หันมามองฉันสักหน่อยสิเธอ...

<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
25 กุมภาพันธ์ 2551
 

Jumper คนกระโดดกระชากมิติ....เอ่อ....สนุกมากกกก!

....

...
Jumper คนกระโดดกระชากมิติ

ผมมีเวลา 10 วินาทีในการตัดสินใจว่าจะดูหรือไม่ดู หลังจากที่พี่คนหนึ่งโทรมาบอกว่ากำลังจะซื้อตั๋ว จะมาดูมั๊ย? รอบทุ่มครึ่ง

เหลือบดูนาฬิกาตอนนั้น ทุ่มตรง..

ผมยังนั่งเล่นอยู่บ้านอยู่เลย...กว่าจะขยับเขยื่อนเคลื่อนกาย ก็เกรงว่าจะไม่ทัน กำลังจะอ้าปากบอกว่า "เอาไว้ก่อนดีกว่าพี่..."

"โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อตั๋วเผื่อเลยนะ แค่นี้แหละ"..ตึ้ดดดดดด..

T_T

ถามว่าตั้งใจมั๊ย? ตั้งใจครับสำหรับหนังเรื่องนี้ แค่เห็นหนังตัวอย่างครั้งแรกผมก็คิดว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจมิหยอก เราน่าจะเสียเงินมาดูสักหน่อย

แต่หนังเข้าวันแรกแบบนี้..ไม่เค้ย ไม่เคยที่คิดจะมาดู

ผมใช้เวลาขับรถจากบ้านไปถึงเมเจอร์ประมาณ 15 นาที ก็พอดีทุ่มครึ่ง ได้นั่งแถวที่ 4 จากหน้าสุด.. งานนี้ได้เมื่อยคอกันบ้างละ

3 แถวด้านหน้าก็มีคนนั่งเต็มซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง น่าแปลกใจว่าเขาจะเห็นอะไรจากตรงนั้นรึ?..

.....ดำเนินเรื่อง....

ย้อนกลับไปก่อนที่พระเอกของเราจะรู้ตัวว่ามีพลังพิเศษนั้น เขาเป็นเด็กบ๊วบๆ คนหนึ่ง ผมจำชื่อที่เพื่อนๆ พระเอกใช้เรียกไม่ได้ ความหมายน่าจะคล้ายๆ "ไอ่อ่อน" ซึ่งหนังน่าจะปูเรื่องให้พระเอกมีบุคลิคเยี่ยงโนบิตะ

นั่นเป็นเหตุให้พระเอกของเราไม่รู้ความหมายของพลังพิเศษที่ตัวเองมีอยู่ และไม่สามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์อันใดได้ นอกจาก ทำในสิ่งที่ผิด และใช้เพื่อไปในที่ที่อยากไปเท่านั้น


เขาใช้ชีวิตที่เสเพลในแบบผู้ดีมาได้แบบไม่มีใครสงสัย จน 8 ปีเข้าให้


เมื่อพระเอกพบว่ามีคนตามล่าเขา จนเกิดการต่อสู้กันในห้องพัก แต่พระเอกของเราหนีรอดไปได้

สิ่งที่พระเอกพยายามทำก่อนที่จะหนีไปคือ นำเงินยัดใส่กระเป๋าแล้วแว๊บบบบบบบ

จากนั้นก็กลับบ้าน แล้วก็ไปหาเพื่อนเก่าสมัยเด็กซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง.....


ตัวหนังไม่ได้บอกว่าในระหว่าง 8 ปีที่ผ่านมาเขาได้ทำสิ่งเหล่านี้หรือไม่ แต่เท่าที่คนดูอย่างผมทราบ คือ เขาไม่เคยกลับมาแถวนี้อีกเลยหลังจากที่ทุกคนเข้าใจว่าเขาตายไปแล้ว

....

ผมไม่นิยมการพูดคุยกันในโรงภาพยนต์ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปกระซิบถามพี่ผมที่นั่งข้างๆ


"พี่ค๊าบบบ มานนนกลับมาทำไมค๊าบบบ?"


นางเอกไม่มีอาการแปลกใจสักนิดที่เห็นพระเอก ต่างจากเพื่อนที่เคยแกล้งเขาในวัยเด็กต้องอุทานขึ้นมาเลย

"เฮ้ย ไอ่อ่อน นี่ฉันเห็นผีหรือไงเนี่ย!!?"
"ฉันไม่ใช่เอลวิส นายจำคนผิดแล้ว"

...เอ่อ พระเอกเขาชื่อว่าอะไรนะ ผมจำไม่ได้....T_T

แล้วพระเอกเลือกที่ต่อยกับเพื่อน เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงจับเพื่อนแวะไปขังไว้ในห้องนิรภัยของธนาคาร

ทำไมไม่เอามาปล่อยที่พัทยา หรือเชียงใหม่ฟระ....

