Jumper คนกระโดดกระชากมิติ....เอ่อ....สนุกมากกกก!
.......Jumper คนกระโดดกระชากมิติ ผมมีเวลา 10 วินาทีในการตัดสินใจว่าจะดูหรือไม่ดู หลังจากที่พี่คนหนึ่งโทรมาบอกว่ากำลังจะซื้อตั๋ว จะมาดูมั๊ย? รอบทุ่มครึ่งเหลือบดูนาฬิกาตอนนั้น ทุ่มตรง..ผมยังนั่งเล่นอยู่บ้านอยู่เลย...กว่าจะขยับเขยื่อนเคลื่อนกาย ก็เกรงว่าจะไม่ทัน กำลังจะอ้าปากบอกว่า "เอาไว้ก่อนดีกว่าพี่...""โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อตั๋วเผื่อเลยนะ แค่นี้แหละ"..ตึ้ดดดดดด..T_Tถามว่าตั้งใจมั๊ย? ตั้งใจครับสำหรับหนังเรื่องนี้ แค่เห็นหนังตัวอย่างครั้งแรกผมก็คิดว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจมิหยอก เราน่าจะเสียเงินมาดูสักหน่อยแต่หนังเข้าวันแรกแบบนี้..ไม่เค้ย ไม่เคยที่คิดจะมาดู ผมใช้เวลาขับรถจากบ้านไปถึงเมเจอร์ประมาณ 15 นาที ก็พอดีทุ่มครึ่ง ได้นั่งแถวที่ 4 จากหน้าสุด.. งานนี้ได้เมื่อยคอกันบ้างละ 3 แถวด้านหน้าก็มีคนนั่งเต็มซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง น่าแปลกใจว่าเขาจะเห็นอะไรจากตรงนั้นรึ?.......ดำเนินเรื่อง....ย้อนกลับไปก่อนที่พระเอกของเราจะรู้ตัวว่ามีพลังพิเศษนั้น เขาเป็นเด็กบ๊วบๆ คนหนึ่ง ผมจำชื่อที่เพื่อนๆ พระเอกใช้เรียกไม่ได้ ความหมายน่าจะคล้ายๆ "ไอ่อ่อน" ซึ่งหนังน่าจะปูเรื่องให้พระเอกมีบุคลิคเยี่ยงโนบิตะนั่นเป็นเหตุให้พระเอกของเราไม่รู้ความหมายของพลังพิเศษที่ตัวเองมีอยู่ และไม่สามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์อันใดได้ นอกจาก ทำในสิ่งที่ผิด และใช้เพื่อไปในที่ที่อยากไปเท่านั้นเขาใช้ชีวิตที่เสเพลในแบบผู้ดีมาได้แบบไม่มีใครสงสัย จน 8 ปีเข้าให้ เมื่อพระเอกพบว่ามีคนตามล่าเขา จนเกิดการต่อสู้กันในห้องพัก แต่พระเอกของเราหนีรอดไปได้ สิ่งที่พระเอกพยายามทำก่อนที่จะหนีไปคือ นำเงินยัดใส่กระเป๋าแล้วแว๊บบบบบบบจากนั้นก็กลับบ้าน แล้วก็ไปหาเพื่อนเก่าสมัยเด็กซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง.....ตัวหนังไม่ได้บอกว่าในระหว่าง 8 ปีที่ผ่านมาเขาได้ทำสิ่งเหล่านี้หรือไม่ แต่เท่าที่คนดูอย่างผมทราบ คือ เขาไม่เคยกลับมาแถวนี้อีกเลยหลังจากที่ทุกคนเข้าใจว่าเขาตายไปแล้ว....ผมไม่นิยมการพูดคุยกันในโรงภาพยนต์ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปกระซิบถามพี่ผมที่นั่งข้างๆ "พี่ค๊าบบบ มานนนกลับมาทำไมค๊าบบบ?"นางเอกไม่มีอาการแปลกใจสักนิดที่เห็นพระเอก ต่างจากเพื่อนที่เคยแกล้งเขาในวัยเด็กต้องอุทานขึ้นมาเลย "เฮ้ย ไอ่อ่อน นี่ฉันเห็นผีหรือไงเนี่ย!!?""ฉันไม่ใช่เอลวิส นายจำคนผิดแล้ว"...เอ่อ พระเอกเขาชื่อว่าอะไรนะ ผมจำไม่ได้....T_Tแล้วพระเอกเลือกที่ต่อยกับเพื่อน เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงจับเพื่อนแวะไปขังไว้ในห้องนิรภัยของธนาคารทำไมไม่เอามาปล่อยที่พัทยา หรือเชียงใหม่ฟระ....