เวลาสุนัขเลียปาก หรือ แลบลิ้นแผลบๆ หมายถึงอะไรกันแน่ (ถ้าไม่นับเวลาเพิ่งกินเสร็จ)
การแลบลิ้นเลียปาก แลบหุบๆติดๆกัน หรือ เลียอากาศ
มี 2 ความหมาย (ในเชิงบวก) -อย่างแรก เขากำลังจะสื่อให้สุนัขอีกตัวรู้ว่า เขามาดี เขาไม่ได้ต้องการท้าทาย หรือ ไม่ต้องการต่อสู้ สุนัขจะแสดงอาการแบบนี้เมื่อถูกสุนัขอีกตัวท้าทาย หรือ เขาอยู่ในภาวะถูกคุกคาม และการเลียปาก แลบลิ้น เป็นภาษากาย ที่สื่อสารกันเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างการเผชิญหน้าระหว่างสุนัขกับสุนัข ในสถานการณ์แบบนี้อาจเห็นการหาวร่วมด้วย
-อีกความหมายคือ "ขอความเป็นส่วนตัว"
จะเห็นสุนัขเลียปากตัวเองเ มื่อมีสุนัขตัวหนึ่งชวนสุนัขอีกตัวเล่น แต่มีตัวหนึ่งที่เหนื่อยแล้วไม่อยากเล่น อยากพักผ่อน ตัวที่อยากพักผ่อนจะเลียปากตัวเอง เหมือนบอกสุนัขอีกตัวว่า "ฉันขอปลีกตัวออกมาละกัน ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายนะ จะพักผ่อนแล้ว" ประมาณนั้น
บางท่านจะเจอบ่อย เมื่อสุนัขแลบลิ้นเลียปาก มองจ้อง ขณะเรากำลังทานอาหาร หรือ ถือขนม แล้วหมายถึงอะไร?
ในโลกสุนัข จะไม่มีตัวไหนมองจ้องอีกตัวขณะกิน ถือว่าเป็นการท้าทาย เสียมารยาท เกิดการต่อสู้กันง่ายมาก ถ้าตัวไหนเผลอไปมองจ้องจ่าฝูงขณะกินเข้า อาจโดนจ่าฝูงขู่หรือแยกเขี้ยวกลับมาได้ เหมือนเป็นการบอกสุนัขลูกฝูงว่า เจ้าจงถอยออกไป นี่อาหารของฉัน เจ้าไม่มีสิทธิ์ ถ้ายังอยากจะเข้ามาอีก เจอดีแน่
สุนัขที่มองสุนัขอีกตัวขณะกิน จะไม่จ้อง อาจแค่ชำเลืองมอง และหัน หลบสายตาไปมองทางอื่น อาจจะชำเลืองมามองแป๊ปนึงแล้วก็หลบสายตาไป ก็จะเลียปากร่วมด้วย ประมาณนั้น เพราะเขารอว่า จะมีเศษเหลือให้กินไหม การเลียปาก เหมือนเป็นการบอกสุนัขที่กำลังกินว่า เขาไม่ได้ต้องการแย่ง หรือ ท้าทายแย่งชิงอาหารชิ้นนั้น การเลียปาก เป็นภาษากาย เพื่อป้องกันการเกิดการต่อสู้ และทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียด นั้นลดลงได้
เมื่อสุนัขมาอยู่กับคน ก็ยังคงพฤติกรรมเหล่านั้นอยู่ แต่คนมักไม่เข้าใจพฤติกรรมสุนัข ไม่เข้าใจจิตวิทยาสุนัข พอเห็นสุนัขเลียปากเวลาเห็นเรากิน ก็ทึกทักว่าเขาต้องคิดเหมือนคน ( เอาจิตวิทยาของคนมาใช้ในการประเมินสถานการณ์) เขาคงหิว คงอยากกิน เราก็ใจดี ใจอ่อน ก็เลยแบ่งให้กิน นั่นคือคุณเป็นลูกฝูงเขาแล้ว ถ้าทำอย่างนี้เขาจะไม่เคารพ ผลตามมาคือสุนัขจะอ้วนเป็นหมู เสียสุขภาพ