เรื่องมันคงง่ายกว่านี้เยอะ

นึกถึงคำพูดของพี่ผมขาวที่ตามล่าพระเอกคนนั้นขึ้นมา

"8 ปีที่กระโดด เอ็งไม่ได้อะไรเป็นสาระบ้างหรือไงเนี่ย"


เขาไม่ได้พูดอย่างนี้ซะทีเดียว แต่ผมเข้าใจประมาณนี้ และผมก็เห็นด้วยทุกประการเมื่อเขาเลือกที่จะกลับมาแล้วหลอกพานางเอกไปเที่ยวอิตาลี

เค้ววววว....ไปยะหยั๋งอ่ะ

ถึงตอนนี้ผมชักเริ่มสับสนว่าผู้สร้างต้องการอะไรกันแน่ สร้างฉากรักปลอมๆ ขึ้นมาหรือไง? เพื่อให้พระเอกกับนางเอกดูมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเพื่อเตรียมสำหรับเหตุการณ์ต่อไป? หรือไปเที่ยวโรมระหว่างถ่ายทำรึ? หรือเลี้ยงปิดกล้องที่นั่น?

ถ้าจะเลี้ยงปิดกล้องต้องมีฉากแต่งงานริมทะเลด้วยสิ มาแถวพัทยาก็ได้

แล้วตัวหนังก็สับสนวุ่นวาย มีจัมป์เป้อเพิ่มมาอีกคน มาเตือนพระเอกว่าให้ระวังตัว

ตอนนั้นพระเอกยังคงง่าว ไม่เข้าใจเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น โดดตามจัมป์เป้อคนนั้นไปทุกที่พร้อมกับคำถามมากมาย

ระหว่างนั้นก็แวะไปหานางเอกเพื่ออธิบายปรับความเข้าใจที่ทิ้งเขาไว้ที่สนามบิน ผู้หญิงถูกทิ้งไว้แบบนั้น จะอภัยกันง่ายๆ หรอก ยกเว้นว่ามีเหตุผลเพียงพอนะ

"ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!"
"ฟังผมก่อนสิ ผม เอ่อ..ผม"
"คุณไม่จำเป็นต้องบอกฉัน ถ้าคุณไม่อยากบอก แต่อย่าหลอกกัน" ประโยคนี้พูดที่โรม..
"ผมเป็นห่วงคุณนะ"
นางเอกทำหน้าฉงน "ห่วงฉัน? ...ขอบคุณ(Thankyou...)"

ฝรั่งที่นั่งแถวหน้าผมหัวเราะกันตรึม คนอื่นๆ เงียบกริบ...

ถึงตอนนี้ผมยังงงอยู่เลยว่ามันตลกตรงไหน? งึมๆๆ

....

...

บอกตรงๆ หลังจากช่วงแรกของหนังที่ผ่านไปอย่างราบเรียบ ช่วงหลังของหนังทำให้ผมนั่งดูต่อไปอย่างงงงง ...

อย่างพระเอกกับเพื่อนแรกๆ ทำท่าว่าจะร่วมมือกันต่อสู้ด้วยดี แต่ตอนหลังมาสู้กันเองซะงั้น หรือกลุ่มคนที่ตามล่าพระเอกเป็นใคร ล่าด้วยเหตุผลเพียงเพราะความเชื่อ อย่างนั้นรึ? น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น

หนังจบ

ผมเดินออกจากโรงด้วยความวิงเวียน ...

หนังบ้าอะไรเนี่ย ทำไมมันต้องสั่นบ้าบออะไรขนาดนั้น ทำไมตอนถ่ายทำไม่ใช้ดอลลี่บ้างว้า จะถือกล้องวิ่งตามพระเอกมันทำม้ายยยย...

เข้าใจนะครับว่ามันเป็นเทรน..หนังแอคชั่นยุดใหม่ มักตั้งใจให้ผู้ชมเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ

แต่ไม่ต้องทุกฉากก็ได้คับ พี่น้องครับ...ผมอยากอ้วก

ผมทราบมาว่าผู้กำกับเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่ทำ Borne Identity(ภาคแรก) ซึ่งเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก...แต่เรื่องนี้ สำหรับ จั้มป์เป้อ...เอ่อ...

