สุนัขไม่กล้าเดินผ่านทางมืดๆ ทำไงดี ? และทำไม Mastering the walk ถึงเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้?
ตามธรรมชาติของลูกสุนัขในธรรมชาติ เวลาเดินตามจ่าฝูงหรือ ตามฝูงรุ่นพี่ออกไปสำรวจ เวลาลูกสุนัขเดินไปเจอเส้นทางที่เขาไม่มั่นใจ เช่น ทางมืด หรืออันตราย ลูกสุนัขจะหยุด ไม่เดินต่อ อาจจะดมๆ เพื่อตรวจดู และ รอดูสุนัขรุ่นพี่ตัวอื่นๆว่าจะแก้สถานการณ์อย่างไร จะเดินต่อหรือวกไปทางอื่น ถ้ารุ่นพี่หรือ จ่าฝูงเดินต่อ เขาก็เดินต่อ แต่ถ้ารุ่นพี่ไม่เดินต่อ เขาก็ไม่เดินต่อเช่นกัน ลูกสุนัขจะไว้ใจจ่าฝูง และไว้ใจสุนัขรุ่นพี่ในฝูง และเชื่อใจว่าพวกเขาจะปกป้องลูกสุนัขให้พ้นจากอันตราย และจากศัตรูได้ ลูกสุนัขจึงเป็นผู้ตามที่ดี เนื่องมาจากความไว้ใจ เชื่อใจ เคารพ และ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับฝูง ด้วยเหตุนี้ลูกสุนัขจะเรียนรู้ได้จากฝูง ถึงบริเวณที่ปลอดภัย และ บริเวณไหนต้องห้าม
ด้วยเหตุนี้ เราถึงไม่เห็นลูกสุนัขจรโดนรถชนแม้เขาจะวิ่งเล่นกันตรงฟุตบาท หรือ ไม่มีลูกสุนัขจรเดินตกท่อ ก็เพราะเขามีผู้นำที่ดี ผู้นำที่เป็นแบบอย่างให้กับลูกสุนัข ที่สามารถสอนลูกสุนัขให้รู้กฎต่างๆได้โดยที่ไม่มีคำพูด(เพราะเขาพูดไม่ได้) เขาอาศัยภาษากาย พลังจิตใจ และการสัมผัสร่างกายซึ่งกันและกันเช่นการดุล การดัน การกัดเตือน เป็นต้น ซีซาร์ได้แนะนำว่า การสอนสุนัข การตักเตือนสุนัขให้ได้ผล เราไม่ต้องพูดให้เสียเวลา(เพราะสุนัขไม่ใช่เด็ก ไม่ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ เพราะเขาไม่มีทางเข้าใจภาษาเอเลี่ยนของเรา) ให้ทำเลย คือตักเตือนแบบไม่ใช้คำพูด สุนัขจะเข้าใจและยอมทำตามมากกว่า
ถ้าเราพาลูกสุนัขหรือสุนัขโตไปเดินในสถานที่ที่เขาไม่คุ้นเคย หรือ ทางที่เขาไม่มั่นใจ ทางมืด แล้วเขาหยุดไม่ก้าวเดินต่อ เราควรรอสักพัก ให้เขาได้ดม แล้วกระตุ้นเล็กๆให้เขาก้าวต่อ และรอให้เขาดม และ กระตุ้นให้ก้าวเดินต่อ อาจใช้เวลานานในการสร้างความมั่นใจ แต่เราต้องเป็นจ่าฝูงที่เป็นแหล่งพลังงานให้ลูกฝูง เราต้องมั่นใจ และหนักแน่น และไกด์เขาให้เดินต่อไป ถ้าเขาเชื่อใจเรา ไว้ใจเรา เห็นเราเป็นจ่าฝูงที่ปกป้องเขาได้ทุกสถานการณ์ เขาก็จะเดินต่อ แต่ถ้าเขายังไม่เห็นว่าเราเป็นจ่าฝูงที่จะปกป้องเขาได้ หรือ เขายังไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเรา ก็ไม่ผิดที่ลูกสุนัขจะหยุดเดิน ไม่ยอมเดินต่อ เพราะเขาตัดสินใจที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง และ เชื่อจมูกของตัวเอง มากกว่าเชื่อการนำทางของเรา
