...ขาชา..และสาเหตุที่ยังคลุมเครือ...
ความเดิมจากตอนที่ผ่านมา....อ้าว..ถ้าอย่างนั้นมันจะมีสาเหตุมาจากอะไรล่ะครับคุณหมอ?.........คุณหมอนิ่งคิดสักครู่.....สักพักก็บอกว่า เอางี้...ลองตรวจ EMG ดู ว๊อทอีสอีเอ็มจี?.....และแล้ว....วันเวลาก็ผ่านไป....ร่วมๆ 4 เดือน ผมก็ได้คิวในการตรวจ EMG จนได้ขอรับ....บ้านนี้เมืองนี้มีคนรอเข้าคิวเพื่อตรวจแบบนี้เยอะถึงขนาดที่ผมต้องรอถึง 4 เดือนเลยทีเดียวเชียว แต่ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะอาการของผมไม่ได้เป็นอาการป่วยที่ต้องการการช่วยเหลือแบบเร่งด่วนฉับพลัน นั่นหมายถึงเราสามารถรอได้และด้วยเหตุนี้กระมัง คุณหมอเลยให้ผมรอจนลืมไปเลยครับ พี่น้องครับ...โชคดีที่วันหนึ่งเกิดขยันจัดโต๊ะ เลยเห็นบัตรนัดตรวจ ไม่งั้นคงแย่...T_Tในใบนัดบอกให้ไปตอน 10 โมงเช้า....ผมไปก่อนเวลาชั่วโมงนึง และไม่ลืมที่จะหยิบหนังสือไปอ่านฆ่าเวลาระหว่างรอคิวด้วย ไปถึงพี่พยาบาลบอกว่ารอก่อนนะ อีกสักชั่วโมงคิวก่อนหน้าผมถึงจะแล้วเสร็จอ่า...ไม่เป็นไรครับ ผมมาก่อนเวลาเองครับว่าแล้วก็ไปหามุมนั่งอ่านหนังสือที่หยิบติดมือมา The MATRIX and philosophy....คือชื่อหนังสือ โดยมีชื่อไทยว่า "อัญมณีแห่งปัญญา"แล้วหนังสือเล่มนี้ทำให้การรอของผมมีคุณค่ามากๆ เลยครับ จนผมรู้สึกว่ามันออกจะมากจนเกินไปซักหน่อยสำหรับการนั่งรอคุณหมอชิวๆ แบบนี้ เวลากว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ผมอ่านไปได้ 80 หน้า......ผมซาบซึ้งเป็นอย่างมากว่าการเขียนเรื่องยากให้เป็นเรื่องย๊ากยากนั้นเป็นเช่นไรก็วันนี้แหละครับ...มันอยู่ในหนังสือเล่มนี้นี่เองเอาไว้ว่างๆ ผมจะหยิบรายละเอียดของหนังสือมาคุยบ้าง เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้อ่านมาเหมือนกัน..แต่วันนี้ขอไปเรื่องขาชาก่อน พี่พยายาลส่งเสียงเรียกผมให้เข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอคนนี้นี้เป็นท่านที่ 3 ที่เข้ามาวินิจฉัยขาผม โดยอาศัยข้อมูลจากคุณหมอทั้งสองท่านก่อนหน้าเป็นแนวทาง รวมทั้งผลของการสแกนด้วยเครือง MRI ด้วยแล้วก็ให้ขึ้นไปนอนหงายบนเตียง...เครื่อง EMG เป็นเครื่องส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อ เพื่อตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาทที่มีปัญหา...พูดง่ายๆ ก็คือใช้ไฟฟ้าช๊อตน่ะครับ....พอนึกถึงไฟช๊อต ผมนอนหลับตาจินตนาการเห็นภาพคุณหมอถือสายไฟสองเส้นแตะกัน แล้วมีประกายไฟแปร๊บๆ นอนหลับตาไปก็เสียวไป เหงื่อเริ่มออกที่มือ แล้วไฟฟ้าก็มา มันดังเปรี๊ยะๆๆๆๆ กล้ามเนื้อผมกระตุกๆๆๆเออ....สนุกดีแท้..."เจ็บหน่อยนะคะ"....คุณหมอส่งเสียงบอกผม เมื่อถึงเวลาต้องช๊อตเป็นชุด..อืมมม..