หมดคำบรรยายครับ..

ผมว่าจำเลยรัก สิ่งที่คุณพี่ศัลทำยังมีเหตุมีผลจูงใจให้เชื่อได้มากกว่านี้เลยครับ หรือไม่ก็การกักขังโสรยาไว้บนเกาะของคุณหะ-ริด ยังดูมีเหตุผล(บ้าๆ บอๆ) มากกว่าเลย

จริงอยู่ ผมไม่มีสิทธิที่จะวิจารย์หนังเรื่องนี้เพียงเพราะผมไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของตัวหนังที่พยายามสื่อให้เรา และผมก็ไม่พยายามค้นคว้าหาเหตุผลนั้นด้วย เพราะผมรู้สึกผิดหวังกับหนังเรื่องนี้อย่างแรง.

แต่ผมขอสิทธิในการวิจารย์หนังเรื่องนี้จากเงิน 120 บาท ที่ผมเสียไป

น่าจะพอได้อยู่เน่อ...




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551
25 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2551 11:19:46 น.
Counter : 3061 Pageviews.

 
 
 
 
บ่นเป็นคนแก่ไปได้คุณสมาน.......

emoemo
 
 

โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:02:56 น.  

 
 
 
จะไม่ตามดูเลย

สาบาน
 
 

โดย: nattabe วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:10:23 น.  

 
 
 
อ้าย วิจารณ์ซะ.....


ปล.จะได้ไม่ไปให้ ผิดหวัง
 
 

โดย: คิตตี้..เหมียว วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:20:17 น.  

 
 
 
เอ้อเอ้ยยย...

ขอประทานโทษ ผมลืมบอกว่า "น้องปอยนะ ถ้าใครยังไม่ได้ดู แต่จะดู ก็เลี่ยงๆ"..

แหะๆๆๆๆ ขอโทษครับ ขอโทษ

แต่ไหนๆ ก็มาอ่านละ เก็บเป็นรีวิวละกันนะ

 
 

โดย: น้ำใจ IP: 202.28.27.4 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:59:22 น.  

 
 
 
เอ้อ เอ้ย คนเฮา น้องก็ยังบ่อได้ดูเลย งั้นไม่ดูแล้วดีกว่ารอดูตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 ก็ยังถ่ายทำกันบ่อเสร็จสักเตื้อ
 
 

โดย: SIMAKHA วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:50:17 น.  

 
 
 
อ้ายเล่าได้ม่วนดี ... แต้ๆ เจ้า
 
 

โดย: SIMAKHA วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:51:59 น.  

 
 
 
สปอยล์อ่ะ...

แต่ก็ไม่ได้อยากไปดูอยู่แล้ว...

ไอ้หนังเวียนหัวๆเนี่ย...

***********************************************************

อยากดู Step Up2 - - นางเอกเซะซี่อย่างแรง...
 
 

โดย: ~*~หนูลิล~*~ (VoDkA_sHoT ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:42:14 น.  

 
 
 
หัวข้อเขียนผิดประจำเลยลุง

 
 

โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:37:14 น.  

 
 
 
ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน ตกลงดูดีรึเปล่าเนี่ย?

เอ่อ คุณเจ้าของบล้อกคะ
แถวๆ วรรคสุดท้ายพูดวกวนสับสนในตัวเองเยอะอยู่นะคะ

ตามหลักของนักวิจารณ์นั้น ถือว่า การวิจารณ์หนังคือการแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิ์ ความคิดเห็นแต่ละคนอาจจะเหมือนรึต่างกัน ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีถูกผิดค่า ก็อย่างที่คุณพูดนั่นแหละว่า คุณมีสิทธิ์ในราคา120บาทของคุณ ก็เข้าใจถูกแล้วค่ะ
 
 

โดย: สไปเดอร์แมว วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:56:45 น.  

 
 
 
อากาศวกวนน่ะครับ คุณสไปเดอร์แมว เลยวกวนตามอากาศ ฮี่ๆๆ อ้างไปนั่น...

เมื่อวานหนาวสั่น วันนี้ร้อนอีกละ..ผมละงงจริงๆ

....

สรุปแล้วไปดูมากันยังเนี่ยเรื่องนี้อ่ะครับ ไปดูสิ ไปดู แล้วมาเล่าให้กันฟัง
 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:08:09 น.  

