
|
นี่คุณ...คุณไปมีเรื่องอะไรกับตำรวจไว้หรือเปล่า?
เช้าวันหนึ่ง อากาศสดชื่นแจ่มใสมากเลยครับ
เพื่อนผมเขาก็ขอให้ไปช่วยเกี่ยวข้าวในแปลงทดลองวิทยานิพนธ์ของเขาเพื่อเอามาวิเคราะห์
ผมก็ไปช่วย นัดกันไว้ตอน 7 โมงเช้า...
ผมแต่งตัวชาวนาเต็มยศ เพื่อนผมคนนั้นก็เช่นกัน อุปกรณ์ก็มีเคียว และกระบุงเอาไว้ใส่รวงข้าว และกระป๋องน้ำดื่ม...
มุ่งหน้าไปสู่แปลงทดลอง.
ห่างจากจุดที่นัดกันแค่ข้ามแยก...เอามอไซค์ไปเช่นเคย ผมเป็นคนขี่ เพื่อนเป็นคนซ้อน หอบของพะรุงพะรัง...
7 โมงนิด แดดอ่อนๆ ครับ...แล้วผมก็มาติดไฟแดงตรงสี่แยก..
ยังไม่ทันได้อ้าปากคุยกัน ..คุณตำรวจครับ คุณตำรวจเดินออกมาจากป้อมตำรวจข้างๆ เดินตรงมาเลย นาทีนั้นมีรถผมติดอยู่คันเดียว หันไปทางไหนก็ว่าง แยกหน้าก็ว่าง แยกซ้ายก็ว่าง แยกขวาก็ว่าง
ไม่มีรถเลยสักคัน มีรถผมคันเดียว..สัญญานความซวยเริ่มปรากฏครับท่าน
พี่ตำรวจเดินมา ยกมือซ้ายทำท่าคล้ายๆ กับว่าอย่าเพิ่งไป รอก่อน..
"ทำไมถึงไม่ใส่หมวกกันน๊อค?" พี่ยิงคำถามทันที่ที่มาถึง พร้อมกับบิดดึงกุญแจรถเราออกตามสูตร
"เอ่อ..คือว่าจะไปตรงแปลงข้างหน้านี้นิดเดียวครับ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว จะไปเกี่ยวข้าวครับ" ผมก็ตอบไปตามความจริง..
ทั้งๆ ที่รู้ว่าการไม่ใส่หมวกกันน๊อคมันจะผิด แต่ผมก็คิดอยู่ในใจ ไม่แหกตาดูมั่งเหรอวะเนี่ย ว่าแต่งชุดอะไร รองเท้าบู๊ท เสื้อแขนยาว แบกกระบุงหอบเคียวอยู่อย่างนี้ หมวกน่ะมีแต่เป็นงอบ..ยังไม่ใส่เพราะว่ามันจะปริว เข้าใจมั๊ย ว่าจะไปเกี่ยวข้าว...จะไปเกี่ยวข้าว แล้วนี่มันกี่โมง..
"ถ้าขี่มอไซค์ ยังไงก็ต้องใส่หมวกกันน๊อค" เขาว่า
ผมพยายามอ้อนวอนขอ บอกพี่ปล่อยผ่านสักครั้งเถอะ ผมไปข้างหน้านี้เอง เขาก็พยายามบอกว่าเขาทำตามกฏหมาย เห็นว่ามันผิดก็ต้องบอกว่าผิด
"ขอดูใบอนุญาติขับขี่หน่อย"
จะไปเกี่ยวข้าว ไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา ไม่ได้ไปตลาด...จะไปเกี่ยวข้าว ยังยืนยันคำเดิม
"ขออนุญาติค้นนะ"
ป๊าดดดด...มีค้นด้วยเว้ยเฮ้ย..นี่ยังดีนะที่ยังรู้จักขออนุญาติก่อน ถ้าผมไม่อนุญาติจะเป็นไรมั๊ยเนี่ย..
แต่ก็ยอมให้ค้นแต่โดยดี เขาก็ค้นไป ลูบกระเป๋ากางเกงหน้า กางเกงหลัง ไม่เจอครับ..
จะเจอได้ไง ก็ไม่ได้เอามา เอ้อ...เขาก็ถามเพื่อนผมก็ได้รับคำตอบเดียวกันว่าไม่ได้เอามา
ในเมื่อไม่มีบัตรอะไรสักอย่างก็จนแต้ม ไม่รู้ทำไง เขาก็ถามต่อ
"เรียนคณะอะไร" ระหว่างที่ถามก็เปิดสมุดใบสั่ง สอดกระดาษคาร์บอน กดหัวปากกาพร้อมเขียน...
"ขอรหัสประจำตัวหนังศึกษาด้วย"....ตกลงพี่จะเล่นผมให้ได้ใช่มั๊ยครับ เอากับพี่เขาสิ
แต่ผมก็ไม่เดือดร้อนนะ เพราะว่าแค่รหัสนักศึกษา ไม่น่าจะเป็นไร ก็บอกไป เขาก็เขียนลงในใยสั่ง บอกความผิด แล้วก็จดชื่อ กับรหัสนักศึกษาลงไปด้วย ก่อนที่จะฉีก แล้วยื่นให้ผม
"ไปเสียค่าปรับที่ สน.ให้เรียบร้อยด้วยนะ ไปได้".....