เจ็บจริงๆ แฮะ กล้ามเนื้อกระตุกเป็นชุดเลยครับตรวจแค่นี้ยังไม่พอครับ ขั้นต่อไป คุณหมอจะตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อ 3 แห่ง คือ น่อง สะโพก และ เอว เพื่อดูว่าทั้งสามแห่งยังทำงานเป็นปรกติอยู่หรือไม่ โดยการแทงเข็มไฟฟ้าเข้าไปในกล้ามเนื้อ แล้วผลจะปรากฏบนจอมอนิเตอร์รวมทั้งส่งเป็นสัญญานเสียงออกมาทางลำโพงครับ ลำโพงคอมนี่แหละ...ง่ายๆ คือ เสียงลำโพงจะเงียบเมื่อกล้ามเนื้ออยู่นิ่งๆ และในทางตรงกันข้าม เสียงจะดังมากๆ เมื่อกล้ามเนื้อทำงานเต็มที่"เจ็บหน่อยนะคะ"..อีกละ"นิดเดียวจริงนะครับ?" ผมชักหวั่นๆ..."นิดเดียว..เหมือนฉีดยาน่ะ แต่อันนี้เข็มจะแช่นานหน่อยเท่านั้นเอง" คุณหมออีกท่านอธิบายเพิ่มแล้วหมอก็ปักเข็มลงไป .......ครับ มันเหมือนฉีดยาจริงๆ..แต่ไม่เหมือนตรงที่ ......อันนี้มีการขยับเข็มด้วย...ง่าเข็มที่ปักคาอยู่นั้น คุณหมอเขาจับขยับๆ เพื่อให้มันมอนิเตอร์อะไรสักอย่าง...ลำโพงก็ดังๆ ค่อยๆๆ...เสียงดัง ตุบๆๆๆๆๆๆๆไอ่ผมน่ะ ไม่เจ็บหรอกครับ แต่นึกภาพตามแล้วมันเสียว....เสร็จตรงน่อง ย้ายมาตรงสะโพก จากสะโพกย้ายมาตรงเอว..."นอนคว่ำ เอาหมอนมารองไว้ที่ท้องด้วย" คุณหมอสั่งแล้วเข็มก็ปักฉึกลงไปที่เอว.....อา.....เจ็บ.....รู้สึกว่าเจ็บ....แต่ทนได้ลำโพงส่งเสียงโวยวาย ตุบๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่หยุด..."ผ่อนคลายคะ ทำตัวสบายๆ อย่าเกร็ง" คุณหมอปลอบ....ลำโพงยังคงดังอย่างบ้าครั่ง...."เหยียดตัวตรงๆ เอามือวางไว้ข้างลำตัวค่ะ สบายๆ"...คุณหมอพยายามต่อไป..ผมทำตาม...หลับตานึกถึงทะเล ภูเขา พยายามไม่นึกถึงเข็มที่ปักกลางหลังในตอนนี้ ...แต่เจ็บ...ตุบๆๆๆๆ ลำโพง ยังดังไม่หยุด...."ทำอย่างไรก็ได้ ให้ลำโพงมันเงียบน่ะค่ะ" ..น้ำเสียงชักหุดหิด"ทำไงอ่ะครับ?"....ลำโพงยังดังต่อไป"อ่า...ช่างเถอะ ไม่เป็นไร" คุณหมออีกท่านตัดบท..แล้วพูดต่อ"แบบนี้แสดงว่ากล้ามเนื้อตรงเอวทำงานได้ดีอยู่...ตรงสะโพกก็ยังปรกติดี ส่วนตรงน่อง ก็ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้าย"ถึงวันนี้ ผมตรวจมาทุกขนานแล้ว...สรุปได้ว่า.....กล้ามเนื้อบางตำแหน่งใต้เข่าขวาตึงเกินไปอันเนื่องมาจากการนั่งเก้าอี้นาน มันเลยไปกดทับเส้นประสาท แต่ไม่ได้มีอันตรายมากมาย ขาก็ยังมีแรงเป็นปรกติ แต่จะรำคาญตรงส่วนที่ชาเท่านั้น การรักษา...กินยาบำรุงเส้นประสาท และออกกำลังกายเพื่อคลายกล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงต่อการกดทับของกล้ามเนื้อในโอกาสต่อไป...สรุปเหมือนไม่ได้สรุป..แต่ผมก็พยายามเต็มที่แล้วครับถึงเวลานี้ ผ่านไปกว่า 6 เดือนผมชักชินกับการที่ขาชาๆ แบบนี้..และดูเหมือน มันไม่ได้สร้างความกังวลใจให้กับผมอีกต่อไป...ปล.คุณหมอให้ผมสาธิตวิธีการนั่งเก้าอี้ของผมให้ดู เพื่อขอใช้เป็นอุธาหรณ์ ใครนั่งทำงานนานๆ ก็ระมัดระวังด้วยนะครับ
ต้องลุ้นตามไปเรื่อยๆ แบบลุ้นไปยิ้มไป
นำเรื่องมากับกับหนังสือที่อ่านยากโคะตะระเล่มนั้น ได้น่าสนใจ
ทำให้ไม่อยากอ่านตาม..รับรองว่าไม่อ่านแน่ค่ะ ก๊าก