 
 
 
เข้ามาอ่านอีกที แบบละเอียดลออ มันก็ยังตลกนะ

อ้าย ถามหน้อย "สปอยล์" ที่น้องลิลล์เปิ้นว่านี่ มีนจะแปลว่าอะหยังหา
 
 

โดย: SIMAKHA วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:17:31 น.  

 
 
 
สปอยล์ อาจมาจาก น้องปอย ไปรยา ก็ได้...อ้ายบ่าหู้ที่มาที่ไปแน่นอนนะ

แต่มันน่าจะเป็นภาษาวัยรุ่นอ่ะ เหมือน โหยยยย จ๊าบบหว่ะ...ไรเงี้ย

ไม่รู้ว่าคำนี้จัดอยู่ในหมวดของศัพท์ใหม่ในพจนานุกรมฉบับใหม่หรือเปล่านะ เพราะมันน่าจะมาพร้อมๆ กับคำว่า แอ๊บแบ๊ว

พี่ว่า รอถามวัยรุ่นดีกว่า ฮ่ะๆๆๆๆๆ

 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:17:50 น.  

 
 
 
ตอนแรกกะจะไปดูเหมือนกัน แต่พอได้รู้เนื่อเรื่องแล้ว เอ่อ ขอติดใจโสรยาต่อไปดีก่าเนอะ


แวะมา หลังเที่ยงค่ะ
 
 

โดย: ผลส้ม (ผลส้ม ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:29:20 น.  

 
 
 
ไหนว่าจะอัพ ไม่เห็นมีเลย

emoemo
 
 

โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:43:56 น.  

 
 
 
เอ๊ยๆ น้องเขาชื่อ ปู ไปรยา จ้ะตัวเอง
ถ้าเข้าใจไม่ผิด
สปอยล์ หรือสปอย ที่ใช้ในการวิจารณ์หนัง
จะประมาณไปเล่าตอนจบให้คนอื่นรู้อ่ะ
แต่ถ้าหนังดีจริง
ต่อให้รู้ตอนจบ ก็ยังอยากไปดูอยู่ดี
แบบพวกเอานิยายมาทำละครหลังข่าวไง
มีเรื่องย่อขาย มีเรื่องย่อในหนังสือพิมพ์
แต่คนก็ยังรอดูตอนจบ
 
 

โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:0:35:23 น.  

 
 
 
ขอบคุณกับเนื้อหาที่เล่าสู่กันฟังค่ะ เราคนนึงล่ะ คงไม่ไปดูในโรงหง่ะ ไม่ได้ไปดูหนังโรงมาหลายปีแย้ววววว

 
 

โดย: เด็กหัดเดิน วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:17:17:41 น.  

 
 
 
หวัดดีจ๊ะอ้ายฤทัยฯ

เจ๊กะมาชิมไข่พะโล้

แต่มาทันได้ดูหนังพอดี 555!!!

เจ๊ไม่ได้ดูหนังมานานนนนนนนนมากแย้ว

อ้อ!! วันนี้เจ๊มีเมนูใหม่จ๊ะ
 
 

โดย: janeko วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:7:56:07 น.  

 
 
 
 
 

โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:7:41:00 น.  

 
 
 
อ้าว..ไม่ใช่ ปอย ไปรยา เหรอ...?..ว้า

 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:10:02:58 น.  

 
 
 
ดูมาแล้วก็มันดีคนก็เต็มโรงเลยนะเกือบไม่มีที่นั่งถ้าดูคิดตามก็เข้าใจเพราะหนังมันแค่ชั่วโมงกว่าเองคงใส่เนื้อหารายละเอียดได้ไม่หมดหรอกที่เหลือเราต้องคิดเองบ้างหนังสนุกแต่ที่ไปดูดูคนพากย์คะแต่ดูจบแล้วหนังก็โอเค
 
 

โดย: พร IP: 124.120.41.147 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:15:40:37 น.  

 
 
 
อ้ายๆ หายไปเนอะ........
 
 

โดย: คิตตี้..เหมียว วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:17:20:24 น.  