เรื่องมันคงง่ายกว่านี้เยอะนึกถึงคำพูดของพี่ผมขาวที่ตามล่าพระเอกคนนั้นขึ้นมา"8 ปีที่กระโดด เอ็งไม่ได้อะไรเป็นสาระบ้างหรือไงเนี่ย" เขาไม่ได้พูดอย่างนี้ซะทีเดียว แต่ผมเข้าใจประมาณนี้ และผมก็เห็นด้วยทุกประการเมื่อเขาเลือกที่จะกลับมาแล้วหลอกพานางเอกไปเที่ยวอิตาลีเค้ววววว....ไปยะหยั๋งอ่ะถึงตอนนี้ผมชักเริ่มสับสนว่าผู้สร้างต้องการอะไรกันแน่ สร้างฉากรักปลอมๆ ขึ้นมาหรือไง? เพื่อให้พระเอกกับนางเอกดูมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเพื่อเตรียมสำหรับเหตุการณ์ต่อไป? หรือไปเที่ยวโรมระหว่างถ่ายทำรึ? หรือเลี้ยงปิดกล้องที่นั่น? ถ้าจะเลี้ยงปิดกล้องต้องมีฉากแต่งงานริมทะเลด้วยสิ มาแถวพัทยาก็ได้แล้วตัวหนังก็สับสนวุ่นวาย มีจัมป์เป้อเพิ่มมาอีกคน มาเตือนพระเอกว่าให้ระวังตัว ตอนนั้นพระเอกยังคงง่าว ไม่เข้าใจเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น โดดตามจัมป์เป้อคนนั้นไปทุกที่พร้อมกับคำถามมากมายระหว่างนั้นก็แวะไปหานางเอกเพื่ออธิบายปรับความเข้าใจที่ทิ้งเขาไว้ที่สนามบิน ผู้หญิงถูกทิ้งไว้แบบนั้น จะอภัยกันง่ายๆ หรอก ยกเว้นว่ามีเหตุผลเพียงพอนะ"ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!""ฟังผมก่อนสิ ผม เอ่อ..ผม""คุณไม่จำเป็นต้องบอกฉัน ถ้าคุณไม่อยากบอก แต่อย่าหลอกกัน" ประโยคนี้พูดที่โรม.."ผมเป็นห่วงคุณนะ"นางเอกทำหน้าฉงน "ห่วงฉัน? ...ขอบคุณ(Thankyou...)" ฝรั่งที่นั่งแถวหน้าผมหัวเราะกันตรึม คนอื่นๆ เงียบกริบ...ถึงตอนนี้ผมยังงงอยู่เลยว่ามันตลกตรงไหน? งึมๆๆ.......บอกตรงๆ หลังจากช่วงแรกของหนังที่ผ่านไปอย่างราบเรียบ ช่วงหลังของหนังทำให้ผมนั่งดูต่อไปอย่างงงงง ...อย่างพระเอกกับเพื่อนแรกๆ ทำท่าว่าจะร่วมมือกันต่อสู้ด้วยดี แต่ตอนหลังมาสู้กันเองซะงั้น หรือกลุ่มคนที่ตามล่าพระเอกเป็นใคร ล่าด้วยเหตุผลเพียงเพราะความเชื่อ อย่างนั้นรึ? น่าจะมีอะไรมากกว่านั้นหนังจบผมเดินออกจากโรงด้วยความวิงเวียน ...หนังบ้าอะไรเนี่ย ทำไมมันต้องสั่นบ้าบออะไรขนาดนั้น ทำไมตอนถ่ายทำไม่ใช้ดอลลี่บ้างว้า จะถือกล้องวิ่งตามพระเอกมันทำม้ายยยย...เข้าใจนะครับว่ามันเป็นเทรน..หนังแอคชั่นยุดใหม่ มักตั้งใจให้ผู้ชมเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ แต่ไม่ต้องทุกฉากก็ได้คับ พี่น้องครับ...ผมอยากอ้วกผมทราบมาว่าผู้กำกับเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่ทำ Borne Identity(ภาคแรก) ซึ่งเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก...แต่เรื่องนี้ สำหรับ จั้มป์เป้อ...เอ่อ...หมดคำบรรยายครับ..ผมว่าจำเลยรัก สิ่งที่คุณพี่ศัลทำยังมีเหตุมีผลจูงใจให้เชื่อได้มากกว่านี้เลยครับ หรือไม่ก็การกักขังโสรยาไว้บนเกาะของคุณหะ-ริด ยังดูมีเหตุผล(บ้าๆ บอๆ) มากกว่าเลยจริงอยู่ ผมไม่มีสิทธิที่จะวิจารย์หนังเรื่องนี้เพียงเพราะผมไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของตัวหนังที่พยายามสื่อให้เรา และผมก็ไม่พยายามค้นคว้าหาเหตุผลนั้นด้วย เพราะผมรู้สึกผิดหวังกับหนังเรื่องนี้อย่างแรง.แต่ผมขอสิทธิในการวิจารย์หนังเรื่องนี้จากเงิน 120 บาท ที่ผมเสียไปน่าจะพอได้อยู่เน่อ...