วันเข้าพรรษา 2552 นู๋น้ำพาทำบุญ 2 วัด (เค้ามี 9 วัด เรา 2 ก็พอ คิคิ)

เมื่อวานเป็นวันเข้าพรรษาได้ไปทำบุญที่วัดกันมารึป่าวคะ หนูน้ำหมายถึงไปทำบุญที่วัดตอนเช้าหน่ะคะ หนูน้ำไม่ได้ไปแต่ถ้าอยู่ที่บ้านกับแม่ก็คงไปหน่ะคะ เดี๋ยวนี้ต้องเป็นรับช่วงต่อการไปทำบุญที่วัดคะ แม่ทำกับข้าว หนูน้ำไปวัด ใส่บาตร ฟังพระสวด กรวดน้ำ แต่ไม่ทานข้าววัดหรือเก็บกับข้าวกลับบ้านนะคะ หลายคนทำกันอย่างนั้นแต่ยายกับแม่สอนว่าเราทำบุญแล้วต้องไปไม่เอากลับไปด้วย

ตอนแรกหนูน้ำก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนแต่เอกี้โทรมาหาตอนคืนวันอังคารว่าไม่ได้กลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้ไปทำบุญกัน นู๋น้ำก็ถามว่า ทำไมแกไม่ตื่นแต่เช้าไปใส่บาตรพระอะ ได้คำตอบกลับมาเป็นเสียงหัวเราะ ก๊ากๆๆ นู๋น้ำรุ้ว่าเพื่อนหนูน้ำตื่นเช้ากันไม่ค่อยได้ เดี๋ยวนี้หนุน้ำก็กลายเป็นคนตื่นสายไปแล้ว

เพื่อนๆๆ ชอบแซวว่า มานตื่นมาแต่เช้าทำนู้นนี่ เดี๋ยวสายๆๆ มันก็นอนต่อ ถูกของเค้าคะ นู๋น้ำเป็นอย่างงั้นจิงๆ

เริ่มนอกเรื่อง กลับมาเรื่องการไปทำบุญที่วัดกันดีกว่าคะ เอกี้มานมาหาหนูน้ำซะเกือบเที่ยงคะ เราเริ่มกันที่วัดใกล้หอพักนู๋น้ำก่อนนั่นคือ วัดระฆัง JingleBell Temple



ชื่อวัดที่ถูกต้อง คิคิ แต่นี่ไม่ใช่ทางเข้าด้านหน้านะคะ แต่เป็นป้ายที่อยู่ริมน้ำคะ สามารถเดินทางมาได้ 2 ทางนะคะ อย่างนู๋น้ำไปทางรถ (ตุ๊กตุ๊ก)คะ ก็เข้าหน้าวัด ถ้ามาจากวงเวียนใหญ่ สะพานพุทธก็เลยกรมอู่ทหารเรือมาหน่อยคะ หรือถ้ามาจากปิ่นเกล้าก็เลยโรงพยาบาลศิริราชมาหน่อยคะ หน่อยจิงๆๆ นะ อย่าเลยไปไกลอะ เดี๋ยวหาว่าม่ายเตือน หรืออีกทางนึงก็ข้ามเรือมาคะ มาได้จากหลายท่าอยู่ น่าจะมีจากตรงวัดพระแก้วหรือไม่ก็ตรงท่าพระจันทร์หน่ะคะ เลือกได้ตามใจชอบแล้วแต่สะดวกคะ



เดินจากทางเข้าเราก็จะเห็นป้ายนี้คะ



หลายๆ คนคงรู้อยุ่แล้วว่า ภัทราวดี อยู่ติดวัดระฆัง นู๋น้ำไม่เคยไปหรอกคะ ได้แต่รู้หน่ะ เหอะๆๆ ไม่ได้ช่วยเรื่องข้อมูลอะไรเลย

