***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
เสวนานักเขียนรางวัลซีไรท์ 2010

เขียนรอบที่สอง เขียนไปตั้งเยอะจนจะจบอยู่แล้ว นิ้วมือกดพลาด ข้อมูลหายหมดเลย เซ็งมาก ต้องพยายามปลอบใจต้วเองให้คิดเสียว่า ได้ฝึกเขียนอีกรอบหนึ่ง หนนี้ถ้าหายอีก เป็นอันเลิก...

เมื่อวาน (วันที่ 3 พฤศจิกายน 2553) ไปงานเสวนานักเขียนบทกวีรางวัลซีไรท์ ปี 2010 มาค่ะ จัดที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ รู้ข่าวจากเพื่อนสมาชิกในพันทิปนี่แหละที่บอกกล่าว ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

งานเริ่มในเวลาประมาณเกือบบ่ายสอง เริ่มด้วยการกล่าวสุนทรพจน์จากนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้บริหารแบงก์กรุงเทพ ต่อด้วยอาจารย์ชไมพร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย (ทำกิจกรรมเยอะมาก เอาเวลาที่ไหนมาเขียนนิยายก็ไม่รู้) แล้วก็มีการแนะนำตัวของนักเขียนแต่ละประเทศดังนี้

Dara Kanlaya จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ชื่อเหมือนคนไทย พูดไทยอีสานและไทยกลางได้ชัดเจนราวกับคนไทย

Zaen Kasturi จากสหพันธรัฐมาเลเซีย พูดภาษาอังกฤษเสียงเบามาก เลยทำให้เหมือนเป็นคนขาดความมั่นใจ ท่าทางขี้อาย ไม่รู้ใช่หรือเปล่า

Marjorie Evasco จากสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ คนนี้สวย หน้าหวานเหมือนคนไทย

Johar Bin Buang จากสาธารณรัฐสิงคโปร์ คนนี้ดูเหมือนคนมาเลเซีย น่าจะจริง เพราะคนสิงคโปร์ส่วนใหญ่ก็มีเชื้อสายมลายูอยู่แล้ว บทกวีที่ได้รางวัลก็เป็นภาษามลายู

Zakariya Amataya จากราชอาณาจักรไทย เป็นนักเขียนที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น ช่วยถอดความบทกวีของนักเขียนมาเลเซียกับสิงคโปร์มาเป็นภาษาไทยได้อย่างไพเราะ

Nguyen Nhat Anh จากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม คนนี้พูดเป็นคนสุดท้าย ดูท่าทางเหมือนจะเป็นคนเคร่งขรึม ไม่ช่างพูด ที่ไหนได้ พอพูดเสร็จ แล้วแปลเป็นภาษาไทย ฮามาก โดยเฉพาะตอนที่เขาเล่าว่า เป็นคอลัมนิสต์ตอบปัญหาหัวใจด้วย แล้วลูกเมียแซวว่า ใครทำตามคำแนะนำของเขาต้องผิดหวังทุกราย เพราะฉะนั้น ต้องทำตรงข้ามกับที่เขาแนะนำ นอกจากนี้ก็มีคำคมเกี่ยวกับเรื่องความรักหลายสำนวน ฉันจดไม่ทันเลย ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะฟังอย่างเดียว น่าสนใจตรงที่ผลงานชื่อ Give me a ticket to childhood (ขอตั๋วหนึ่งใบเพื่อกลับไปวัยเด็ก) เขาขยายความช่วงนี้ด้วย จำได้แค่ว่า ความเป็นผู้ใหญ่วัดกันที่หน้าที่ แต่ความเป็นเด็กมีแต่ความสนุกสนาน ประมาณนี้แหละ

งานนี้มีล่ามภาษาอังกฤษสองคน คือ อรยา สูตะบุตร กับปนัดดา เลิศล้ำอำไพ ชื่อคุ้นหูฉันทั้งคู่ มีล่ามภาษามลายูคือนักเขียนซีไรท์ของไทย ซึ่งเป็นชาวใต้โดยกำหนด แล้วก็ล่ามภาษาเวียดนาม เป็นอาจารย์จากจุฬาฯ
ขออภัยที่จำชื่ออาจารย์ไม่ได้

ไปฟังการเสวนาครั้งนี้ ได้วัดความรู้ภาษาอังกฤษของตัวเองไปในตัว ยังคงเตาะแตะอยู่ ของว่างน่ากินมาก มีทั้งขนมและผลไม้ เห็นเด็กวัยรุ่นกินกันเป็นที่เอร็ดอร่อย ท่าทางมีความสุข แล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีก แต่ขอเป็นเด็กแบบไม่มีปัญหาครอบครัวนะ

ที่ฉันชอบเป็นพิเศษได้หนังสือที่รวบรวมผลงานบางส่วนของนักเขียนซีไรท์รุ่นก่อน ๆ มาพิมพ์เป็นพ้อคเก็ตบุ้คเล่มหนา ภาษาอังกฤษล้วน แจกให้ผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย

นับเป็นของชำร่วยที่ล้ำค่าจริง ๆ ขอบคุณธนาคารกรุงเทพ ที่จัดงานนี้ขึ้นมา ขอบคุณบุคลากรของแบงก์ที่ช่วยบริการทุกอย่าง และขอบคุณนักเขียนนักแปลทุกท่านที่ให้ความรู้มากมาย






Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 9:35:59 น. 2 comments
Counter : 751 Pageviews.

 
อยากเห็นรูปร่างหน้าตา หนังสือที่ระลึกชิ้นนี้จัง ช่วยลงรูปหน่อยได้ไหมคะ


โดย: BJiam IP: 182.52.152.15 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:31:00 น.  

 
สแกนรูปให้ดูแล้วค่ะ ปกหนังสือที่มีคุณค่ายิ่ง โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อหา

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อก


โดย: wanalee วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:43:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.