The Wedding: เมื่อเขาไปรับฉันในวันรับตัว (17 ต.ค. 2549)
วันนี้นับได้ 1 เดือน 1 สัปดาห์ กับอีก 2 วัน ตั้งแต่วันรับตัวตามประเพณีจีน ย้อนนึกไปถึงวันนั้นนับเป็นวันที่ฉันเสียน้ำตามากที่สุดในบรรดาพิธีอื่นๆ ที่ผ่านๆ มา ฉันอ่อนล้าเพราะนอนเพียงแค่ชั่วโมงเศษๆ ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ หากแต่อยากจะหลับแต่หลับไม่ได้ เพราะงานหลายอย่างยังไม่เสร็จดี (อ่านได้จากตอนที่แล้ว The Wedding: "บ้าน" คืนก่อนวันรับตัว)
การนอนน้อยยังผลให้หน้าบวม ตาโหลไปทั้งวัน ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าสาวหลายคนที่จัดงานวันเดียวกันตั้งแต่เช้ามืดยันงานเลี้ยงฉลองในตอนค่ำจึงดูทรุดโทรม โชคดีที่ฉันยังมีโอกาสแก้ตัวในโอกาสหน้า ข้อผิดพลาดอีกอย่างในการเตรียมร่างกายของฉันคือฉันใส่ที่คาดผมตอนที่ตื่นนอนมาตอนตี 2:30 น. เพื่อลงมากินข้าวกับพี่ชาย ซึ่งถือเป็นขั้นตอนหนึ่งของพิธีในวันรับตัว
ฉันถูกพี่แอมเตือนในภายหลัง หลังจากที่พี่แอมพยายามจัดแต่งทรงผมด้านหน้าให้ฉันอย่างเต็มที่ว่า คราวหน้า "ห้ามใส่ที่คาดผม เพราะจะทำให้ผมลีบ จัดทรงไม่ขึ้น" วันนี้ทั้งวันฉันก็เลยรับเคราะห์กรรมไป เพราะผมหน้าตกลงมาทำลายความสงบสุขตลอดเวลา
หลังจากแต่งตัวเสร็จ และรอเวลาที่เจ้าบ่าวมารับตัว ฉันนิ่งและนั่งคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง คิดว่าหากเวลานี้เป็นสมัยโบราณ ฉันคงใจหวั่นใจไม่น้อย เพราะนับจากแต่งงาน และก้าวเท้าออกจากบ้านไป ผู้หญิงที่ออกเรือนไปแล้ว ไม่มีวันได้กลับมานั่งๆ นอนๆ ที่บ้านตัวเองอีกต่อไป ฉันนับว่าโชคดีไม่น้อยที่ไม่ได้เกิดมาในสมัยนั้น แต่หากลึกๆ ฉันก็ตระหนักดีว่า ในอนาคตฉันคงไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างที่ "เคย" เป็นมาอีกต่อไปแล้ว
แต่งตัวเสร็จแล้ว นั่งรอเจ้าบ่าว
เจ้าบ่าวแจกอั่งเปา ค่าผ่านประตู
เมื่อเจ้าบ่าวมาถึงบ้าน ทุกคนในครอบครัวหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องต่างๆ เพื่อเป็นการเลี่ยงพลังปะทะ ฉันเองนั่งรออยู่ในห้องนอนของอาม้ากับสุนัขเล็กๆ 2 ตัวที่นอนกับฉันมาตั้งแต่มันได้เข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน ความรู้สึกต่างๆ กำลังถาโถมเข้าใส่ฉัน มันมิใช่ความตื่นเต้น แต่เป็นความกลัว และความอ้างว้าง แปลกไหม ทำไมเจ้าสาวจึงมีความรู้สึกแบบนั้นหนอ
พบเจ้าสาวแล้ว กินบัวลอย
ไหว้เจ้า
ฉันจำประโยคที่อาม้าพูดตอนที่เรานั่งคุกเข่าลงต่อหน้าอาป๋าอาม้าว่า "ขอให้รักกัน หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน และนนท์ฝากน้องด้วย ดูแลน้องให้ดีนะ" เพียงแค่นี้น้ำตาก็ไหลเหมือนทำนบแตก ฉันร้องไห้อย่างไม่กลัวเมคอัพเลอะ
ทุกๆ ถ้อยคำที่แม่กล่าว ทุกๆ ประโยคที่แม่พูด แม่ยังคงห่วงลูกไม่เสื่อมคลาย
อาม้าติดใบทับทิม และปิ่นทองยู้อี่
ไหว้ลาพ่อแม่
ถ่ายรูปก่อนเดินทางตามฤกษ์ 7:00 น.