แล้วหนูน้ำก็เหลือบเห็นเจ้าตัวนี้คะ สวยดี



ไปไหว้พระกันคะ



แล้วจะขาดเสียไม่ได้ ทำให้สมกับชื่อวัดเค้าหน่อยเป็นไร นู๋น้ำจัดให้



ทำบุญเสร็จเราก็ต้องมาทำทานกันคะ

เพ่ขอหารปลา 2 เอกี้จ่ายเงิน ก๊ากๆๆๆ เป็นคนดีแบบอาศัยเงินเพื่อน



ไหนก็เป็นคนเสียเงินเราเลยเอาโฉมมาให้ดูกัน เค้าเป็นคนดี หุหุ

ตอนที่พวกเราเดินจะไปให้อาหารปลากันก็มีฝูงนกบินออกมาเต็มเลยอะ



เราเริ่มเดินทางต่อไปอีกวัดกันคะ แต่ก่อนไปขอทิ้งทวนด้วยต้นไม้ใหญ่ต้นนี้คะ ใหญ่จิงๆ



เราเดินทางต่อไปด้วยรถแท็กซี่คะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะไปวัดนี้ยังไง สรุปความฉลาดมีน้อยด้วยกันทั้งคู่ เลยไม่ได้จ่ายค่ารถเมล์เลย ไม่มีไรมากหรอกคะ จิงๆ แล้วนู๋น้ำงก นั่นเอง



ถึงแล้วคะ วัดไตรมิตร อย่าถามประวัติ ไม่รู้คะอ่านกันเอาเองนะคะ นู๋น้ำจัดให้อีกแล้ว



เราเข้าไปไหว้พระกันก่อนนะคะแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน



ผู้คนไปถวายเทียนพรรษาเพียบเลยคะ



โคมไฟระย้าในโบถสวยดีคะ เก็บมาฝาก ของจิงเค้าสวยแต่ว่าฝีมือการถ่ายรู้นั้น....



ชอบเป็นการส่วนตัวคะ ดูสงบมากคะ



อยู่ตรงหัวบรรไดลงโบถคะ ดูไว้นะคะ นี่เป็นสีดำ ติดตามกันต่อ

วัดไตรมิตรได้สร้างโบถหลังใหม่ น่าจะเรียกแบบนี้ได้เป็นหินอ่อนคะ จิงๆ ก็เสร็จแล้วนะ แต่ไม่อนุญาตให้เข้าคะ เรามาชมทั้งแบบจำลองกับของจิงกันก่อนแล้วกันนะคะ



แบบจำลองคะ ถ้าเห็นในเงาด้านหลังตู้จะเห็นคุณลุงกำลังพูดไมค์อยู่ แกพูดไม่หยุดเลย แล้วแกก็พูดเรื่องผ้าอาบน้ำฝนคะ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเรียกผ้าอาบน้ำฝน ไม่เรียกผ้าอาบน้ำคลอง น้ำบาลดาล น้ำปะปา เออเนอะ..ทำไมอะ

แกก็อธิบายคะว่าเมื่อสมัยพุทธการมีสตรีชื่อ.......(จำไม่ได้) จะไปถวายอาหารทุกวัน อยู่มาวันนึงฝนตกหลังพระก็ต่างคิดกันว่านางคงไม่มาหรอก เพราะฝนตกหนัก เลยตัดสินใจกันว่าจะอาบน้ำ ซึ่งสมัยนั้นพระมีผ้าอยู่ 3 ชิ้นไว้นุ่งห่ม เวลาอาบน้ำเลยต้องอาบในชุดวันเกิด

นั่นแหละที่นู๋น้ำจำได้ ไม่รู้ต่อจากนั้นคืออะไรแต่ก็เดาๆๆ กันเอานะ ข้าน้อยขออภัย



โบถใหม่ สวยใช่มั้ยคะ ไปดูของจิงนะ สวยกว่าในรูป มาดูที่เข้าไปกราบไหว้กันอยู่ตอนนี้กัน



แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ชอบแบบไหนเลือกแบบนั้นแล้วกันนะ เหอะๆๆ

จะได้รึป่าวที่บอกให้จำไว้ว่าท่านนั้นสีดำ แต่......



ตัวนี้สีขาว ใหญ่กว่าด้วย ก๊ากๆๆๆ

ไปดีก่า บ๊าย

Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 14:46:40 น. Counter : 2362 Pageviews.		3 comments
Share Tweet