ในโลกของสุนัข ถ้ามีลูกฝูงตัวไหนหาเหยื่อได้ หรือ กำลังกินอยู่ เมื่อจ่าฝูงรู้ว่าในฝูงมีอาหาร หรือมีลูกฝูงที่หาเหยื่อได้ จ่าฝูงก็จะมองลูกฝูงตัวที่หาเหยื่อได้ และ เดินตรงปรี่เข้ามาหาอาหารชิ้นนั้นทันที จ้องเขม็ง ลูกฝูงจะปล่อยอาหารชิ้นนั้นทันทีแค่เพียงการจ้องของจ่าฝูง แล้วลูกฝูงต้องถอยออก และให้อาหารชิ้นนั้นแก่จ่าฝูง นั้นคือ ธรรมชาติที่เกิดในฝูงสุนัข ผลผลิตของฝูง จ่าฝูงต้องได้ก่อนเสมอ
ถ้าสุนัขจ้องคุณ มองคุณ จะแลบลิ้นหรือไม่ก็ตาม แล้วคุณก็แบ่งของกินให้ทันที ก็ไม่ต่างอะไรกับเรายอมให้เขาเป็นจ่าฝูง เพราะเมื่อไหร่เขามอง(สั่ง) ก็ได้กิน
ในเวลามื้ออาหารคน สุนัขห้ามมองเราขณะทานอาหาร และเขาต้องอยู่ห่างจากบริเวณที่เราทานสักระยะหนึ่ง ห้ามปีนป่าย ห้ามเห่า ห้ามครางหงิงๆ แม้เขามองด้วยสายตาน่าสงสารจับใจ ก็ไม่ต้องให้ เราต้องทานให้เสร็จเรียบร้อย เก็บจานชามเรียบร้อย แล้วค่อยถึงเวลามื้ออาหารของสุนัข ห้ามปนกัน เช่น เรากินคำ สุนัขกินคำ จะต้องแบ่งแยกชัดเจน คนกินก่อน สุนัขกินทีหลัง
สุนัขไม่ใช่มนุษย์ เด็กเลียปาก เพราะอยากกิน แต่สุนัขไม่ใช่เด็กมนุษย์ เพราะฉะนั้นเขาไม่คิดเหมือนมนุษย์
--------------------
เมื่อเราพูดถึงภาษากายการเลียปากในเชิงบวกไปแล้ว การเลียปากก็เป็นภาษากายในเชิงลบได้เช่นกัน เหมือนกับการกระดิกหางของสุนัข คนมักคิดว่าสุนัขกระดิกหางคือสุนัขเป็นมิตร แต่จริงๆแล้วสุนัขกระดิกหางแล้วเตรียมตัวกัดก็ได้
การอ่านภาษากายสุนัขควรดูโดยรวมประกอบกัน อย่าดูเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น อย่าดูแต่หาง ควรดูหู ดูปาก ดูตา ดูกล้ามเนื้อลำตัว ร่วมด้วย ที่สำคัญที่สุดคือดูภาวะอารมณ์และพลังงานของสุนัขที่สือออกมาว่าสุนัขตึงเครียดหรือผ่อนคลาย พลังงานของสุนัขสำคัญที่สุด สำคัญกว่าภาษากายทั้งปวง
การเลียปาก (ในเชิงลบ) หมายถึงสุนัขเตรียมการไล่ล่าเหยื่อ เตรียมจู่โจมเหยื่อ หรือ เตรียมตัวกัด
-การเลียปากในสุนัขที่กำลังเข้าสู่โหมดล่าเหยื่อ
ถ้าสุนัขเห็นวัตถุใดวัตถุหนึ่ีง แล้วจ้องตาเขม่ง โฟกัสไปที่สิ่งของสิ่งนั้นแบบไม่กระพริบตา หูตั้ง หัวก้มต่ำลง ตัวโน้มไปข้างหน้า หรือ หมอบหัวลงต่ำขาหน้าย่อเหมือนเตรียมตะครุบ หรือ หมาจ้อง หูตั้ง พร้อมกับยกขาหน้าขึ้นมาหนึ่งขา และเลียปาก นั่นเป็นภาษากายแสดงถึงสุนัขเข้าสู่โหมดไล่ล่า หลังจากนี้สุนัขจะพุ่งเข้าจู่โจมวัตถุชิ้นนั้น เช่น บอล นก แมว หรือแม้แต่เด็กทารก
เมื่อเราเจอสุันัขมีอาการแบบที่กล่าว เราต้องตักเตือนทันทีโดยใช้การฉก หรือ กระตุกสายจูง เพื่อเรียกสติสุนัขให้กลับคืนมา ให้หลุดจากภวังค์การไล่ล่า ต้องเตือนจนกว่าสุนัขจะเลิกจ้องวัตถุชิ้นนั้น และ หันกลับมามองหน้าเรา และ พลังงานเปลี่ยนเป็นผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด ถ้าเราเตือนช้าไปกว่านี้ ไปเตือนตอนสุนัขวิ่งพุ่งใส่แล้ว การเตือนจะล้มเหลว