เราต้องเป็นจ่าฝูงที่หนักแน่นขึ้น ในการเดินครั้งอื่นๆ หรือ สถานที่อื่นๆที่ไม่ใช่ที่มืด เราก็ต้องเดินให้ดี ให้สมบูรณ์แบบ Mastering the walk เพื่อให้เขามั่นใจ เชื่อใจเรา และยอมให้เรานำทางเขาไปทุกๆที่ ถ้าเราทำให้เขาเชื่อใจ และเป็นจ่าฝูงเขาได้ 100% แล้ว เขาก็พร้อมจะลุยไปกับเราทุกที่ ไม่ต้องลังเล หรือ หวาดกลัวสิ่งใด เพราะเขารู้ว่าจ่าฝูงคนนี้จะพาเขารอดปลอดภัยเสมอ
ซีซาร์แนะนำว่า วิธีเดียวที่จะสร้างสัมพันธ์ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสุนัขของเรา เชื่อมโยงด้านความคิด เชื่อมโยงจิตใจ สร้างความนับถือ ความเคารพ ความเชื่อใจ เราจะได้สิ่งเหล่านี้จากสุนัขของเราแบบถาวร และ ได้อย่างรวดเร็ว โดยผ่านการเดินแบบ Mastering the walk เท่านั้น
การพาสุนัขเดินทุกวัน จำเป็นมาก เป็นสิ่งที่ต้องทำ และไม่มีกิจกรรมอื่นๆมาแทนที่การเดินได้ แม้เราจะมีลู่วิ่งให้สุนัขได้ระบายพลังงาน มีจักรยาน มีสเก็ต มีกิจกรรมAgility มีการฝึกTricks เข้ามาช่วย แต่สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกของวัน คือการพาเดินแบบ Mastering the walk แล้วหลังจากนั้นค่อยมีกิจกรรมอย่างอื่นเสริมเข้ามา
แต่ถ้าเราฝึกแต่Tricks ฝึกแต่เชื่อฟังคำสั่ง ไม่เคยเดินด้วยกันแบบ Mastering the walk เลย สุนัขกับเราก็จะไม่เชื่อมโยงทางจิตใจ ไม่หลอมเป็นหนึ่งเดียว สุนัขอาจทำตามสั่งได้ดี ไม่เคยพลาด กระโดดลอดห่วงไฟได้ คาบตะกร้าได้ แต่เขาก็จะทำไปแบบไม่มีจิตวิญญาณ ก็จะเหมือน ครูฝึก กับ สุนัข เวลาโชว์การแสดง ซึ่งขาดความมีชีวิตชีวา และเราจะดูออกว่านี่คือ ครูฝึก แต่ไม่ใช่ เจ้าของ สุนัข
Create Date : 29 มกราคม 2553 |
|
12 comments |
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 13:28:06 น. |
Counter : 4228 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้กำลังพาเดินแบบ mastering the walk อยู่
มีข้อสงสัย คือ ถ้าเราไม่สะดวกพาเค้าเดินตอนเช้า แต่จะพาเดินทุกเย็น อย่างนี้จะได้รึเปล่าคะ
แต่ช่วงเช้าก็พยายามหางานให้เค้าทำ ก่อนที่จะได้กินข้าว คือ ปาบอลให้ไปคาบมาคืนประมาณ 10-15 ครั้ง(ถ้ามากกว่านี้เค้าจะเหนื่อยแล้วไม่ค่อยยอมทำ) ทำเสร็จก็เข้ามานอนพักเหนื่อยแปปนึง ค่อยกินข้าว ตามด้วยทวน trick ต่างๆ...แบบนี้จะพอได้รึเปล่าคะ?