 
 
 
คือว่า น้องคิดว่าอ้ายต้องอธิบายน้องได้แน่ เลยเอามาถาม

อธิบายตรงนี้ฮื้อกำเจ้า บ่อเข้าใจ

*********************************************

(1) ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01 สำหรับกรณีสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นที่ดิน อาคาร หรืออาคารพร้อมที่ดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หรือที่ดำเนินการจัดสรรที่ดินโดยทางราชการหรือองค์การของรัฐบาลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ทำการจัดสรรที่ดินตามกฎหมาย และ
(ข) เป็นอาคารประเภทดังต่อไปนี้
- บ้านเดี่ยว
- บ้านแฝด
- บ้านแถว
- อาคารพาณิชย์

***********************************************

1) ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01

- ร้อยละ 0.01 จากราคาบ้านใช่ไหมคะ
- เราต้องได้จ่ายค่าจดทะเบียนการโอน ตอนไหน แล้วก็ที่ไหนคะ
- เราต้องจ่ายค่าจดทะเบียนการจำนอง ตอนไหน ที่ไหนคะ
คือเราต้องจ่าย กับธนาคาร หรือที่ดิน นะคะ

ขอโทษที่อาจจะถามอะไรดูไม่เข้าท่า แต่ว่าไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แล้วตอนนี้สนใจที่จะมีบ้าน เลยพยายามหาข้อมูลนะคะ

รบกวนตอบให้เข้าใจง่ายๆ ได้ไหมคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

******************************************************************
ไปถามเปิ้นไว้แล้ว สีท่าจะบ่อมีไผตอบ แล้วก็กึดว่าอ้ายต้องฮู้แน่เลยเอามาถามด้วย

//www.pantip.com/cafe/home/topic/R6390656/R6390656.html
 
 

โดย: SIMAKHA วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:18:19:57 น.  

 
 
 
เง้อ....น้องเอสไอเอ็มเอเคเอชเอ ครับ

พี่ก็เพิ่งรู้ข่าวเหมือนกัน

เท่าที่อ่านดูจากข้างบน น่าจะหมายถึง เขาลดค่าโอน และ ค่า จำนองให้

เมื่อก่อนถ้าจำไม่ผิด ค่าโอนน่าจะ 2% และค่าจำนองน่าจะ 1% ...งืมๆ นานแล้ว จำได้ว่าเป็นแบบนี้

ดังนั้น

1) ให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 0.01

ถ้าอ่านจากตรงนี้ก็น่าหมายความว่า ต่อไปนี้ ค่าใช้จ่าย 2 ค่าข้างบน จะเหลือเพียง 0.01 % เท่านั้น (กรณีที่ คำว่า ร้อยละ 0.01 เขียนไม่ผิดนะครับ)

ค่าโอน 0.01% จากราคาประเมินที่ดินแปลงของเรานะครับ
ค่าจำนอง 0.01% จากจำนวนเงินที่เราขอจากธนาคารจากการที่เอาที่ดินแปลงนั้นไปจำนองไว้...

ก็ด้วยประการฉะนี้

งงหนักกว่าเดิมอีกมั้งเนี่ย

 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:10:41:02 น.  

 
 
 
อ้อ..ตกหล่นไปนิด

ทั้ง 2 อย่างไปจ่ายให้สำนักงานที่ดินครับ วันโอนพี่สาวคนสวยที่ธนาคารจะพาไปที่สำนักงานที่ดินครับ (สำนักงานไหนก็ได้ครับ ถ้าในเมืองก็สำนักงานจังหวัด ถ้าต่างอำเภอก็มีสำนักงานที่ดินอำเภอ)

เงินค่าต่างๆ นี้ กรมที่ดินจะได้ไป ส่วนธนาคารจะได้ใบจดจำนองและใบฉโนดที่ดินของเราไปเก็บรักษาไว้ให้

ไม่ต้องกลัวหายเลยล่ะครับ

ส่วนเราก็ได้หนี้....และบ้านหนึ่งหลัง (ที่เสร็จบ้างไม่เสร็จบ้าง)
 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:10:45:34 น.  

 
 
 
เพิ่งคิดถึงกันนะเจ้เจนนนนนนน

โหยยยย.....

.....




หล้าเหมี๋ยวครับ บ่ได้หายไปไหนเน่อ แค่ต๋อนนี้อ้ายอยู่ในช่วงจมปลักอยู่กับด้านมืดของตัวเอง...เลยบ่าก้อยสดใสซาบซ่าเท่าใด

รอเวลาสลัดขน...

โบ๋วววว
 
 

โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:10:50:15 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ฤทัยนาวา
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้งสุข บางทีเศร้า....

บางวันเหงา บางคืนหงอย......

บางเวลา...ก็ใจลอย

แต่บางคนที่เฝ้าคอย...ตอนนี้อาจกำลังมา



web counter

online Online Blackjack Locations of visitors to this page
[Add ฤทัยนาวา's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com