-การเลียปากในสุนัขที่ไม่มีความมั่นใจ หรือ ลังเลในสถานการณ์๋
ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับสุนัขที่ไม่มีความมั่นใจเป็นทุนเดิม เมื่อเขาไปอยู่ในสถานการณ์ที่เขาไม่มั่นใจ หรือ อยู่ใกล้วัตถุหรือคนที่เขาไม่คุ้นเคย สุนัขจะตาเบิกโต หูลู่ ตาลอกแลก หันหน้าไปมาเหมือนกับจะเผชิญหน้าดีหรือจะหนีดี สุนัขอาจมีการจ้องวัตถุชิ้นนั้นๆ หรือ จ้องตาเรา พร้อมกับเบี่ยงตัวหนี และ เลียปาก กุจะลู่ไปข้างหลังหรือชี้ไปด้านข้าง สุนัขอาจยกขาหน้าขึ้นมาหนึ่งขา หรือ ไม่ยกก็ได้ ร่วมกับหางจุกตูด หรือ ไม่จุกตูดก็ได้
อาการอย่างนี้แสดงถึงสุนัขที่ไม่มั่นใจ สิ่งที่เขาจะเลือกเผชิญหน้าลำดับต่อจากนี้คือเขาอาจหนี หรือ สู้กลับ
ถ้าเราเจอสุนัขที่มีอาการไม่มั่นใจ แล้วเรายังฝืนเข้าไปทักทาย เข้าไปใส่สายจูง เข้าไปลูบหัว รับรองว่าสุนัขจะกัดสวน เพราะสุนัขเลือก"การสู้กลับ"เพื่อตอบโต้เรา หรือ สุนัขอาจเข้าสู่โหมด"วิ่งหนี"จากสถานการณ์
เมื่อไหร่ก็ตามที่สุนัขแสดงอาการไม่มั่นใจ สิ่งที่เราต้องทำอันดับแรกคือ เรานิ่งและสงบ ห้้ามกลัว ห้ามตื่นเต้น ห้ามรีบ เราต้องนิ่งเข้าไว้ และอย่าให้สุนัขหนีจากสถานการณ์ไปได้ อย่าโอ๋ อย่าอุ้ม อย่าพูด ให้ใช้สูตร No touch No talk No eye contact ดีที่สุด สุนัขอยู่ในสายจูง และ ให้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ เมื่อสุนัขหนีไม่ได้ สุนัขก็จะเลือกสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน แล้วเขาก็จะเข้าไปดม เมื่อเขาได้ดม เขาก็จะมั่นใจขึ้น เขาก็จะไม่กลัว แล้วเขาก็จะไม่หนี ไม่ก้าวร้าว
หมาที่ไม่มั่นใจในตัวเอง สิ่งที่ต้องทำเยอะๆก็คือ สนับสุนัขให้เขาใช้จมูกเข้าไปดม เขาไม่มั่นใจสิ่งไหน ยิ่งต้องให้ดมสิ่งนั้น
ถ้าเราเจอสุนัขที่มีอาการไม่มั่นใจ เราห้ามจับตัวสุนัขเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราถูกกัดได้ เราควรทำใจให้นิ่ง ใช้สูตร No touch No talk No eye contact เข้าไปหาโดยหันข้างเข้าใส่ ลดการเผชิญหน้า ห้ามโน้มตัวหรือมืออ้อมหัวสุนัขเด็ดขาดเพราะจะทำให้สุนัขกัดได้ ให้นั่งย่อตัวลงหันข้างให้ แล้วรอจนกว่าสุนัขจะเข้ามาดมเราก่อน ถ้าสุนัขดมแล้วอยู่ใกล้ๆเรา เอาตัวหรือจมูกมาดุนมือเรา แปลว่าหมายอมให้เราสัมผัสตัว เราถึงสัมผัสได้ หรือ ค่อยๆใส่สายจูง แต่ถ้าดมแล้วสุนัขเดินหนีก็อย่าตามไปจับตัวสุนัข เพราะจะถูกกัดได้ หรือ สุนัขเดินหนีเราไม่ยอมดม ก็ไม่ต้องตาม ไม่เช่นนั้นก็เสี่ยงถูกกัดเช่นกัน

Create Date : 26 มกราคม 2553 |
|
21 comments |
Last Update : 28 ธันวาคม 2553 10:29:07 น. |
Counter : 51929 Pageviews. |
|
 |
|