ปมด้อยของตำรวจอย่างคำรณวิทย์
คำรณวิทย์ เป็นนายตำรวจใหญ่มียศ "พลตำรวจโท" นำหน้า ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตำแหน่งนี้น่าจะมีเกียรติยศศักดิ์ศรีมากกว่านี้ ถ้าคำรณวิทย์มีพฤติกรรมคำพูดที่รู้จัก "ให้เกียรติ" คนอื่นบ้าง
คำรณวิทย์มีเบี้ยเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร เท่ากับกินเงินภาษีของประชาชนจนกระทั่งเรียนจบนักเรียนนายร้อย สถาบันการศึกษา อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ล้วนมาจากเงินภาษี ไม่ใช่มาจากคนที่เขาถือเป็นไอดอล
เหตุไฉน คำรณวิทย์จึงมุ่งแสดงความกตัญญูเฉพาะคนที่คุณคิด (เอาเอง) ว่าเขาเป็นคนทำให้สถาบันตำรวจมีหน้ามีตา เพราะเป็นนายตำรวจคนแรกที่ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วิถึทางที่มาเป็นอย่างไร คำรณวิทย์ไม่สนใจ
ช่างยึดติดกับสถาบันอย่างไม่ลืมหูลืมตา อย่างนี้จะไปว่านักเรียนที่ตีกันฆ่ากันเพราะเรื่องสถาบันได้อย่างไร
มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตำรวจคงรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย เพราะสถานภาพทางสังคมด้อยกว่าทหารมาก ทั้งที่เริ่มเรียนมาจากที่เดียวกัน
แต่นายทหารได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลายคน ในขณะที่ไม่เคยมีนายตำรวจคนใดเคยดำรงตำแหน่งนี้เลย
จนกระทั่ง นักโทษหนีคุกคนนั้นได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศสมใจอยาก เป็นที่เชิดหน้าชูตาของเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมสถาบันยิ่งนัก มองเห็นแต่คุณความดี ความเก่งกล้าสามารถที่ก้าวไปจุดนั้นได้ ทั้งที่นายกฯ คนที่ตำรวจเชิดชูมีพฤติกรรมคำพูดที่ไม่ชวนให้ศรัทธาเลื่อมใสสักนิด
แต่คำรณวิทย์ยกย่องคนผู้นี้ว่าเป็นคนที่เขาเคารพรักสูงสุด เพราะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่เหนือทหารได้
ไม่น่าเชื่อว่า คนระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคิดได้แค่นี้
มิน่า ถึงได้ยึดเอานักโทษหนึคุกมาเป็นแบบอย่าง แม้กระทั่งคำพูดถึงลูกน้องของตัวเองที่ทำงานพลาด
เชื่อแล้ว คำรณวิทย์ ว่าคุณจะต้องทำงานให้คนนั้น อย่างถวายชีวิตแน่ แต่อยากให้พิจารณาวาทกรรมของตัวเองที่บอกว่า สามารถจับคนร้ายที่ฆ่าตำรวจได้หลายท้องที่ มันสมควรพูดไหม เคยนึกถึงประชาชนหรือเปล่า
เคยนึกถึง "กระบี่พระราชทาน" ไหม หรือนึกได้แค่ว่า อดีตนายตำรวจมหาเศรษฐีแสนล้านได้เป็นนายกฯ ทำให้ลบล้างปมด้อยของตำรวจได้สำเร็จ ถือเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต
ความจริง การที่ประเทศไทยเคยมีนายกฯ เป็นอดีตตำรวจ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจดูดีหรือสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เลย กลับเสื่อมลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
นี่ต่างหากที่เป็นปมด้อยที่แท้จริงของตำรวจ หาใช่เพราะตำรวจไม่ได้เป็นนายกฯ ไม่
ปัจฉิมลิขิตต่อท้าย ฉันวิเคราะห์ความรู้สึกและความในใจของคำรณวิทย์ จากคำพูดหลายประโยคที่เขาเอ่ยออกมา สิ่งที่เขาเน้นคือ เขาเคารพทักษิณ เพราะทักษิณสอนให้เขาทำงานเพื่อประชาชน สอนให้เขาทำตัวให้เป็นที่รักของประชาชนและเพื่อนตำรวจ ซึ่งฉันคิดว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงในการแสดงออกซึ่งความเคารพรักนักเรียนนายร้อยรุ่นพี่อย่างทักษิณ เพราะหากยึดคำสอนดังว่า พระราชดำรัสของในหลวงน่ายึดถือมากกว่า เพราะทรงมีพระราชจริยวัตรเป็นแบบอย่างได้ ดังนั้น หากคำรณวิทย์จะเคารพทักษิณอย่างถวายชีวิต น่าจะมีอยู่สองอย่าง คือ อย่างหนึ่ง ทักษิณมีเงินให้ สอง ทักษิณทำให้ตำรวจอย่างคำรณวิทย์ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นคนบ้านนอก "กร่าง" ได้ ว่าประเทศไทยเคยมีตำรวจเป็นนายกฯ เหมือนกัน คงไม่ค่อยมีใครนึกถึงประเด็นนี้ ฉันจับความเอาจากคำพูดที่คำรณวิทย์ไม่ค่อยเน้นมาก ว่านั่นคือเหตุผลหลักที่ทำให้คำรณวิทย์ศรัทธาทักษิณ นอกเหนือจากเรื่องเงินที่ทักษิณมี น่าสงสารคำรณวิทย์...
Create Date : 08 กันยายน 2555 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2555 11:07:07 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1993 Pageviews. |
|
|
Time proof the people
Once upon a time, I like to jump into conclusion to any thing I come across. After 55 years in this world, I told myself to stop doing it. but the most difficult part is to give up the habit that I have for so long(Karma)