|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ช่างกล้า (ลาออกจากงานเมื่ออายุปูนนี้)
แล้วฉันก็ลาออกจากงานอีกครั้ง สิ้นเดือนนี้แหละ...
หลายๆ คนเมื่อรู้ว่าฉันจะลาออกจากงาน ในขณะที่อายุย่างเข้าสู่ภาวะหางานยากเย็นเต็มที เผลอๆ อาจจะไม่ได้งานอีกแล้ว ต่างก็เอ่ยปากพูดเตือนสติกันใหญ่ คงคิดว่าฉันหลงหรือเพี้ยนไปแล้ว
บางคนก็ถามย้ำให้แน่ใจ คล้ายเป็นการบอกใบ้ว่าคิดให้ดี ในภาวะเช่นนี้ แม้แต่เด้กจบใหม่ ยังสดๆ ซิงๆ ยังหางานได้ยากเย็นแสนเข็ญ แต่ฉันโชคดีเท่าไหร่แล้วที่ได้งานเมื่อปีก่อนด้วยวัยกำลังจะตกกระ
นี่เพิ่งทำได้ปีกว่า ก็จะลาออกเสียแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นงานเกี่ยวกับหนังสือ อันเป็นงานที่ใฝ่ฝันมานานว่าอยากทำ แต่แล้วก็ไปไม่รอด
ไม่โทษใคร และไม่อยากโทษใคร แต่ถ้าต้องหาต้นตอของหัญหาให้ได้ ก็คงต้องโทษตัวเอง ที่ไม่อาจทำงานเข้าขากับคนอื่นได้
ไม่ชอบตามพวก ไม่ชอบซ้ำเติมใคร ไม่ชอบผสมโรงด่าคนที่เพื่อนๆ กำลังด่าอย่างเมามัน เพราะเจ้าตัวคล้อยหลังไปแล้ว
ไม่ชอบพูดเรื่องแฟชั่น หน้าตา ผมเผ้า และสารพัดที่กำลังอินเทรนด์ เพราะวัยอย่างฉัน หากมัวแต่สนใจเรื่องพวกนี้ มันก็จะเบียดบังเอาเวลาของสิ่งที่ฉันต้องสนใจจริงๆ ไป พร้อมๆกับที่ฉันต้องฝืนใจตัวเองเป็ฯที่สุด เพียงเพื่อต้องการให้ตัวเองเป็นทียอมรับของพื่อนๆ (รุ่นน้องทั้งนั้น เผลอๆ รุ่นลูกรุ่นหลาน แต่ต้องมาทำตำแหน่งเดียวกัน)
ฉันไม่อยากเป็นลูกน้องใคร โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกจ้างเหมือนกัน ซ้ำไม่ได้เก่งกาจกว่าฉันเลย ทั้งด้านความรู้ การใช้วิจารณญาณ หรืออื่นๆ เพราะอย่างที่บอก รุ่นลูกร่นหลานทั้งนั้น
ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากเป็นหัวหน้าหรือลูกพี่ใคร เพราะฉันไม่ชอบจับผิดคนอื่น ไม่ชอบออกคำสั่ง ไม่ชอบสอน แต่หากมาถามก็จะอธิบายให้ฟังอย่างกระจ่างแจ้งเลยเชียวแหละ
ที่สำคัญ...ฉันมีโลกส่วนตัวสูง มีความสุขหากได้ทำงานคนเดียวและรู้ดีว่าทำได้ดีกว่าทำกับคนอื่น
แม้จะเสียดายงานขนาดไหน แต่ฉันก็ต้องลาออก เพื่อหาโอกาสทำในสิ่งที่เอื้อให้เราได้ใช้ศักยภาพเต็มที่ ไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องเกรงว่าจะทำให้ใครเสียหน้า ฉันไม่เคร่งครัดกับตัวเองอีแล้ว ขอเพียงมีชีวิตอยู่อย่างผ่อนคลายในวัยที่กำลังร่วงโรยไปทุกขณะ
นี่นับเป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันต้องทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนที่ไม่มีโอกาสจะได้ทำ และที่ผ่านๆ มา ไม่เคยได้ทำอะไรเต็มที่สักที เพราะตัวขี้เกียจเกาะจนตัวเป็นขน
ไม่อยากคิดให้ปวดขมองอีกแล้ว เพราะเครียดมาทั้งชีวิต ขอเวลาบั้นปลายได้อยู่อย่างอิสระ สบายใจบ้างเถิด ขอทำในสิ่งที่อยากทำ เช่น งานประดิษฐ์เศษของเหลือใช้ อ่านหนังสือ และทบทวนความรู้ภาษาอังกฤษให้แตกฉานยิ่งกว่านี้ แล้วก็เขียนหนังสือที่อยากเขียน
ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ออกกำลัง หายใจเข้าลึกๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ฉันโหยหามานาน อ้อ! จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วย จังหวะนี้ดีเลย รัฐฯกำลังให้บรการรถไฟชั้น 3 ฟรี เที่ยวแบบซำเหมา ก็จะได้ขึ้นเหนือล่องใต้ได้อย่างสบายอารมณ์ เตรียมแต่ค่ากินกับค่าทีพัก ซ฿งฉันจะพยายามให้ประหยัดที่สุด
คิดแล้วมีความสุขจัง แต่ถ้าเจ้าความทุกข์แหลมหน้าเข้าเมื่อไหร่ ฉันจะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว
สุขใดหรือจะเท่ากับได้ทำในสิ่งที่พอใจและรักที่จะทำ งานนี้ เงินทองของมายา ข้าวปลาอาหารสิของจริงแท้แน่นอน ถ้าไม่ตะกละตะกรามมก ชีวิตก็เบาลงแน่นอน
Create Date : 27 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2551 23:48:19 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1319 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สลักดาว IP: 124.120.1.141 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:7:30:45 น. |
|
|
|
โดย: อนาคตอันสงบ IP: 202.57.134.226 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:15:18:26 น. |
|
|
|
| |
|
|
ยอมรับว่าน่านับถือจริงๆ...
ผมเองก็แบบนั้น..งานไม่ดี ไม่ถูกใจก็เดินออก นี่ก็เพิ่งเดินออก
ทั้งๆที่อายุก็เยอะ...หาใหม่แม้นจะรู้ว่าหายากขึ้น แต่ก็คิดว่า ฝีมือพอมี
คงน่าจะพอหาได้...ยิ่งนาทีนี้ โลกของการทำงานยุคใหม่..
ทุกคนต้องปรับตัว..ให้ทำงานได้ในหลากหลายองค์ความรู้ ในคนๆเดียว
้นั่นคือสิ่งที่ต้องปรับตัวตาม...ฉนั้นไม่ว่าเด็กรุ่นใหม่ รุ่นก่อน
คงต้องเท่าเทียมกัน...หาใช่อายุมากแล้วจะเสียเปรียบ
ผมว่าน่าจะได้เปรียบนะ...
......และสิ่งที่อิจฉาคุณอย่างมากเลยก็คือ...การมีชีวิตแบบที่คุณ
กำลังจะเป็น คืออิสระ...คิดอยู่เสมอว่า อยากทำอยากเป็นอย่างมาก
แต่...คงอีกนานเพราะยังมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบอยู่..
ดีใจด้วยครับที่คุณ...หลุดจากวงจรอันวุ่นวายไปได้...
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ....
....ขออภัยที่เข้ามาอ่านและออกความเห็นนะครับ