ถ่ายรูปหน้ารถรับตัวเจ้าสาว พร้อมกับหวยงวดต่อมาออกเลขทะเบียนรถ 29
ป๋าพรมรถรับตัวเจ้าสาวด้วยน้ำแช่ใบทับทิมเพื่อความเป็นสิริมงคล
ป๋าจูงลูกสาวส่งขึ้นรถ
ถึงนครนายกแล้ว แปลก!!! มีกั้นประตู
ประตูที่ 1
ประตูที่ 2
ประตูที่ 3
ประตูที่ 4 และมีพักยกไปไหว้พระภูมิเจ้าที่ และไหว้ฟ้าดิน
ประตูที่ 6 เข้าบ้านได้สักที นึกว่าหมดแล้ว....
ประตูที่ 7-8-9
เข้าห้องซะที กินบัวลอยกับน้ำชารอบ 2 เปิดผ้าแดงที่ปิดกระจก
สมบัติติดตัวมาของเจ้าสาว
ไปรับคุณแม่ที่บ้านอีกฝั่งหนึ่ง กราบเท้าฝากตัวเป็นลูกสาว
ทำพิธีรับไหว้ และยกน้ำชา ประเพณีจีนผสมไทย
ไหว้ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวทุกท่าน
เหนื่อยแล้ว ขอพักกินข้าวกลางวันก่อน
หลังจากผ่านพิธีในช่วงเช้า แขกบางส่วนแยกย้ายไปพักผ่อนตามที่ต่างๆ บางส่วนก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านพักที่รีสอร์ทที่นนท์จองไว้ให้ ถึงตอนนี้เราทั้งคู่ก็เลยได้แอบไปพักผ่อนงีบเอาแรงเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ หารู้ไม่ว่าเพื่อนๆ กลุ่ม Buffet Talk กำลังชุลมุนทำกับข้าวกันอย่างปาดเหงื่อ
ตื่นมาอีกที 5 โมงเย็น ฉันเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นแบบโมเดิร์นไชนีสแบบสบายๆ ถอดชุดตัวยาวรุ่มร่ามไปด้วยความเสียดาย เพราะฉันคงไม่มีโอกาสได้ใส่มันอีกแล้วละ ส่วนนนท์ยังคงใส่ชุดเดิมอยู่
บรรยากาศงานเลี้ยงกลางคืน
งานเลี้ยงคืนนี้มีเวทีเล็กๆ แบบหมอลำซิ่ง รูดเสาตามคำขอของลูกน้องเก่าคุณแม่ งานนี้เราเลยมีการขึ้นเวลาซ้อมใหญ่ก่อนขึ้นเวทีใหญ่ที่โรงแรมในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า
แขกมาแซว เลยขอลูบท้องเจ้าบ่าวหน่อย
งานเลี้ยงจบลงตอนเวลาเกือบ 3 ทุ่ม กว่าจะเก็บของก็เกือบ 4 ทุ่ม เราจึงข้ามฝากไปบ้านฝั่งโน้น เมื่อความวุ่นวายจบลง และความสงบวนเวียนเข้ามาอยู่ในใจอีกครั้ง เวลานี้คนที่ใกล้ชิดฉันกลับกันไปหมดแล้ว ฉันอยู่ตรงนี้ที่นี่ มีเธอ แต่ความเหงายังมาร้องก้องอยู่ในใจ ฉันร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ มันดูตลกมาก และฉันรู้ว่ามันตลก ปนปัญญาอ่อน ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร และฉันร้องเพราะอะไร ความเหงามันมาเดินเล่นอยู่ในใจ ใครจะไปเชื่อว่าคนอย่างฉันนะเหรอจะเหงา
เจ้าบ่าวหลายคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมวันรับตัว เจ้าสาวเกือบทุกคนต้องร้องไห้ ตอนนั้นฉันเองก็ไม่เข้าใจหรอก จนกระทั่งถึงทีตัวเอง หากมีว่าที่เจ้าบ่าวคนไหนผ่านมาและได้อ่านถึงตรงนี้ อยากให้รู้และเข้าใจว่าทุกอย่างคงไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล เพราะความเหงามันไม่เข้าใครออกใคร
ปิดท้ายด้วยภาพหางเครื่องบนเวที ที่เกือบทำใครหัวใจวายด้วยท่ารูดเสาปิดท้ายงาน
~~~~ ติดตามงานพิธีอื่นๆ ต่อไปในตอนหน้าค่ะ ~~~~
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2549 |
|
29 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2549 3:13:03 น. |
Counter : 2580 Pageviews. |
|
|
|
พี่หลีที่ร๊ากกกกกกก อย่างโกรธน้องเลยนะๆๆๆ
ดีใจกับพี่หลีพี่นนท์มาก และเชื่อว่าพี่ทั้งสองต้องมีความสุข
มากๆแน่ๆ ขอให้รักกันอย่างนี้และมีความสุขอย่างนี้
ตลอดไปนะจ๊ะ