***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
แล้วก็ได้ทำสมความตั้งใจ (2)

เข้าไปฟังพระเทศน์ ท่ามกลางสายฝนปรอย ก่อนจะเดินกลับมาที่อาคารธรรมทานอีกครั้ง เพราะทิ้งกระเป๋าไว้ที่นั่น ระยะทางไม่ถึงร้อยเมตรกระมัง

เดินขึ้นไปชั้นบน เห็นหนังสือเยอะมาก เพราะเป็นร้านจำหน่ายหนังสือธรรมะของท่านพุทธทาสล้วนๆ มีถุงผ้า เสื้อยืดที่สะกรีนคำสอนของท่านด้วย แต่ด้วยเวลาน้อย ฉันจึงเล็งไว้ว่า ก่อนจะกลับกรุงเทพฯ ต้องมาอีกครั้งแน่

รถมารับตอนเก้าโมงกว่า เห็นกระเป๋าของเพื่อนใหม่สัมภาระของเพื่อนใหม่แล้ว ฉันอดออกปากถามไม่ได้ เธอบอกว่า จะอยู่ถึงโปรแกรมสี่เดือนเลย ที่จะเริ่มเดือนกรกฎาคมนี้ แล้วก็ยาวไปจนออกพรรษาเลย ท่าทางเธอมุ่งมั่นเส้นทางนนี้มาก ในขณะที่ฉันยังไม่แน่ใจว่า อยู่สิบวันนี่ตัวเองจะทุรนทุรายหรือเปล่า เพราะอยู่บ้านลำพัง แสนจะอิสระเสรี


มีเพื่อนร่วมทางวัยใกล้เคียงกันหลายคน ความไม่คุ้นชินสถานที่ ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ เมื่อไปถึงมีคนมารอรับอยู่ก่อนแล้ว โกนผมคล้ายแม่ชี แต่ใส่เสื้อขาว ผ้าถุงดำ

โชคดีมาก ที่มีคนมาไม่ครบจำนวน พวกเราจึงได้อยู่กุฏิคนละหลัง มีความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องอึดอัดใจ หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บ อาบนำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อขาวผ้าถุงดำ ก็ได้เวลาเพลพอดี

อ้อ! ที่นี่มีกฏว่า ห้ามคุยกัน ห้ามไปมาหาสู่กันระหว่างกุฏิ ห้ามใช้มือถือ (ฝากไว้ จนกว่าจะถึงวันกลับ) ห้ามทำเสียงดังไม่ว่าทุกกรณี

โอ้ อาหารเป็นที่ถูกใจฉันยิ่งนัก ข้าวกล้อง อาหารมังสวิรัติ ผักสด งาดำและเมล็ดธัญพืช พูดแล้วก็อาย เหมือนเห็นแก่กินอย่างไรก็ไม่รู้

ทุกคนกินอย่างสำรวม หากจำเป็นต้องถามกัน ให้ถามเบาๆ ฉันไม่ชินเลย และลืมกฏข้อนี้ เพราะฉะนั้น เวลามีคนมาคุยอะไร ถ้าได้ยินไม่ชัด ฉันขี้เกียจถาม ก็จะเออๆ คะๆ ไปตามเรื่อง เพราะคงไม่มีเรื่องอะไรคอขาดบาดตายกระมัง

เมื่อมานึกทบทวนดู กุฏิที่ฉันได้มีโอกาสพักอาศัย ช่างเหมือนบ้านเล็กๆ ในความคิดคำนึงของฉันที่อยากอยู่แบบนั้น มีของใช้เท่าที่จำเป็น ต่างกันก็ตรงที่ สภาพแวดล้อมที่ฉันฝันไว้ คือ ปลูกไม้ใหญที่ให้ผลกินได้ไว้รอบบ้าน ปลูกผักสดไว้กินเอง เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ อือม์...ความฝันเป็นจริงแค่ครึ่งเดียว ซ้ำยังได้อยู่ชั่วคราวอีกต่างหาก

ธรรมาศรมธรรมมาตา มีต้นไม้เยอะมาก มีศาลาเล็กๆ หลายหลังกระจายทั่วบริเวณ มีศาลาคุณย่าเคลื่อนใหญ่ที่สุดอยู่กลางนำ บรรยากาศเงียบสงบ ฉันชอบ...

ตื่นตีสี่ เริ่มทำวัตรเช้าในห้องโถงใหญ่ที่ตึกอำนวยการ ซึ่งมีเพียงโต๊ะหมู่บูชา และรูปถ่ายท่านพุทธทาส อยู่ด้านหน้า ให้พวกเรากราบไว้ก่อนทำวัตรสวดมนต์และนั่งสมาธิ จนถึงหกโมงเช้า จึงขึ้นไปออกกำลังกายชั้นสอง ครูฝึกก็คืออาจารย์สอนฝึกสมาธิ อายุท่านมากแล้ว แต่ยังกระฉับกระเฉง

อาจารย์สอนทำโยคะ โชคดีที่ฉันทำเป็นประจำอยู่แล้วในบางท่า จึงไม่มีปัญหาเรื่องดัดตัว ตอนหลังเปิดเทปชี่กงให้ฝึกตามด้วย โอ้ ดีจัง เสร็จจากรายการนี้ก็เป็นเวลาอาหารเช้า แล้วทำงาน"จิตอาสา" ก่อนจะแยกย้ายกันกลับกุฏิ ไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายต้วเองและที่พักด้วย

ระฆังเคาะอีกทีสิบโมงเช้า เพื่อไปฟังเทปพระธรรมเทศนาจากท่านพุทธทาส ฉันชอบ เพราะนั่งสมาธิฟังเทศน์ท่านไปจนจบร่วมชั่วโมง โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถเลย ฉันอดทนต่อทุกขเวทนาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าได้ฟังเทศน์ท่านพุทธทาสไปด้วย

สิบเอ็ดโมงฉันเพล แล้วกลับที่พัก บ่ายสองก็ม่ารวมกลุ่มเรียนธรรมะภาคทฤษฎีจากอาจารย์ที่เวียนกันมาสอนให้ หลังจากนั้น ฝึกสมาธิตามอัธยาศัย จนห้าโมงเย็น ฉันน้ำปานะ แล้วกลับกุฏิ ทุม่หนึ่งก็จะได้เวลาทำวัตรเย็นไปจนสองทุ่มครึ่งุ่

ฉันชอบเวลาสวดมนต์พร้อมๆ กัน ฟังดูขลังดีจัง...บรรยากาศและผู้คนรอบข้างสงบเยือกเย็นด้วย มีแต่เสียงหรีดหริ่งเรไรดังมาจากภายนอก ชอบมาก

ยาวอีกละ เขียนตอน 3 ดีกว่า


Create Date : 03 กรกฎาคม 2553
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 15:45:17 น. 0 comments
Counter : 408 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.