...
...
ผมกับเพื่อนยังคงอึ้งอยู่ ต่างคนต่างเงียบ ขำนะ แต่ขำในใจ...แล้วก็ขี่ไปเกี่ยวข้าวอย่างที่ตั้งใจ...จิตใจมุ่งมั่นกับการเกี่ยวข้าวมาก ว่างั้น..
ใบสั่งใบนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นผลอะไร เลยลืมๆ มันไป พร้อมๆ กับเวลาที่ผ่านไป
หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเรียนสัมมนาอยู่นั้น อาจารย์ท่านหนึ่งก็เข้ามาตามผม...แล้วพาผมเดินออกจากห้องเรียนไป..
"คุณไปทำอะไรกับตำรวจไว้หรือเปล่า? มีตำรวจมาขอพบ เขารออยู่ที่สำนักงาน"
อาจารย์ของผมถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและกังวลมาก ...ผมก็เลยเครียดตามแกบ้าง ตอนแรกยังงงงอยู่ ยืนนิ่งอยู่สักพัก... แล้วก็คิดได้..
"เฮ้ย...กะอีแค่ใบสั่งใบเดียวนี่ พี่แกเล่นตามมาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย..จะไม่เกินไปหน่อยเรอะ!"
ผมคิดในใจนะครับ ตอนนั้นก็บอกอาจารย์ไปว่า เดี๋ยวผมไปพบก่อน คงรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร...
ตำรวจสองนาย คนหนึ่งแต่งเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ อีกคนใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีน ดูท่าทางเป็นหัวหน้าแต่แต่งนอกเครื่องแบบ...ลุกขึ้นยืนพร้อมกันเมื่อเห็นอาจารย์เดินพาผมที่ทำหน้าจ๋อยๆ มือสองข้างของอาจารย์จับไหล่ผมไว้..
ประมาณว่าไม่ต้องห่วงครูอยู่ข้างเธอ.....หรืออีกด้านหนึ่งอาจจะบอกว่า จับมันเลยคุณตำรวจ จับมัน
"เดี๋ยวผมขออนุญาติอาจารย์คุยกับเขาเพียงลำพังนะครับ" เขาพูดกับอาจารย์ผม
.....เอ่อ พี่ครับ ผมไปฆ่าใครมาเหรอครับพี่..ตอนนั้นบอกตรงๆ ก็ชักไม่แน่ใจว่าตัวเองเผลอไปฆ่าใครมาโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า เพราะถ้าแค่ใบสั่งใบเดียว ไม่น่าจะต้องจริงจังซีเรียสอะไรแบบนี้นี่นา..
บรรยากาศเริ่มมาคุ..ผมจะติดคุกมั๊ยเนี่ย (อีกแล้วหรือตู)
แล้วทุกอย่างก็กระจ่างแจ้ง เมื่อเขาถามผมว่า เมื่อวานไปกดเงินหรือเปล่า? ตู้ตรงนั้นตรงนี้ เมื่อสีหน้าและท่าทางคำพูด คำตอบของผมเป็นปรกติ เขาก็เล่าให้ฟังว่า มีคนขโมยบัตรเอทีเอ็มมากดเงินต่อจากผม ครั้งแรกเขาสงสัยผม (ถ้าผมเป็นโจรคงไม่โง่เอาบัตรตัวเองกดเงินก่อนบัตรที่ขโมยมาแบบนี้หรอก ฮู๊...) แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ผมเขาก็ถามว่าจำใครได้มั๊ย...
คงจะจำใครได้อยู่หรอกมั้ง คนเยอะขนาดนั้น
สุดท้ายคุณตำรวจสองนายนั่นก็ไม่ได้อะไรไปจากผมเลยแม้แต่น้อย ฮ่าๆๆๆ คงผิดหวังน่าดู ยังเสียวๆ ว่าเขาจะยิงทิ้งดับโมโหหรือเปล่าที่ไม่ได้อะไรจากเรา ไม่น่ะ ตำรวจก็มีเหตุผลเหมือนกันนะ
แล้วผมก็กลับไปเรียนต่อ ก่อนกลับแวะบอกอาจารย์ก่อนว่าเรื่องเป็นไง อาจารย์ก็ทำหน้าประมาณว่า
.....โธ่...
ไม่รู้ว่าหมายถึงตำรวจหรือหมายถึงผมนะ ทุกวันนี้ยังงงงงอยู่ๆ เลย
Create Date : 14 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 17 สิงหาคม 2550 17:03:06 น. |
|
5 comments
|
Counter : 622 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
|
ฤทัยนาวา |
 |
|
 |
|
สงสัยว่าชาตินี้คุณฤทัยนาวาคนหน้าตาดีคงต้องจองเวรกับตำรวจไปอีกนานค่ะ
แนะนำให้เปิด Group Blog ใหม่ค่ะ เอาเฉพาะเรื่องคุณตำรวจเลยดีไหมค่ะ
แล้วคุณคนไม่เจียมจะมาอ่านต่อน่ะ