน้ำตาของตัวเอง คำแล้วคำเล่าที่ผ่านไป นอกสองสามคำแรกแล้วฉันแทบไม่รู้ถึงความอร่อยของคำที่เหลือเลยแม้แต่น้อย ใช่ ฉันกินมันด้วยความเคยชิน กินมันเหมือนกับเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาให้ตักอาหารเข้าปาก กินมันโดยไม่ได้กิน
หนูเป็นอะไรไป
ป้าเดินมานั่งลงตรงเก้าอี้ว่าง เก้าอี้ที่เขาเคยนั่ง ป้าคงยืนดูอยู่พักหนึ่งแล้ว ก่อนตัดสินใจคุยกับเธอ
...เพราะเขาใช่ไหม
ป้าจำได้ว่าทุกครั้งเธอจะต้องมากับผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่ง ทั้งคู่จะนั่งกินข้าวต้มไปพร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่วันนี้เธอมาเพียงคนเดียว และนั่งร้องไห้ ไม่ว่าใครก็คงพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
...เราเลิกกันแล้วค่ะ
ป้าพยายามปั้นรอยยิ้มปลอบโยน เธอลืมความรู้สึกของวัยสาวแบบนี้ไปนานแล้ว ความรู้สึกใจเต้นตูมตามในยามที่ได้พบเจอกับคนที่ชอบ วันที่วาดหวังอนาคตไว้ร่วมกับใครอีกคนหนึ่ง คนที่จะฝากชีวิตเอาไว้ และใช้เวลาที่เหลือดูแลซึ่งกันและกัน
ป้าผ่านชีวิตมามากแล้ว ชีวิตที่สอนอะไรให้กับป้ามากมาย แต่ป้าก็รู้ดีว่าตัวเองไม่อาจบอกเล่าสิ่งเหล่านั้นให้หญิงสาวลูกค้าประจำผู้นี้เข้าใจได้โดยง่าย มีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ที่ไม่อาจสอนให้กันได้ นอกจากแนะนำและให้เขาทำความเข้าใจด้วยตัวเองเท่านั้น
น้ำตาของเธอยังคงไหลออกมาไม่ยอมหยุด ป้าพยายามคิดหาวิธีปลอบโยน หาวิธีอธิบายให้เธอเข้าใจ ป้าคิดจะลองเปรียบเทียบมันกับอะไรง่ายๆ อะไรบางอย่างที่ป้าและเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ก็ข้าวต้มปลาที่เธอกำลังกินอยู่นี้อย่างไรล่ะ แต่จะเริ่มต้นอย่างไรดีนะ
นี่หนู ลองคิดดูนะ ชีวิตคนเรากับข้าวต้มปลาชามนี้...
เสียงแตรรถแผดลั่นดังมาจากถนนห่างจากที่ตั้งร้านข้าวต้มแห่งนี้ไม่ไกลนัก รถเก๋งคันหนึ่งเบียดแซงรถเก๋งอีกคันในระยะกระชั้นชิด เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนท้องถนนในกรุงเทพอยู่เสมอ เพียงแต่ครั้งนี้โชคไม่ดีนัก รถทั้งสองคันแซงกันไม่พ้น คนขับตัดสินใจหักรถกลับ แต่นั่นยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก เมื่อรถเกิดเสียการทรงตัวและหมุนออกจากถนน
เธอและป้าลืมเรื่องทุกอย่างที่กำลังคุยกันอยู่ไปจนหมด แสงไฟหน้ารถส่องสว่างจ้าพุ่งเข้ามาราวกับสัตว์ร้าย เสียงดัง กลุ่มควัน และกลิ่นเหม็นไหม้กระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งคู่ต่างนั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ไม่ไหวติงราวกับถูกสะกดจิต
คนขับรถเก๋งสีดำคันนั้นปิดไฟหน้ารถของตัวเองได้ในที่สุด เมื่อสติและสายตาที่พล่าเลือนของทั้งคู่กลับคืนมา ทั้งสองก็พบว่า ตัวรถนั้นหยุดเบียดอยู่กับโต๊ะที่นั่งคุยกัน ชามข้าวต้มที่เธอกินอยู่เมื่อครู่นี้ลงไปแตกกระจายอยู่บนพื้น
เมื่อทั้งสองมองดูฝ่ายตรงข้ามก็พบว่า ทั้งใบหน้าและเสื้อผ้านั้นปกคลุมไปด้วยเศษฝุ่นมอมแมมเต็มไปหมด คนขับรถค่อยๆ ขโยกเขยกลงมาจากรถพร้อมกับถามทั้งสองอย่างตื่นเต้นว่ามีใครบาดเจ็บอะไรมากไหม
และเขาต้องยืนงงเมื่อพบว่าทั้งสองคนที่พึ่งเฉียดผ่านความตายมาเมื่อครู่นี้ กลับมองหน้ากัน แล้วเริ่มหัวเราะ
ในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด ในช่วงเวลาที่ความเป็นกับความตายก้าวเดินไปด้วยกัน เขากลับไม่อยู่ในความคิดของเธอเลยแม้แต่น้อย คนที่เธอคิดว่ามีความสำคัญมากที่สุด เป็นดั่งชีวิต เป็นดั่งลมหายใจของเธอในตอนนี้ ไม่มีแม้แต่เงาของเขาให้เธอเห็น
ป้าที่เคยเข้าใจว่าตัวเองได้พบได้เจออะไรมาแล้วมากมายในชีวิต แต่เมื่อยามที่ความตายที่เธอคิดว่าคุ้นเคยโผล่หน้ามาหา ป้าจึงพึ่งรู้ตัวว่าเขายังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอเหมือนที่เคยผ่านมา เธอไม่ได้รู้จักเขามากกว่าเดิมเลยสักนิด
ในขณะที่คนขับรถยืนงง ทั้งสองก็รู้สึกว่าตัวเองได้เติบโตขึ้นแล้ว แม้จะเพียงนิดหน่อยก็ตามที
Create Date : 07 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 21 กรกฎาคม 2554 11:39:39 น. |
|
1 comments
|
Counter : 621 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นายเรียว. (นายเรียว ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:31:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|